ตอนที่ 442 หัวใจเต้นเร็ว
เฉินหมิ่นยิ้มเห็นฟันขาวเปล่งประกาย “น้องรู้จักพี่ด้วยเหรอครับ ฮิๆ อันที่จริงรู้จักก็ไม่ใช่เรื่องแปลก ก็แค่นึกไม่ถึงว่าจะมีเด็กสาวชอบเล่นกีฬาชนิดนี้ด้วย พี่เห็นน้องเล่นเก่งเลยทีเดียว เมื่อก่อนเล่นอยู่ที่ไหนเหรอครับ”
มู่เถาเยายังไม่ทันตอบก็มีเสียงนุ่มนวลที่แสนไพเราะแทรกขึ้นมา “ซาลาเปาน้อย”
ทุกคนหันกลับไปมอง
“ว้าก!”
พวกเฉินหมิ่นไม่ทันตั้งตัว เวลานี้จึงมีสีหน้าเหมือนโดนผีหลอก หน้าตาอัปลักษณ์จนหัวใจเต้นแรง
ตี้อู๋เปียนเหล่มองพวกเขาอย่างไม่สบอารมณ์ โดยเฉพาะคนที่ชื่อเฉินหมิ่น!
เฉินหมิ่นลูบจมูกด้วยความอายแล้วพูดกับตี้อู๋เปียนอย่างจริงใจ “ขอโทษครับ”
คนอื่นๆ ก็พากันขอโทษ
พวกเขาไม่ได้ตั้งใจดูแคลนรูปลักษณ์ของคนอื่น ก็แค่ตกใจกะทันหันเลยแสดงปฏิกิริยาแบบนั้นออกไป
แต่ตี้อู๋เปียนไม่แคร์ว่าคนเหล่านี้จะมองอย่างไร แม้เขาจะอัปลักษณ์จริงๆ ก็ตาม
เขาสนใจแค่สายตาคนที่ตัวเองแคร์เท่านั้น
“ตี้…พี่สาม มาได้ยังไงคะ” เคยชินแต่กับการเรียกชื่อ มู่เถาเยาเกือบหลุดตลอด
ตี้อู๋เปียนยื่นขวดน้ำดื่มในมือให้เธอ “เอาน้ำมาให้เธอ”
มีแค่ขวดเดียวจริงๆ ไม่มีของพวกโค้ช
“ขอบคุณค่ะ”
มู่เถาเยายิ้มตาโค้งรับมา เปิดฝาออกแล้วดื่มครึ่งขวดอย่างไม่รีบร้อน
เล่นเรือใบใช้พลังงานมากจริงๆ เธอต้องดื่มน้ำทดแทน
โค้ชหร่วนยิ้มพูด “เสี่ยวเยาเยาไปพักก่อนหนึ่งชั่วโมงนะ โค้ชจะได้ถือโอกาสพูดเรื่องวินด์เซิร์ฟให้ฟังด้วย”
เฉินหมิ่นทำเสียงเอ๊ะ เขาถาม “น้องก็จะเล่นวินด์เซิร์ฟด้วยเหรอครับโค้ช มันจะยากเกินไปหรือเปล่า ผอมขนาดนี้จะมีแรงเล่นเหรอครับ”
วินด์เซิร์ฟไม่เหมือนเรือใบ วินด์เซิร์ฟใช้แรงเยอะกว่า โดยเฉพาะเวลาที่สภาพอากาศค่อนข้างแย่
อีกทั้งกีฬาวินด์เซิร์ฟก็หนักหน่วงกว่าเรือใบ น้องผู้หญิงคนนี้จะไม่กลัวใช่ไหม
โค้ชหร่วนยิ้มพูด “นายอย่าดูถูกเชียวนะ เสี่ยวเยาเยาแรงเยอะกว่านายอีก!” ชี้โค้ชหลี่ที่อยู่ข้างกัน “เห็นโค้ชหลี่ไหม นายกล้าพูดไหมว่าแรงเยอะกว่าโค้ชหลี่”
เฉินหมิ่นส่ายหน้า “ไม่กล้าครับ” เขารู้ตัวเองดี
โค้ชหลี่ยิ้มพลางพยักหน้า “เสี่ยวเยาเยาแรงเยอะกว่าฉันอีกนะ”
เฉินหมิ่นกับคนอื่นๆ มีสีหน้าไม่เชื่อ
เด็กสาวรูปร่างผอมแบบนี้จะมีเรี่ยวแรงได้สักแค่ไหนกัน
โค้ชหร่วนก็ไม่ได้ต้องการให้พวกเขาเชื่อ รอตบหน้าทีเดียวเลยแล้วกัน!
“เสี่ยวเยาเยา พวกเราไปนั่งข้างในก่อนไหม หรืออยากกลับไปดูพวกเขาก่อน เวลานี้แดดไม่แรงแล้ว พวกเขาก็น่าจะออกไปเล่นน้ำกันแล้ว”
“ค่ะ หนูขอกลับไปดูหน่อยดีกว่าค่ะ” อย่างไรเสียไปกลับก็ยี่สิบนาที
ถ้ามีแค่เธอคนเดียวหรือกับตี้อู๋เปียนแค่สองคน ไปกลับไม่ต้องถึงยี่สิบนาที
“งั้นพวกเรากลับกัน เดี๋ยวโค้ชใช้เวลาระหว่างทางพูดเรื่องวินด์เซิร์ฟให้ฟังนะ”
ไม่รอให้มู่เถาเยาตอบ เฉินหมิ่นชิงเสนอตัวก่อน “โค้ชครับ ผมพูดให้ ผมพูดให้”
ไม่เชื่อส่วนไม่เชื่อ แต่เขายินดีเป็นธุระให้น้องสาวคนนี้
ตี้อู๋เปียน “…” อยากถีบคนตกทะเลโว้ย!
โค้ชหร่วน “เสี่ยวเยาเยาว่าไง”
“ได้ค่ะ งั้นก็รบกวนแชมป์เฉินด้วยนะคะ”
“ไม่รบกวนครับไม่รบกวน ด้วยความยินดี”
คนอื่นๆ ก็แย่งกันพูดว่าอยากสอนมู่เถาเยา
ศูนย์ฝึกกีฬาเรือใบก็มีนักกีฬาหญิง แต่ไม่มีเด็กสาวที่อายุน้อยขนาดนี้ แต่พวกเด็กหนุ่มกลับมีบ้าง
ใครใช้ให้พวกเด็กผู้หญิงแรงน้อยล่ะ
พวกผู้ปกครองส่วนใหญ่ก็ไม่อยากให้เด็กผู้หญิงบ้านตัวเองมาลำบาก
โค้ชหร่วนแกล้งด่าไล่คน “พวกนายมีอะไรก็ไปทำ อย่ามาวุ่นวาย”
ทุกคนจึงแยกย้าย
“งั้นเสี่ยวเยาเยา พวกเรารออยู่ที่นี่นะ”
“ได้ค่ะ”
มู่เถาเยากับตี้อู๋เปียนรวมถึงเฉินหมิ่นจึงเดินไปทางซ้ายกลับโรงแรมไห่เทียน
“น้องครับ…”
“ฉันชื่อมู่เถาเยาค่ะ”
เฉินหมิ่นรีบขานรับ เปลี่ยนคำเรียกทันที “เสี่ยวเยาเยา พี่จะบอกให้นะ วินด์เซิร์ฟเป็นการแข่งขันที่มีระดับเดียวในกีฬาเรือใบ และก็เป็นกีฬาที่มีความเฉพาะตัว…มันมหัศจรรย์ เร้าใจ ไม่หยุดนิ่ง สวยงามกว่าเล่นเรือใบอีก เป็นหนึ่งในกีฬาที่น่าจับตามากที่สุด…ขอแค่มีลม ไม่ว่าจะในแม่น้ำหรือทะเลก็เล่นได้หมด…”
บลาๆๆ
เฉินหมิ่นแทบอยากจะเอาทุกสิ่งที่ตัวเองรู้ยัดใส่สมองมู่เถาเยาหมด
เดิมทีตี้อู๋เปียนไม่สบอารมณ์ ตอนนี้ฟังไปเรื่อยๆ กลับเริ่มสนใจ
ผู้ชายชอบกีฬาที่ดูเท่ห์ดูดีแบบนี้มาแต่กำเนิด
ทั้งสามคนกลับไปถึงทะเลทางด้านโรงแรมไห่เทียน เหลียงจีกับพวกมู่หว่านกำลังพาเด็กๆ ออกมาเล่นพอดี
พอพวกเด็กๆ เห็นมู่เถาเยาก็วิ่งเข้าไปหาทันที
เด็กน้อยกางแขนอยากให้อุ้ม
มู่เถาเยาย่อตัวนั่งลง ลูบหมวกที่อยู่บนหัวเด็กน้อย “เสี่ยวจิน พี่สาวตัวเปียก อุ้มไม่ได้นะ ให้อาเล็กอุ้มดีไหม”
เด็กน้อยเงยหน้ามองตี้อู๋เปียนแล้วหุบแขนที่กางออกทันที ส่ายหน้า “ไม่เอาอาเล็ก” น่าเกลียดเกินไป!
ดูเหมือนทุกคนจะเข้าใจที่เด็กน้อยทำท่าทางรังเกียจ จึงอดขำไม่ได้
เอาจริงนะ หน้าตาแบบนั้น แค่เห็นก็ขำได้ตั้งนาน!
หัวใจของตี้อู๋เปียนเป็นรูพรุนจนเลือดไม่มีให้ไหลแล้ว
มู่เถาเยาจูงมือเด็กน้อยแล้วยืนขึ้น แนะนำให้พวกเด็กๆ รู้จัก “นี่พี่เฉินหมิ่นจ้ะ”
พวกเด็กๆ ก็เรียกพี่เฉินหมิ่นตาม
เฉินหมิ่นอัธยาศัยดี ไม่กี่นาทีก็เข้ากับทุกคนได้
มู่ซือจิ่น ซย่าโหวจิ่งเหยา ถังเซิ่นอวี๋ เด็กผู้ชายทั้งสามคนนี้ตื่นเต้นกับกีฬาวินด์เซิร์ฟที่เฉินหมิ่นเล่าเป็นพิเศษ
“เสี่ยวเยาเยา ไม่งั้นพวกเราพาพวกเขาไปดูด้วยกันไหม พี่จะเล่นวินด์เซิร์ฟหมุนตัวกลางอากาศให้พวกเขาดู”
มู่เถาเยาย่อมไม่ติดขัดอะไร
ชายหาดเหมือนกัน ก็คือได้เที่ยวเหมือนกัน
ครั้นแล้วคนกลุ่มใหญ่จึงพากันเดินไปทางศูนย์ฝึก
สุดท้ายเด็กน้อยเสี่ยวจินเหยี่ยก็ต้องยอมให้อาเล็กอุ้ม
ทุกคนเดินไปเล่นน้ำไป ประมาณสิบห้านาทีกว่าจะถึงศูนย์ฝึก
พวกโค้ชรีบพาพวกเขาไปอยู่ตรงร่มที่ติดชายหาดมากที่สุด จากนั้นก็ให้คนเอาเครื่องดื่มอย่างน้ำมะพร้าวน้ำเปล่ามาให้
หลังจากบอกให้เด็กๆ เชื่อฟังพี่ๆ เสร็จ มู่เถาเยาก็ตามโค้ชหร่วนกับเฉินหมิ่นไปเล่นวินด์เซิร์ฟ
“เสี่ยวเยาเยา ในศูนย์ฝึก ไม่ว่าจะเป็นเรือใบหรือวินด์เซิร์ฟต้องเป็นรุ่นสากลเท่านั้น…”
ทุกคนเวลาที่พูดถึงสิ่งที่ตัวเองชอบก็จะมีความสุข เฉินหมิ่นก็เช่นกัน
“เสี่ยวเยาเยา อยากดูพี่เล่นก่อนหรือจะให้พี่สอนเธอเล่นก่อน”
“ฉันเคยเล่นค่ะ เล่นเองได้”
เฉินหมิ่น “เอ่อ…เธอน่าจะว่ายน้ำเก่งใช่ไหม ถ้าตกน้ำจะกลัวหรือเปล่า”
“ไม่มีปัญหาค่ะ”
“งั้นก็ดี พี่จะขับเรือตามเธอออกไปด้วย พยายามอยู่ใกล้เธอมากหน่อย”
“ขอบคุณค่ะ” มู่เถาเยาไม่ปฏิเสธเจตนาดีของเขา
“มา เลือกกระดานดูนะ” โค้ชหร่วนยิ้มกว้างแทบมองไม่เห็นตาแล้ว
เขารู้สึกว่าเสี่ยวเยาเยาต้องสร้างเซอร์ไพรส์ให้เขาแน่!
สักพักเท้าของมู่เถาเยาก็เหยียบกระดานวินด์เซิร์ฟมิสทรัลที่ยาวสามเมตรเจ็ดสิบสองเซนติเมตร กว้างหกสิบห้าเซนติเมตร หนายี่สิบเซนติเมตร เสากระโดงยาวสี่เมตรเก้าสิบห้าเซนติเมตร ใบเรือยาวสองเมตรสี่สิบเซนติเมตร ใบเรือมีพื้นที่เจ็ดจุดสี่ตารางเมตร
ออกทะเลไปอย่างมั่นคง
เรื่องที่ทำให้คนที่อยู่บนฝั่งคาดไม่ถึงคือ หลังจากแล่นไปได้สองรอบมู่เถาเยาก็ตีลังกากลางอากาศ!
ทุกคนเดินเข้าไปใกล้ทะเลอย่างไม่รู้ตัว
มู่เถาเยาแล่นไปอีกหน่อยก็ตีลังกาอีกครั้ง
เธอแล่นเร็วขึ้นเรื่อยๆ ตามกำลังลมที่แรงขึ้น ตีลังกาหน้า ลังกาหลัง หมุนรอบ…ทั้งเท่ห์ทั้งสวย!
น้ำทะเลสีเขียวครามมีระลอกคลื่น ทอประกายระยิบระยับ ชั่วขณะนั้นกลืนมู่เถาเยากับวินด์เซิร์ฟหายไปพร้อมกัน
แต่แค่สองวินาทีวินด์เซิร์ฟสีเหลืองอร่ามก็โผล่ขึ้นมาพร้อมเกลียวคลื่น
ชายฝั่งที่ยาวเหยียดมีคนยืนอยู่เต็ม คาดว่าคนในศูนย์ฝึกคงพากันออกมาหมด
เสียงกรี๊ดกับเสียงปรบมือดังอย่างไม่ขาดสาย บรรยากาศครึกครื้นมาก!
โค้ชหร่วนอารมณ์ดียิ้มจนปากแทบฉีกถึงหู
…………………………………………………