ตอนที่ 462 ขอแบ่งพลังชีวิต
สองวันต่อมา ลู่จือฉิน อาจารย์อาเล็ก ปาอิน ตี้อู่หลันฉือ ถังถัง รวมถึงตี้อู่เหลียนจิงก็มาด้วย
มู่เถาเยาแนะนำให้ทุกคนรู้จักกันเสร็จก็ถามตี้อู่เหลียนจิง “คุณลุงตี้อู่มาได้ยังไงคะ”
ตี้อู่เหลียนจิงยิ้มพูด “เห็นหลันฉือบอกว่าพวกเธอจะเข้าเขตป่าชั้นใน ลุงเลยอยากตามไปด้วย”
ตี้อู่หลันฉือพยักหน้า
เข้าเขตป่าชั้นในครั้งหนึ่งก็ก้าวหน้าขึ้นได้แล้ว! ตื่นเต้น!
น่าหลานอวิ๋นไค “เสี่ยวเยาเยา พวกเธอจะเข้าเขตป่าชั้นในกันเหรอ”
“อืม ถ้าคุณอาทั้งสองว่างจะไปเข้าด้วยกันก็ได้นะ”
ตี้อู๋เปียน “…”
โลกที่มีเพียงสองคนของเขาแตกสลายไม่มีชิ้นดี
น่าหลานอวิ๋นไคดวงตาเปล่งประกาย ถามขึ้น “เสี่ยวเยาเยา แล้วจะเข้าเมื่อไรกันเหรอ”
“ก็ดูว่าคุณอาทั้งสองจะมาไหม ถ้าไม่มาพรุ่งนี้ก็จะเตรียมของแล้วเข้าวันมะรืน ถ้ามาก็จะรอพวกเขา พวกเรากะว่าจะเข้าไปหนึ่งอาทิตย์”
ตรุษจีนปีนี้อยู่ปลายเดือน เข้าป่าหนึ่งสัปดาห์ออกมาก็ใกล้ถึงตรุษจีนแล้ว
เดิมทีคิดว่าจะมีแค่เธอ ตี้อู๋เปียน อาจารย์สาม เข้าไปแค่สามคน แต่เพิ่มคนไปอีกหน่อยก็ไม่เป็นไร อย่างไรเสียก็มีประสบการณ์กันแล้ว
“ได้ งั้นเดี๋ยวผมจะโทรถามพ่อดู”
มู่เถาเยาพยักหน้า “อืม”
น่าหลานอวิ๋นไคออกไปโทรศัพท์ข้างนอก
คนอื่นๆ ต่างอิจฉา โดยเฉพาะจั่วอีเหิง
เป็นตระกูลปลีกวิเวกเหมือนกัน แต่ตระกูลจั่วของเธอวรยุทธด้อยสุด ถ้าเข้าเขตป่าชั้นในโดยไม่ดูกำลังของตัวเองก็เท่ากับพาตัวเองไปเป็นของว่างให้พวกสัตว์ป่า หรือกลายเป็นปุ๋ย
ใครใช้ให้พวกเธอสะสมตำราวรยุทธไว้มากมายแต่กลับไม่มีพรสวรรค์ในการฝึกล่ะ
ตอนนี้ตระกูลซย่าโหว ตี้อู่ น่าหลาน ต่างสนิทกัน ตระกูลจั่วของพวกเธอก็ควรเข้าร่วมด้วยหรือเปล่า
จั่วอีเหิงครุ่นคิดแล้วยิ้มพูด “เสี่ยวเยาเยา บ้านพี่สะสมพวกตำราวิทยายุทธไว้มากมาย แต่คนในครอบครัวไม่มีพรสวรรค์ด้านนี้กันเลย ต่อให้ขยันยังไงก็ฝึกไม่ถึงขั้นยอดฝีมือ เก็บไว้ก็ไม่มีประโยชน์ ถ้าเธอสนใจพี่จะยกตำราพวกนั้นให้”
“ในเมื่อมันเป็นของสะสมของครอบครัวพี่ ฉันไม่กล้าแย่งมาหรอกค่ะ”
“เดิมทีหนังสือพวกนั้นก็ไม่มีประโยชน์อะไรกับพวกเรา วางทิ้งไว้ให้ฝุ่นจับ ไว้เดี๋ยวพี่กลับไปฉลองตรุษจีนจะเอาไปให้ตอนไปดูดอกไม้ที่บ้านน่าหลานอวิ๋นไคนะ ใครที่เหมาะสมจะได้เอาไปฝึก”
“งั้นก็ขอบคุณพี่อีเหิงล่วงหน้าค่ะ ฉันจะขอแลกกับพวกสมุนไพรอย่างโสมกับหลิงจือแล้วกันนะคะ”
จั่วอีเหิงรีบส่ายมือ “ไม่เอาๆ หลิงจือกับโสมมันแพงมากนะ!”
มู่เถาเยายิ้มมุมปาก “ตำราวิทยายุทธเป็นของหายากสำหรับพวกเรา โสมกับหลิงจือจากเขตป่าชั้นในเป็นของหายากสำหรับพวกพี่ เอามาแลกกันได้พอดีค่ะ”
“ได้ที่ไหนกัน! โสมกับหลิงจือชั้นดีประเมินราคาไม่ได้ ถ้าเธอมีก็เก็บไว้ใช้เถอะนะ”
“พี่อีเหิงคะ หมู่บ้านเถาหยวนซานของพวกเราไม่เคยขาดแคลนสมุนไพรชั้นดี สมุนไพรที่มาจากเขตป่าชั้นในมีจิตวิญญาณ ประสิทธิภาพสูง หาซื้อตามท้องตลาดไม่ได้หรอกค่ะ”
ตี้อู่หลันฉือยิ้ม “พวกเราสองพ่อลูกมาที่นี่ก็เพื่อตามเสี่ยวเยาเยากับอาจารย์ลู่เข้าเขตป่าชั้นในขุดหาสมุนไพรดีๆ เอามาไว้ใช้ยามจำเป็น อีเหิง เสี่ยวเยาเยาของพวกเราหาสมุนไพรง่ายเหมือนเด็กเล่น ขาดอะไรก็เข้าไปหาในป่าเซียนโหยว ไม่ต้องเสียเงินสักนิด อย่าคิดมากเลยนะ”
จั่วอีเหิงย่อมรู้ว่าไม่เสียเงินไม่ได้หมายความว่าไม่มีค่า ก็เหมือนกับหนังสือสะสมของบ้านเธอ บรรพบุรุษได้มาอย่างไม่ตั้งใจ ไม่ต้องเสียลูกคนไหนไปสักคน
ถึงแม้จะไม่ได้มีประโยชน์มากนักสำหรับครอบครัวเธอ แต่กล้าพูดว่าตำราโบราณไม่มีค่าไหมล่ะ
ซย่าโหวโซ่วยิ้มพลางพยักหน้า “นั่นสิ พวกเราเอาหนังสือของเธอมาเปล่าๆ ไม่ได้หรอก เสี่ยวเยาเยาเอาของไปแลกก็ถูกต้องแล้ว”
จั่วอีเหิงเห็นผู้อาวุโสพูดขนาดนี้แล้วจึงจำต้องพยักหน้า
เวลานี้น่าหลานอวิ๋นไคกลับเข้ามาอีกครั้ง “เสี่ยวเยาเยา พ่อผมบอกว่าพรุ่งนี้จะมา แต่ลุงใหญ่ไม่อยู่ ไปทำงานต่างเมืองแล้ว พี่ใหญ่ผมกับน้องสาวก็อยู่บ้าน จะตามพ่อมาด้วย”
“น้าอวี้กับน้าเจิงมาด้วยไหมคะ”
“แม่ผมกลับบ้านยายไปแล้ว ป้าใหญ่ติดงาน ช่วงนี้งานยุ่งครับ”
“อืม”
อาจารย์แม่รองพูดเตือน “เสี่ยวเยาเยา พาทุกคนไปเก็บของก่อน เดี๋ยวจะได้เวลากินข้าวเย็นแล้ว กินเสร็จค่อยคุยกันต่อ”
อาหารเย็นวันนี้จะไปกินมื้อใหญ่ที่ทำจากหมูที่บ้านอดีตผู้ใหญ่บ้านกัน
“ค่ะ”
มู่เถาเยาจัดให้ลู่จือฉินพักห้องของเธอเองที่บ้านตระกูลเย่ว์
อาจารย์อาเล็กกับตี้อู่เหลียนจิงพักบ้านครอบครัวหยวน ส่วนสามสาวปาอิน ตี้อู่หลันฉือ และถังถังไปพักบ้านอดีตผู้ใหญ่บ้าน
จัดแจงที่พักให้ทุกคนเสร็จสรรพแล้วก็ไปกินข้าวที่บ้านอดีตผู้ใหญ่บ้าน
อาหารมื้อใหญ่ที่ทำจากหมูทั้งหมดนี้เป็นสัญลักษณ์การเริ่มเข้าสู่ช่วงส่งท้ายปีเก่าของหมู่บ้านเถาหยวนซาน
คนในหมู่บ้านไม่เดือดร้อนเรื่องเงิน ดังนั้นอาหารมื้อนี้ของทุกปีจะจัดอย่างอลังการ
คนทั้งหมู่บ้านมารวมตัวกัน โต๊ะอาหารวางเรียงยาวไปถึงถนน
ผ้าปูโต๊ะสีแดงพาดยาวดุจมังกร บนโต๊ะเต็มไปด้วยอาหารสารพัด กลิ่นหอมอบอวล
ครึกครื้นเสียจนลมหนาวในฤดูหนาวพัดผ่านยังคล้ายกับเป็นลมร้อน
กู้หาน เซี่ยซิงเฉิน ฟางฝ่าง โจวซือหย่วน คนเหล่านี้ที่มาจากเมืองหลวงต่างตะลึงมาก
ตอนพวกเขาไปท่องเที่ยวก็เคยเห็นโต๊ะต่อกันยาว แต่ของหมู่บ้านเถาหยวนซานไม่เหมือนกัน
ไม่ใช่อาหารแตกต่างกัน แต่เป็นบรรยากาศ ความรู้สึกและอื่นๆ ที่ไม่ค่อยเหมือน
จั่วอีเหิงยิ้มตาโค้งพูดกับกู้หานที่อยู่ข้างๆ “ทางพวกเราไม่มีธรรมเนียมแบบนี้เลยเนอะ”
ชาวบ้านก็ไม่ได้สามัคคีเป็นหนึ่งเดียวแบบนี้
กู้หานยิ้ม “หมู่บ้านเถาหยวนซานมหัศจรรย์ใช่ไหมล่ะ”
แม้นี่จะเป็นครั้งแรกที่มาหมู่บ้านเถาหยวนซาน แต่เธอไม่รู้สึกแปลกใจ เพราะเธอไปวังตระกูลตี้บ่อย จึงเคยได้ยินเรื่องราวของหมู่บ้านนี้มากมาย
จั่วอีเหิงมองใบหน้ายิ้มแย้มของชาวหมู่บ้านเถาหยวนซานทีละคน เธอยิ้มพลางพยักหน้า “อุดมสมบูรณ์ผู้คนเป็นมิตร ทำเลฮวงจุ้ยสวรรค์”
แถมส่วนใหญ่ยังมีแต่คนโหงวเฮ้งอายุยืน!
นี่มันหมู่บ้านอายุยืนชัดๆ !
เธออยากย้ายบ้านมาอยู่ที่นี่เลยจริงๆ !
หมู่บ้านเถาหยวนซานเหมาะสมให้คนตระกูลจั่วมาอยู่!
จั่วอีเหิงครุ่นคิด หรือเธอจะหาผู้ชายหมู่บ้านเถาหยวนซานแต่งงานดี พ่อกับแม่จะได้มาพักได้บ่อยๆ ซึมซับพลังอายุยืน
มันก็น่าจะเปลี่ยนแปลง…ชะตาอายุสั้นได้บ้างหรือเปล่า
พอนึกถึงความเป็นไปได้นี้ จั่วอีเหิงก็เริ่มเหล่มองหาว่าที่สามีในอนาคตจากบริเวณนั้น
หึ เธอไม่สนหรอกว่าจะรักไหม
ย้อนขึ้นไปสองรุ่นยังแล้วแต่พ่อแม่จัดให้ ก็เห็นรักกันดีอยู่กันมาได้ไม่ใช่เหรอ
คนสมัยนี้ปากบอกว่ารัก แต่อัตราหย่าร้างเพิ่มขึ้นทุกปี
“อีเหิง?”
“หืม?”
“มองอะไรอยู่”
“กำลังมองหาผู้ชายในหมู่บ้าน”
“ว่าไงนะ”
“…เอ่อ ฉันหมายถึง คนหมู่บ้านเถาหยวนซานไม่ค่อยเหมือนคนข้างนอกเลย ดูสิ คนที่นี่ไม่ว่าจะผู้ชายผู้หญิง เด็กหรือคนแก่ก็หน้าตาดีทั้งนั้น เรียบง่ายจริงใจ ให้ความรู้สึกเป็นกันเอง”
กู้หานพยักหน้าเห็นด้วย “นั่นสิ ถึงแม้คนส่วนใหญ่จะผิวค่อนข้างคล้ำ แต่ก็สดชื่นกระปรี้กระเปร่า ร่าเริงแจ่มใส แม้แต่คนแก่ก็ใบหน้าอิ่มเอิบเปล่งปลั่ง ยิ้มแย้มแข็งแรง ไม่เหมือนคนแก่อ่อนแอเลย”
ดูดีทั้งภายนอกและภายใน
“หานหาน หลังเรียนจบฉันอยากมาทำงานที่หมู่บ้านเถาหยวนซาน ไม่รู้ว่าจะมีงานที่เหมาะสมกับฉันไหม”
สิ่งสำคัญคือหาผู้ชายอายุยืนแต่งงานด้วย เรื่องงานยังไงก็ได้
เธอร่ำรวย ไม่จำเป็นต้องตั้งใจหางานเงินเดือนสูง
กู้หานมองเพื่อนสนิทด้วยสายตาตะลึง
ไม่ใช่ว่าหมู่บ้านเถาหยวนซานไม่ดี แต่…พวกเธอเป็นคนเก่งด้านชิปที่ตลาดกำลังขาดแคลนนะ!
ต่อให้ไม่อยู่ทำงานที่เมืองหลวงก็ควรไปเมืองเซินตูทางตะวันออก
หมู่บ้านเถาหยวนซานมีพื้นที่ให้อีเหิงแสดงความสามารถเหรอ
บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านชิปมาควานหานักศึกษาเก่งๆ ที่มหาวิทยาลัยแล้ว และอีเหิงก็เป็นคนมากความสามารถที่แต่ละบริษัทอยากแย่งตัวไปทำงานด้วย!
แต่เธอกลับ…อยากมาหางานทำที่หมู่บ้านเถาหยวนซาน!