ตอนที่ 469 ฝาแฝดอีกแล้ว(2)
ตอนที่ 469 ฝาแฝดอีกแล้ว(2)
คุณหมอเห็นท่าทางของฉินมู่หลานเป็นแบบนี้ จึงอดถามไม่ได้ “คุณรู้อยู่แล้วเหรอคะว่าคุณได้ลูกแฝด?”
“ค่ะ ฉันพอจะเดาได้อยู่”
หมอคนนั้นมองฉินมู่หลานด้วยความสงสัย แต่ฉินมู่หลานก็ไม่ได้อธิบายอะไรมากมายเช่นกัน พูดเพียงว่า “ก่อนหน้านี้ฉันก็ได้ลูกแฝดมังกรหงส์ค่ะ ครั้งนี้ก็เลยเดาได้ว่าต้องเป็นแฝดเหมือนกัน”
เมื่อได้ยินแบบนี้ สีหน้าของหมอคนนั้นก็กระจ่างแจ้งในทันที
“ไม่น่าแปลกใจเลย ที่แม้คุณก็เคยได้ลูกแฝดมังกรหงส์มาแล้วนี่เอง คุณโชคดีจังเลยนะคะ”
“ขอบคุณค่ะ”
ฉินมู่หลานออกไปหลังจากตรวจเสร็จแล้ว เซี่ยเจ๋อหลี่ที่เห็นฉินมู่หลานออกมาก็รีบลุกขึ้นยืนแล้วเอ่ยถาม “มู่หลาน ทุกอย่างเรียบร้อยไหม”
“วางใจได้ค่ะ ทุกอย่างเรียบร้อยดี”
เมื่อได้ยินแบบนี้ เซี่ยเจ๋อหลี่ก็โล่งใจ
ฉินมู่หลานเดินเข้าไปหาเซี่ยเจ๋อหลี่พร้อมรอยยิ้มก่อนจะเอ่ยเสียงเบา “ครั้งนี้ฉันท้องลูกแฝดอีกแล้ว อีกไม่นานคุณจะได้เป็นพ่อลูกสี่แล้ว สหายเซี่ยเจ๋อหลี่ ต่อไปคุณต้องทำงานหนักแล้วนะคะ”
เซี่ยเจ๋อหลี่ได้ยินแบบนี้ก็หันมองฉินมู่หลานด้วยความเหลือเชื่อ “มู่หลาน คุณพูดจริงเหรอ? ครั้งนี้ก็ได้ลูกแฝดอีกแล้วเหรอ?”
“มันแน่นอนอยู่แล้วค่ะ ฉันจะโกหกเรื่องนี้กับคุณไปทำไม”
เซี่ยเจ๋อหลี่ตะลึงงันไปครู่หนึ่ง แต่ในไม่ช้าก็จับมือฉินมู่หลานแล้วเอ่ยถามด้วยความประหม่า “มู่หลาน คุณไม่เป็นไรใช่ไหม”
“ไม่เป็นไรอยู่แล้ว เอาเถอะ ตรวจเสร็จหมดแล้ว พวกเรากลับบ้านกันเถอะค่ะ”
เซี่ยเจ๋อหลี่เห็นฉินมู่หลานยังมีท่าทางเหมือนเดิมก็รู้สึกโล่งใจ แต่ก็ยังจับฉินมู่หลานเอาไว้ด้วยความประหม่า กระทั่งถึงบ้านก็ยังไม่ยอมปล่อยมือ
เหยาจิ้งจือเห็นลูกชายกับลูกสะใภ้คนเล็กกลับมาแล้ว ก็รีบเอ่ยถาม “มู่หลาน ตรวจทุกอย่างเรียบร้อยแล้วใช่ไหม เด็กสบายดีหรือเปล่า”
ฉินมู่หลานยิ้มแล้วพยักหน้า
แต่เซี่ยเจ๋อหลี่ยังเป็นกังวลมาก คอยจับฉินมู่หลานตลอด พลางประคองให้เธอนั่งพัก
เหยาจิ้งจือที่อยู่ข้าง ๆ เห็นแบบนี้ก็ตกใจ จากนั้นก็รู้สึกเป็นกังวลขึ้นมา “มู่หลาน ไม่เป็นไรจริง ๆ ใช่ไหม ไม่ใช่แค่พูดเพื่อให้พวกเราสบายใจแน่นะ”
“แม่วางใจเถอะค่ะ ฉันไม่เป็นไรจริง ๆ”
เห็นฉินมู่หลานพูดยืนกรานเช่นนี้ เหยาจิ้งจือก็มองลูกชายคนเล็กด้วยความสงสัย
ฉินมู่หลานที่อยู่ข้าง ๆ ยกยิ้มพลางเอ่ยอธิบาย “แม่คะ แม่ไม่ต้องสนใจเขาหรอกค่ะ เป็นเพราะเขารู้ว่าฉันท้องลูกแฝดอีกแล้ว ก็เลยเป็นกังวลนั่นนี่ไปหมด”
“อะไรนะ…ฝาแฝดอีกแล้ว!”
เหยาจิ้งจือได้ยินแบบนี้ สีหน้าก็เต็มไปด้วยความเหลือเชื่อ จากนั้นก็มีสีหน้าแปลกใจ
“จริงเหรอ ถ้าอย่างนั้นก็เยี่ยมเลย มู่หลาน เธอนี่สุดยอดจริง ๆ อาหลี่ของพวกเราโชคดีมาก หลังจากแต่งงานกับเธอ ก็มีแต่นำพาความเจริญรุ่งเรืองเข้าบ้าน”
ครั้งล่าสุดก็มีชิงชิงกับเฉินเฉินแล้ว ครั้งนี้จึงไม่คิดว่าจะได้ลูกแฝดอีก
ไม่นานนัก เหยาจิ้งจือก็นึกถึงนายท่านเหยาขึ้นมาอีกครั้ง หล่อนอดหันมองลูกสะใภ้คนเล็กเสียไม่ได้ก่อนจะพูดขึ้น “มู่หลาน ฉันขอไปบอกข่าวดีกับคุณตาเธอก่อนได้ไหม ถ้าเขารู้ก็คงจะมีความสุขมากแน่นอน”
ฉินมู่หลานพยักหน้าแล้วกล่าว “ได้อยู่แล้วค่ะ”
หลังได้รับอนุญาตแล้ว เหยาจิ้งจือจึงไปบ้านตระกูลเหยาในวันรุ่งขึ้น เพื่อบอกข่าวดีให้กับนายท่านเหยา
“จิ้งจือ จริงเหรอ ครั้งนี้มู่หลานก็ได้ลูกแฝดอีกแล้วเหรอ?” นายท่านเหยารู้สึกเหลือเชื่อนิดหน่อย
แม้แต่คุณนายเหยาที่อยู่ข้าง ๆ ก็หันมองลูกสาวด้วยความเหลือเชื่อพลางเอ่ยถาม “จิ้งจือ เรื่องจริงเหรอ มู่หลานได้ลูกแฝดอีกแล้วเหรอ”
เหยาจิ้งจือพยักหน้าทั้งรอยยิ้มก่อนจะบอกกล่าว “จริงแท้แน่นอนค่ะ เมื่อวานมู่หลานไปตรวจที่โรงพยาบาลมาแล้ว เห็นบอกว่ามีเครื่องมือพิเศษที่ช่วยถ่ายรูปข้างในท้องได้ เห็นได้ชัดเจนว่าเป็นเด็กคนเดียวหรือสองคน ดูเพียงแวบเดียวก็บอกได้แล้วค่ะ”
เมื่อได้ยินแบบนี้ นายท่านเหยากับคุณนายเหยาก็ต่างหัวเราะขึ้นมา
“ดี ดีมากเลย”
แต่หลังจากนั้นสีหน้าของนายท่านเหยากลับเต็มไปด้วยความลำบากใจ
“ถ้าอย่างนั้นให้อั่งเปาแค่ซองเดียว เด็กอีกคนจะไม่เคืองเอาเหรอ”
คุณนายเหยาก็ลำบากใจเหมือนกัน
“ถ้ารู้แต่แรกฉันคงให้เพิ่มแล้ว ทำไมเรานึกไม่ถึงมาก่อนนะ ก่อนหน้านี้มู่หลานเคยได้ลูกแฝดมังกรหงส์แล้ว ครั้งนี้ก็มีโอกาสสูงที่จะได้ลูกแฝดอีกครั้ง”
เมื่อเห็นพ่อแม่ลำบากใจแบบนี้ เหยาจิ้งจือก็กล่าวพร้อมรอยยิ้ม “ใครจะไปทันคิดเรื่องนี้ได้ล่ะคะ มู่หลานโชคดีออกขนาดนี้ ท้องอีกครั้งก็ยังได้ลูกแฝดอีก”
“ใช่แล้ว มู่หลานโชคดีมากเลย อาหลี่แต่งงานกับหล่อนก็พลอยได้รับโชคไปด้วย” นายท่านเหยาหัวเราะขณะกล่าว
คุณนายเหยาอดหันมองลูกสาวเสียไม่ได้ ก่อนจะเอ่ยถามเสียงเบา “จิ้งจือ ถ้ามู่หลานได้แฝดมังกรหงส์อีกครั้ง ถ้าอย่างนั้น…ให้ลูกชายใช้แซ่เหยาได้ไหม”
ถึงจะมีเด็กสองคน แต่คุณนายเหยาก็มองออกว่าวันนั้นหลานชายคนเล็กไม่ค่อยเต็มใจนัก นางจึงไม่กล้าขอให้เด็กทั้งสองใช้แซ่เหยา จึงเลือกแค่คนดียว แน่นอนว่านางก็ต้องอยากให้เด็กชายใช้แซ่เหยาเอาไว้ก่อน
“เงียบน่า!”
เมื่อนายท่านเหยาได้ยินสิ่งที่คุณนายเหยาเอ่ย ก็รีบปรามทันที “เรื่องนี้พูดต่อหน้าพวกเราได้ แต่อย่าไปพูดต่อหน้ามู่หลานกับอาหลี่เชียว หากพวกเขาไม่พอใจขึ้นมาจะทำยังไง อีกอย่างไม่ว่าจะหญิงหรือชายก็เหมือนกัน ไม่ว่ามู่หลานจะได้ลูกชายหรือลูกสาว ก็ให้คนโตใช้แซ่เหยาแล้วกัน”
“แต่ว่า…”
คุณนายเหยาอยากจะพูดอะไรสักหน่อย แต่เมื่อเห็นสีหน้าเคร่งขรึมของนายท่านเหยา ก็ไม่ได้พูดอะไรอีก
ตั้งแต่คุณนายเหยาเริ่มพูด รอยยิ้มบนใบหน้าเหยาจิ้งจือก็จางหายไป แต่โชคดีที่นายท่านเหยายืนหยัดชัดเจน สีหน้าหล่อนจึงดูดีขึ้นมานิดหน่อย
“พ่อคะ ถ้าอย่างนั้นพวกเราตกลงกันแล้วนะคะ ไม่ว่าคนโตจะเป็นหญิงหรือชาย จะให้คนโตใช้แซ่เหยา”
นายท่านเหยาพยักหน้าแล้วเอ่ย “ได้ พวกเราตกลงกันตามนี้”
เหยาจิ้งจือพยักหน้าแล้วเอ่ย “เดี๋ยวฉันไปบอกมู่หลานและอาหลี่ก่อนนะคะ”
“ตกลง”
เหยาจิ้งจือกลับมาแล้วก็บอกฉินมู่หลานเกี่ยวกับเรื่องนี้ ขณะเดียวกันก็มอบซองอั่งเปากับของขวัญปีใหม่ที่นายท่านเหยาเตรียมเอาไว้ให้
“มู่หลาน นี่เป็นของที่คุณตามอบให้เด็กอีกคน แล้วก็ ยังฝากฉันมาแสดงความยินดีกับพวกเธอด้วย”
“ถ้าอย่างนั้นต้องขอบคุณคุณตามากค่ะ”
ฉินมู่หลานยิ้มแล้วกล่าวเพิ่มเป็นการเห็นด้วยกับข้อเสนอ “ถ้าอย่างนั้นให้คนโตใช้แซ่เหยาแล้วกันค่ะ”
…………………………………………………………………………………………………………………………
สารจากผู้แปล
พี่หลี่สู้ๆ นะคะ มีลูกสี่คนต้องกินต้องใช้เยอะกว่าใครเลยนะ
ให้คนโตแซ่เหยาไปจบๆ จะได้ไม่มีปัญหาเรื่องลำเอียงรักหลานชายมากกว่าหลานสาว
ไหหม่า(海馬)