ตอนที่ 443 ทำคนช็อกตายได้เลยนะ
หลังจากมู่เถาเยาขึ้นฝั่ง เมฆสีแดงก็ปกคลุมท้องฟ้า ฉาบน้ำทะเลให้กลายเป็นสีแดงไปครึ่งหนึ่ง
ทุกคนเข้าไปรุมล้อม
มู่หว่าน เจียงเฟิงเหมียน อวิ๋นสุ่ยเหยา รวมถึงพวกเด็กๆ ต่างตื่นเต้นจนหน้าแดงก่ำ
พวกบอดี้การ์ดก็เลือดในกายพลุ่งพล่าน อีกทั้งแอบตัดสินใจแล้วว่าวันหยุดครั้งหน้าจะไปเรียนวินด์เซิร์ฟบ้าง
ตี้อู๋เปียนมองมู่เถาเยาที่ใบหน้ายิ้มแย้ม ท่าทางเหมือนได้กินของอร่อยจนอิ่มเอม เขาเองก็ดีใจไปด้วย
“ซาลาเปาน้อย เธอเล่นได้ดีมากนะ”
โค้ชหร่วนพยักหน้า “ใช่ เสี่ยวเยาเยา เกินความคาดหมายของพวกเราไปมากเลยทีเดียว”
“หนูเคยเรียนมาโดยเฉพาะค่ะ”
อันที่จริงกีฬาวินด์เซิร์ฟไม่ได้ยาก ก็แค่ต้องใจกล้า ใช้พลังเยอะ อีกทั้งอัตราการเกิดอันตรายก็ไม่ถือว่าสูง เว้นเสียแต่จะออกทะเลตอนพายุเข้า
เฉินหมิ่นพูดโดยไม่อิจฉาเลยสักนิด “เสี่ยวเยาเยา ลงแข่งกีฬานานาชาติครั้งหน้าเถอะ ไม่อย่างนั้นเสียดายความเก่งแย่”
มู่เถาเยายิ้มพูด “ค่ะ”
“จริงเหรอ”
“ใช่ วันหน้าก็ช่วยดูแลเสี่ยวเยาเยาด้วย” โค้ชหร่วนยิ้มหน้าบานไม่มีหุบ
เฉินหมิ่น “ด้วยความเต็มใจครับ”
มู่เถาเยา “โค้ชคะ งั้นพวกเรากลับโรงแรมก่อน พวกเด็กๆ น่าจะหิวกันแล้วค่ะ”
ถึงแม้ตอนนี้ดวงอาทิตย์จะยังไม่ตกทะเล แต่ก็เกือบหนึ่งทุ่มแล้ว พวกเด็กๆ อยู่ในวัยเจริญเติบโต ไม่ควรปล่อยให้หิว
“ได้ๆๆ พวกเธอกลับกันก่อน”
“โค้ชเสร็จจากทางนี้ก็ไปกินข้าวด้วยกันนะคะ”
“อืม โค้ชขอไปดูคลิปวิดีโอของเธอก่อน เดี๋ยวไปนะ” ใช้โดรนบินถ่าย
“ค่ะ เดี๋ยวไปที่ห้องอาหารไห่เทียนนะคะ”
โค้ชหร่วนพยักหน้า “เข้าใจแล้ว รีบกลับไปเถอะ เหล่าเถียน พวกนายจะรอฉันหรือกลับพร้อมเสี่ยวเยาเยาก่อน”
โค้ชเถียน “ฉันรอนายดีกว่า เหล่าอัน พวกนายกลับไปพร้อมเสี่ยวเยาเยาก่อน”
โค้ชคนอื่นๆ พยักหน้า
มู่เถาเยาก็ชวนเฉินหมิ่นไปด้วยกัน
เฉินหมิ่นแสดงออกด้วยความเต็มใจ บอกว่ารอไปพร้อมโค้ชหร่วนกับโค้ชเถียน
มู่เถาเยาพยักหน้า ไปหยิบกระเป๋าพร้อมพวกโค้ชหลี่ เปลี่ยนชุดแล้วเดินกลับพร้อมทุกคน
คนอื่นๆ ไม่ได้ลงทะเล จึงตรงไปที่ห้องอาหารไห่เทียน มีแค่มู่เถาเยาคนเดียวที่กลับห้องอาบน้ำสระผมก่อน
ไม่กี่นาทีต่อมาโค้ชเถียน โค้ชหร่วน และเฉินหมิ่นก็มาถึง
บนโต๊ะอาหาร ทุกคนดูคลิปวิดีโอของมู่เถาเยา บรรยากาศครึกครื้นขึ้นมาอีกครั้ง
มู่หว่าน “เสี่ยวเยาเยา วันหน้าพวกเราจะไปเรียนวินด์เซิร์ฟบ้าง”
คนทั้งโต๊ะพยักหน้า!
มู่เถาเยาขำเสี่ยวจินเหยี่ยที่อยู่ข้างๆ “เสี่ยวจิน รอโตก่อนค่อยเรียนนะ”
“เสี่ยวจินกินเยอะๆ โตไวๆ”
“จ้ะ เสี่ยวจินของพวกเรากินเยอะๆ เลยนะ โตไวๆ”
เด็กน้อยพยักหน้ารัวๆ
ตี้อู๋เปียน “ซาลาเปาน้อย เมื่อกี้อาเย่ว์โทรมา ฉันช่วยรับให้แล้ว”
“อืม กินเสร็จฉันค่อยโทรหาพ่อ”
เนื่องจากต้องลงทะเล เธอจึงฝากโทรศัพท์ไว้ที่ตี้อู๋เปียน บอกว่าถ้ามีคนโทรมาก็รับให้ก่อน
โค้ชจางที่จิตใจละเอียดอ่อนมากที่สุดถามขึ้น “เสี่ยวเยาเยาจ๊ะ คุณพ่อแซ่เย่ว์เหรอ”
“ค่ะ”
พวกโค้ชร้องอ๋อในใจพร้อมกัน
ที่แท้เสี่ยวเยาเยาก็เป็นเจ้าหญิงน้อยของห้างเทียนเย่ว์ที่แสนลึกลับจริงด้วย!
มิน่าถึงมีเครื่องบินส่วนตัว!
ขณะเดียวกันก็รู้สึกโชคดีที่พ่อแม่ของเด็กคนนี้ใจกว้าง ไม่อย่างนั้นประเทศเหยียนหวงของพวกเขาจะชวดเหรียญทองไปอีกไม่รู้เท่าไร
พวกเขาจะคาดหวังให้เสี่ยวเยาเยาเป็นนักกีฬาไปตลอดไม่ได้ อย่างไรเสียต่อให้ไม่ได้เป็นเจ้าหญิงน้อยของเทียนเย่ว์เธอก็ต้องไปเป็นนักวิจัยอยู่ดี
นักกีฬากับนักวิจัย คนทั้งโลกย่อมสนับสนุนอย่างหลังอย่างไม่ต้องสงสัย
โค้ชหร่วนกับเฉินหมิ่นที่ไม่เข้าใจก็ไม่ได้ถามสิ่งที่สงสัย
พ่อแซ่เย่ว์แล้วยังไง อย่างมากก็คงใช้แซ่ตามแม่
แล้วนับประสาอะไรกับที่โค้ชหร่วนก็รู้ว่าเสี่ยวเยาเยาถูกหมอเทวดาหยวนเก็บมาเลี้ยง แต่เรื่องที่เขาไม่รู้คือ พวกโค้ชคนอื่นๆ เดาได้แล้วว่าเสี่ยวเยาเยาเป็นเจ้าหญิงน้อยของเทียนเย่ว์
แต่รู้ไม่รู้ก็เหมือนกัน
อย่างไรเสียพวกเขาก็ไม่เคยคิดจะประจบ ก็แค่กลัวว่าผู้ปกครองเห็นลูกตัวเองลำบากแล้วจะไม่ให้เป็นนักกีฬา
ตระกูลมหาเศรษฐีแบบนี้ไม่มีทางแคร์เรื่องตำแหน่งแชมป์โลกหรอก
แต่เสี่ยวเยาเยาสนิทกับตระกูลตี้ขนาดนั้น อีกทั้งยังมีความสามารถที่ช่วยคว้าเหรียญทองให้ประเทศได้ เธอย่อมไม่มีทางบอกปัด
วันหน้า…ช่างเถอะ พวกเขาไม่ควรโลภมาก
กินอาหารเย็นเสร็จโค้ชหร่วนก็ถามขึ้น “เสี่ยวเยาเยา พรุ่งนี้เริ่มฝึกหกโมงเช้าได้ไหม กลางวันแดดแรง พวกเราไม่ออกทะเล”
“ไม่มีปัญหาค่ะ”
“งั้นก็หกโมงถึงสิบเอ็ดโมง ตอนเที่ยงค่อยกินข้าวด้วยกัน” ตอนบ่ายพวกเขาก็จะกลับกันแล้ว
“ค่ะ หนูจะกินกับพวกโค้ชที่ศูนย์ฝึก พวกเขาจะออกไปเล่นน้ำทะเลกันค่ะ”
“เอาสิ งั้นพวกเรากลับก่อนนะ”
มู่เถาเยาพยักหน้า “หนูไปส่งค่ะ”
โค้ชหร่วนรีบส่ายมือ
โค้ชเถียนยิ้มพูด “เสี่ยวเยาเยา ไม่ต้องเกรงใจเหล่าหร่วนขนาดนั้น อยู่เล่นกับพวกเด็กๆ เถอะ ทุกคนดูติดเธอนะ”
เสี่ยวจินเหยี่ยรีบกางแขนกอดคอมู่เถาเยาทันที เอาศีรษะน้อยๆ แนบใบหน้าของมู่เถาเยา “ติด!”
อุ๊บ…
ทุกคนหัวเราะในความทะเล้นของจินเหยี่ยน้อย
“ดูสิ ติดหนึบเลย! โค้ชกับอาหมิ่นกลับก่อนนะ เล่นกันให้สนุก”
“ค่ะ” มู่เถาเยาก็ไม่ดึงดันจะออกไปส่งแล้ว
หลังจากโค้ชหร่วนกับเฉินหมิ่นออกไปแล้วเธอก็วิดีโอคอลหาพ่อ คุยกับคนในครอบครัวเล็กน้อย ดูเยี่ยนหังกับอู๋ซวงแล้วถึงวางสาย
ทุกคนย้ายจากห้องอาหารไปยังชั้นดาดฟ้า
อวิ๋นสุ่ยเหยาเรียกด้วยความตื่นเต้น “น้าชิง!”
“ผู้กำกับหนิง!” มู่เถาเยา มู่หว่าน และพวกเหลียงจีเรียกแทบจะพร้อมกัน
“ฮี่ๆ พวกเธอมาที่นี่ได้ยังไงกัน”
ผู้กำกับหนิงลุกจากเก้าอี้เดินไปหาทุกคน
อวิ๋นสุ่ยเหยาเข้าไปคล้องแขนผู้กำกับหนิงแล้วจับแกว่งอย่างออดอ้อน “น้าชิงคะ กลับมาตั้งแต่เมื่อไร ทำไมไม่มีใครรู้เลย”
“กลับมาเมื่อวาน บินจากต่างประเทศตรงมาที่นี่เลย กะว่าพักผ่อนสักสองสามวันค่อยกลับไป” หลักๆ คือกลัวถูกเร่งแต่งงาน
มู่หว่านถามด้วยความงุนงง “เสี่ยวเหยา ผู้กำกับหนิงเป็นญาติเธอเหรอ”
“โอ๊ย มัวแต่ดีใจที่เจอน้าชิง ลืมแนะนำทุกคนไปเลย พี่เสี่ยวหว่าน พี่เยาเยา พี่เหลียงจี เสี่ยวเหมียน…นี่น้าหนิงชิงลูกพี่ลูกน้องของแม่ฉันเอง เคยไปถ่ายทำที่หมู่บ้านเถาหยวน รู้จักกันอยู่แล้วใช่ไหม”
ทุกคนพยักหน้า
พวกเขาเพิ่งเคยเจอกันครั้งแรกนับแต่จากกันที่หมู่บ้านเถาหยวน
“น้าชิงคงไม่รู้ แม่หนูแนะนำอาซานให้พี่เสี่ยวหว่านค่ะ จริงสิ อาซานคลอดลูกแล้วนะคะ ชื่อฉือปู๋อี้…” บลาๆๆ
“ระยะนี้มีเรื่องเกิดขึ้นมากมาย…เอ่อ…แล้วนี่คือใคร รู้สึกคุ้นๆ ชอบกล” เขาเคยเจอคนที่อัปลักษณ์ได้ประหลาดขนาดนี้ด้วยเหรอ
อุ๊บ…
ทุกคนหัวเราะ
ตี้อู๋เปียนพูดด้วยความจนปัญญา “น้าชิง ผมอู๋เปียน”
พวกลูกๆ ของตระกูลตี้เรียกญาติของตระกูลอวิ๋นตามพวกน้องๆ มาตั้งแต่เด็ก
“อู๋เปียน!”
หนิงชิงตะลึงจนเดินเข้าไปหาตี้อู๋เปียน อยากดูให้แน่ชัดว่าเกิดอะไรขึ้นกับใบหน้าของเขา
“เกิดอะไรขึ้น ถูกพิษหรืออาการป่วยเลวร้ายลง”
“ฮ่าๆ…” ทุกคนขำท้องคัดท้องแข็ง
ตี้อู๋เปียนอธิบาย “เปล่าครับ ใบหน้าผมมันออกไปข้างนอกลำบาก ซาลาเปาน้อยก็เลยช่วยทำให้เป็นแบบนี้ จะล้างออกหมดในสี่สิบแปดชั่วโมง”
“…ทำคนช็อกตายได้เลยนะ!”
ทุกคนหัวเราะดังกว่าเดิม
ตี้อู๋เปียน “…”