ตอนที่ 461 ไปเที่ยวหลังตรุษจีน
วันอาทิตย์เวลาหกโมงกว่า ฟ้ายังไม่สว่างพวกมู่เถาเยาก็ฝ่าความหนาวเย็นไปออกกำลังกายกันที่สนามหญ้า
หนึ่งชั่วโมงต่อมาแต่ละคนก็หน้าแดงเปล่งปลั่งกลับเข้าบ้าน ราวกับว่าสภาพอากาศในตอนนี้ไม่ได้ติดลบ แต่เป็นอุณหภูมิสูงถึงสามสิบองศา
คุณนายอวิ๋นเหอพูดอย่างอารมณ์ดี “นับตั้งแต่มีกำลังภายในกันก็ไม่กลัวความหนาวกันแล้วนะ”
กู้เนี่ยนพยักหน้า “ใช่ค่ะ หลายวันมานี้หนูใส่เสื้อแค่สองตัวออกไปทำงาน ไม่รู้สึกหนาวถึงกระดูกแบบเมื่อก่อนเลยค่ะ”
กู้หานที่เพิ่งลงมาจากชั้นบนหน้าแดงทักทายทุกคน
คนอื่นๆ ตื่นกันแต่เช้าไปออกกำลังกาย แต่เธอกลับนอน
อืม อันที่จริงวันหยุดตื่นนอนเจ็ดโมงกว่าก็เรื่องปกติ แล้วนับประสาอะไรกับในหน้าหนาวแบบนี้
ถ้าเป็นครอบครัวคนธรรมดาทั่วไปนี่เป็นเวลาตื่นนอนตามปกติ ไม่เช้าไม่สายเกินไป เพียงแต่เมื่อเทียบกับคนฝึกยุทธเหล่านี้เธอจึงดูตื่นสายไปหน่อย
กู้หานกระเถิบเข้าไปหามู่เถาเยาด้วยความเขินอายเล็กน้อย พูดเสียงเบา “เสี่ยวเยาเยา สอนพี่บ้างได้ไหม เมื่อก่อนพี่เคยฝึกศิลปะป้องกันตัว”
ถึงแม้ความปลอดภัยในประเทศจะสูงมาก แต่ใช่ว่าจะไม่เดินทางไกลเลย อีกทั้งไม่มีใครรับประกันได้ว่าตัวเองจะอยู่อย่างปกติสุขไปได้ตลอดชีวิต ดังนั้นถ้ามีความสามารถปกป้องตัวเองได้ย่อมเป็นเรื่องดี
“ได้ค่ะ ขอแค่พี่อดทน”
กู้หานรับประกันหนักแน่น “พี่ทำได้!”
“งั้นต่อไปพี่กู้หานตื่นตีห้าครึ่งในหน้าร้อน ตื่นหกโมงครึ่งในหน้าหนาวนะคะ”
“ได้เลยๆ พี่ไม่นอนขี้เกียจแน่นอน”
ย่าตี้ยิ้มพูด “ถ้าไม่ติดว่าพวกเราอายุมากแล้วก็คงไปฝึกด้วย”
จินเหยี่ยน้อยก็จับมือมู่เถาเยา เงยหน้าพูดเสียงเด็กน้อย “ฝึก!”
ใบหน้าแดงระเรื่อของมู่เถาเยามีรอยยิ้ม เอามือลูบหัวจินเหยี่ยน้อย “รอเสี่ยวจินของพวกเราโตอีกหน่อยก็ฝึกได้จ้ะ”
เด็กน้อยพยักหน้ารัวๆ
ปู่ตี้ดึงเหลนสาวออกมายิ้มพลางพูด “เสี่ยวจิน พี่สาวต้องขึ้นไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อน ไม่อย่างนั้นจะเป็นหวัดเอาได้ เสี่ยวจินรอพี่สาวอาบน้ำเสร็จลงมาค่อยคุยนะ”
เด็กน้อยตอบทันที “พี่สาวไปอาบน้ำ ไม่ต้องกินยา”
เธอจำได้ว่า ‘เป็นหวัด’ ต้องกินยา
“จ้ะ งั้นเสี่ยวจินเล่นกับปู่ทวดย่าทวดไปก่อนนะ พี่สาวไปอาบน้ำก่อน”
“อื้อ”
พวกมู่เถาเยาแยกย้ายกลับห้องไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า
พอลงมาก็กินข้าวเช้าแล้วกลับห้องไปเอาสัมภาระของตัวเอง เมื่อคนครบแล้วถึงเดินทางกลับหมู่บ้านเถาหยวนซาน
พวกเด็กๆ น้ำตาคลอมองสัมภาระของพวกพี่สาว
พวกมู่หว่านทั้งขำทั้งเอ็นดู
มู่เถาเยาไล่ลูบหัวทีละคน “อีกไม่นานก็ได้กลับบ้านไปฉลองตรุษจีนแล้ว”
มู่ซือจิ่น ซย่าโหวจิ่งเหยา ถังเซิ่นอวี๋มาอยู่ที่ค่ายทหารนานแล้วย่อมตระหนักได้ถึงความรับผิดชอบ พวกเขาจึงไม่ได้เสียใจที่ไม่ได้กลับบ้าน ก็แค่ไม่อยากแยกจากมู่เถาเยากับพวกมู่หว่าน
ตี้อันเหยี่ยเจ้าถุงลมน้อยเม้มริมฝีปาก ท่าทางเศร้าสร้อย
เขารู้ว่าทุกคนมีบ้านของตัวเอง อยู่เล่นเป็นเพื่อนเขากับน้องสาวที่เมืองหลวงไปตลอดไม่ได้
จินเหยี่ยน้อยยังไม่ประสีประสา พอเห็นทุกคนลากกระเป๋าแบกกระเป๋าก็ไปบอกแม่ให้หากระเป๋าให้หน่อย เอาแบบสวยๆ ด้วย
กู้เนี่ยนเอ็นดูลูกสาว จึงอุ้มพาเดินออกไปจากตรงนั้น
แบบนี้ก็ดี จะได้ไม่ต้องร้องไห้งอแงตอนเห็นพวกพี่ๆ จากไป
สองแม่ลูกขึ้นชั้นบนไปได้ไม่นาน หนุ่มสาวที่จะตามไปหมู่บ้านเถาหยวนซานด้วยก็ทยอยมาถึง
พวกผู้ใหญ่ต่อให้อาวรณ์แค่ไหนก็ไม่อยากทำให้เสียเวลา เพราะทางนั้นยังมีคนรอพวกเด็กๆ อยู่ จึงให้คนเดียวกำชับพวกเขาแล้วปล่อยไปลานจอดเครื่องบิน
ระยะทางจากเหนือไปใต้ไกลมาก แต่เครื่องบินของมู่เถาเยาเร็วเป็นพิเศษ
เครื่องบินของมู่เถาเยาขับเร็วได้ในน่านฟ้าของประเทศเหยียนหวง ไม่ต้องกลัวถูกขวาง
พวกเขาจึงถึงหมู่บ้านเถาหยวนซานก่อนเวลาอาหารกลางวัน
หลังจากกินข้าวเสร็จผู้ใหญ่บ้านมู่อี้กับภรรยารวมถึงอารองป้าสะใภ้รองก็ช่วยมู่เถาเยาจัดหาที่พักให้แขก
มู่เถาเยากับตี้อู๋เปียนย่อมพักที่เรือนหลังน้อยของครอบครัวหยวน
มู่หว่านพาเจียงเฟิงเหมียน น่าหลานอวิ๋นไค และฟางฝ่างกลับบ้านตัวเอง
เหลียงจี หนิงชิง พี่หยางแม่ครัวไปพักบ้านตระกูลเย่ว์
อวิ๋นสุ่ยเหยา กู้หาน จั่วอีเหิง เซี่ยซิงเฉิน โจวซือหย่วน ไปพักบ้านตระกูลอวิ๋น
พอทุกคนเก็บสัมภาระสร็จก็กลับมารวมตัวกันที่บ้านครอบครัวหยวน
หยวนเหยี่ยยิ้มพูด “ถ้ายังไม่เหนื่อยกันก็ไปเดินเล่นในหมู่บ้านนะ ไม่ต้องมาอยู่เป็นเพื่อนคนแก่หรอก”
น่าหลานอวิ๋นไคผุดรอยยิ้มอันอบอุ่น “ปู่หยวน ปู่ซย่าโหว ย่าซย่าโหว ผมขอเป็นตัวแทนคุณปู่คุณย่าเรียนเชิญทุกท่านไปเที่ยวบ้านตระกูลน่าหลานทางตะวันตกหลังฉลองตรุษจีนนะครับ ไปดูทุ่งดอกคาโนล่าสุดลูกหูลูกตากัน”
พวกคนแก่ต่างหันไปมองมู่เถาเยา
“อาจารย์ใหญ่ อาจารย์รอง อาจารย์แม่รองคะ หนูบอกพวกเขาไว้ค่ะว่าหลังตรุษจีนจะไปดูดอกไม้ที่บ้านตระกูลน่าหลาน กลับเผ่าช้าหน่อยสองสามวันค่ะ”
อาจารย์แม่รองยิ้มพูด “เสี่ยวเยาเยา พวกเราไม่มีธุระอะไร ออกไปเที่ยวสองสามวันไม่เป็นไรหรอกจ้ะ ก็แค่หนูไม่รีบกลับเผ่าแล้วเหรอ”
ระยะนี้พอถึงสุดสัปดาห์เสี่ยวเยาเยาก็จะกลับเผ่าไปหาเยี่ยนหังกับอู๋ซวงชนิดที่แทบทนรอไม่ไหว
มู่เถาเยายิ้มดวงตาโค้งมน “อาจารย์แม่รองคะ ไม่รีบค่ะ วันหน้ายังมีเวลาอีกเยอะ”
“เข้าใจแล้ว จริงสิเสี่ยวเยาเยา ปีนี้อาจารย์สามของหนูจะไปฉลองตรุษจีนที่บ้านอาจารย์อาเล็กของหนูหรือเปล่า”
มู่เถาเยาส่ายหน้า “พรุ่งนี้ครอบครัวของศิษย์น้องจะกลับหมู่บ้านตงจี๋ เห็นบอกว่าจะกลับเผ่าก่อนตรุษจีน พอถึงตอนนั้นหนูจะให้พี่เหลียงจีไปส่งพวกเขากับเสี่ยวอินกลับไป พรุ่งนี้คนครอบครัวลู่กลับหมู่บ้านตงจี๋เสร็จ วันมะรืนอาจารย์สาม อาจารย์อาเล็ก เสี่ยวอิน พี่หลันฉือ พี่ถังถัง จะมาหมู่บ้านเถาหยวนซานด้วยกันค่ะ”
เหล่าผู้อาวุโสพยักหน้า
มู่เถาเยาพูดต่อ “ก่อนเปิดเทอมหนูจะไปเยี่ยมพวกศิษย์พี่ที่เมืองเย่ว์ตูด้วยค่ะ” เธอคิดถึงเยี่ยจั๋วด้วย
หยวนเหยี่ยส่ายมือ “เสี่ยวเยาเยา พวกศิษย์พี่ของเราน่ะ บอกจะมาก่อนตรุษจีนหรือไม่ก็ตอนตรุษจีน ไม่ต้องไปหาพวกเขาโดยเฉพาะหรอก”
สิ่งที่ศิษย์น้องคนเล็กขาดแคลนที่สุดก็คือเวลา
เหลียงจีพูด “เสี่ยวเยาเยา พอถึงตอนนั้นเสี่ยวอินจะต้องไม่อยากให้พี่ไปเมืองเย่ว์ตูเพื่อส่งเธอคนเดียวแน่นอน”
มีเที่ยวบินจากเผ่าไปเมืองเย่ว์ตู
ถึงแม้จะใช้เวลาบินนานหน่อย แต่เสี่ยวอินอายุยังน้อย บินสิบกว่าชั่วโมงไม่มีทางทนไม่ไหว
“ก็ได้ค่ะ ไว้ถึงเวลาค่อยว่ากัน”
ซย่าโหวโซ่วยิ้มพูด “เอาล่ะ พวกเด็กๆ ออกไปเที่ยวกันเถอะ คนแก่อย่างพวกเราจะอยู่บ้านจิบชาอ่านหนังสือ ไม่ต้องมาอยู่เป็นเพื่อนหรอก ใครจะไปทำอะไรก็ไป”
มู่เถาเยาพยักหน้า “เสี่ยวหว่าน เสี่ยวเหมียน พวกเธอพาทุกคนไปเดินเล่นในหมู่บ้านนะ ฉันขอไปศูนย์วิจัยก่อน”
ตี้อู๋เปียนรีบพูดขึ้น “ซาลาเปาน้อย ฉันไปด้วย”
“ฉันอาจไปนานนะ”
“ไม่เป็นไร ฉันไปได้”
“โอเค” ตี้อู๋เปียนฉลาด ได้เขาไปช่วยดูอาจเกิดผลลัพธ์ที่ไม่คาดคิดก็เป็นได้
ทั้งสองคนบอกทุกคนแล้วออกไป
โจวซือหย่วนมองตามหลังพวกเขาแล้วพูดอย่างปลงๆ “เสี่ยวเยาเยายุ่งมากจริงๆ !”
ฟางฝ่างพยักหน้า “นั่นสิ แค่เธอคนเดียวทำไมถึงได้มีธุระเยอะแยะขนาดนั้นนะ สมองกับพละกำลังเหมือนใช้ได้ไม่มีวันหมด”
มู่หว่าน “พี่ฟางฝ่าง พี่คงไม่รู้ว่าเสี่ยวเยาเยาเก่งตั้งแต่เด็ก…” บลาๆๆ
อวยเยาเบอร์หนึ่งเริ่มทำงานแล้ว
เจียงเฟิงเหมียนอวยเยาเบอร์สองพยักหน้า
พวกคนแก่ก็ฟังอย่างอารมณ์ดี มีสีหน้าเห็นด้วยและภูมิใจ
บนโลกนี้ไม่มีใครเก่งกว่าลูกศิษย์พวกเขาอีกแล้ว!