อัจฉริยะหญิงเทพสมุนไพร – ตอนที่ 452 เสนอขายของค้างสต็อก

อัจฉริยะหญิงเทพสมุนไพร

ตอนที่ 452 เสนอขายของค้างสต็อก

วันศุกร์มู่เถาเยาไม่เข้าเรียนวิชาสุดท้ายที่ไม่ใช่วิชาเอก ถูกเหลียงจีรับไปบ้านตระกูลเซี่ย

เมื่อพวกเธอสองคนไปถึง มู่หว่าน เจียงเฟิงเหมียน และอวิ๋นสุ่ยเหยาก็เพิ่งลงจากรถ

สามสาววิ่งมาหามู่เถาเยาและเข้าบ้านไปพร้อมกัน

บ้านเก่าของตระกูลเซี่ยอยู่ในโซนหมู่เรือนสี่ประสานย่านที่แพงที่สุดของเมืองหลวง ละแวกเดียวกับบ้านตระกูลกู้ที่ตอนนั้นไป ‘สู่ขอลูกสาวตระกูลกู้’ ก็แค่ตระกูลหนึ่งอยู่ฝั่งเหนือ อีกตระกูลอยู่ฝั่งใต้

ถึงแม้พวกเขาต่างเป็นตระกูลเศรษฐี แต่ก็เป็นตระกูลที่มีประวัติมายาวนาน ที่นี่เป็นบ้านของบรรพบุรุษ จึงมีพื้นที่ค่อนข้างกว้าง

ด้านหลังผ่านการปรับปรุงและดัดแปลงจึงโอ่อ่าอยู่สบายเป็นพิเศษ

ดังนั้นต่อให้ตอนนี้มีคนมาเยอะก็ไม่เบียดเสียดแม้แต่น้อย

ตระกูลที่มีประวัติสืบทอดยาวนานแบบนี้โดยทั่วไปบ้านจะเป็นของลูกหลานสายตรง ไม่มีทางอาศัยอยู่เป็นครอบครัวใหญ่ทั้งตระกูล

คนเยอะจะเกิดความขัดแย้งและเรื่องโสมมได้ง่าย

อยู่ใกล้กันย่อมเกิดการกระทบกระทั่งเป็นเรื่องปกติ

พวกเขาเป็นปัญญาชนย่อมเข้าใจเหตุผลข้อนี้

พวกมู่เถาเยาไปเยี่ยมตี้อู๋เสียกับเซี่ยอวี่ฮว่าที่ห้องแล้วออกมานั่งคุยกับทุกคน

ไม่นานก็เริ่มกินข้าว

เนื่องจากพรุ่งนี้เป็นวันหยุดสุดสัปดาห์ กินข้าวเสร็จจึงไม่รีบร้อนกลับกัน

เซี่ยซืออวิ้นภรรยาโค้ชเถียนถามขึ้น “เสี่ยวเยาเยาจ๊ะ พรุ่งนี้จะพาพวกเสี่ยวเหยี่ยกลับไปแล้วเหรอ”

มู่เถาเยาแกล้งพูดติดตลก “ใช่ค่ะ หนูกลัวโค้ชเถียนจะไม่กลับบ้านเลย”

ทุกคนพากันหัวเราะ

เซี่ยซืออวิ้นมองฟ้าถอนหายใจ “ตอนนี้ไม่ใช่แค่เหล่าเถียนที่ไม่ยอมกลับบ้าน แม้แต่เถียนซินก็ไม่กลับด้วย”

เถียนซินเบียดเข้ามา แต่ไม่รับมุกคำพูดของแม่ต่อ เธอพูดกับมู่เถาเยา “พี่เยาเยาคะ หนูอยากตามพี่กับพ่อไปส่งพวกเสี่ยวเหยี่ยกลับด้วย อยากเห็นราชาม้าป่าค่ะ”

“ได้สิ”

มู่หว่านกับเจียงเฟิงเหมียนก็อยากกลับไปด้วย

มู่เถาเยา “เสี่ยวหว่าน เดี๋ยวลองถามน่าหลานอวิ๋นไคดูนะว่าอยากกลับไปด้วยไหม”

“ได้เลย”

หนิงชิงถามด้วยความแปลกใจ “น่าหลานอวิ๋นไคเหรอ พวกเธอรู้จักอวิ๋นไคด้วยเหรอ”

มู่เถาเยาเลิกคิ้วเล็กน้อย “น้าชิงก็รู้จักคนตระกูลน่าหลานเหรอคะ”

“หนิงหนิงพี่สาวที่เป็นญาติน้าแต่งไปอยู่เจียงตู ครอบครัวสามีแซ่น่าหลาน สามีมีหลานชายชื่อน่าหลานอวิ๋นไค ไม่รู้ว่าใช่คนเดียวกับที่พวกเธอพูดหรือเปล่า”

“น่าหลานอวิ๋นไคเป็นคนฝั่งตะวันตก ตอนนี้เรียนอยู่ที่เมืองหลวงค่ะ”

“น่าจะใช่แล้วล่ะ เสี่ยวเยาเยา น้าขอไปกลับไปเที่ยวด้วยสักสองวันสิ”

หยางชิงเฉวียนมองตาขวางใส่เขา “นายนี่อยากไปมันทุกที่เลยนะยกเว้นกลับบ้าน”

หนิงชิงยิ้มเขิน

อันที่จริงเขาก็ชอบอยู่บ้าน แต่ไม่อยากถูกบังคับไปดูตัว เลยต้องเที่ยวตะลอนไปเรื่อย

มู่เถาเยาก็อยากให้หนิงชิงไปด้วยกัน เพราะอยากให้พี่เหลียงจีใช้เวลาอยู่กับเขาเยอะๆ ตอนนี้เขาเสนอตัวขึ้นมายิ่งดีเข้าไปใหญ่

เท่าที่สังเกต เธอว่าเธอวิเคราะห์ถูก น้าชิงก็มีใจให้พี่เหลียงจีอยู่

ชำเลืองมองทั้งสองคนแบบไม่ให้รู้ตัว จากนั้นก็หันไปมองปู่ย่าตัวเอง “คุณปู่คุณย่าล่ะคะ อยากไปด้วยกันไหมคะ”

ย่าเย่ว์ยิ้มพูด “พวกเราอยู่เมืองหลวงดีกว่า ไว้สุดสัปดาห์หน้าค่อยกลับเผ่าพร้อมหลาน” พวกเขาคิดถึงเยี่ยนหังกับอู๋ซวงแล้ว!

“ได้ค่ะ” มู่เถาเยาไม่มีความคิดเห็นอะไร

ถึงแม้สุขภาพของคนชราทั้งสองจะแข็งแรง แต่ลดความลำบากได้ก็ลด

อวิ๋นไป๋ “วันมะรืนผมจะกลับเจียงตูไปดูบริษัทหน่อยครับ วันศุกร์หน้ากลับมาเมืองหลวงแล้วค่อยกลับเผ่าพร้อมคุณพ่อคุณแม่กับเสี่ยวเยาเยา”

เขาคิดถึงลูกเมียจนแทบเป็นบ้า แต่จะทิ้งงานก็ไม่ได้ เพราะเมียไม่ยอม

มู่เถาเยาพยักหน้า จากนั้นก็ไปเข้าห้องน้ำ พอกลับมาก็หาโอกาสดึงตัวหยางชิงเฉวียนไปด้านหนึ่ง

“มีอะไรเหรอเสี่ยวเยาเยา”

“คุณป้าคะ หนูอยากถามเรื่องน้าชิงหน่อยค่ะ”

“ทำไมเหรอ อยากถามด้านไหนล่ะ”

“ชีวิตส่วนตัวค่ะ พี่เหลียงจี…”

“เสี่ยวเยาเยาหมายความว่า…” หยางชิงเฉวียนอดมองไปด้านนั้นไม่ได้ และก็สังเกตเห็นเหมือนน้องชายตัวเอง…กำลังมองเหลียงจี?

นี่…มันใช่แบบที่เธอคิดหรือเปล่า เสี่ยวเยาเยาหมายความแบบนี้ไหม

มู่เถาเยาก็มองตาม ยิ้มพูด “หนูว่าน้าชิงกับพี่เหลียงจีเหมาะสมกันค่ะ”

“พวกเขาสองคนไปแอบชอบกันตอนไหน ใช่ครั้งก่อนที่ทุกคนพากันไปเที่ยวทะเลตะวันออกหรือเปล่า” อวิ๋นสุ่ยเหยาลูกสาวเธอเล่าให้ฟังว่าบังเอิญเจอหนิงชิงที่นั่น

“ใช่ค่ะ พวกเขายังจับมือกันโดยไม่รู้ตัวด้วย”

พอพูดถึงเรื่องนี้มู่เถาเยาก็อยากขำ

“จริงเหรอ แบบนั้นน้าเล็กของป้าได้ดีใจตายเลย!”

“คุณป้าคะ วันหน้าพี่เหลียงจีต้องติดตามหนู งานจะยุ่งมาก…”

“เอาน่า เหลียงจีงานยุ่งไม่เท่าไรหรอก ให้หนิงชิงรับงานน้อยหน่อยก็ได้แล้ว เขาอิสระ ให้ตามเมียไปก็ได้” ติดตามไปด้วยย่อมไม่ใช่ปัญหา แค่ไม่ตามเข้าไปในที่ทำงานด้วยก็พอแล้ว

“แล้วพ่อแม่ของน้าชิงจะติดขัดอะไรไหมคะ”

หยางชิงเฉวียนยิ้มพูด “เสี่ยวเยาเยาวางใจได้ น้าเล็กกับน้าเขยของป้าไม่ใช่คนหัวโบราณ”

“ค่ะ พี่เหลียงจีเกิดในครอบครัวทหาร ปู่ย่าพ่อแม่เป็นทหารหมด…พี่เหลียงจียังมีน้องชายน้องสาว เหลียงเหิงน้องชายอยู่ในค่ายทหาร เป็นผู้ช่วยฝีมือดีของพี่ใหญ่ของหนู ส่วนเหลียงจิ่วน้องสาวเรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัยอันฝางที่เป็นของกองทัพ…”

มู่เถาเยาเล่าประวัติคร่าวๆ ของครอบครัวเหลียงให้หยางชิงเฉวียนฟัง

หยางชิงเฉวียนฟังมู่เถาเยาพูดพลางมองเหลียงจีอยู่เรื่อยๆ สายตาร้อนแรงประหนึ่งกำลังมองลูกสะใภ้ตัวเอง ถึงขั้นที่ตาโตเหมือนผลองุ่นหรี่ลงจนแทบกลายเป็นเส้นตรง

“เสี่ยวเยาเยา หนิงชิงพึ่งพาตัวเองแต่เด็ก เป็นคนมีระเบียบวินัย น้าเล็กกับน้าเขยของป้าไม่เคยยุ่งการตัดสินใจของเขา…ถึงแม้เขาจะเนื้อหอมมาตั้งแต่เด็ก แต่เขาจะรักษาระยะห่างแบบสุภาพบุรุษอยู่ตลอด…เขาเคยเป็นทหาร ต้องพูดภาษาเดียวกับครอบครัวเหลียงแน่นอน…”

บลาๆๆ

มู่เถาเยาฟังไปพยักหน้าไป เห็นได้ชัดว่าพอใจมาก

เธอไม่สงสัยในคำพูดของหยางชิงเฉวียนแม้แต่น้อย

“เสี่ยวเยาเยา ป้ากล้ารับประกันเลยนะว่าหนิงชิงจะเป็นสามีที่เอาใจใส่และดูแลครอบครัวได้ดีมากแน่ เหลียงจีแต่งงานกับเขาไม่เสียเปรียบแน่นอน…ต่อให้ทะเลาะกัน พวกเราก็จะเข้าข้างเหลียงจี…”

หยางชิงเฉวียนพยายามเสนอขายของค้างสต็อกในครอบครัวอย่างเต็มที่

“งั้นก็แล้วแต่พวกเขาจะพัฒนาความสัมพันธ์นะคะ”

“เอาสิ เดี๋ยวป้าจะบอกน้าเล็กให้พวกเขาดีใจด้วย” ประเด็นคือไม่ต้องคิดหัวแทบแตกหาทางให้หนิงชิงไปดูตัวแล้ว

“ค่ะ” มู่เถาเยาย่อมไม่แย้งอะไร

“เสี่ยวเยาเยา น้าเล็กของป้าเป็นคนมีลูกยาก แต่งงานมาสิบปีถึงมีหนิงชิงตอนอายุสามสิบห้า ดังนั้นคนครอบครัวหนิงค่อนข้างกังวลเรื่องลูกของหนิงชิง ถ้าพวกเขาแต่งงานแล้วมีลูกได้เร็ว เหลียงจีต้องกลายเป็นคนโปรดของน้าเล็กกับน้าเขยได้แน่…”

“ตอนน้าชิงเมาเรือหนูเคยตรวจร่างกายให้แล้วค่ะ สุขภาพไม่มีปัญหา พี่เหลียงจีก็สุขภาพแข็งแรง ไม่ต้องกังวลเรื่องลูกค่ะ ถ้าจะมายังไงก็มา”

มู่เถาเยาไม่ได้รู้สึกว่าการคาดหวังเรื่องลูกหลานมีความผิดอะไร

เดิมทีการสืบทอดสกุลก็เป็นเรื่องสำคัญ

ถึงแม้ตอนนี้ประเทศเหยียนหวงจะไม่ขาดแคลนคน แต่วันหน้าล่ะ

เมื่อก่อนหนึ่งครอบครัวมีลูกได้สามสี่คน รุ่นก่อนๆ มีกันทีห้าหกคน แต่ตอนนี้มีแค่คนสองคน เกิดเป็นแบบนี้ต่อไป…วันหน้าได้เกิดปัญหาขาดแคลนคนแน่!

สายตาของเธอไม่เหมือนคนทั่วไป เธอมองไปอีกหลายสิบปีข้างหน้า ถึงขั้นหลายร้อยปีนับจากนี้

“เสี่ยวเยาเยาวางใจได้ น้าเล็กกับน้าเขยของป้าเป็นคนเข้าใจโลก ไม่มีทางกดดันเหลียงจี ต่อให้ไม่มีลูกพวกเขาก็จะสงสัยก่อนว่าปัญหาอยู่ที่หนิงชิง”

“ค่ะ มีหนูอยู่ ขอแค่พวกเขาอยากมียังไงก็มีได้ค่ะ…เอ่อ…คุณป้าคะ ดูเหมือนพวกเราจะคิดไปไกลแล้ว พวกเขายังไม่ได้คบกันเลยจะมีลูกก่อนได้ยังไงคะ…”

หยางชิงเฉวียนถึงกับหลุดหัวเราะ

นั่นสิ พวกเธอคิดไปไกลจริงๆ!

อัจฉริยะหญิงเทพสมุนไพร

อัจฉริยะหญิงเทพสมุนไพร

Status: Ongoing
มองจากภายนอกเธอคือหญิงสาวจากหมู่บ้านชนทบทที่ห่างไกล แม้รูปโฉมไม่ธรรมดาแต่จะมีอะไรมากไปกว่านั้น แต่ใครเลยจะรู้ว่าเบื้องหลังของเธอนั้นคือ ‘หมอเทวดา’ ผู้มีฝีมือไม่เป็นสองรองใคร!นิยายโรแมนติก-แฟนตาซีในเมืองใหญ่ นางเอกเก่งทั้งรักษาโรคและวรยุทธ์โคจรมาเจอกับพระเอกขี้โรคสุดหลงตัวเอง!โลกของอดีตจักรพรรดินีอย่าง มู่เถาเยา ถึงคราวกลับตาลปัตรเมื่อต้องมากลายเป็นเด็กทารกที่ยังมีความทรงจำเดิมในชาติก่อน?! อีกทั้งโลกใหม่นี้ยังแตกต่างไปอย่างสิ้นเชิงหลายปีผันผ่านเธอหลอมรวมเข้ากับโลกใหม่ใบนี้ได้อย่างสมบูรณ์พร้อมได้รับวาสนาเป็นศิษย์ของหมอเทวดาผู้เก่งกาจประสบการณ์และพรสวรรค์มากมายในชาติก่อนแล้วทำให้เธอเก่งกาจเหนือกว่าผู้ใดพร้อมก้าวเข้าสู่เมืองหลวงเพื่อร่ำเรียนและฝึกฝนหาประสบการณ์ชีวิตในโลกใหม่แปลกหน้าใบนี้

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท