ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก – ตอนที่ 412 ครอบครัวของเซี่ยปิงชิงมา(2)

ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก

ตอนที่ 412 ครอบครัวของเซี่ยปิงชิงมา(2)

ตอนที่ 412 ครอบครัวของเซี่ยปิงชิงมา(2)

เซี่ยอวี๋เซิงได้ยินแบบนี้ ก็หันมองเริ่นม่านนีอย่างไม่ค่อยพอใจนัก

ทำไมหล่อนถึงพูดออกมาทุกอย่าง นี่จะไม่เป็นการแสดงให้เห็นว่าพวกเขาไม่ได้เชื่อฉินมู่หลานตั้งแต่แรกหรอกหรือ

ฉินมู่หลานไม่ได้โต้ตอบอะไร แม้เริ่นม่านนีจะไม่พูด แต่เธอก็ทราบว่าพวกเขาไปหาหมอคนอื่นกันมาบ้างแล้ว จึงยิ้มแล้วพูดขึ้น “พวกพี่อาจจะไปหาหมอแค่ไม่กี่คนเท่านั้นค่ะ หากเจอหมอที่เก่งมาก ก็จะรักษาพี่อวี๋เซิงได้แน่นอน”

เมื่อเห็นฉินมู่หลานพูดแบบนั้น เซี่ยอวี๋เซิงก็รู้สึกละอายใจขึ้นมา

ฉินมู่หลานเพิ่งกลับมาและรู้สึกอยากพักผ่อนอีกหน่อย จึงไม่ได้พูดคุยกับพวกเริ่นม่านนีมากนัก เพียงแค่บอกให้พวกเขารีบกลับไปโดยไม่จำเป็นต้องให้ซองแดง เธอเคยบอกจะรักษาให้เซี่ยอวี๋เซิงมาก่อนหน้านี้แล้ว จึงไม่คิดจะรับซองแดงแต่อย่างใด

“มู่หลาน ครั้งนี้ต้องรับนะ จะให้เธอเสียแรงเปล่าได้ยังไงกัน”

เริ่นม่านนีรีบวางซองแดงลงทันที แล้วรีบคว้ามือเซี่ยอวี๋เซิงออกไปอย่างรวดเร็ว

ฉินมู่หลานเห็นทั้งสองรีบจากไปอย่างรวดเร็ว จึงยิ้มพลางส่ายหัว ขณะกำลังจะเดินกลับไปยังส่วนหลังของบ้าน ก็เห็นเซี่ยปิงชิงเดินเข้ามาอย่างเร่งรีบ

เซี่ยปิงชิงก็เห็นฉินมู่หลานเหมือนกัน หล่อนจึงพยายามระงับสีหน้าไม่พอใจเป็นอย่างมากด้วยการยิ้มกลบเกลื่อน จากนั้นก็กล่าวทักทาย “มู่หลาน ในที่สุดเธอก็กลับมา”

“เป็นอะไรน่ะปิงชิง เกิดเรื่องอะไรขึ้น เธอไปหาปิงหรุ่ยไม่ใช่เหรอ หรือว่าพวกเธอสองพี่น้องทะเลาะกันอีกแล้ว?”

เซี่ยปิงชิงส่ายหัวตอบ “ไม่ ฉันไม่ได้ทะเลาะกับปิงหรุ่ยหรอก ทะเลาะกับพ่อแม่ฉันต่างหาก”

เมื่อได้ยินแบบนี้ สีหน้าของฉินมู่หลานก็ดูแปลกใจ “เธอทะเลาะกับพ่อแม่เหรอ? หรือว่าคุณลุงกับคุณป้ามาที่เมืองหลวง?”

“ใช่ พวกเขามากันแล้ว”

เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ เซี่ยปิงชิงก็รู้สึกหดหู่นิดหน่อย “พวกเขาคิดว่าฉันแค่พูดเล่นกับคนที่บ้าน คิดว่าฉันหลอกพวกเขา ก็เลยมาดูให้เห็นกับตาว่าฉันมีคู่แล้วจริงหรือเปล่า”

ฉินมู่หลานได้ยินแบบนี้ ก็รีบเข้ามามีส่วนร่วม

“แล้วพ่อบุญธรรมรู้ไหมว่าพ่อแม่ของเธอมาหา เธอพาพ่อบุญธรรมไปหาพ่อแม่มาแล้วหรือยัง?”

เซี่ยปิงชิงส่ายหัวพลางบอกกล่าว “ยังเลย พ่อแม่ฉันเพิ่งมาถึงวันนี้ ตอนแรกฉันแค่จะไปคุยธุระอะไรบางอย่างกับปิงหรุ่ย ไม่คิดว่าพ่อกับแม่จะมาหาแล้ว วันนี้พวกเราสองพี่น้องก็เพิ่งได้เจอพ่อแม่ของเราเนี่ยแหละ” หลังจากพูดจบ หล่อนก็เล่าเรื่องที่ไปพบปะกันมาให้ฟังด้วย

“พ่อกับแม่อยากจะเจอเจี่ยงสือเหิง เพราะฉะนั้นเดี๋ยวรอเจี่ยงสือเหิงมา ฉํนจะบอกเขาเรื่องพ่อกับแม่ เขาจะได้เตรียมการรับมือให้พร้อม”

ฉินมู่หลานก็ไม่ทันคาดคิดว่าพ่อแม่ของเซี่ยปิงชิงจะมาหาแบบปุบปับ เมื่อได้ยินแบบนี้ จึงยิ้มแล้วกล่าว “ได้ ถ้าอย่างนั้นเธอไปบอกพ่อบุญธรรมให้เรียบร้อยเถอะ แต่ถึงเวลาเธอต้องทำตัวเป็นธรรมชาติหน่อยนะ คุณลุงกับคุณป้าจะได้จับสังเกตไม่ได้”

อันที่จริงเธอไม่ได้กังวลเกี่ยวกับพ่อบุญธรรมเลย เพราะสายตาที่พ่อบุญธรรมมองเซี่ยปิงชิงมันชัดเจนมาก แต่เธอกังวลเซี่ยปิงชิงมากกว่า หญิงสาวคนนี้ช่างไม่รู้อะไรเสียบ้างเลย

ขณะทั้งสองกำลังพูดคุยกัน เจี่ยงสือเหิงก็เข้ามาพอดี

“มู่หลาน ลูกกลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย”

เมื่อเห็นฉินมู่หลานกลับมาแล้ว เจี่ยงสือเหิงก็ก้าวเดินเข้ามาหาพร้อมรอยยิ้ม จากนั้นจึงหันมองเซี่ยปิงชิงอีกครั้ง เพียงมองดูแค่แวบเดียวก็สังเกตได้ว่าอารมณ์ของเด็กสาวคนนี้ดูไม่ค่อยดีนัก จึงเอ่ยถามขึ้นทันที “เป็นอะไรไปปิงชิง มีเรื่องอะไรหรือเปล่า ผมรู้สึกว่าเหมือนคุณจะอารมณ์ไม่ค่อยดี”

เมื่อได้ยินแบบนี้ ฉินมู่หลานก็รีบโบกมือลาทั้งสอง แล้วบอกกล่าว “พ่อคะ ปิงชิง เดี๋ยวฉันไปดูลูกก่อนนะ พวกพ่อค่อย ๆ คุยกันไปก่อน”

พูดจบก็เดินหายไปในชั่วพริบตา

เซี่ยปิงชิงเห็นว่าเจี่ยงสือเหิงกลับมาแล้ว จึงรีบบอกกล่าวตามตรง “คุณกลับมาก็ดีแล้วค่ะ ฉันกำลังจะบอกคุณเรื่องพ่อแม่ของฉันพอดี พรุ่งนี้พวกเราจะต้องออกไปเจอกัน คุณห้ามปฏิเสธเด็ดขาด”

“อะไรนะ…เจอกันพรุ่งนี้?”

เมื่อได้ยินแบบนี้ เจี่ยงสือเหิงก็ตกตะลึงนิดหน่อย ก่อนจะเอ่ยถาม “พ่อแม่คุณมาเมืองหลวงแล้วเหรอ?”

“ใช่ค่ะ พวกเขาแค่อยากจะมาดูให้เห็นกับตาว่าฉันมีคู่แล้วจริงหรือเปล่า สงสัยพวกเขาจะว่างก็เลยมาที่นี่ด้วยตัวเอง ตอนแรกฉันคิดว่าที่บ้านจะส่งคนมาดูแบบไม่เป็นทางการ” พูดจบ เซี่ยปิงชิงก็ลากเจี่ยงสือเหิงออกไป “พรุ่งนี้ตอนกลางวันพ่อกับแม่ของฉันจะมาที่นี่ ถึงตอนนั้นพวกเราจะกินข้าวด้วยกันนะคะ”

เมื่อเห็นว่ากำหนดวันพบปะแล้ว เจี่ยงสือเหิงก็รู้สึกประหม่าขึ้นมานิดหน่อย

“พ่อแม่คุณมาเร็วจังเลย แต่ว่า…ผมกลัวว่าพวกท่านจะคิดว่าผมแก่เกินไป”

“ไม่หรอก ขอแค่คุณไม่บอกอายุตัวเอง ก็ไม่มีใครคิดว่าคุณอายุเยอะหรอก”

ไม่รู้ว่าครั้งล่าสุดเจี่ยงสือเหิงกินอะไรไป แม้แต่เธอก็ยังรู้สึกว่าเจี่ยงสือเหิงดูแข็งแรงทรงพลังขึ้น และดูอ่อนเยาว์ลงราวกับไม่สามารถคาดเดาอายุที่แท้จริงได้

“เจี่ยงสือเหิง คุณแอบกินอะไรเสริมหรือเปล่า ฉันรู้สึกว่าคุณดูเด็กลงนะคะ”

“ไม่ได้กินอะไร มู่หลานแค่ผลิตยาบางอย่างให้ บอกว่าดีต่อสุขภาพ”

เมื่อได้ยินแบบนี้ เซี่ยปิงชิงก็อดพยักหน้าไม่ได้ “มู่หลานมีของดีอยู่จริงๆ ผิวพรรณคุณดูดีขึ้นมาก ไม่เลว ๆ พรุ่งนี้ไปเจอพ่อแม่ฉัน คุณก็แต่งตัวให้ดูเด็กลงหน่อย พวกเขาจะได้ดูไม่ออกว่าอายุจริงของคุณคือเท่าไหร่”

เมื่อพูดเรื่องแต่งตัวจบ เซี่ยปิงชิงก็เล่าเกี่ยวกับสิ่งที่พ่อแม่ตัวเองชอบ

“พรุ่งนี้คุณพยายามพูดให้น้อยที่สุด ถึงยังไงพ่อกับแม่ก็แค่มาดูให้แน่ใจว่าฉันมีคู่แล้วจริง ๆ ขอเพียงแค่เราทำตัวใกล้ชิดกันเข้าไว้ พวกเขาจะต้องเชื่อแน่นอน”

เจี่ยงสือเหิงตั้งใจฟังสิ่งที่เซี่ยปิงชิงพูด ก่อนจะเก็บรายละเอียดทุกอย่างเอาไว้ในใจ แต่หลังจากเซี่ยปิงชิงพูดจบ เขาก็หันไปถามหล่อน “แล้วจะแสดงความใกล้ชิดยังไง?”

เมื่อได้ยินแบบนี้ เซี่ยปิงชิงก็ขมวดคิ้วครุ่นคิดอยู่พักหนึ่ง จากนั้นก็เอนตัวพิงไหล่ของเจี่ยงสือเหิงทันที “แบบนี้ก็คงพอได้นะ”

“ต่อหน้าพ่อกับแม่คุณ แบบนี้น่าจะไม่ดีนะ”

“แล้วจะแสดงความใกล้ชิดยังไงล่ะ?”

เจี่ยงสือเหิงยิ้มพลางบอกกล่าว “ปล่อยเป็นหน้าที่ผมเอง ถ้าพรุ่งนี้คุณไม่ปฏิเสธผมก็ถือว่าเรียบร้อย”

“อืม ก็ได้ค่ะ ตกลงตามนั้น”

จนกระทั่งถึงเวลากินข้าวเย็น ทุกคนต่างก็มารวมตัวกันที่นี่หมด ขณะเดียวกันก็ทราบว่าพ่อกับแม่ของเซี่ยปิงชิงจะมา ซูหว่านอี๋กับเหยาจิ้งจือจึงรีบพูดขึ้น “ถ้าอย่างนั้นพรุ่งนี้ฉันจะเตรียมตัวให้พร้อม ถึงเวลาพวกเราจะได้อยู่ช่วย”

เซี่ยเหวินปิงกับฉินเจี้ยนเซ่อก็อยากให้เจี่ยงสือเหิงสำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี พวกเขาจึงอยากอยู่ช่วยเหมือนกัน

“ไม่เป็นไร ไม่ต้องจริง ๆ ยังมีลุงเจี่ยงอยู๋ ถึงตอนนั้นเขาจะจัดการทุกอย่างเอง”

“จริงด้วย คุณจะได้เจอพ่อแม่เซี่ยปิงชิงเป็นครั้งแรก พวกเราไม่อยู่รบกวนพวกคุณดีกว่า”

ฉินมู่หลานก็เห็นตรงกัน เมื่อถึงเวลากลางวันของวันรุ่งขึ้น ที่บ้านตระกูลเจี่ยงก็มีแค่เจี่ยงสือเหิงกับเซี่ยปิงชิงเท่านั้น จนกระทั่งมีการเคลื่อนไหวข้างนอก ลุงเจี่ยงถึงออกมาเปิดประตู ขณะที่เจี่ยงสือเหิงสูดหายใจลึก ก่อนจะปั้นยิ้มบนใบหน้า

“พ่อแม่ ปิงหรุ่ย ทุกคนมากันแล้ว”

เซี่ยปิงชิงเห็นพ่อแม่กับเซี่ยปิงหรุ่ย ก็ยิ้มแล้วกล่าวทักทาย

เจี่ยงสือเหิงก็รีบหันมองคุณพ่อเซี่ยกับคุณแม่เซี่ยทันที ก่อนจะบอกกล่าว “สวัสดีครับ รีบเข้ามานั่งข้างในก่อนครับ”

เซี่ยฉางเจี๋ยมองดูชายหนุ่มรูปงามบุคลิกโดดเด่นตรงหน้า ก่อนจะอดถามไม่ได้ “คุณคือคู่ครองของปิงชิง เจี่ยงสือเหิงใช่ไหม?”

………………………………………………………………………………………………………………………….

สารจากผู้แปล

สู้ๆ นะคะพ่อบุญธรรม อายุสู้ไม่ได้ก็เอาบุคลิกภาพการวางตัวเข้าสู้นะ

ไหหม่า(海馬)

ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก

ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก

Status: Ongoing
เมื่อแพทย์สาวมือฉมังพบว่าตนเองได้กลายเป็นหญิงอ้วนผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรในยุค 70 ผู้ไม่เป็นที่รักของสามี เธอจะเปลี่ยนเป็นคนใหม่ที่สามีคลั่งรักได้หรือไม่กันนะ?ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก[嫁七零糙汉后,我双胞胎体质藏不住]ผู้แต่ง : 钰儿เรื่องย่อหลังผชิญวรหนักจนวูบ ฉินมู่หลาน แพทย์สาวมือฉมังก็พบว่าตนองได้มาสวมร่างของหญิงอ้วนหลานสาวผู้เชี่ยวชาญด้นสมุนไพรในยุค 70 ผู้ไม่มีอะไรดีสักอย่างนอกจากได้สามีหล่อเหลานิสัยดีผู้แสนเย็นขาจากความลั่งรักของตัวเองจจับเขามาแต่งงด้วยสำเร็จ ซึ่งกรสวมวิญญาณในครั้งนี้เธอได้รับภารกิจหลักสามอย่าง หนึ่งคือสร้างเนื้อสร้างตัว สองคือลดน้ำหนักให้ตนเองทำงานทำการสะดวกขึ้น และสามคือทำให้สามีเป็นฝ่ายคลั่งรักเธอแทน คุณหมอฉินจะทำสำเร็จหรือไม่ จะเปลี่ยนเป็นฉินมู่หลานคนใหม่ที่สามีคลั่งรักได้หรือไม่กันนะ?

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท