ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก – ตอนที่ 470 คำสั่งย้าย(1)

ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก

ตอนที่ 470 คำสั่งย้าย(1)

ตอนที่ 470 คำสั่งย้าย(1)

เหยาจิ้งจือเห็นฉินมู่หลานตอบตกลงทันที ในใจก็รู้สึกโล่ง “อย่างนั้นก็ดี งั้นพวกเราตกลงตามนี้นะ”

เมื่อเซี่ยเจ๋อหลี่กลับมา ฉินมู่หลานก็บอกเรื่องนี้กับเขา

เซี่ยเจ๋อหลี่ก็ไม่คัดค้านอะไรเหมือนกัน จึงพยักหน้าแล้วพูดขึ้น “ได้ งั้นให้คนโตใช้แซ่เหยา”

ถึงจะรู้สึกไม่ค่อยชอบใจนิดหน่อย แต่เรื่องนี้ก็เป็นอันตกลงกันแล้ว จึงต้องทำตามที่พูด ตอนนี้เขาเป็นห่วงภรรยาตัวน้อยของตัวเองเสียมากกว่า

“มู่หลาน วันนี้คุณรู้สึกยังไงบ้าง ไม่สบายตรงไหนไหม”

ฉินมู่หลานยกยิ้มแล้วหันมองเซี่ยเจ๋อหลี่ก่อนจะบอกกล่าว “วางใจเถอะค่ะ ฉันไม่เป็นไร ก่อนหน้านี้ที่ตั้งท้องชิงชิงกับเฉินเฉิน ก็ไม่เห็นเป็นไรเลย”

“ตอนนั้นคุณคลอดก่อนกำหนด เพราะฉะนั้นครั้งนี้จะต้องรีบไปโรงพยาบาลเร็วหน่อย”

“ไม่ต้องห่วงหรอกค่ะ ฉันจะเตรียมตัวล่วงหน้าแน่นอน ผ่านครั้งแรกมาได้ครั้งสองก็สบายแล้ว ครั้งนี้จะต้องเตรียมตัวได้ดีกว่าแน่นอน”

เซี่ยเจ๋อหลี่เห็นสีหน้าของฉินมู่หลานดูมุ่งมั่น ก็ไม่ได้พูดอะไรอีก

ฉินมู่หลานมองไปเซี่ยเจ๋อหลี่แล้วเอ่ยถาม “เช้านี้ไม่ต้องออกไปทำธุระหรอกเหรอคะ จัดการเรียบร้อยแล้วเหรอ?”

เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ บนใบหน้าของเซี่ยเจ๋อหลี่ก็เต็มไปด้วยรอยยิ้ม

“จัดการเรียบร้อยหมดแล้ว ผมได้รับคำสั่งย้ายแล้ว อีกสองวันผมจะไปฐานทัพที่ปักกิ่งเพื่อเข้ารายงานตัว”

เมื่อได้ยินแบบนี้ แววตาของฉินมู่หลานก็เต็มไปด้วยรอยยิ้ม

“ดีจังเลย ต่อไปพวกเราจะได้อยู่ใกล้กันแล้ว”

“ใช่ ถ้ามีเวลาว่าง ผมจะกลับมาที่บ้านบ่อย ๆ”

เมื่อนึกถึงความพยายามของเซี่ยเจ๋อหลี่ที่ย้ายมาที่นี่ ฉินมู่หลานก็อดสัมผัสรอยแผลเป็นจาง ๆ บนแก้มของเขาไม่ได้ ก่อนจะเอ่ย “ต่อไปต้องใส่ใจเรื่องความปลอดภัยมากขึ้นนะคะ”

“เรื่องนั้นแน่นอนอยู่แล้ว ผมกับคุณมีชิงชิงกับเฉินเฉินแล้ว ตอนนี้ก็ยังมีเด็กอีกสองคนที่ยังไม่คลอดอีก ผมต้องระมัดระวังให้มากกว่าเดิมอยู่แล้ว”

เมื่อเห็นเซี่ยเจ๋อหลี่เอ่ยรับปาก ฉินมู่หลานก็อดยิ้มไม่ได้ จากนั้นก็พูดถึงเรื่องในวันพรุ่งนี้

“จริงสิ พรุ่งนี้พวกเราไปบ้านหรูฮวนกันเถอะ ไปสวัสดีปีใหม่คุณอาเสิ่นกัน จะได้ไปเยี่ยมหรูฮวนกับลูกด้วย”

เซี่ยเจ๋อหลี่ได้ยินแบบนี้ก็พยักหน้าแล้วบอกกล่าว “ได้สิ สองวันนี้ซวี่ตงก็อยู่ จะได้เจอเขาพอดี”

เมื่อถึงวันรุ่งขึ้น ฉินมู่หลานกับเซี่ยเจ๋อหลี่ก็พาพวกเด็ก ๆ ไปที่บ้านตระกูลเสิ่น

เสิ่นหรูฮวนเห็นพวกเขามาหาก็รู้สึกดีใจมาก คั้งแต่คลอดลูกหล่อนก็ไม่ได้ออกไปไหนเลย เพราะแม่ให้หล่อนอยู่เดือนตลอดทั้งสองเดือน หลังจากครบสองเดือนแล้วก็ถึงวันปีใหม่พอดี หล่อนจึงได้อยู่แต่ในบ้าน

ถงทิงผิงก็ดีใจมากที่เห็นครอบครัวของฉินมู่หลานมา เมื่อเห็นเด็กทั้งสองก็รีบมอบอั่งเปาให้พวกเขา จากนั้นจึงมองฉินมู่หลานด้วยสีหน้าแปลกใจก่อนจะเอ่ยถาม “มู่หลาน เธอ…ท้องอีกแล้วเหรอ?”

ถึงแม้ว่าจะยังดูไม่ค่อยชัด แต่ฉินมู่หลานก็ดูเหมือนกำลังท้อง

ฉินมู่หลานก็ไม่ปฏิเสธ พยักหน้าแล้วบอกกล่าวตามตรง “ใช่ค่ะ ท้องอีกแล้วค่ะ”

เมื่อได้ยินแบบนี้ ถงทิงผิงก็รีบเอ่ยแสดงความยินดีทันที

เสิ่นหรูฮวนที่อยู่ข้าง ๆ ก็มีสีหน้าตื่นเต้นประหนึ่งเป็นผู้โชคดีแล้วเอ่ยขึ้น “มู่หลาน ยินดีด้วยจริง ๆ นะ” พูดจบก็เอ่ยด้วยความอิจฉา “มู่หลาน เธอนี่ยอดไปเลย หลังจากได้ชิงชิงกับเฉินเฉินแล้วก็ท้องอีกครั้งด้วย”

ยุคสมัยนี้หากมีลูกมาก็ประหนึ่งได้รับพร เพราะฉะนั้นการมีลูกจึงเป็นเรื่องดี

ฉินมู่หลานได้ยินแบบนี้ก็อดพูดไม่ได้ “หรูฮวน เธอเพิ่งคลอดนะ จะต้องอิจฉาอะไรอีก คลอดลูกแล้วเลี้ยงดูพวกเขามันเหนื่อยมากนะ”

ครั้งนี้เธอจะไม่ยอมท้องอีกแน่นอน ท้องสองรอบได้ลูกสี่คนก็เพียงพอแล้ว และครั้งนี้เธอก็ตั้งครรภ์โดยไม่ทันได้เตรียมตัวด้วย แต่ในเมื่อมีแล้วก็ต้องปล่อยให้เป็นไป ครั้งต่อไปต้องป้องกันแล้ว

เสิ่นหรูฮวนได้ยินแบบนี้ ก็นึกถึงการคลอดครั้งล่าสุดไม่ได้ ก่อนจะพยักหน้าด้วยความเห็นอกเห็นใจที่สุด พลางกล่าวขึ้น “ใช่ เป็นงานที่เหนื่อยจริง ๆ”

อีกด้านหนึ่ง ฟู่ซวี่ตงเห็นเซี่ยเจ๋อหลี่แล้วก็รีบเดินเข้ามาหาพร้อมรอยยิ้ม กล่าวขึ้น “อาหลี่ ตอนแรกฉันว่าจะไปหานายพรุ่งนี้ ไม่คิดเลยว่านายจะมาหาก่อนแล้ว”

เซี่ยเจ๋อหลี่เห็นฟู่ซวี่ตง ก็เดินตรงไปหาพร้อมรอยยิ้มตามเคย ก่อนจะตบบ่าเขาแล้วเอ่ยถาม “กลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่”

“เมื่อวานเพิ่งถึง ฉันคิดว่านี่เป็นปีใหม่ครั้งแรกหลังจากที่เด็ก ๆ คลอด ก็เลยพยายามกลับมาให้ได้” แต่หลังจากพูดจบ เขาก็นึกถึงข่าวที่ได้ยินก่อนหน้านี้ “อาหลี่ นายกำลังจะย้ายฐานเหรอ?”

เซี่ยเจ๋อหลี่พยักหน้าแล้วเอ่ย “ใช่ คำสั่งโอนย้ายลงมาแล้ว อีกสองวันฉันจะไปรายงานตัวที่ฐานทัพปักกิ่ง”

เมื่อได้ยินแบบนี้ สีหน้าของฟู่ซวี่ตงก็ดูซับซ้อนยากจะอธิบาย

“อาหลี่ ถ้าอย่างนั้นต่อไปพวกเราก็จะไม่ได้มีโอกาสต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กันแล้วน่ะสิ”

แต่ถึงอย่างนั้นเซี่ยเจ๋อหลี่ก็หันมองฟู่ซวี่ตงพร้อมรอยยิ้มก่อนจะเอ่ย “ยังมีโอกาสอยู่นะ ฉันย้ายมาแล้ว นายก็มีโอกาสย้ายมาที่นี่เหมือนกัน”

ฟู่ซวี่ตงได้ยินแบบนี้ก็เริ่มลำบากใจ แต่ไหนแต่ไรเขาไม่เคยคิดใช้เส้นสายเด็ดขาด แต่ครั้งนี้กลับแอบคิดแบบนั้น อันที่จริงด้วยผลงานของเขาแล้ว จำเป็นต้องทำภารกิจเพิ่มจึงจะมีโอกาสได้โอนย้ายมาประจำการที่เมืองหลวง หากเป็นอย่างนั้น เขาก็จะสามารถอยู่ใกล้หรูฮวนกับลูกได้มากขึ้น

“ใช่ ฉันลองคิดแล้ว ยังไงย้ายมาที่นี่ก็ดีกว่า”

ที่ผ่านมาเซี่ยเจ๋อหลี่ทำงานร่วมกับฟู่ซวี่ตงมาตลอด จึงหวังให้เขาย้ายมาประจำการที่นี่โดยเร็วที่สุด “ถ้ามีเรื่องอะไรนายก็แค่บอก จริง ๆ ก่อนหน้านี้ที่ฉันบอกนายว่าจะย้ายมาประจำการที่นี่ นายก็น่าจะเตรียมตัวให้พร้อม”

“ตอนนั้นฉันกำลังมีเรื่องให้คิดเยอะ สิ่งเดียวที่ใส่ใจในตอนนั้นคือมาให้ทันหรูฮวนคลอด นอกเหนือจากเรื่องนี้ก็ไม่ได้สนใจเลย”

เซี่ยเจ๋อหลี่ก็ทราบว่าเสิ่นหรูฮวนคลอดก่อนกำหนด ฟู่ซวี่ตงไม่ทันได้ตั้งตัว จึงกล่าวพร้อมรอยยิ้ม “โชคดีที่ทุกคนปลอดภัย เพราะฉะนั้นตอนนี้นายคิดเรื่องนี้ได้แล้วล่ะ”

“ได้ ฉันจะคิดให้รอบคอบ”

หลังจากทั้งสองคุยกันเสร็จ เสิ่นเจิ้นอวี๋ก็เพิ่งกลับมา จากนั้นจึงชวนพวกเขาดื่มชา

ครอบครัวของฉินมู่หลานทั้งสี่คนอยู่รับประทานอาหารกลางวันเสร็จก่อนจะกลับไป เมื่อพวกเขากลับถึงบ้านก็พบว่าซูหว่านอี๋กับพวกฉินเจี้ยนเซ่อกลับมากันแล้ว ที่ตามพวกเขามาด้วยคือคุณปู่กับคุณย่าฉิน

ฉินมู่หลานเห็นคุณปู่กับคุณย่าฉิน ก็รีบก้าวตรงไปหาด้วยสีหน้าตื่นเต้น “คุณปู่คุณย่า ในที่สุดทุกคนก็มา”

เมื่อคุณปู่กับคุณย่าฉินได้พบฉินมู่หลาน ใบหน้าของพวกเขาก็เต็มไปด้วยความตื่นเต้น

“มู่หลาน ไม่เจอกันนานเลย”

ฉินมู่หลานก้าวเดินไปข้างหน้าแล้วกอบกุมมือคุณย่าฉิน พลางเอ่ยขึ้น “ใช่ค่ะคุณปู่คุณย่า พวกเราไม่ได้เจอกันนานเลย”

“ได้ยินว่าหลานท้องอีกแล้ว ครั้งนี้ก็เลยไม่ได้กลับไปที่บ้านเกิด แล้วนี่ทุกอย่างเรียบร้อยดีไหม”

เมื่อได้ยินคุณย่าฉินพูด ฉินมู่หลานก็รีบพยักหน้าแล้วบอกกล่าว “คุณย่าวางใจค่ะ ทุกอย่างเรียบร้อยดี”

“ดี ๆ”

คุณย่าฉินดึงฉินมู่หลานเข้าไปข้างใน จากนั้นก็ประคองให้เธอนั่งลง

คุณปู่ฉินมองฉินมู่หลานแล้วพูดขึ้น “มู่หลาน เดี๋ยวปู่ตรวจชีพจรให้หลานเอง”

ฉินมู่หลานไม่ปฏิเสธอยู่แล้ว พลางยิ้มแล้วยื่นมือออกไป

คุณปู่ฉินตรวจชีพจรอย่างถี่ถ้วน จากนั้นก็หันมองฉินมู่หลานด้วยหน้าตาตื่นเต้นแล้วบอกกล่าว “มู่หลาน ครั้ง…ครั้งนี้หลานก็ได้ลูกแฝดอีกแล้วเหรอ?”

เขารู้สึกว่าความรู้สึกของตัวเองไม่ผิดแน่ แต่ก็ยังรู้สึกแปลกใจนิดหน่อย

ซูหว่านอี๋มองลูกสาวด้วยความแปลกใจก่อนจะเอ่ยถาม “มู่หลาน จริงเหรอเนี่ย?”

ฉินมู่หลานยิ้มพลางหันมองคุณปู่ฉินแล้วพูดขึ้น “ดาบของคุณปู่ยังคงคมเหมือนเดิมตามคาดเลยค่ะ ครั้งนี้หนูท้องลูกแฝดจริง ๆ”

“ฮ่าๆๆ…ดูเหมือนว่าทักษะทางการแพทย์ของปู่จะยังไม่ด้อยอีกทั้งยังพยายามฝึกฝนมากขึ้นด้วยนะ” ในปีที่ผ่านมา ผู้คนในหมู่บ้านเริ่มเข้ารับการรักษาจากเขามากขึ้น เขาจึงเริ่มศึกษาอีกครั้ง

ฉินเจี้ยนเซ่อยิ้มแล้วบอกกล่าว “พ่อครับ พ่อเก่งอยู่แล้วนะ”

พอเขาทราบว่าลูกสาวท้องลูกแฝดอีกครั้งก็ดีใจมาก

แต่เซี่ยเจ๋อหลี่นึกถึงเรื่องที่ตกลงกับนายท่านเหยาเอาไว้ก่อนหน้านี้ จึงรีบบอกว่าลูกคนโตจะให้ใช้แซ่เหยาในทันที

“อะไรนะ…”

……………………………………………………………………………………………………………………….

สารจากผู้แปล

ย้ายมาอยู่ปักกิ่งแล้ว คราวนี้ก็อย่าบาดเจ็บกลับมาบ่อยนักนะพี่หลี่ เห็นบาดเจ็บมาหลายรอบแล้ว

ลำบากมู่หลานแล้วนะคะที่ต้องคลอดลูกแฝดอีกรอบ

ไหหม่า(海馬)

ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก

ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก

Status: Ongoing
เมื่อแพทย์สาวมือฉมังพบว่าตนเองได้กลายเป็นหญิงอ้วนผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรในยุค 70 ผู้ไม่เป็นที่รักของสามี เธอจะเปลี่ยนเป็นคนใหม่ที่สามีคลั่งรักได้หรือไม่กันนะ?ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก[嫁七零糙汉后,我双胞胎体质藏不住]ผู้แต่ง : 钰儿เรื่องย่อหลังผชิญวรหนักจนวูบ ฉินมู่หลาน แพทย์สาวมือฉมังก็พบว่าตนองได้มาสวมร่างของหญิงอ้วนหลานสาวผู้เชี่ยวชาญด้นสมุนไพรในยุค 70 ผู้ไม่มีอะไรดีสักอย่างนอกจากได้สามีหล่อเหลานิสัยดีผู้แสนเย็นขาจากความลั่งรักของตัวเองจจับเขามาแต่งงด้วยสำเร็จ ซึ่งกรสวมวิญญาณในครั้งนี้เธอได้รับภารกิจหลักสามอย่าง หนึ่งคือสร้างเนื้อสร้างตัว สองคือลดน้ำหนักให้ตนเองทำงานทำการสะดวกขึ้น และสามคือทำให้สามีเป็นฝ่ายคลั่งรักเธอแทน คุณหมอฉินจะทำสำเร็จหรือไม่ จะเปลี่ยนเป็นฉินมู่หลานคนใหม่ที่สามีคลั่งรักได้หรือไม่กันนะ?

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท