ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก – ตอนที่ 433 หมั้นหมาย(2)

ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก

ตอนที่ 433 หมั้นหมาย(2)

ตอนที่ 433 หมั้นหมาย(2)

“เอาล่ะ คุณรีบไปเตรียมตัวให้พร้อม ก่อนหน้านี้พวกเราสัญญากับฉินมู่หลานเอาไว้ยังไง เราก็ต้องทำตามสัญญา ต่อให้หล่อนหาทางให้ตระกูลเราได้ร่วมงานกับโม่คุนได้ หล่อนก็ทำลายความร่วมมือได้เหมือนกัน”

เซิงลี่ยังรู้สึกไม่อยากเชื่อนิดหน่อย

“พวกเราได้ร่วมงานกับกองทัพจริง ๆ เหรอ? ถ้าอย่างนั้นฉินมู่หลานคนนี้ก็เก่งมากเลยใช่ไหม?”

“ใช่แล้ว พวกเราต่างก็นึกไม่ถึงว่าฉินมู่หลานจะเก่งได้ขนาดนี้ เหอะ…ผู้อาวุโสที่ปักกิ่งนั่นเป็นวานรได้แก้วจริงๆ กล้าทอดทิ้งไม่ดูแลหลานสาวที่มีความสามารถขนาดนี้ให้ดีได้ยังไง ซ้ำยังวางท่าเย็นชาผลักไสไล่ส่งคนอีก ช่างมองการณ์ไกลไม่ออกเสียจริง”

เซิงลี่ก็อดถอนหายใจไม่ได้

เซี่ยฉางเจี๋ยยังไม่วางใจเล็กน้อย จึงเน้นย้ำขึ้นอีกครั้ง “นี่เป็นโอกาสดีของตระกูลเราที่จะได้ต่อสู้กับตระกูลหยวน ดังนั้นห้ามทำมันพังเด็ดขาด”

เซิงลี่ก็ทราบเรื่องสถานการณ์ที่บ้านเหมือนกัน จึงพยักหน้าแล้วพูด “ได้ ฉันเข้าใจแล้ว เดี๋ยวฉันไปคุยกับปิงชิงก่อน”

เมื่อเซิงลี่มาหาลูกสาวคนเล็ก ก็พบว่าหล่อนกำลังสวมใส่เสื้อผ้าแฟชั่นส่องกระจกอย่างมีความสุข เห็นท่าทางของลูกสาวคนเล็กแล้ว เซิงลี่ก็คลี่ยิ้มแล้วเอ่ยขึ้น “ปิงชิง นี่ชุดใหม่ของลูกเหรอ สวยมากเลย”

เซี่ยปิงชิงได้ยินแบบนี้ก็หันไปมอง พอเห็นว่าเป็นแม่ของตนก็เอ่ยตอบ “หนูไม่ได้ซื้อเองหรอกค่ะ เป็นเจี่ยงสือเหิงซื้อให้หนู สวยมากเลยใช่ไหมคะ”

เมื่อได้ยินแบบนี้ เซิงลี่ก็เงียบไป ก่อนจะเอ่ยถามขึ้น “ปิงชิง ลูกชอบเจี่ยงสือเหิงขนาดนั้นเลยเหรอ ไม่สนใจว่าอายุจะต่างกันขนาดไหนเลยเนี่ยนะ?”

เซี่ยปิงชิงเห็นสีหน้าแม่ดูจริงจัง จึงพยักหน้าแล้วกล่าวตามตรง “ใช่ค่ะ หนูชอบแค่เจี่ยงสือเหิง ไม่ได้ชอบเฟิงจื่อจวิ้นเลย แข่งบุญแข่งวาสนามันแข่งกันยากน่ะค่ะ”

เมื่อเห็นสายตาของลูกสาวดูรังเกียจเมื่อพูดถึงเฟิงจื่อจวิ้น เซิงลี่ก็อดถอนหายใจไม่ได้ ก่อนจะกล่าว “ดี ในเมื่อตัวลูกเองก็คิดแบบนี้ ถ้าอย่างนั้นเราก็ไม่คัดค้าน พ่อของลูกบอกว่าจะให้ลูกกับเจี่ยงสือเหิงหมั้นหมายกันในอีกสามวันนี้”

“อะไรนะ…”

เมื่อได้ยินแบบนี้ สีหน้ของเซี่ยปิงชิงก็ดูแปลกใจ “ทำไมเร็วจัง”

วันนั้นเจี่ยงสือเหิงก็ถามหล่อนแบบนั้นเหมือนกัน จึงพอคาดเดาถึงเรื่องนี้ได้นิดหน่อย แต่ก็ไม่คิดว่าจะเร็วขนาดนี้

“ถ้าเกิดว่าลูกไม่ต้องการ…”

แต่ก่อนที่เซิงลี่จะทันได้พูดอะไร เซี่ยปิงชิงก็ขัดขึ้นก่อนแล้ว

“ไม่ใช่ หนูต้องการอยู่แล้ว หนูก็แค่แปลกใจที่เวลามันกระชั้นชิดแบบนี้”

“ลูกต้องการก็ดีแล้ว ถ้าอย่างนั้นลูกก็เริ่มเตรียมตัวได้เลย”

ขณะเจี่ยงสือเหิงกับเซี่ยปิงชิงตัดสินใจจะหมั้นกัน ทางด้านตระกูลเฟิงกับตระกูลหยวนก็ทราบเรื่องการร่วมงานกันของตระกูลเซี่ยกับโม่คุนแล้ว

หยวนเหยียนหลินทราบเรื่องนี้แล้วก็ขว้างปาของทุกสิ่งในมือจนแตกหักเสียหาย หลังจากนั้นก็ออกไปข้างนอกเพื่อพบเฟิงชางเหล่ย

เฟิงชางเหล่ยที่ได้พบหยวนเหยียนหลินก็พอคาดเดาได้ว่าเหตุใดเขาจึงมาพบตน

“คุณมาแล้ว เชิญนั่งก่อน”

หยวนเหยียนหลินนั่งลงแล้วจ้องมองเฟิงชางเหล่ยทันที พลางกล่าว “คุณทราบเรื่องที่ตระกูลเซี่ยกับโม่คุนร่วมงานกันแล้วใช่ไหม”

“ใช่ ผมเองก็ทราบแล้ว”

แม้จะทราบเรื่องนี้แล้วก็ตาม แต่เมื่อพูดถึงขึ้นมาอีกครั้ง หยวนเหยียนหลินก็ยังรู้สึกโกรธเคืองอยู่ในใจ “เกิดเรื่องอะไรขึ้น ทำไมโม่คุนจึงเลือกร่วมงานกับทางตระกูลเซี่ย ตอนนี้ตระกูลเซี่ยมีอะไร พวกเขาสามารถผลิตยาที่มีประโยชน์แก่กองทัพได้อย่างนั้นเหรอ”

เฟิงชางเหล่ยพอได้ยินมาบ้างแล้ว เขาจึงกล่าวด้วยสีหน้ายับยู่ “ตอนนี้ตระกูลเซี่ยทำได้จริง ๆ”

เมื่อได้ยินคำพูดนี้ หยวนเหยียนหลินก็หันไปมอง แล้วเอ่ยถาม “จริงเหรอครับ หรือว่าตระกูลเซี่ยเองก็ผลิตยาตัวใหม่เหมือนกัน?”

“ตระกูลเซี่ยไม่ได้ผลิตเองหรอก”

เฟิงชางเหล่ยส่ายหัว และเล่าเรื่องที่ฉินมู่หลานเคยทำ หลังจากนั้นก็พูดต่อ “สาเหตุที่ตระกูลเซี่ยสามารถร่วมงานกับโม่คุนได้ก็เป็นเพราะฉินมู่หลานทั้งนั้น ถึงแม้ตอนนี้หล่อนจะกำลังเรียนมหาลัยอยู่ แต่หล่อนก็ไม่ใช่แค่นักศึกษาธรรมดา เมื่อสองสามปีก่อน เธอเคยพัฒนายาพิเศษหลายตัวออกมาแล้ว”

จากนั้นเขาก็เล่าเรื่องฉินมู่หลานต่อ

หยวนเหยียนหลินได้ฟังแล้วก็มีสีหน้าตกตะลึงพรึงเพริด

“อะไรนะ…หมอคนที่พัฒนายาพิเศษหลายชนิดพวกนั้นก็คือฉินมู่หลานที่เราเพิ่งเจอเหรอ ฉินมู่หลานคนฝีปากกล้าที่คอยปกป้องพ่อบุญธรรมของหล่อนตลอดน่ะนะ?”

“ใช่ครับ หล่อนนั่นแหละ ครั้งแรกที่พบหล่อน ผมเองก็ไม่คิดว่าหล่อนจะเป็นหมอฉินคนนั้น”

“นั่นเป็นเรื่องเหนือความคาดหมายจริง ๆ”

หยวนเหยียนหลินอดถอนหายใจไมได้ จากนั้นจึงหันมองเฟิงชางเหล่ยแล้วเอ่ยถาม “ถ้าอย่างนั้นตอนนี้พวกเราจะเอายังไงต่อดีครับ หากตระกูลเซี่ยได้ร่วมงานกับกองทัพอย่างที่ว่า พวกเขาจะค่อย ๆ กลับมารุ่งโรจน์เหมือนในอดีตแน่นอน”

“เรื่องนี้…”

ขณะที่เฟิงชางเหล่ยยังพูดไม่ทันจบ ก็โดนเฟิงจื่อจวิ้นที่วิ่งเข้ามาจากข้างนอกขัดจังหวะเสียก่อน “พ่อ พ่อได้ข่าวหรือยัง ปิงชิงจะหมั้นกับตาแก่คนนั้นแล้ว”

“หมั้นอะไรกัน?”

หลังจากเฟิงชางเหล่ยได้ยินเรื่องนี้ เขาก็ขมวดคิ้วขึ้นทันที

แม้แต่หยวนเหยียนหลินที่อยู่ข้าง ๆ ก็อดหันไปมองไม่ได้

เฟิงจื่อจวิ้นเล่าข่าวที่เขาเพิ่งได้ยินมา “เซี่ยปิงชิงกำลังจะหมั้นกับเจี่ยงสือเหิง ตอนนี้ตระกูลเซี่ยเริ่มเตรียมตัวแล้ว ได้ยินว่าอีกสามวัน”

“ทำไมถึงกะทันหันแบบนี้ ไม่เห็นเคยได้ยินเรื่องนี้มาก่อนเลย” หยวนเหยียนหลินเพียงแค่รู้สึกแปลกใจนิดหน่อย

แต่สีหน้าของเฟิงชางเหล่ยกลับมืดมนลงทันที “ตระกูลเซี่ยไม่ยอมหมั้นหมายกับพวกเรา อยากให้ลูกสาวหมั้นหมายกับเจี่ยงสือเหิงแทน เหอะ…นี่พวกเขากำลังพยายามแยกตัวออกจากพวกเราอย่างนั้นเหรอ”

“ใช่แล้วพ่อ ตระกูลเซี่ยทำเกินไปแล้ว ผมด้อยกว่าเจี่ยงสือเหิงนั่นตรงไหน พวกเขาถึงอยากให้ปิงชิงแต่งกับมัน แต่ไม่ยอมให้ปิงชิงแต่งกับตระกูลเรา”

หยวนเหยียนหลินเห็นพ่อลูกตระกูลเฟิงโกรธมาก จึงอดพูดอยู่ข้าง ๆ ไม่ได้ “เรื่องนี้มีบางอย่างแปลก ๆ จื่อจวิ้นก็เคยบอกไม่ใช่เหรอว่าตระกูลเซี่ยมีท่าทางต่อเจี่ยงสือเหิงไม่ค่อยดีเท่าไหร่”

เฟิงจื่อจวิ้นได้ยินแบบนี้ก็พยักหน้า แล้วกล่าว “ใช่ ไม่ค่อยดีมาก ๆ เลย แต่ตอนนี้ทั้งสองกลับจะหมั้นกันแล้ว”

“ชางเหล่ย ฉินมู่หลานคนนั้นเป็นลูกสาวบุญธรรมของเจี่ยงสือเหิง เรื่องนี้คงมีความเชื่อมโยงอะไรกันแน่ๆ”

เฟิงชางเหล่ยก็คิดแบบนั้นเหมือนกัน “ฉันจะลองให้คนไปสืบดู”

ตระกูลเฟิงในซีอานค่อนข้างมีอำนาจ จึงทำให้เฟิงชางเหล่ยสืบได้ความบางอย่าง เมื่อเฟิงจื่อจวิ้นได้ยินว่าเป็นฉินมู่หลานที่ทำให้เจี่ยงสือเหิงกับเซี่ยปิงชิงได้หมั้นหมายกัน สีหน้าของเขาก็เต็มไปด้วยความโกรธ “ฉินมู่หลานนั่นมันยังไงกัน เป็นลูกบ้านอื่นแท้ ๆ แต่กลับช่วยคลี่คลายเรื่องการหมั้นหมาย”

เฟิงชางเหล่ยเหลือบมองลูกชายเมื่อได้ยินแบบนี้ แล้วเอ่ยถาม “งานหมั้นเซี่ยปิงชิงกับเจี่ยงสือเหิง แกจะไปไหม?”

เฟิงจื่อจวิ้นพูดอย่างเดือดดาล “ไป ผมต้องไปอยู่แล้ว”

จนกระทั่งถึงวันหมั้นของเซี่ยปิงชิงกับเจี่ยงสือเหิง เฟิงจื่อจวิ้นก็ได้ไปจริง ๆ โดยคนที่ไปกับเขาคือเฟิงชางเหล่ย สองพ่อลูกเดินเข้าไปข้างในด้วยสีหน้าเคร่งขรึม

…………………………………………………………………………………………………………………………

สารจากผู้แปล

มู่หลานไปขัดขาตระกูลใหญ่เข้าเสียแล้วสิ

งานหมั้นจะโดนสองพ่อลูกตระกูลเฟิงนี่ก่อกวนไหมนะ

ไหหม่า(海馬)

ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก

ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก

Status: Ongoing
เมื่อแพทย์สาวมือฉมังพบว่าตนเองได้กลายเป็นหญิงอ้วนผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรในยุค 70 ผู้ไม่เป็นที่รักของสามี เธอจะเปลี่ยนเป็นคนใหม่ที่สามีคลั่งรักได้หรือไม่กันนะ?ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก[嫁七零糙汉后,我双胞胎体质藏不住]ผู้แต่ง : 钰儿เรื่องย่อหลังผชิญวรหนักจนวูบ ฉินมู่หลาน แพทย์สาวมือฉมังก็พบว่าตนองได้มาสวมร่างของหญิงอ้วนหลานสาวผู้เชี่ยวชาญด้นสมุนไพรในยุค 70 ผู้ไม่มีอะไรดีสักอย่างนอกจากได้สามีหล่อเหลานิสัยดีผู้แสนเย็นขาจากความลั่งรักของตัวเองจจับเขามาแต่งงด้วยสำเร็จ ซึ่งกรสวมวิญญาณในครั้งนี้เธอได้รับภารกิจหลักสามอย่าง หนึ่งคือสร้างเนื้อสร้างตัว สองคือลดน้ำหนักให้ตนเองทำงานทำการสะดวกขึ้น และสามคือทำให้สามีเป็นฝ่ายคลั่งรักเธอแทน คุณหมอฉินจะทำสำเร็จหรือไม่ จะเปลี่ยนเป็นฉินมู่หลานคนใหม่ที่สามีคลั่งรักได้หรือไม่กันนะ?

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท