สืบแค้นคุณหนูสวมรอย – ตอนที่ 163 หลุดวาจาแท้จริง

สืบแค้นคุณหนูสวมรอย

ตอนที่ 163 หลุดวาจาแท้จริง

ปฏิกิริยาแรกของเสี่ยวเหลียนก็คือคุณหนูดื่มจนเมาแล้ว แต่หลายวันนี้นางเลื่อมใสในตัวซินโย่วอย่างมาก ปฏิกิริยาเคลื่อนไหวเร็วกว่าการรับรู้ ยื่นมือเลิกม่านรถขึ้นทันที

ม่านหน้าต่างผ้าฝ้ายเลิกขึ้น ลมหนาวพัดเข้ามาพร้อมเกล็ดหิมะละเอียด

เสี่ยวเหลียนชะโงกหน้าออกไปมองด้านหลัง พลันรีบปิดม่านลงอย่างตกใจ “คุณหนู ใต้เท้าเฮ่อตามมาด้านหลังจริงด้วยเจ้าค่ะ!”

คุณหนูช่างคาดการณ์แม่นยำดังตาเห็น นางถึงกับสงสัยว่าคุณหนูดื่มสุราเมาแล้ว ช่างบาปแท้

สาวน้อยที่พิงผนังรถ ได้ยินก็ยิ้มสั่งการว่า “ให้สารถีหยุดรถ”

เสี่ยวเหลียนนิ่งอึ้งไปทันทีอีกครั้ง

คุณหนูอยากให้ใต้เท้าเฮ่อรู้ว่าพวกนางรู้ว่าเขาตามมาหรือ แต่เห็นระยะห่างจากรถม้าของใต้เท้าเฮ่อ คล้ายว่าไม่อยากให้คุณหนูรู้ เช่นนี้จะไม่อึดอัดหรือ

เสี่ยวเหลียนอดนึกสงสัยไม่ได้ว่าคุณหนูดื่มเมาแล้ว สังเกตใบหน้าซินโย่วอย่างละเอียด

สาวน้อยมีใบหน้าเรียวไข่ห่าน ผิวขาวเนียนสะอาด ดูแล้วไม่ต่างอันใดกับก่อนหน้านี้

นางระแวงมากไปแล้ว

เสี่ยวเหลียนกระแอมไอในลำคอ ส่งเสียงตะโกนบอกสารถี “หยุดรถ”

รถม้าหยุดลงทันที

เฮ่อชิงเซียวที่ขี่ม้าตามหลังมา เห็นรถม้าหยุดลง แววตาก็นึกสงสัย

เขาย่อมเห็นตอนเสี่ยวเหลียนชะโงกมองมา ตอนถูกพบก็ไม่ได้รู้สึกอันใด เพราะเขารู้ว่าคุณหนูโค่วเป็นหญิงสาวเปิดเผย ไม่เข้าใจผิดเป็นแน่

รถม้าจอดลงก็เป็นไปตามคาด คิดถึงว่าซินโย่วดื่มสุราฤทธิ์แรงในงานเลี้ยงไปไม่น้อย ความสงสัยก็กลายเป็นความเป็นห่วง

หรือว่าคุณหนูโค่วไม่สบาย

ความคิดนี้ผุดขึ้นมา เฮ่อชิงเซียวก็กระแทกท้องม้า ไม่กี่อึดใจก็มาถึงข้างรถม้า

ซินโย่วหลับตา ใบหูกลับไหวเล็กน้อย “เสียงฝีเท้าม้าหยุดแล้ว”

ไม่รู้เหตุใดเสี่ยวเหลียนจึงเคร่งเครียดขึ้นมา หรี่เสียงเอ่ยเตือนว่า “คุณหนู ย่อมเพราะใต้เท้าเฮ่อมาแล้ว!”

เห็นซินโย่วเขยิบมาทางนาง เลิกม่านหน้าต่างขึ้น เสี่ยวเหลียนแอบขยับไปด้านข้างเล็กน้อย

พอเห็นซินโย่ว เฮ่อชิงเซียวก็โล่งอก ถามขึ้นว่า “คุณหนูโค่วต้องการความช่วยเหลือหรือไม่”

ซินโย่วส่ายหน้า “ไม่มีอันใดเจ้าค่ะ”

เฮ่อชิงเซียวไม่รู้ควรเอ่ยอันใด

พวกเขามิใช่ญาติสนิท เขาตามรถม้าคุณหนูคนหนึ่งมาไม่ค่อยเหมาะสมนัก ตอนนี้นางไม่ต้องการความช่วยเหลือ อย่างไรก็ไม่อาจเอาแต่อยู่ข้างรถม้าเช่นนี้

หลังจากนิ่งเงียบไปชั่วขณะ เฮ่อชิงเซียวก็เอ่ยว่า “วันนี้คุณหนูโค่วดื่มไปไม่น้อย ปล่อยม่านลงเถอะ จะได้ไม่ถูกลมหนาวพัดเป็นหวัด”

“เป็นหวัด?” คำนี้เตือนสติซินโย่ว “ใต้เท้าเฮ่อจะนั่งรถกลับไหมเจ้าคะ”

เฮ่อชิงเซียวผู้นิ่งสุขุมอยู่เสมอ ยามนี้ถึงกับนิ่งอึ้งไปทันที สายตาหยุดอยู่ที่ม่านรถม้าตรงหน้า

เสี่ยวเหลียนเองก็เบิกตากว้างตกใจ คิดว่าตนเองฟังผิดไป

นั่งรถ? นั่งรถอันใด นั่งรถผู้ใด

ไม่นานนางก็รู้ว่านั่งรถผู้ใด ได้ยินซินโย่วหัวเราะคิกเอ่ยว่า “รถข้ายังนั่งได้อีก”

มุมหางตาเฮ่อชิงเซียวอดกระตุกไม่ได้ แน่ใจแล้วว่าคุณหนูโค่วดื่มจนเมาแล้ว

เผชิญหน้ากับคนเมายังจะอย่างไรได้ จึงได้แต่พูดจาปลอบโยน

“ขอบคุณคุณหนูโค่วที่ปรารถนาดี ข้าดื่มสุราไปมาก รู้สึกร้อน ขี่ม้าดีกว่า คุณหนูโค่วปล่อยม่านลงเถอะ รีบกลับบ้าน”

“อ้อ” ซินโย่วปล่อยม้ารถลง

เฮ่อชิงเซียวแอบถอนหายใจโล่งอก

ยังดีที่คุณหนูโค่วเป็นคนที่เมาสุราแล้วไม่ออกอาการดื้อดึงโวยวาย ถึงกับเชื่อฟังจน…น่ารัก

พอเริ่มรู้สึกขึ้นมาได้ถึงความคิดตนเอง ใบหน้าเฮ่อชิงเซียวก็ร้อนผ่าว แอบถามตนเองว่าหรือเขาเองก็ดื่มมากไปแล้ว

ไม่นานม่านหน้าต่างรถม้าก็เลิกขึ้นอีก เสี่ยวเหลียนเอ่ยแทนซินโย่ว “รบกวนใต้เท้าเฮ่อแล้ว พวกเราไปแล้วนะเจ้าคะ”

“ดูแลคุณหนูโค่วให้ดี”

ไม่ทันที่เสี่ยวเหลียนจะตอบรับ ศีรษะหนึ่งก็เบียดออกมา “ใต้เท้าเฮ่อ ข้านึกได้แล้ว ข้ายังมีธุระสำคัญจะคุยกับท่านเจ้าค่ะ”

เฮ่อชิงเซียวเป็นห่วงซินโย่วว่าจะพูดสิ่งที่ไม่ควรพูดออกมาต่อหน้าเสี่ยวเหลียนกับสารถี อย่างไรนางก็มีความลับมากจริงๆ ลังเลครู่หนึ่งก็ตอบว่า “อีกสักครู่ถึงร้านหนังสือค่อยคุยกัน”

“ได้” ซินโย่วนั่งลงที่เดิมพิงผนังรถม้าหลับตาพัก

เสี่ยวเหลียนยิ้มเก้กังให้กับเฮ่อชิงเซียว ปล่อยม่านลงทันที

“คุณหนู?”

ส่งเสียงเรียกแล้วแต่ซินโย่วไร้ปฏิกิริยา เสี่ยวเหลียนได้แต่ตบหน้าผากตนเอง

ที่แท้คุณหนูดื่มมากไปจริงๆ!

พอพบความจริงนี้แล้ว เสี่ยวเหลียนกลับรู้สึกเลื่อมใส

คุณหนูดื่มเมาแล้วแต่สีหน้ากลับไม่แปรเปลี่ยน ร้ายกาจจริง!

รถม้าคันนี้ซินโย่วซื้อมาแพงไม่น้อย กว้างขวางและสบาย ไม่โยกเยก เดินทางสบายไปจนถึงร้านหนังสือชิงซง

พอรถม้าหยุดลง เสี่ยวเหลียนก็ค่อยๆ ม้วนม่านประตูรถม้าขึ้น พบว่าใต้เท้าเฮ่อยังอยู่ รีบส่งเสียงเรียกซินโย่ว “คุณหนู ถึงร้านหนังสือแล้ว”

เดิมนางคิดว่าคนดื่มมากยากปลุกให้ตื่น คิดไม่ถึงว่าพอส่งเสียงเรียก สาวน้อยที่หลับตาอยู่เสมือนหลับลึกกลับลืมตาขึ้นทันที

“ถึงแล้วหรือ”

“ถึงแล้วเจ้าค่ะ ใต้เท้าเฮ่อยังรอท่านอยู่”

ซินโย่วกะพริบตา เดินออกจากรถม้า เสี่ยวเหลียนรีบเข้าไปประคอง

เฮ่อชิงเซียวลงจากรถม้า รอซินโย่วเดินเข้าร้านหนังสือ ก็ตามหลังไปเงียบๆ

“ท่านเจ้าของร้าน ท่านไม่ได้ไปงานเลี้ยงหรือ” หลิวโจวคิดว่ามีลูกค้ามา พอเห็นเป็นซินโย่วเดินเข้ามาก็ถามอย่างรู้สึกฉงน

“ไปมาแล้ว ข้ามีธุระคุยกับใต้เท้าเฮ่อ เตรียมน้ำชามากาหนึ่ง แล้วก็เอาขนมที่น้าหยางทำมาด้วย…” ซินโย่วสั่งการไปรวดเดียว

หลิวโจวมองเฮ่อชิงเซียวที่เดินตามหลังเข้ามาทีหนึ่งอย่างรู้สึกแปลกใจ

วันนี้เจ้าของร้านพูดมากจริง หรือว่าดื่มมาจากงานเลี้ยงมากไป

หันไปมองใบหน้าขาวกระจ่างใสของซินโย่ว น้ำเสียงกังวานสดใส คนงานก็แอบขจัดความสงสัยนี้ทิ้ง

คนดื่มมากไม่มีทางมีสภาพเช่นนี้

ซินโย่วเอียงคอมองเฮ่อชิงเซียวทีหนึ่ง พอเขาเดินเข้ามาใกล้ ก็เดินนำเข้าไปในห้องรับรอง

เฮ่อชิงเซียวเคยเข้ามาในห้องรับรองนี้หลายครั้งแล้ว บางทีเพราะท่าทีเปิดเผยของซินโย่ว แต่ไรมาไม่เคยคิดมาก แต่ครั้งนี้กลับรู้สึกก้าวขาไม่ออก

เสี่ยวเหลียนแอบมองอยู่ พอจะเข้าใจเขาอย่างมาก

ใต้เท้าเฮ่อคงถูกคำพูดเชื้อเชิญให้ร่วมนั่งรถม้าของคุณหนูทำเอาตกใจไปแล้วกระมัง

หลิวโจวไม่รู้เรื่อง พอเห็นเฮ่อชิงเซียวเดินช้า ก็เอ่ยเร่งว่า “ใต้เท้าเฮ่อ?”

เหตุใดจึงปล่อยให้เจ้าของร้านของพวกเขาต้องรอกันเล่า!

เฮ่อชิงเซียวสะกดเก็บสีหน้าสับสน ก่อนเดินเข้าไป

หลิวโจวยกน้ำชาและขนมเข้ามาแล้วก็ถอยออกไปรวดเร็ว

ในห้องรับรองเหลือเพียงสองคน

สตรีสูงศักดิ์ออกนอกบ้านล้วนพิถีพิถัน หลังดื่มกินแล้ว แม้เจ้าบ้านไม่สะดวก กลับถึงรถม้าก็ต้องบ้วนปากล้างมือให้เรียบร้อย ซินโย่วเองก็ย่อมทำเช่นกัน แต่ก็ยังไม่อาจขจัดกลิ่นสุราแรงไปได้

เฮ่อชิงเซียวนั่งตัวตรง ก็ไม่รู้ว่ากลิ่นสุราของเขาหรือของนางกันแน่

ทำเอาเขาตัวแข็งทื่อ รู้สึกไม่เป็นตัวของตัวเอง

คุณหนูโค่วบอกว่ามีธุระสำคัญ เกี่ยวกับชิ่งอ๋องหรือไม่

ขณะกำลังคาดเดาก็เห็นซินโย่วมือหนึ่งเท้าคาง เผยอริมฝีปากเอ่ยขึ้น

“ใต้เท้าเฮ่อ เคราะห์เลือดตกยางออกของท่านวันนี้พ้นไปแล้ว” นางพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง แต่สองตาเหม่อลอยได้ขายผู้เป็นเจ้าของเรียบร้อยแล้ว

นี่ไม่ใช่คำพูดที่คุณหนูโค่วผู้มีสติสัมปชัญญะจะเอ่ยออกมา

แต่ซินโย่วรู้สึกว่าตนเองความคิดกระจ่างและดำรงสติสัมปชัญญะอย่างมาก ยังคิดพูดต่อ “ก่อนหน้านี้ใต้เท้าเฮ่อช่วยข้ามาหลายครั้ง นับว่าตอบแทนคืนท่านหนึ่งครั้งแล้วกันเจ้าค่ะ”

เฮ่อชิงเซียวนิ่งอึ้งไป

คุณหนูโค่วหมายความว่าอย่างไร

ซินโย่วยังเอ่ยต่อ “เดิมรู้สึกว่าตอบแทนน้ำใจใต้เท้าเฮ่อยากมาก แต่มาคิดถึงว่าใต้เท้าเฮ่อมีเคราะห์เลือดตกยางออกค่อนข้างมาก คล้ายว่าพอจะตอบแทนได้หมด…”

เฮ่อชิงเซียว “…”

สืบแค้นคุณหนูสวมรอย

สืบแค้นคุณหนูสวมรอย

Status: Ongoing
เมื่อมารดาถูกสังหาร ซินโย่วจึงมายังเมืองหลวงเพื่อสืบหาตัวฆาตกร แต่เมื่อสืบลึกลงไปก็กลับต้องพบกับความจริงอันน่าตกใจภายในนั้น…รายละเอียด นิยายรัก-สืบสวน ครบรสจากนักเขียนมากฝีมือ ‘ตงเทียนเตอะหลิ่วเยี่ย’ขณะที่ ซินโย่ว กำลังเดินทางเข้าสู่เมืองหลวงเพื่อสืบหาเบาะแสสำคัญของฆาตกรสังหารมารดาก็ได้บังเอิญจับพลัดจับผลูตกหน้าผาแล้วเข้าสวมรอยฐานะของ โค่วชิงชิง คุณหนูหลานนอกของจวนรองเจ้ากรมพระราชยานหลวงเข้าเพราะทรัพย์สินมากมายโค่วชิงชิงจึงถูกญาติที่มาหวังพึ่งพิงผลักตกหน้าผาจนถึงแก่ความตาย นั่นทำให้นางได้เข้ามาสวมฐานะของอีกฝ่ายซินโย่วนั้นมีดวงตาที่พิเศษกว่าคนทั่วๆ ไป นางสามารถมองเห็น ‘เรื่องร้าย’ ที่จะเกิดขึ้นกับคนผู้หนึ่งได้โดยไม่เลือกว่าจะเป็นผู้ใด เวลาไหนประกอบกับไหวพริบอันชาญฉลาดทำให้นางสามารถอยู่ในสถานะนี้ได้อย่างไม่ยากเย็นนักเพื่อสืบเรื่องฆาตกรสังหารมารดาซินโย่วจำต้องใช้ฐานะใหม่ที่มีสืบหาเบาะแสจาก ‘บันทึกโบตั๋น’ เปื้อนเลือดที่ตกอยู่ในที่เกิดเหตุยิ่งสืบลงลึกเรื่องราวก็เหมือนจะซับซ้อนยิ่งกว่านั้นเรื่องราวในอดีตเบาะแสที่โยงใยสืบเนื่องกันมา ได้เวลาเผยโฉมแล้ว…

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท