ตอนที่ 419 เฟิงจื่อจวิ้น
ตอนที่ 419 เฟิงจื่อจวิ้น
เมื่อได้ยินคำพูดของเซี่ยฉางเจี๋ย นายท่านเซี่ยก็พูดไม่ออกไปครู่หนึ่ง
ฉินมู่หลานเหลือบมองเซี่ยฉางเจี๋ยด้วยความแปลกใจ เธอคิดว่าพ่อของปิงชิงจะไม่ชอบตัวเองเสียอีก เพราะเขาเกลียดพ่อบุญธรรม อีกทั้งยังไม่ชอบที่เธอเป็นแม่สื่อสนับสนุนปิงชิงกับพ่อบุญธรรมด้วย ไม่คิดว่าตอนนี้เขาจะออกโรงพูดแทนเธอ ช่างน่าแปลกใจจริง ๆ
เซี่ยปิงชิงกับเซี่ยปิงหรุ่ยไม่ได้รู้สึกแปลกใจอะไรเลย เพราะในที่สุดตระกูลเซี่ยก็มีฝาแฝดอีกครั้ง พวกหล่อนจำได้ว่าในตอนที่ยังเด็กได้รับการดูแลในบ้านเป็นพิเศษเพียงใด ตอนนี้มู่หลานได้ลูกแฝดมังกรหงส์ พ่อย่อมต้องเห็นคุณค่าอยู่แล้ว
เซี่ยฉางชิงก็มองเซี่ยฉางเจี๋ยด้วยความประหลาดใจเช่นกัน แต่เมื่อเห็นเขาปกป้องลูกสาวตัวเอง เขาก็รู้สึกวางใจ
นายท่านเซี่ยรู้สึกอับอาย สีหน้าดูไม่ค่อยดีนัก แต่ก็ไม่อาจพูดอะไรกับเซี่ยฉางเจี๋ยได้มากมาย จึงทำได้เพียงทำหน้าบึ้งตึงอยู่อย่างนั้น
ฉินมู่หลานไม่ได้สนใจนายท่านเซี่ยเลย เธอมองตรงไปที่เซี่ยอวี๋เซิงพลางพูดขึ้น “พี่อวี๋เซิง พวกเราไปทางนั้นเถอะค่ะ”
เซี่ยอวี๋เซิงรีบพยักหน้าแล้วกล่าวขึ้นทันที “ได้ พวกเราไปทางนั้นกัน”
เขาเห็นคุณปู่จ้องมอง ก่อนจะวิ่งหายตัวไปภายในพริบตา
นายท่านเซี่ยเห็นว่าทุกคนต่างเข้าข้างฉินมู่หลานแล้วก็รู้สึกเจ็บปวดใจ แต่เมื่อนึกขึ้นได้ว่าหลานชายคนโตต้องพึ่งพาฉินมู่หลาน เขาจึงพูดอะไรไม่ออก รู้สึกเสียใจนิดหน่อยที่เมื่อสักครู่ตัวเองพูดอะไรแบบนั้นออกไป
ฉินมู่หลานจับชีพจรของเซี่ยอวี๋เซิงแล้วก็พูดขึ้น “เวลายังผ่านไปไม่นาน ดังนั้นจึงเห็นผลลัพธ์ยังไม่ค่อยชัดนัก พี่แค่กินยาให้ตรงเวลาทุกวันก็พอค่ะ”
“แล้วใบสั่งยานั่น…”
ฉินมู่หลานส่ายหัว แล้วบอกกล่าว “ไม่ต้องเปลี่ยนใบสั่งยาค่ะ หลังจากพี่กินยาพวกนี้หมดแล้ว ก็แค่ทำตามคำแนะนำในใบสั่งยานี้ อีกหนึ่งเดือนฉันจะกลับมาตรวจใหม่ค่ะ”
“ได้ ต้องรบกวนเธอแล้วมู่หลาน”
ฉินมู่หลานส่ายหัวพลางยิ้ม “ไม่รบกวนหรอกค่ะ”
หลังจากทั้งสองคนกลับมา เซี่ยปิงหรุ่ยก็กวักมือเรียกฉินมู่หลาน พลางบอกกล่าว “มู่หลาน พวกเรากลับกันเถอะ”
“ได้”
ฉินมู่หลานยังไปไม่ไกล เซี่ยฉางชิงตามมาได้ทัน ก่อนจะยัดของบางอย่างลงในมือของฉินมู่หลานแล้วบอกกล่าว “มู่หลาน ของพวกนี้สำหรับชิงชิงและเฉินเฉิน ลูกเอากลับไปให้เด็ก ๆ ทั้งสองนะ”
เมื่อเห็นว่าเป็นของสำหรับเด็กทั้งสอง ฉินมู่หลานก็ไม่ปฏิเสธ ยิ้มแล้วตอบกลับ “ได้ค่ะ ถ้าอย่างนั้นฉันจะเอากลับไปให้เด็ก ๆ ทั้งสองคน ขอบคุณค่ะคุณพ่อ”
เซี่ยฉางชิงเห็นฉินมู่หลานเรียกตัวเองแบบนั้น แววตาก็เต็มไปด้วยความตื่นเต้น เขาคิดว่าลูกสาวจะทำตัวไม่ใกล้ชิดกับเขาอีกแล้ว ยังดีที่ลูกสาวยังถือว่าเขาเป็นพ่อแท้ ๆ
“ถ้าอย่างนั้นลูกรีบไปเถอะ พาเด็ก ๆ ทั้งสองคนไปเที่ยวที่ซีอานให้สนุกนะ”
“อื้ม”
ฉินมู่หลานพยักหน้าแล้วโบกมือให้เซี่ยฉางชิง ก่อนจะเดินจากไป
หลังจากหลายคนกลับกันแล้ว เซี่ยปิงหรุ่ยก็เดินไปอยู่ข้าง ๆ เซี่ยฉางเจี๋ยกับเซิงลี่แล้วพูดขึ้น “พ่อแม่ พวกพ่อกับแม่กลับไปซีอานด้วยกันเถอะค่ะ เมื่อกี้พ่อก็บอกแล้วว่าจะดูแลมู่หลานอย่างดี”
เซี่ยฉางเจี๋ยมองลูกสาวคนโตอย่างขุ่นเคือง แต่ในเมื่อตัวเองพูดไปแล้วจึงต้องทำตาม จึงสบถอย่างเย็นชา แล้วเอ่ยขึ้น “แน่นอน ฉันพูดไปอย่างนั้นแล้ว ก็คงต้องกลับไปพร้อมพวกแกนั่นแหละ แล้วพวกแกซื้อตั๋วรถไฟหรือยัง?”
เซี่ยปิงชิงเปิดปากกล่าว “วางใจเถอะค่ะ สือเหิงไปซื้อให้แล้ว และซื้อเผื่อให้พ่อกับแม่สองคนด้วย”
เซี่ยฉางเจี๋ยได้ยินแบบนี้ จึงพูดออกมาโดยไม่ต้องคิด “เหอะ…พวกฉันไม่ได้ให้เขาซื้อให้สักหน่อย ตัดสินใจเองแท้ ๆ”
เซี่ยปิงชิงพลันฮึดฮัดขึ้นมา จนฉินมู่หลานต้องปรามเอาไว้ ก่อนจะหันมองเซี่ยฉางเจี๋ยแล้วพูดพร้อมรอยยิ้ม “คุณอาเซี่ย เป็นพ่อบุญธรรมที่ไม่ได้ถามพวกคุณอาก่อน เขาตัดสินใจด้วยตัวเอง แต่ถึงยังไงพวกเราก็จะกลับด้วยกันแล้ว ถ้าอย่างนั้นก็เหมาะเจาะพอดีเลยค่ะ ตั๋วรถไฟสองใบนั้นจะได้ไม่เสียเงินเปล่า”
เซี่ยปิงหรุ่ยที่อยู่ข้าง ๆ ก็พูดโน้มน้าวเช่นกัน “ใช่แล้วพ่อแม่ ตอนแรกพ่อกับแม่มาหาพวกเราก็เพราะอยากเห็นแฟนของปิงชิง ตอนนี้ได้เจอกันแล้ว พวกเราก็กำลังจะกลับซีอานกันแล้ว พวกพ่อกับแม่ก็กลับไปด้วยกันจะเป็นอะไรไป”
“เหอะ…”
เซี่ยฉางเจี๋ยเห็นลูกสาวทั้งสองคนเข้าข้างคนนอก ก็รู้สึกโกรธมาก เซิงลี่ที่อยู่ข้าง ๆ จึงพูดขึ้น “ได้ ถ้าอย่างนั้นพวกเราจะกลับพร้อมพวกแก เดี๋ยวแม่กับพ่อพวกแกจะไปเก็บของก่อน แล้วจะไปหาที่บ้านตระกูลเจี่ยง”
เมื่อเห็นแม่พูดแบบนั้น สีหน้าของเซี่ยปิงชิงก็ดูดีขึ้น หลังจากนั้นก็กลับไปพร้อมกับฉินมู่หลาน ส่วนเซี่ยปิงหรุ่ยกลับไปเก็บของที่บ้านพร้อมกับพ่อแม่
หลังจากฉินมู่หลานและเซี่ยปิงชิงมาถึง คนอื่นก็เตรียมตัวเกือบเสร็จแล้ว ส่วนเจี่ยงสือเหิงก็ซื้อตั๋วรถไฟเรียบร้อยแล้ว เมื่อเห็นทั้งสองคนกลับมา จึงรีบหันไปถามเซี่ยปิงชิง “ปิงชิง ถามพ่อแม่คุณหรือยัง พวกท่านจะไปกับพวกเราไหม?”
เซี่ยปิงชิงพยักหน้าแล้วบอกกล่าว “พ่อแม่ฉันบอกว่าจะกลับไปด้วยกันค่ะ”
เมื่อได้ยินแบบนี้ เจี่ยงสือเหิงก็อดยิ้มไมได้
“ถ้าอย่างนั้นก็ดี พวกเราจะได้ช่วยดูแลกันและกันระหว่างทาง”
แม้แต่ซูหว่านอี๋กับเหยาจิ้งจือก็รู้สึกดีใจเช่นกัน ครั้งนี้เป็นเพราะเจี่ยงสือเหิงทำเพื่อคู่ครองอย่างเซี่ยปิงชิง จึงได้เดินทางไปเที่ยวซีอานเป็นครั้งแรก เซี่ยฉางเจี๋ยกับเซิงลี่ก็จะเดินทางไปด้วยกัน ถือว่าเป็นเรื่องดีมาก
เมื่อพวกเซี่ยฉางเจี๋ยมาถึงและเห็นว่าทุกคนพร้อมแล้ว จึงหันมองเจี่ยงสือเหิงด้วยสีหน้าเย็นชาพลางพูดขึ้น “ในเมื่อพวกเธอพร้อมกันแล้ว อย่างนั้นพวกเราก็รีบออกเดินทางกันเถอะ”
“ครับ”
เจี่ยงสือเหิงยิ้มแล้วเอ่ยตอบกลับ หลังจากนั้นเขาก็พาทุกคนไปที่สถานีรถไฟ
ฉินเจี้ยนเซ่อกับเซี่ยเหวินปิงที่เดินรั้งท้ายกลุ่มแอบกระซิบพูดคุยกัน “เรื่องนี้ก็ว่าพ่อปิงชิงไม่ได้แหละนะ เฮ้อ…สือเหิงเพรียบพร้อมทุกอย่างจริง ๆ ติดแต่อายุห่างจากปิงชิงค่อนข้างเยอะ เพราะฉะนั้นหากพ่อหล่อนจะโกรธก็เป็นเรื่องที่พอเข้าใจได้”
ถ้าเซี่ยเจ๋อหลี่อายุเยอะกว่ามู่หลานมากถึงเพียงนี้ เขาเองก็คงพยายามห้ามทุกวิถีทางอย่างแน่นอน
เซี่ยเหวินปิงเข้าใจได้อยู่แล้ว จึงพยักหน้าแล้วพูดขึ้น “ใช่แล้ว พ่อปิงชิงก็ทำถูกแล้ว”
กลุ่มคนไปถึงสถานีรถไฟแล้วก็รีบขึ้นรถไฟด้วยความเร่งรีบ ครั้งนี้จำนวนคนค่อนข้างเยอะ จึงเป็นที่สะดุดตาอย่างมาก
เซี่ยฉางเจี๋ยไม่คิดว่าจะมีคนเยอะขนาดนี้ เขาจึงหันมองฉินเจี้ยนเซ่อและคนอื่น ๆ ที่เขาไม่เคยเจอมาก่อน พลางเอ่ยถามเซี่ยปิงหรุ่ย “คนพวกนั้นเป็นครอบครัวมู่หลานหมดเลยเหรอ?”
“ใช่ค่ะ”
เซี่ยปิงหรุ่ยแนะนำให้เซี่ยฉางเจี๋ยรู้จักแต่ละคน สุดท้ายก็พูดถึงเหวินเฉียนกับชุยเสี่ยวผิง “สองคนนั้นเป็นคนที่คอยคุ้มกันมู่หลานค่ะ”
เมื่อได้ยินแบบนี้ สีหน้าของเซี่ยฉางเจี๋ยก็ดูแปลกใจ
“คุ้มกันมู่หลาน?”
“ใช่ค่ะ”
เซี่ยปิงหรุ่ยถอนหายใจ แล้วเล่าเรื่องของเติ้งซูหลานก่อนหน้านี้ให้ฟัง หลังจากนั้นจึงกล่าวต่อ “โชคดีที่มู่หลานไม่เป็นอะไร และเติ้งซูหลานก็ได้รับบทลงโทษอย่างสาสมแล้วด้วย ไม่งั้นคงไม่รู้ว่าเรื่องจะร้ายแรงขนาดนั้น”
เซี่ยฉางเจี๋ยได้ฟังเรื่องความขัดแย้งของตระกูลเซี่ยตระกูลรองแล้ว ก็อดพูดไม่ได้ “ดูเหมือนว่าวันนี้พ่อจะพูดเบาไปหน่อย เซี่ยเหยียนอู่ช่างเป็นตาแก่ดักดานเหลือเกิน ถึงปล่อยให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นภายในตระกูลได้”
ตอนแรกเซี่ยปิงหรุ่ยไม่ทราบว่าเซี่ยเหยียนอู่คือใคร หลังจากนั้นจึงนึกขึ้นได้ว่าคงเป็นนายท่านเซี่ย คุณปู่ของมู่หลาน จึงพยักหน้าแล้วพูดขึ้น “ใครว่าไม่ใช่กันล่ะคะ เทียบกันแล้วคุณปู่ของหนูดีกว่าเยอะเลย”
ฉินมู่หลานได้ยินจึงอดหัวเราะไม่ได้ “จริงเหรอ ถ้าอย่างนั้นครั้งนี้พ่อบุญธรรมของฉันคงไม่ต้องกังวลขนาดนั้นแล้วใช่ไหม”
เรื่องนี้เซี่ยปิงหรุ่ยไม่สามารถยืนยันได้ หล่อนส่ายหัวแล้วบอกกล่าว “เรื่องนี้ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน เพราะคุณปู่ของฉันอยากให้ปิงชิงแต่งกับเฟิงจื่อจวิ้นมาตลอด”
ถึงแม้เจี่ยงสือเหิงจะนั่งห่างออกไปเล็กน้อย แต่ก็ยังให้ความสนใจทางด้านนี้ เมื่อได้ยินชื่อนี้ จึงอดหันมองแล้วเอ่ยถามเซี่ยปิงชิงเสียไม่ได้ “คุณปู่ของคุณเป็นคนเลือกคู่ครองให้เหรอ?”
เซี่ยปิงชิงพยักหน้าแล้วพูดขึ้น “ใช่แล้ว ตระกูลของเรากับตระกูลเฟิงรู้จักกันมาหลายชั่วอายุคน เพราะฉะนั้นคุณปู่จึงหวังว่าฉันจะได้ลงเอยกับเฟิงจื่อจวิ้น แต่น่าเสียดายที่ฉันโตมากับเฟิงจื่อจวิ้นแล้วไม่มีความรู้สึกเชิงชู้สาวกับเขาเลย ขณะที่เขาเป็นฝ่ายที่ยึดติดมาก” หลังจากพูดจบ สีหน้าของเซี่ยปิงชิงก็เต็มไปด้วยความรังเกียจ
เมื่อเห็นเซี่ยปิงชิงเป็นแบบนี้ เจี่ยงสือเหิงจึงรู้สึกโล่งใจนิดหน่อย เพียงแต่ว่า…
สิ่งที่เจี่ยงสือเหิงไม่ทันคาดคิดก็คือ ทันทีที่พวกเขาเพิ่งไปถึงบ้านตระกูลเซี่ยที่ซีอาน ก็ได้พบกับเฟิงจื่อจวิ้นตั้งแต่แรกเห็น
………………………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
เอาแล้ว เจอคู่แข่งความรักเสียแล้วสิพ่อบุญธรรม จะสู้หนุ่มๆ ได้ไหมหนอ
ไหหม่า(海馬)