สองสามวันต่อมาอัศวินกลุ่มหนึ่งได้เข้าสู่แนวภูเขาบูล พวกเค้าใส่เกราะอย่างหนาแน่น สวมเสื้อคลุมและถือดาบ แต่ละคนมีสัญลักษณ์ดวงอาทิตย์อยู่บนเสื้อคลุมของเค้า ชายชราที่เป็นพระคาร์ดินัล(คือพระในศาสนาคริสต์)สวมเสื้อคลุมสีแดงเข้มเดินออกมาจากกลุ่มคนรอบตัวเค้าและเข้าไปในหลุมศพ เค้าเห็นศพเกลื่อนเต็มพื้นและโลงศพทองคำที่ว่างเปล่า หลุมศพใต้ดินอยู่ในความสับสน
ทาสที่สกปรกสองสามคนถูกโยนต่อหน้าพระคาร์ดินัล อัศวินสองสามคนถือเหรียญทองพร้อมกับภาชนะทองและเงินบางส่วนซึ่งเป็นหน้ากากที่ถูกสวมโดยราชา พระคาร์ดินัลมองไปที่สิ่งของและพยักหน้า หากพวกทาสไม่พยายามขายของเหล่านี้พวกเค้าจะไม่ค้นพบที่นี่ พระคาร์ดินัลมองไปที่ทาสที่กำลังคุกเข่า “คุณเจอของเหล่านี้ที่นี่รึป่าว?”
พวกทาสตัวสั่น ต่อหน้าพวกทาสคือ1ใน10ของพระคาร์ดินัลของโบสถ์แห่งแสง จำนวนของคนในตำแหน่งที่สูงเช่นนี้สามารถนับได้ด้วยมือทั้งสอง ชื่อของเค้าแพร่หลายไปทั่วทวีปเอเลน แม้แต่จักรพรรดิแห่งจักรวรรดิครีตก็ยังต้องปฏิบัติต่อพระคาร์ดินัลของโบสถ์แห่งแสงด้วยความเคารพ
โดยปกติพวกทาสจะไม่มีโอกาสได้เจอคนแบบพระคาร์ดินัลผู้ซึ่งใกล้ชิดกับพระเจ้า โอกาสที่จะได้คุยด้วยยิ่งไม่มีเลย แต่ในตอนนี้มีเพียงความกลัวในจิตใจเค้า
หนึ่งในอัศวินชี้ปลายดาบไปที่คอของทาสและบอกว่า “ตอบสิ!!”
ทาสไม่สามารถรับมือกับความกดดันได้และตะโกนออกไปว่า “ฉันจะพูด เราเป็นทาสของทีนา เราเข้ามาที่ป่าบูลเมื่อหลายเดือนก่อน ในช่วงสองสามเดือนที่ผ่านมาเราทำตามคำสั่งของขุนนางและขุดที่นี่เสมอ ในตอนแรกเราไม่รู้เหตุผลว่าเราทำไปทำไมแต่ต่อมาเราพบว่าท่านทีนากำลังค้นหาหลุมศพของราชวงศ์ทองคำ!”
พระคาร์ดินัลพยักหัว นี่เป็นข้อมูลที่เค้าพึ่งรู้ ตระกูลทีนาเป็นเจ้าของบริเวณนี้แต่ป่าบูลไม่ได้อยู่ใต้การควบคุม พวกเค้าได้ละเมิดกฎหมายของจักรวรรดิแต่นั่นไม่ใช่สิ่งที่พระคาร์ดินัลสนใจ
“แกเห็นอะไรที่นี่บ้าง บอกมาให้หมด!” แม้แต่พระคาร์ดินัลก็ยังมีกลัวต่อสมบัติจำนวนมากที่อยู่ต่อหน้าเค้า แต่เค้าก็เก็บมัน เค้าไม่ใช่ขุนนางเล็กในชนบทที่ไม่เคยเห็นเหตุการณืแบบนี้มาก่อน!
ทาสพูดต่อด้วยเสียงสั่น “วันนั้นเราขุดหลุมและค้นพบสถานที่แห่งนี้ ที่นี่มีกับดักมากมายตลอดทางและคนของเราเสียชีวิตจำนานมาก แต่ขุนนางก็สั่งให้เราเดินหน้าต่อไป เราเปิดประตูและพบห้องนี้ เราพบโลงศพของราชาแห่งทองคำ!”
“เข้าประเด็นสักที แกเจออะไรอีก?” นักบวชที่สวมเสื้อคลุมสีดำยืนอยู่หลังพระคาร์ดินัลถามอย่างเร่งรีบ
พระคาร์ดินัลหันไปและจ้อมองนักบวชคนนั้นทำให้เค้าต้องถอยหลังด้วยความอับอาย “ไม่จำเป็นต้องรีบหรอก”
ทาสพยักหัว “นายพลทีนาบอกให้เราเปิดโลงศพแต่โซวาคัดค้านโดยบอกว่าพระเจ้าจะสาปแช่งพวกเรา แต่นั่นไม่สามารถหยุดนายพลทีนาได้แล้วพวกเค้าก็เปิดโลงศพ”
เมื่อมาถึงจุดนี้ดวงตาของทาสเผยให้เห็นถึงความกลัวอย่างมาก “หลังจากนั้นราชาทองคำดูเหมือนยังมีชีวิต เค้าดูไม่เหมือนคนตาย แต่หลังจากเราเปิดโลงศพเค้าก็หายไปเหมือนกันผี!”
“จากนั้นพวกเค้าทั้งหมดก็ถูกโจมตีด้วยคำสาป พวกเค้าเริ่มฆ่ากันเอง!” ทาสกลัวอย่างมากเมื่อนึกถึงฉากนั้น
พระคาร์ดินัลขมวดคิ้ว “พวกเค้าพบอะไรในโลงศพ?”
ทาสคิดถึงมันและพูดว่า “ตอนแรกพวกเค้าพบดาบ พวกเค้าพูดว่ามันคือดาบศักดิ์สิทธิ์ที่พระเจ้ามอบให้พวกเค้า มันยังคงเป็นประกายแม้จะอยู่ในหลุมศพมานานกว่าพันปี!”
คำพูดของเค้าทำให้ทุกคนตกใจรวมถึงอัศวินแห่งคริสตจักร ทุกคนมีท่าทางตื่นเต้นและปรารถนา “มันคือดาบของราชา พระเจ้ามอบอำนาจให้แก่เราและเลือกจักรพรรดิ มันต้องเป็นอาวุธศักดิ์สิทธิ์ที่แท้จริงแน่เพราะมันถูกพบที่นี่!”
พระคาร์ดินัลรู้สึกตื่นเต้นมาก อาวุธศักดิ์สิทธิ์ที่ได้รับเป็นของขวัญจากพระเจ้าสามารถเป็นตัวแทนของนิกายออร์ทอดอกซ์ของโบสถ์แห่งแสงสว่าง พวกเราต้องได้มันมา นี่เป็นเหตุผลทั้งหมดที่พวกเค้ามาที่นี่เป็นที่แรก หากเค้าประสบความสำเร็จมันจะมีโอกาสสูงที่เค้าจะรับตำแหน่งเป็นผู้นำคนต่อไปของโบสถ์
ในตอนนี้พระคาร์ดินัลก็นึกบางสิ่งได้ “แกบอกว่าตอนแรกพวกเค้าพบดาบ มีอะไรอีกที่พวกเค้าพบ?”
ทาสตระหนักได้ว่าเค้าใช้คำผิดไป เสียงพระคาร์ดินัลกลายเป็นเคร่งขรึม “พูด!!”
ทาสตะโกนทันทีว่า “พวกเค้าพบ…อิคอร์!”
บรรยากาศเงียบสงบลงทันที พระคาร์ดินัลถามว่า “อะไรนะ?”
ทาสรีบพูดต่อทันที “พวกเค้าพบอัญมณีสีทองในโลงศพ มีน้ำเหลืองผลึกมันอยู่ เมื่อพวกเค้าเอาอัญมณีออกมารูปภาพก็ถูกฉายลงบนผนัง มันเป็นภาพของฉากที่เกิดขึ้นเมื่อพันปีก่อน เป็นฉากที่พระเจ้าให้ภารกิจแก่ราชาทองคำ หลังจากนั้นพระเจ้าไม่ได้ให้แค่ดาบและเมล็ดพันธุ์ เค้ายังให้อิคอร์กับราชาด้วย พระเจ้าบอกราชาทองคำว่า…!”
“เค้าบอกว่าอะไร?” พระคาร์ดินัลจับไหล่ของทาสแน่น เค้าไม่สนใจว่าทาสจะสกปรกอีกแล้ว
ทาสตัวสั่นและพูดเสียงดังขึ้นเพราะกลัว “พระเจ้าพูดว่า ‘ผู้ที่ดื่มเลือดของพระเจ้าจะกลายเป็นลูกหลานของพระเจ้าและจะเป็นผู้ทรงอำนาจของฉัน!”
พระคาร์ดินัลตอบสนองทันที เค้าตะโกน “ฆ่าพวกเค้าให้หมด ฆ่าพวกเค้าทั้งหมดราวกับว่าไม่มีใครรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้ ไม่มีใครรอดตาย ฆ่าให้หมด!”
“ไม่ คุณจะทำแบบนี้ไม่ได้! เราทำตามทุกอย่างที่คุณพูดแล้ว!”
“โอ้เทพแห่งมาเรีย แกจะต้องเผชิญกับการลงโทษของพระเจ้า…”
“ไว้ชีวิตฉันเถอะ อย่าฆ่าฉัน!”
อัศวินเดินไปข้างหน้าและฆ่าทาสทั้งหมด บรรยากาศที่หนักทำให้หายใจลำบาก ต่อมาไม่นานพระคาร์ดินัลก็รวบรวมสติได้ “ส่งข้อความไปที่โบสถ์ นี่คือความลับสุดยอด ทุกคนในที่นี่จะไม่มีใครพูดถึงเรื่องนี้ ใครก็ตามที่พูดจะต้องถูกฆ่าโดยโบสถ์แห่งแสง!”
“อัศวินแห่งคริสตจักรนำทางไปและหาทาสทั้งหมดที่เคยมาที่นี่และเอาตัวมา เราจะต้องหาดาบและอิคอร์ให้เจอ!”
“ส่วนที่เหลือ คุณจะไม่ได้รับอนุญาตให้ออกจากที่นี่ ไม่อนุญาตให้ใครเข้าออกจากบริเวณภูเขาบูล!”