ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก – ตอนที่ 410 ในที่สุดเธอก็กลับมาแล้ว(2)

ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก

ตอนที่ 410 ในที่สุดเธอก็กลับมาแล้ว(2)

ตอนที่ 410 ในที่สุดเธอก็กลับมาแล้ว(2)

“ใช่แล้ว เพิ่งมาถึงเมื่อวาน วันนี้ก็เลยออกมาซื้อของนิดหน่อย” ฉินมู่หลานยิ้มแล้วกล่าวทักทายเช่นกัน เมื่อนึกขึ้นได้ว่าเวินเนี่ยนอันกำลังจะแต่งงาน เธอก็ยิ้มแล้วกล่าวแสดงความยินดี “ได้ยินว่าเธอจะแต่งงานแล้ว ยินดีด้วยนะ บังเอิญพวกเรามาที่นี่พอดี ทันไปร่วมงานแต่งของเธอพอดีเลย”

“ขอบคุณค่ะพี่สะใภ้”

เมื่อพูดถึงเรื่องแต่งงานของตัวเอง เวินเนี่ยนอันก็รู้สึกเขินอายนิดหน่อย อันที่จริงหล่อนกับเจียงเฉิงก็รู้จักกันมาก่อนหน้านี้แล้ว แต่ไม่ได้สนิทสนมกันมากนัก จึงไม่คิดว่าพวกเขาทั้งสองจะลงเอยกันได้ “พี่สะใภ้ ถึงตอนนั้นไปดื่มให้หนำใจเลยนะคะ”

“ได้สิ”

ฉินมู่หลานยิ้มแล้วตอบรับอย่างหนักแน่น

เวินเนี่ยนอันไม่ได้ซื้อของมากมายนัก จึงช่วยมู่หลานถือของกลับด้วยกัน ทั้งสองพูดคุยกันขณะเดิน แล้วอยู่ ๆ เวินเนี่ยนอันก็พูดถึงเรื่องเซี่ยอวี่หรงขึ้นมา

“พี่สะใภ้ ขอโทษนะคะ ที่สร้างปัญหาให้พวกพี่สะใภ้”

หล่อนทราบเรื่องของเซี่ยอวี่หรงแล้ว จึงรู้สึกเสียใจต่อฉินมู่หลาน หากวันนั้นหล่อนไม่พาเซี่ยอวี่หรงมาที่ฐานทัพ เซี่ยอวี่หรงก็คงไม่ได้เจอเซี่ยเจ๋อหลี่ เป็นเช่นนั้นก็คงไม่เกิดเรื่องมากมายกับพวกฉินมู่หลาน

ฉินมู่หลานได้ยินแบบนี้ก็รีบบอก “เนี่ยนอัน เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับเธอเลย เธอจะขอโทษเรื่องอะไรกัน”

“ฉันก็มีส่วนที่ต้องรับผิดชอบค่ะ”

เวินเนี่ยนอันรู้สึกอายมาก นอกจากนี้ยังอธิบายด้วยว่า “พี่สะใภ้ ตั้งแต่ครั้งสุดท้ายที่เซี่ยอวี่หรงมาที่นี่ พวกเราก็มีเรื่องทะเลาะกัน จึงไม่ได้ติดต่อกันอีกเลย หนำซ้ำหล่อนก็ทำเรื่องเลวร้ายด้วย หล่อนไม่ใช่เพื่อนของฉันอีกต่อไปแล้วค่ะ”

เมื่อได้ยินแบบนี้ ฉินมู่หลานก็เอ่ยพร้อมรอยยิ้ม “แบบนี้ก็ดีแล้ว คนอย่างเซี่ยอวี่หรงผูกมิตรด้วยไม่ได้หรอก เธอไม่ต้องรู้สึกเสียใจไปหรอกนะ เรื่องนี้ไม่ใช่ความผิดของเธอเลย”

เมื่อเห็นว่าฉินมู่หลานไม่ได้ว่าอะไรจริง ๆ เวินเนี่ยนอันจึงโล่งใจ หลังจากนั้นทั้งสองก็เดินกลับไปด้วยกัน

เวินเนี่ยนอันกระตือรือร้นมาก ช่วยฉินมู่หลานถือของตลอดทาง นอกจากนี้ยังช่วยพาไปส่งถึงหน้าบ้าน จนกระทั่งพบว่าเด็กทั้งสองมาที่นี่ด้วย ใบหน้าหล่อนก็เต็มไปด้วยความดีใจ “พี่สะใภ้ นี่คือชิงชิงกับเฉินเฉินสินะคะ น่ารักจริง ๆ เลย”

ฉินมู่หลานเห็นแววตาเป็นประกายของเวินเนี่ยนอัน ก็อดยิ้มแล้วพูดไม่ได้ “ใช่แล้ว ครั้งนี้ฉันพาพวกเขามาด้วย จะได้ให้พวกเขาใช้เวลาอยู่ร่วมกับพ่อด้วย โชคดีที่มีเพื่อนอีกสองคนมาด้วยกัน ไม่อย่างนั้นฉันคงพามาคนเดียวไม่ได้แน่”

เวินเนี่ยนอันก็เห็นเวินเฉียนกับชุยเสี่ยวผิงเหมือนกัน จึงยิ้มเอ่ยทักทายพวกหล่อน

เวินเนี่ยนอันไม่คุ้นเคยกับทั้งสอง แต่ทั้งสองรู้จักหล่อนเป็นอย่างดี เพราะหล่อนเป็นลูกสาวของผู้บังคับบัญชาเจียง แต่ถึงรู้จักก็ไม่ได้พูดอะไรมากนัก เพียงยิ้มแล้วเอ่ยทักทาย

เวินเนี่ยนอันอยู่เล่นกับเด็กทั้งสองสักพัก หลังจากนั้นก็บอกลาอย่างไม่เต็มใจนัก “พี่สะใภ้คะ ช่วงหลายวันนี้ถ้าว่างก็พาเด็ก ๆ ไปเล่นที่บ้านพวกเราได้นะคะ”

“ได้”

ฉินมู่หลานยิ้มแล้วพยักหน้าตอยบรับ

หลังจากเวินเนี่ยนอันกลับไปแล้ว เวินเฉียนก็อดพูดไม่ได้ “ไม่คิดว่าเวินเนี่ยนอันจะโตขนาดนี้แล้ว ตอนที่ฉันเจอหล่อนครั้งล่าสุด หล่อนยังเป็นนักเรียนอยู่เลย”

เมื่อได้ยินแบบนี้ ฉินมู่หลานก็อดพูดไม่ได้ “เวินเฉียน เธอพูดเหมือนตัวเองอายุเยอะขนาดนั้นแหละ”

“ฉันอายุมากกว่าเนี่ยนอันนะคะ”

ฉินมู่หลานได้ยินแบบนี้ ก็อดพูดไม่ได้ “จริงเหรอเนี่ย ถ้าอย่างนั้นเธอต้องทำงานหนักแล้วล่ะ อีกไม่กี่วันเนี่ยนอันจะแต่งงานแล้ว”

“จริงเหรอคะ กับใครกัน?”

เวินเฉียนกับชุยเสี่ยวผิงไม่ได้ทราบเรื่องนี้มาก่อน เมื่อได้ยินฉินมู่หลานพูดเรื่องนี้ขึ้นมา จึงอยากรู้อยากเห็นขึ้นมา หลังจากทราบว่าเป็นเจียงเฉิงแล้ว ก็อดพยักหน้าไม่ได้ “พวกเขาสองคนก็เหมาะสมกันนะ”

ช่วงกลางวันเวินเฉียนกับชุยเสี่ยวผิงช่วยกันดูแลเด็ก ๆ หลังกินข้าวเย็นเสร็จ พวกหล่อนก็กลับไปพักผ่อนที่ห้องพัก

และเมื่อถึงวันรุ่งขึ้น ฉินมู่หลานก็ไปที่บ้านตระกูลเวิน

หยวนปิงซินเห็นฉินมู่หลานมาหาก็รีบทำการต้อนรับ เมื่อเห็นเด็กทั้งสองกลับดีใจมากกว่า “มู่หลาน ถึงเวลาก็ให้ชิงชิงกับเฉินเฉินมาเป็นเด็กถือดอกไม้สิ เนี่ยนอันของเราจะได้รับพร บางทีอาจจะได้ลูกแฝดกับเขาบ้าง”

เวินเนี่ยนอันได้ฟังแบบนี้ ก็อดพูดไม่ได้ “แม่ เรื่องนี้แม่อย่าเพิ่งคิดเลย พวกเรากับทางบ้านเจียงเฉิงไม่เคยมีลูกแฝดมาตั้งนานแล้ว เพราะฉะนั้นอย่าหวังจากหนูเลย”

“อาจจะมีหรือไม่มีก็ได้ ลูกก็อย่าเพิ่งตัดความหวังแม่สิ”

หยวนปิงซินปรายตามองลูกสาวราวกับไม่ได้ดั่งใจนัก แต่หล่อนก็ทราบเหตุผลนี้เหมือนกัน สุดท้ายจึงทำได้เพียงมองชิงชิงกับเฉินเฉินด้วยความอิจฉา หลังจากเล่นกับเด็กทั้งสองมาทั้งวันแล้ว เมื่อเด็กทั้งสองกำลังจะกลับ หยวนปิงซินก็พูดอย่างไม่ค่อยเต็มใจนัก “มู่หลาน พรุ่งนี้เธอก็พาลูก ๆ มาอีกสิ”

ฉินมู่หลานเอ่ยอย่างขบขัน “พี่สะใภ้ ช่วงนี้พี่สะใภ้น่าต้องคอยยุ่งจัดงานแต่งของเนี่ยนอัน เพราะฉะนั้นพวกเราจะไม่มารบกวนพี่สะใภ้ค่ะ เอาไว้จะมาหาตอนพี่สะใภ้ว่างนะคะ”

เมื่อถึงวันแต่งงานของเวินเนี่ยนอันกับเจียงเฉิง เด็กทั้งสองคนก็ได้เป็นเด็กถือดอกไม้ ทุกคนที่มาร่วมงานแต่งต่างมองดูเด็กทั้งสองด้วยความอิจฉา แทบอยากจะอุ้มกลับบ้านอย่างเสียไม่ได้ เด็กทั้งสองไมได้เป็นเพียงฝาแฝดเท่านั้น แต่หน้าตาก็ยังดีราวกับตุ๊กตาอีกด้วย ใครเห็นก็อยากเข้ามาอุ้มกอด

ฉินมู่หลานมาดื่มเหล้ามงคลในงานแต่ง แต่พบว่าเธอเองก็ยุ่งมากเช่นกัน หลายคนต่างเข้ามาหาเพราะเด็ก ๆ ทั้งสอง นอกจากนี้เด็กทั้งสองก็เป็นมิตรมาก แทบจะไปกับทุกคนที่ขออุ้ม

เมื่อเจียงเฉิงกับเวินเนี่ยนอันดื่มเหล้ามงลคล ก็ได้เดินเข้ามาหาเพื่อดื่มฉลองกับฉินมู่หลานโดยเฉพาะ

“พี่สะใภ้ ผมขอคารวะคุณ ขอบคุณสำหรับเรื่องในตอนนั้นจริง ๆ ครับ”

เจียงเฉิงสำนึกบุญคุณของฉินมู่หลานอยู่เสมอ หากไม่ได้เธอ ขาของเขาคงพิการไปนานแล้ว

ฉินมู่หลานได้ยินแบบนี้ก็ยกยิ้มแล้วบอกกล่าว “ไม่ต้องขอบคุณหรอก ยินดีกับการแต่งงานด้วยนะ ขอให้มีลูกเร็ว ๆ”

“ขอบคุณครับพี่สะใภ้”

เจียงเฉิงกับเวินเนี่ยนอันยกจอกเหล้าดื่มในอึกเดียว ฉินมู่หลานก็ดื่มตามเช่นกัน

เมื่องานเลี้ยงจบลง เซี่ยเจ๋อหลี่ก็พามู่หลานกับเด็กทั้งสองกลับไป “ฟู่ว…วันนี้เหนื่อยมากเลย ทุกคนกระตือรือร้นมาก”

แม้แต่เซี่ยเจ๋อหลี่ก็ยังรู้สึกว่ามันเกินไปจริง ๆ เด็กทั้งสองน่ารักจนเกินต้านมากไปแล้ว

ฉินมู่หลานเห็นแบบนี้ ก็อดยิ้มแล้วเอ่ยขึ้นเสียไม่ได้ “ใครใช้ให้ชิงชิงกับเฉินเฉินน่ารักกันล่ะ”

“น่า…รัก…”

เด็กทั้งสองพูดเลียนแบบตาม ฉินมู่หลานกับเซี่ยเจ๋อหลี่เห็นก็แทบใจละลาย เพียงแต่เมื่อคิดว่าฉินมู่หลานกับคนอื่นกำลังจะกลับไปในอีกไม่กี่วัน เซี่ยเจ๋อหลี่ก็รู้สึกไม่ค่อยเต็มใจเท่าใด “ทำไมเวลาช่างผ่านไปเร็วเหลือเกิน ผมจำได้ว่าพวกคุณเพิ่งมาเมื่อไม่กี่วันก่อนนี้เอง ตอนนี้ใกล้จะกลับแล้ว”

“อาหลี่ พวกเราอยู่ที่นี่มานานแล้วนะคะ”

เซี่ยเจ๋อหลี่รู้ว่าพวกเขาอยู่กันมานานแล้ว แต่ก็ยังไม่ยอมแพ้

แต่ต่อให้เซี่ยเจ๋อหลี่ไม่เต็มใจจะยอมแพ้ ฉินมู่หลานกับเด็กทั้งสองก็ยังต้องกลับไปในอีกครึ่งเดือนต่อมาอยู่ดี

“มู่หลาน ไว้มีเวลาก็มาอีกนะ”

“ค่ะ ถ้าคุณมีวันหยุด ก็รีบกลับบ้านนะคะ”

ทั้งสองแยกจากกันอย่างไม่ค่อยเต็มใจนัก จนกระทั่งรถไฟมาถึงก็ถึงเวลาต้องจาก

แต่สิ่งที่ฉินมู่หลานคาดไม่ถึงก็คือ เมื่อกลับถึงบ้าน ก็ได้เจอเซี่ยอวี๋เซิงกับเริ่นม่านนีรออยู่ในบ้าน

“มู่หลาน ในที่สุดเธอก็กลับมาแล้ว”

เซี่ยอวี๋เซิงแทบจะร้องไห้ เขาไม่คิดว่าฉินมู่หลานจะไปนานขนาดนี้ หากไม่ทราบว่าฉินมู่หลานจะกลับมาวันนี้ เขาคงรีบเดินทางไปหาเซี่ยเจ๋อหลี่แล้ว “มู่หลาน เธอต้องช่วยรักษาให้ฉันนะ”

………………………………………………………………………………………………………………………..

สารจากผู้แปล

เด็กสองคนนี้โตขึ้นมีแต่คนสปอยล์แน่ๆ เลย มู่หลานต้องเลี้ยงลูกให้ดีๆ นะ

ไหหม่า(海馬)

ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก

ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก

Status: Ongoing
เมื่อแพทย์สาวมือฉมังพบว่าตนเองได้กลายเป็นหญิงอ้วนผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรในยุค 70 ผู้ไม่เป็นที่รักของสามี เธอจะเปลี่ยนเป็นคนใหม่ที่สามีคลั่งรักได้หรือไม่กันนะ?ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก[嫁七零糙汉后,我双胞胎体质藏不住]ผู้แต่ง : 钰儿เรื่องย่อหลังผชิญวรหนักจนวูบ ฉินมู่หลาน แพทย์สาวมือฉมังก็พบว่าตนองได้มาสวมร่างของหญิงอ้วนหลานสาวผู้เชี่ยวชาญด้นสมุนไพรในยุค 70 ผู้ไม่มีอะไรดีสักอย่างนอกจากได้สามีหล่อเหลานิสัยดีผู้แสนเย็นขาจากความลั่งรักของตัวเองจจับเขามาแต่งงด้วยสำเร็จ ซึ่งกรสวมวิญญาณในครั้งนี้เธอได้รับภารกิจหลักสามอย่าง หนึ่งคือสร้างเนื้อสร้างตัว สองคือลดน้ำหนักให้ตนเองทำงานทำการสะดวกขึ้น และสามคือทำให้สามีเป็นฝ่ายคลั่งรักเธอแทน คุณหมอฉินจะทำสำเร็จหรือไม่ จะเปลี่ยนเป็นฉินมู่หลานคนใหม่ที่สามีคลั่งรักได้หรือไม่กันนะ?

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท