ตอนที่ 455 ใครๆ ก็มีความลับ
วันรุ่งขึ้นมู่เถาเยาพกน้ำหนึ่งขวดกับขนมหนึ่งถุงเตรียมไปตามหาราชาม้าป่าที่เขตป่าชั้นใน
“ซาลาเปาน้อย ฉันเลือกเส้นทางให้ ไปทางตะวันตกนะ” ถ้าเดินไปทางอื่นวันเดียวก็หาราชาม้าป่าไม่เจอหรอก
มู่เถาเยาอึ้งไปชั่วขณะ
ตามความเข้าใจของเธอ ราชาม้าป่าไม่ค่อยไปทางตะวันตก เพราะทางนั้นสิ่งมีพิษค่อนข้างเยอะ
ฝูงม้าป่าไม่ค่อยกลัวสัตว์ร้ายยกเว้นแถวหนองน้ำ เพราะพวกมันวิ่งเร็ว แต่แมลงมีพิษที่ตัวเล็กมองหาตัวยากถือเป็นสิ่งอันตรายมากสำหรับพวกมัน
สัตว์มีเส้นทางดำรงชีวิตของตัวเอง ผู้อ่อนแอย่อมตกเป็นเหยื่อ นี่คือกฎของธรรมชาติ สิ่งมีชีวิตแต่ละชนิดมีสิ่งที่ตัวเองกลัว ม้าเป็นสัตว์กินพืชยิ่งไม่มีข้อยกเว้น
“ซาลาเปาน้อย ฉันดวงดี เชื่อฉันสิ วันนี้ต้องสมใจแน่นอน” ถ้าไม่ติดว่าตอนนี้เขาเป็น ‘ตัวถ่วง’ เขาต้องไปด้วยแน่นอน
พอได้ฟังตี้อู๋เปียนพูดแบบนี้ มู่เถาเยาก็นึกถึงเรื่องสมุนไพรเมื่อวาน
“ได้ ฉันจะไปทางตะวันตก”
“อืม ระวังด้วย”
น่าเสียดายที่ไม่มีใครมีคุณสมบัติที่จะเข้าเขตป่าชั้นในได้นอกจากซาลาเปาน้อย ตามเข้าไปมีแต่จะเป็นตัวถ่วง ไม่สู้ให้เธอไปคนเดียว
“ได้”
มู่เถาเยาขานรับตี้อู๋เปียนแล้วหันไปมองมู่หว่าน “เสี่ยวหว่าน เสี่ยวเหมียน พวกเธอพาโค้ชเถียนกับเถียนซินไปเดินเที่ยวในหมู่บ้านนะ พี่เหลียงจีคะ ฝากน้าชิงด้วยนะคะ”
คนอื่นๆ พยักหน้า
“ไปแล้วนะคะ”
จางเฟยกำชับ “เสี่ยวเยาเยา ระวังตัวด้วยนะ ไม่ว่าจะเจอเกาหม่าหรือเปล่ายังไงก็ต้องกลับมาก่อนพระอาทิตย์ตกดิน”
“เข้าใจแล้วค่ะ”
มู่เถาเยาพูดจบก็กระโดดขึ้นหลังคา เหาะไปทางคอกม้า
ดูม้าทั้งสี่ตัวเสร็จก็เหาะไปทางป่าเซียนโหยว
ระหว่างทางยังคิดอยู่ว่าทำไมต้องไปทางตะวันตกด้วย
เธอชักสงสัยความลับของตี้อู๋เปียนแล้ว
แต่เธอก็ไม่ได้ต้องการไปขุดหาความลับของใคร
อย่างตัวเธอเองก็มีความลับไม่ใช่เหรอ ไม่มีทางบอกคนอื่นเหมือนกันไม่ใช่เหรอ
ช่างเถอะ ตราบใดที่ไม่เป็นการทำร้ายคนอื่นเธอก็รับได้
ตี้อู๋เปียนที่อยู่ทางนี้ก็รู้ว่ามู่เถาเยาที่ฉลาดปราดเปรื่องต้องคิดมากแน่ แต่เขาก็ไม่อะไร เพราะรู้จักนิสัยของเธอดี
หลังจากมู่เถาเยาออกไป คนในบ้านครอบครัวหยวนก็แยกย้าย
ผู้ใหญ่บ้านกับภรรยาบอกให้ทุกคนมากินข้าวกลางวันที่บ้าน จากนั้นพวกเขาก็ไปทำงานของตัวเอง
มู่หว่านกับเจียงเฟิงเหมียนพาสองพ่อลูกครอบครัวเถียนไปเที่ยวชมหมู่บ้านที่มีทัศนียภาพงดงามและมีความทันสมัย
เหลียงจีพาหนิงชิงไปฝึกวิทยายุทธที่โรงเรียนประถมเถาหยวน
ตี้อู๋เปียนไปดูม้าทั้งสี่ตัวเสร็จก็ไปอยู่คุยกับพวกศิษย์พี่ศิษย์หลานของมู่เถาเยาสักพัก จากนั้นก็กลับบ้านครอบครัวหยวน ไปดูต้นอู่เลี่ยหวงเหลียน ดอกฉยงฮวา และดอกเถียนซิน
ต้นอู่เลี่ยหวงเหลียนดูเฉาไปหน่อย
แต่ต้นไม้ที่เพิ่งถูกย้ายมาปลูกส่วนใหญ่ก็อาการแบบนี้
“เสี่ยวฉยง ว่างๆ ก็ชวนอู่เลี่ยหวงเหลียนคุยบ่อยๆ นะ บอกให้พวกมันอดทนอยู่ต่อไป”
“เจ้านาย เสี่ยวอู่บอกว่าพวกมันไม่ชอบที่นี่ อยากกลับไป”
ตี้อู๋เปียนข่มขู่ “ไม่ชอบจะจับทำยา”
ดอกฉยงฮวาแอบสงสาร
พวกต้นอู่เลี่ยหวงเหลียนเด็กกว่ามันเสียอีก
ตี้อู๋เปียนเลิกสนพวกมัน ลองสื่อสารกับดอกเถียนซินอีกครั้ง
แต่น่าเสียดายที่ล้มเหลวเหมือนเดิม ดอกเถียนซินไม่สนใจเขา!
ดอกเถียนซินเป็นอะไรกันแน่ ทำไมถึงไม่สนใจเขา หรือว่าเขาไม่หล่อพอ
หรือว่า…จะสื่อสารกันไม่ได้
แต่เสี่ยวฉยงเคยบอก ระหว่างพวกมันสามารถสื่อสารกันเหมือนกับพืชชนิดอื่นได้
ทว่าแต่ไหนแต่ไรมาจะเป็นดอกเถียนซินถามพืชชนิดอื่น ถ้าพืชชนิดอื่นถาม มันจะไม่สนใจ!
เสี่ยวฉยงก็เคยลองไม่สนใจมัน แต่พอมันถาม เสี่ยวฉยงก็อดตอบไม่ได้
คุยเสร็จเสี่ยวฉยงก็มานั่งเซ็ง แต่เป็นแบบนี้ทุกครั้ง ซ้ำไปซ้ำมา
ราวกับว่ามันยอมให้ดอกเถียนซินโดยสัญชาตญาณ
ตี้อู๋เปียนไม่รู้ว่าดอกเถียนซินคิดอย่างไรกับซาลาเปาน้อย แต่คิดๆ ดูก็คงไม่ปฏิบัติเหมือนที่ทำกับเขา
น่าเสียดาย ไม่ว่าจะทำอย่างไรซาลาเปาน้อยก็สื่อสารกับพืชและสัตว์ไม่ได้
ช่างเถอะ เลิกสนว่าดอกเถียนซินจะคิดยังไง
มันอาจเป็นรุ่นอาวุโสของพวกพืชก็ได้ ก็เลยหยิ่งขนาดนี้
พอคิดได้ถึงตรงนี้สายตาของตี้อู๋เปียนก็มองสลับระหว่างดอกฉยงฮวากับดอกเถียนซิน
“เสี่ยวฉยง แกเคยถามดอกเถียนซินไหมว่าเป็นอะไร มันจะเป็นบรรพบุรุษของพวกแกหรือเปล่า”
สีขาวเหมือนกัน แต่ดอกเถียนซินสวยกว่าเสี่ยวฉยง
ดอกฉยงฮวามีใบไร้ดอกอาจเป็นแค่ตอนเป็นต้นกล้า ไม่แน่วันหน้าเติบโตอาจมีลักษณะเหมือนดอกเถียนซินในตอนนี้
จริงสิ เขาเอาคริสตัลมาให้ดอกเถียนซินได้ ลองดูว่ามันจะชอบเหมือนเสี่ยวฉยงชอบหรือเปล่า
“เสี่ยวฉยง ดอกเถียนซินมีสีหน้าตื่นเต้นต่อกระถางคริสตัลของแกหรือเปล่า”
ถึงแม้เขาจะมองไม่ออกว่าดอกไม้มีสีหน้าอย่างไร แต่สามารถดูจากความสดชื่นของเสี่ยวฉยงกับความรวดเร็วในการสื่อสารได้ว่ามันอารมณ์ดีหรือเปล่า
“ไม่เลย พี่เถียนซินบอกว่าข้าน่ารำคาญ ปกติไม่ให้ข้าพูดมาก” เสียใจจัง
มันกับพืชที่มาจากป่าเซียนโหยวส่วนใหญ่สื่อสารทางจิต ไม่กล้าคุยเหมือนคุยกับเจ้านายอย่างในตอนนี้
อึดอัดจะตายอยู่แล้ว!
ตี้อู๋เปียน “…งั้นคราวหน้าฉันจะเอาคริสตัลมา เปลี่ยนดินตรงนี้เป็นคริสตัล ถ้าดอกเถียนซินไม่ชอบแกก็บอกฉัน”
“ได้เลยเจ้านาย ถ้าพี่เถียนซินไม่ชอบก็ให้ข้า ข้าชอบ”
“เออ” ตี้อู๋เปียนย่อมไม่ว่าอะไร
เอามาแล้วคงไม่คิดจะเอากลับ ซาลาเปาน้อยก็ไม่ชอบของพวกนั้นด้วย
คริสตัลเป็นหินคริสตัลควอตซ์ เป็นแร่หายาก องค์ประกอบหลักทางเคมีคือซิลิกาและธาตุอื่นๆ ในปริมาณเล็กน้อย
คราวหน้าจะลองหาพวกแร่อื่นๆ ในคริสตัลมาบ้าง เช่น รูไทล์ ทัวร์มาลีน แอกติโนไลต์ คลอไรต์ ไมกา มาลองดูบ้าง
“ดอกพันวันยังอยู่ที่เดิมไหม”
“ยังอยู่ที่เดิมเจ้านาย ผลหมื่นปีก็อยู่ แต่ก็ยังไม่สุก” เถาวัลย์นั่นบอกมันอยู่บ่อยๆ ว่าผลหมื่นปีอร่อยมาก เล่นเอามันก็รู้สึกอยากกินด้วย
อดใจรอให้ผลหมื่นปีสุกไม่ไหว
ไม่รู้ว่าผลหมื่นปีจะทำให้มันสบายจากภายในสู่ภายนอกได้เหมือนคริสตัลหรือเปล่า
“อืม คอยดูไว้นะ ถ้า…ถูกตัวอะไรกินไปนายก็รีบบอกฉัน” ตอนนี้เขายังไม่เก่งพอจะเข้าไป ส่วนซาลาเปาน้อยก็งานยุ่งเหลือเกิน
“ได้เลยเจ้านาย”
ตี้อู๋เปียนเลิกคุย ตั้งใจ ‘สังเกตการณ์’ เขตป่าชั้นใน
ซาลาเปาน้อยไปทางตะวันตกตามที่เขาบอก
อืม ไปอีกหน่อยก็จะเจอฝูงม้าป่าแล้ว
ฝูงม้าป่าก็รู้ตัวเองดี ไม่ได้เข้าไปลึกเกินไป ซาลาเปาน้อยถึงจะเจอพวกมันได้เร็ว
ติดตามจนพอประมาณแล้วตี้อู๋เปียนถึงไปกินข้าวที่บ้านผู้ใหญ่บ้านอย่างสบายใจ
กินเสร็จกลับมาประจำที่เดิมต่อ ซาลาเปาน้อยเจอกับฝูงม้าป่าแล้ว
ก็ไม่รู้ว่าคนกับม้าสื่อสารกันอย่างไร เอาเป็นว่าซาลาเปาน้อยกับราชาม้าป่ากำลังพาฝูงม้าวิ่งออกมา
ม้าฝูงนี้มีกันอย่างน้อยก็สามร้อยตัวขึ้นไป
เรื่องที่เหนือความคาดหมายของเขาคือ ตรงกลางมีพวกลูกม้าอยู่หลายตัว
ถึงแม้จำนวนเท่านี้ไม่ควรค่าให้พูดถึงเมื่อเทียบกับป่าเซียนโหยวที่มีขนาดใหญ่ แต่ม้าที่เป็นสัตว์กินพืชดำรงชีวิตอยู่เขตป่าชั้นในรอดกันมาได้เยอะขนาดนี้ก็ถือว่าเก่งมากแล้ว
ไม่ต้องสงสัยเลยว่าผู้รอดล้วนเป็นชนชั้นสุดยอด
ตี้อู๋เปียนเลิกสนใจเขตป่าชั้นใน เขาไป ‘ส่งข่าวดี’ ให้ม้าทั้งสี่ที่คอกม้า
หลิวซิงน้อยกระวนกระวาย พยายามหาทางออกจากคอก
มันคิดถึงพ่อมาก
ตี้อู๋เปียนกับเสี่ยวเซวี่ยเหนื่อยกันอยู่นานกว่าจะกล่อมมันให้สงบได้
อาหยางที่ดูแลหลิวซิงเกือบจะร้องไห้!
ลูกม้าตัวนี้เอาใจยากจริง!