ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก – ตอนที่ 418 พิเศษ(2)

ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก

ตอนที่ 418 พิเศษ(2)

ตอนที่ 418 พิเศษ(2)

จากนั้น เหยาจิ้งจือกับซูหว่านอี๋ก็ออกไปข้างนอกด้วยกัน เมื่อพวกหล่อนกลับมาแล้วก็ได้มาบอกว่าฉินเจี้ยนเซ่อ ฉินเคอวั่งและเซี่ยเหวินปิงจะไปด้วย เป็นการไปเที่ยวแบบครอบครัว

“ถ้าอย่างนั้นก็ดีค่ะ จะต้องคึกคักมากแน่”

เจี่ยงสือเหิงทราบข่าวก็อดหัวเราะไม่ได้ “เป็นแบบนี้ก็ดี ถึงตอนนั้นจะได้พาคนทั้งครอบครัวไปเที่ยวซีอานกัน”

“ใช่ค่ะพ่อบุญธรรม แต่ว่าพวกเราไปกันหลายคน ไม่รู้ว่าจะทำให้คุณปู่ของปิงชิงไม่มีความสุขหรือเปล่า”

เซี่ยปิงชิงเพิ่งเข้ามาและได้ยินคำพูดของฉินมู่หลานพอดี หล่อนก็พลันกล่าวตามตรง “คุณปู่ฉันจะไม่มีความสุขได้ยังไง ขอแค่ได้เจอเธอก็คงมีความสุขมากแล้ว แถมการที่ทุกคนไปกันเยอะก็แสดงให้เห็นว่าสือเหิงให้ความสำคัญกับฉันมากแค่ไหน ตระกูลฉันต้องพอใจมากแน่นอน เพียงแต่คงไม่แสดงออกมาอย่างชัดเจนเท่านั้นแหละ”

เซี่ยปิงหรุ่ยที่อยู่ข้างหลังก็พูดเสริม “เป็นอย่างที่ว่ามาแหละ คุณปู่ของฉันแค่ได้เจอมู่หลานก็มีความสุขแล้ว ส่วนพวกเธอจะไปกันเยอะก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรบ้านเราใหญ่มาก มีที่ให้ทุกคนพักได้หมดอยู่แล้ว”

“ถ้าเกิดไม่พอจริงๆ เดี๋ยวพวกเราก็ไปหาห้องพักข้างนอกกันก็ได้นะ” ฉินมู่หลานบอก

“มู่หลาน เดี๋ยวเธอก็เห็นว่าบ้านของเราใหญ่มากจริง ๆ ต่อให้พวกเธอหลายสิบคนไปก็พักกันได้พออยู่แล้ว เพราะฉะนั้นไม่ต้องไปหาห้องพักข้างนอกหรอก”

เจี่ยงสือเหิงที่อยู่ข้าง ๆ ก็พูดขึ้น “เอาไว้พวกเราไปถึงที่นั่นก่อนแล้วค่อยว่ากันเถอะ”

“ได้”

ครั้นฉินมู่หลานนับจำนวนคนที่จะไปเรียบร้อยแล้ว เซี่ยปิงหรุ่ยจึงตัดสินใจไปซื้อตั๋ว แต่เจี่ยงสือเหิงยิ้มแล้วเอ่ยขึ้น “ปิงหรุ่ย ไม่ต้องลำบากคุณหรอก เดี๋ยวผมให้คนไปซื้อเอง ซื้อพร้อมกับของพวกคุณสองพี่น้องและพ่อแม่ของพวกคุณเลย”

เมื่อได้ยินแบบนี้ เซี่ยปิงชิงก็อดพูดไม่ได้ “คุณจะซื้อให้พ่อกับแม่ฉันด้วยเหรอคะ ถ้าพวกเขาไม่อยากกลับพร้อมพวกเราล่ะ”

เจี่ยงสือเหิงได้ยินแบบนี้ก็ยิ้มแล้วหันมองสาวน้อย ก่อนจะพูดขึ้น “ถึงพ่อแม่ของคุณจะกลับหรือไม่กลับ ก็ควรเตรียมให้พวกท่าน หากพวกท่านต้องการกลับจะได้กลับไปพร้อมกัน”

เซี่ยปิงหรุ่ยได้ยินแบบนี้ก็หันมองเจี่ยงสือเหิงอีกครั้ง จากนั้นจึงกระซิบกับเซี่ยปิงชิงเสียงเบา “แฟนเธอนี่ใส่ใจรายละเอียดจังเลยนะ”

เซี่ยปิงชิงได้ยินแบบนี้ก็เหลือบมองเซี่ยปิงหรุ่ยแล้วเอ่ย “นั่นสิ”

เจี่ยงสือเหิงได้ยินสิ่งที่สองพี่น้องพูด มุมปากก็กระตุก ดวงตาฉายแววรอยยิ้ม สาวน้อยยอมรับแล้วว่าเขาเป็นแฟนของหล่อน

ฉินมู่หลานเห็นท่าทางของพ่อบุญธรรมเป็นแบบนี้ ก็เหลือบมองเซี่ยปิงชิง เธอทราบดีว่าเซี่ยปิงชิงยังไม่เข้าใจว่าพ่อบุญธรรมนั้นคิดไปไกลเสียแล้ว

เมื่อถึงวันรุ่งขึ้น ฉินมู่หลานก็พาเซี่ยปิงชิงกับเซี่ยปิงหรุ่ยไปบ้านตระกูลเซี่ย เพิ่งไปถึงหน้าประตูใหญ่ไม่นานก็เห็นเซี่ยฉางเจี๋ยกับเซิงลี่

“พวกเธอมากันแล้วเหรอ”

เซี่ยฉางเจี๋ยเห็นฉินมู่หลานพยักหน้า จึงเอ่ยถาม “แล้วเด็ก ๆ สองคนไม่ได้มาเหรอ”

“คุณอาเซี่ย ตอนเที่ยงพวกเราจะเดินทางไปซีอานกันแล้ว เพราะฉะนั้นจึงให้เด็ก ๆ อยู่ที่บ้าน ไม่ได้พามาด้วยค่ะ” หลังจากพูดจบ เธอก็เอ่ยด้วยสีหน้าจริงจังอีกครั้ง “คุณอาเซี่ย พวกคุณก็ไปพร้อมกับพวกเราเถอะค่ะ ทุกคนช่วยดูแลกันขณะเดินทางย่อมเป็นเรื่องดี”

เซี่ยฉางเจี๋ยอยากจะปฏิเสธทันที แต่เซิงลี่กลับห้ามเขาเอาไว้ก่อน

“มู่หลาน พวกเราเข้าไปกันก่อนเถอะ”

“ค่ะ”

หลังจากหลายคนเข้ามาแล้ว ก็ได้เห็นว่านายท่านเซี่ยอยู่กับครอบครัวพร้อมหน้า เมื่อเห็นเซี่ยฉางเจี๋ยก็รีบเดินเข้ามาต้อนรับอย่างอบอุ่น แล้วพูดขึ้น “ฉางเจี๋ย ไม่คิดว่าเธอจะมาปักกิ่งด้วยเหมือนกัน เป็นแขกไม่ค่อยได้เจอจริง ๆ รีบเข้ามานั่งก่อนเถอะ” พูดจบก็หันมองฉินมู่หลานอีกครั้ง “มู่หลาน เธอก็มาเหรอ”

“สวัสดีครับผู้อาวุโส”

เซี่ยฉางเจี๋ยกล่าวสวัสดีท่านเซี่ย จากนั้นก็บอกกล่าว “เมื่อวานผมไปตระกูลเจี่ยงมาแล้วเจอมู่หลาน วันนี้ก็เลยชวนหล่อนมาด้วยครับ ท่านมีหลานสาวที่ยอดเยี่ยมจริง ๆ”

เมื่อได้ยินแบบนี้ ท่าทางของนายท่านเซี่ยก็แข็งทื่อ แล้วพูดขึ้น “ที่แท้พวกเธอเจอมู่หลานแล้ว ใช่แล้ว หล่อนเป็นคนที่ใช้ได้เลย”

ทั้งสองเดินเข้าไปข้างในขณะพูดคุยกัน

หลังจากทุกคนนั่งลงแล้ว เซี่ยฉางเจี๋ยก็มีสีหน้าเป็นกังวลใจ ขณะที่นายท่านเซี่ยเอ่ยถามเรื่องที่บ้านตระกูลหลัก เซี่ยฉางเจี๋ยก็เล่าตามมารยาท สุดท้ายจึงพูดถึงเรื่องฝาแฝดมังกรหงส์ของฉินมู่หลาน

“ลูกทั้งสองคนของมู่หลานน่ารักมากจริง ๆ ครอบครัวพวกคุณมีโชคมากเลยครับ”

ครั้นคุณนายเซี่ยเห็นว่าเซี่ยฉางเจี๋ยเอาแต่บอกว่าฉินมู่หลานมีโชค สีหน้าก็ดูไม่ค่อยดีนัก นางรู้สึกมาตลอดว่าตั้งแต่ฉินมู่หลานมาที่บ้านนี้ ภายในบ้านก็ไม่สงบสุขอีกต่อไป ตอนนี้ในบ้านค่อนข้างเงียบเหงามากขึ้นเรื่อย ๆ แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าหัวหน้าครอบครัวตระกูลหลัก นางจึงไม่พูดอะไรมาก

ตอนแรกเซี่ยฉางเจี๋ยดีใจมากที่ตระกูลเซี่ยได้ลูกแฝดอีกครั้ง แต่เมื่อเห็นสีหน้าของนายท่านเซี่ยและคุณนายเซี่ยแล้วก็รู้สึกเบื่อหน่ายขึ้นมานิดหน่อย กลายเป็นว่าพวกตระกูลรองไม่ได้ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้เลย พวกเขาลืมคำพร่ำสอนของบรรพชนตระกูลเซี่ยไปเสียหมดแล้ว จึงหมดความสนใจที่จะพูดคุยด้วยทันที

เซี่ยฉางชิงเห็นว่าเซี่ยฉางเจี๋ยเยินยอลูกสาวตัวเองเช่นนั้น จึงยิ้มพลางพยักหน้าเอ่ยเห็นด้วย “ใช่แล้วครับ มู่หลานสุดยอดมากจริง ๆ” พูดจบ เขาก็เล่าวีรกรรมที่ฉินมู่หลานทำ “ผมทราบว่าบรรพชนตระกูลเซี่ยของเราร่ำเรียนวิชาแพทย์กันหมด ตระกูลรองของพวกเราไม่ได้เรียนเรื่องพวกนี้เลย แต่ไม่คาดคิดว่ามู่หลานจะมีพรสววรรค์ทางด้านนี้ นับว่าดีมากจริง ๆ”

เมื่อได้ยินแบบนี้ เซี่ยฉางเจี๋ยก็เริ่มพูดคุยกับเซี่ยฉางชิง

เซี่ยฉางชิงไม่ทราบเรื่องนี้มาก่อนเลย เขาจึงหันมองฉินมู่หลานด้วยสีหน้าแปลกใจพลางเอ่ยถาม “มู่หลาน ลูกจะไปบ้านตระกูลหลักเหรอ?”

“ใช่ค่ะ ฉันว่าจะไปเที่ยวสักหน่อย”

ก่อนที่เซี่ยฉางชิงจะทันได้พูดอะไรต่อ เซี่ยอวี๋เซิงที่อยู่ข้าง ๆ ก็เอ่ยขึ้นเสียก่อน “มู่หลาน แล้วเธอจะกลับมาเมื่อไหร่?”

เมื่อเห็นท่าทางเป็นกังวลของเซี่ยอวี๋เซิง ฉินมู่หลานก็หัวเราะขึ้นมาพร้อมกับเอ่ยตอบ “วางใจค่ะ เดี๋ยวฉันจ่ายใบสั่งยาล่วงหน้าเอาไว้ให้พี่ก่อนเลย”

เซี่ยอวี๋เซิงได้ยินแบบนี้ สุดท้ายจึงโล่งใจ

ถึงแม้ว่าเซี่ยฉางเจี๋ยจะอยากรู้อยากเห็นนิดหน่อย แต่ก็ไม่ได้ถามอะไรมาก เมื่อถึงเวลากินข้าว มื้ออาหารก็ผ่านไปอย่างสงบ เพียงแต่หลังจากกินเสร็จ นายท่านเซี่ยก็หันมองฉินมู่หลานด้วยสีหน้าจริงจังก่อนจะพูดขึ้น “มู่หลาน ถ้าเธอจะไปตระกูลหลัก อย่างนั้นก็ต้องสำรวมหน่อย อย่าได้ทำให้ผู้อาวุโสตระกูลหลักมองเธอเป็นตัวตลก”

“พ่อ…”

เซี่ยฉางชิงเอ่ยด้วยสีหน้าไม่เป็นสุข “มู่หลานรู้อะไรก็ลงมือทำ หล่อนเป็นเด็กสุภาพมาโดยตลอด คนอื่นจะมองเป็นตัวตลกได้ยังไง”

เมื่อได้ยินคำพูดของลูกชายคนเล็ก นายท่านเซี่ยก็ได้แต่รู้สึกเบื่อหน่าย

เซี่ยฉางเจี๋ยที่อยู่ข้าง ๆ ก็ขมวดคิ้วมองนายท่านเซี่ย สุดท้ายเขาก็เข้าใจได้ว่ามู่หลานไม่ค่อยสนิทกับคนในบ้านนี้เท่าใดนัก

ยิ่งกว่าความไม่สนิทก็คือความสัมพันธ์ที่ค่อนข้างตึงเครียด เขาชอบฝาแฝดมังกรหงส์พวกนั้นมากจริง ๆ อีกทั้งยังหวังว่าต่อไปข้างหน้าตระกูลเซี่ยจะเจริญรุ่งเรือง จึงบอกกล่าวขึ้น “พวกผมจะไปกับพวกมู่หลานเองครับ หากมีเรื่องที่มู่หลานไม่เข้าใจเกี่ยวกับธรรมเนียมของครอบครัว ผมจะช่วยบอกอย่างละเอียดเอง”

…………………………………………………………………………………………………………………………

สารจากผู้แปล

ไม่ต้องห่วงมู่หลานหรอก ห่วงตระกูลรองของตัวเองเถอะค่ะพ่อเฒ่าแม่เฒ่า ตระกูลหลักเขายังไม่ทันว่าอะไรมู่หลานเลย

ไหหม่า(海馬)

ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก

ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก

Status: Ongoing
เมื่อแพทย์สาวมือฉมังพบว่าตนเองได้กลายเป็นหญิงอ้วนผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรในยุค 70 ผู้ไม่เป็นที่รักของสามี เธอจะเปลี่ยนเป็นคนใหม่ที่สามีคลั่งรักได้หรือไม่กันนะ?ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก[嫁七零糙汉后,我双胞胎体质藏不住]ผู้แต่ง : 钰儿เรื่องย่อหลังผชิญวรหนักจนวูบ ฉินมู่หลาน แพทย์สาวมือฉมังก็พบว่าตนองได้มาสวมร่างของหญิงอ้วนหลานสาวผู้เชี่ยวชาญด้นสมุนไพรในยุค 70 ผู้ไม่มีอะไรดีสักอย่างนอกจากได้สามีหล่อเหลานิสัยดีผู้แสนเย็นขาจากความลั่งรักของตัวเองจจับเขามาแต่งงด้วยสำเร็จ ซึ่งกรสวมวิญญาณในครั้งนี้เธอได้รับภารกิจหลักสามอย่าง หนึ่งคือสร้างเนื้อสร้างตัว สองคือลดน้ำหนักให้ตนเองทำงานทำการสะดวกขึ้น และสามคือทำให้สามีเป็นฝ่ายคลั่งรักเธอแทน คุณหมอฉินจะทำสำเร็จหรือไม่ จะเปลี่ยนเป็นฉินมู่หลานคนใหม่ที่สามีคลั่งรักได้หรือไม่กันนะ?

นิยายแนะนำ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท