สตรีแกร่งตระกูลไป๋ – ตอนที่ 1286 ไม่เป็นผลดี

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

ตอนที่ 1286 ไม่เป็นผลดี

ปลาคาร์ปสีแดงในบ่อปลาสีคราวที่มีขนาดกว้างแกว่งหางของตัวเองอย่างแรงจนน้ำในบ่อกระเด็นโดนหลังมือของไทเฮา ไทเฮาจึงได้สติขึ้นทันที

“สัตว์เดรัจฉานนี่…”

นางกำนัลข้างกายของไทเฮารีบเข้าไปรับอาหารปลามาจากมือของไทเฮา จากนั้นหยิบผ้าเช็ดหน้าออกมาเช็ดหลังมือให้ไทเฮาพลางหันไปสั่งให้นางกำนัลคนอื่นไปเตรียมชุดให้ไทเฮาเปลี่ยน

สติของไทเฮาไม่อยู่กับตัว นางชักมือตัวเองออกจากมือของนางกำนัลพลางเอ่ยถาม

“อ๋องเก้าเดินทางถึงเมืองหลวงแล้วหรือไม่ ได้ยินว่าอาลี่ออกไปต้อนรับเขาด้วยตัวเอง เหตุใดจึงไม่มีคนมารายงานเราสักคนว่าอ๋องเก้ามาถึงแล้วหรือไม่”

“ตอนนี้ต้าโจวตั้งค่ายทหารประชิดชายแดนต้าเยี่ยนอยู่ หากอ๋องเก้าเสด็จมาถึงคงต้องรีบปรึกษาหาทางแก้ปัญหาเรื่องนี้กับฝ่าบาทและเหล่าขุนนางก่อน เมื่อปรึกษาเรื่องสำคัญเสร็จแล้วฝ่าบาทและอ๋องเก้าต้องเสด็จมาเข้าเฝ้าไทเฮาแน่เพคะ ไทเฮาไม่ต้องทรงกังวลเพคะ”

นางกำนัลกล่าวปลอบไทเฮา

ไทเฮาก้มหน้าลง เมื่อเห็นว่าในตำหนักไม่มีคนอื่นอยู่จึงพึมพำออกมาเบาๆ

“ข้ากลัวว่าอาเหยี่ยนจะโทษข้าและไม่ยอมมาพบข้าน่ะสิ”

นางกำนัลมองสำรวจรอบห้องด้วยความกังวล นางเข้าไปเช็ดแขนเสื้อให้ไทเฮาพลางกล่าวขึ้น

“ไทเฮาอย่างทรงคิดมากเพคะ ถึงแม้ท่านอ๋องเก้าจะโกรธท่าน ทว่า องค์ชายสองกตัญญูต่อท่านมาโดยตลอด เขาจะมาคารวะท่านทุกคนที่กลับมาจากสงคราม หากองค์ชายสองยังไม่เสด็จมาแสดงว่าพวกเขากำลังปรึกษาเรื่องสำคัญอยู่กับฝ่าบาทแน่นอนเพคะ”

ไทเฮาได้ยินเช่นนี้จึงพยักหน้าน้อยๆ นางเอ่ยปลอบตัวเองพลางตบหลังมือของนางกำนัลยิ้มๆ

“หลายปีมานี้ข้าโชคดีที่ข้ามีเจ้าคอยอยู่ข้างกายเพื่อเตือนสติและปลอบโยนข้า”

“ไทเฮาตรัสอันใดเช่นนี้เพคะ บ่าวแค่มองจากมุมของคนนอกเท่านั้น จะกล้าเตือนสติเจ้านายของตัวเองได้เช่นไรเพคะ” นางกำนัลข้างกายของไทเฮากล่าวยิ้มๆ

ไทเฮายิ้มน้อยๆ พลางจับมือนางกำนัลเดินเข้าไปเปลี่ยนเครื่องแต่งกายด้านหลังตำหนัก

ไทเฮาเปลี่ยนเครื่องแต่งกายเรียบร้อยก็ได้ยินขันทีรายงานว่าพี่ชายของนางลอบสั่งให้ขันทีมาเชิญนางไปที่ตำหนักหน้า

“ไม่ได้บอกว่ามีเรื่องอันใดอย่างนั้นหรือ”

“ทูลไทเฮา บ่าวไม่ทราบพ่ะย่ะค่ะ” ขันทีตอบเสียงเบา

“นายท่านกั๋วจิ้วเหย่[1]ให้บ่าวมาเชิญไทเฮาเสด็จไปที่ตำหนักหน้าเท่านั้น ไม่ได้กล่าวสิ่งใดอีกพ่ะย่ะค่ะ”

“ไทเฮาจะเสด็จไปหรือไม่เพคะ” นางกำนัลเอ่ยถาม

ไทเฮานิ่งคิดอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นกล่าวขึ้น “ไปดูสักหน่อยเถิด”

นางกำนัลของไทเฮารับคำแล้วก้มลงจัดเครื่องแต่งกายให้ไทเฮา จากนั้นประคองไทเฮาเดินออกไปจากตำหนักพลางตะโกนขึ้น “นำเกี้ยวมา!”

ไม่นานเกี้ยวของไทเฮาก็ถูกแบกมาถึงตำหนักหน้า ไทเฮายังไม่ทันเดินเข้าไปในตำหนักก็ได้ยินเสียงทะเลาะกันดังลั่นแว่วออกมาเสียก่อน นางชะงักฝีเท้าหยุดยืนฟังความเคลื่อนไหวอยู่นอกตำหนัก

“ขอเข้าเฝ้าไทเฮาของพวกข้าเพื่อสอบสวนซึ่งๆ หน้าอย่างนั้นหรือ! เชลยอย่างพวกเจ้ามีสิทธิ์อันใดเข้าเฝ้าไทเฮาของพวกข้ากัน อย่าฝันหวานไปหน่อยเลย!”

“เจ้ากล่าวว่าแม่ทัพชราชุยซานจงของพวกเจ้าทำข้อตกลงกับไทเฮาของพวกเราก็ถือเป็นหลักฐานแล้วอย่างนั้นหรือ ผู้ใดจะรู้ว่าเจ้าจงใจยุยงให้ต้าเยียนและต้าโจวแตกคอกันเองเพราะแค้นที่ซีเหลียงถูกทำลายจนดับสูญหรือไม่!”

“นั่นนะสิ มิเช่นนั้นก็อาจเป็นเพราะต้าโจวคิดตัวเองแข็งแกร่งกว่าจนอยากหาข้ออ้างโจมตีต้าเยี่ยนของพวกเราก็ได้ พวกเจ้าอาจถูกต้าโจวซื้อตัวไปนานแล้วหรือบางทีพวกเจ้าอาจไม่ใช่คนสนิทของแม่ทัพชราชุยซานจงจริงๆ แต่เป็นคนของต้าโจวก็ได้ ไทเฮาของพวกเราพบคนของแคว้นพันธมิตรของตัวเองถือเป็นเรื่องปกติ นี่อาจเป็นกับดักของต้าโจวตั้งแต่แรกแล้วก็ได้!”

ขุนนางต้าเยี่ยนทะเลาะกันเองด้วยความโมโห

“แล้วอย่างไร” เซียวหรงเหยี่ยนเอ่ยขึ้นช้าๆ “ถึงแม้นี่จะเป็นกับดักของต้าโจว ทว่า ตอนนี้กองกำลังหลักของต้าเยี่ยนติดอยู่ที่ซีเหลียง กองทัพของต้าโจวจ่อประชิดชายแดนต้าเยี่ยนอยู่เช่นนี้ หากต้าเยี่ยนให้คำตอบต้าโจวไปว่าเรื่องทั้งหมดคือกับดักของต้าโจวตั้งแต่แรก ต้าโจวจะยอมยกทัพกลับอย่างนั้นหรือ”

สิ้นเสียงของเซียวหรงเหยี่ยนขุนนางที่กำลังเดือดดาลและใส่ร้ายว่าเป็นแผนการของต้าโจวเมื่อครู่มองไปทางพี่ชายของไทเฮาด้วยความตื่นตระหนกแวบหนึ่ง จากนั้นรีบถอยกลับไปยืนรวมกลุ่มกับขุนนางคนอื่นทันที

“ตอนนั้นแม่ทัพฉู่ของต้าเยี่ยนยอมรับเองว่าเขาทรยศต้าโจว ต่อมาต้าโจวจับคนสนิทของแม่ทัพชราชุยซานจงได้จนรู้ว่าเสด็จแม่เป็นคนขายข่าวของต้าโจวให้ซีเหลียง!”

มู่หรงผิงยืนเอามือไขว้หลังพลางขมวดคิ้วแน่น

“ดังนั้นหากไม่พิจารณาเรื่องกองกำลัง แค่พิจารณากันด้วยเรื่องนี้ไม่ว่ามองจากมุมใดต้าเยี่ยนก็เป็นคนผิดอยู่ดี! ต้าโจวแบ่งผลประโยชน์ในสงครามให้พวกเรามากกว่าทุกครั้ง ทว่า ต้าเยี่ยนของพวกเรากลับแทงข้างหลังพวกเขาเช่นนี้จะยิ่งทำให้ใต้หล้ามองพวกเราเป็นน่าไม่อาย ยิ่งทำให้ต้าโจวมีเหตุผลในการบุกโจมตีพวกเราอย่างชอบธรรม!”

“เรื่องนี้…ต้าเยี่ยนทรยศต้าโจวก่อนจริงๆ เราสืบรู้ความจริงเรื่องนี้อย่างชัดเจนแล้ว ไม่จำเป็นต้องเถียงกันอีก”

มู่หรงลี่กล่าวขึ้นอย่างไม่รีบร้อน

“ทว่า ตอนนี้การโทษว่าผู้ใดเป็นคนผิดไม่มีความหมายอีกต่อไปแล้ว ครั้งนี้ต้าโจวมีเหตุผลที่จะนำทัพบุกโจมตีแคว้นของพวกเราอยู่ในมือ ที่สำคัญพวกเราทำผิดต่อพวกเขาก่อนจริงๆ”

มู่หรงลี่เงยหน้ามองขุนนางทุกคนที่อยู่ในตำหนัก

“ฝ่าบาททรงยอมรับว่าต้าเยี่ยนทรยศต้าโจวแล้วหรือพ่ะย่ะค่ะ”

ขุนนางที่ติดตามรับใช้เซียวหรงเหยี่ยนแสร้งเบิกตาโพลงมองไปทางมู่หรงลี่ด้วยความตกใจ

“คำกล่าวของคนสนิทสองคนของแม่ทัพชราชุยซานจงที่กล่าวว่าไทเฮาสมคบคิดกับซีเหลียงจนคุณชายห้าของกองทัพไป๋ถูกซีเหลียงจับตัวไปเป็นตัวประกันเป็นเรื่องจริงอย่างนั้นหรือพ่ะย่ะค่ะ”

ขุนนางฝ่ายของผู้สำเร็จราชการแห่งต้าเยี่ยนอยากดึงสตรีที่ไม่รู้ความอย่างไทเฮาลงมาจากตำแหน่งเสียตั้งแต่ตอนนี้ นางไม่เพียงไม่ทำตัวให้เป็นประโยชน์ กลับสร้างปัญหาให้ต้าเยี่ยนเช่นนี้ ผู้สำเร็จราชการของพวกเขาดูแลจักรพรรดิองค์น้อยเพียงคนเดียวก็ปวดหัวพอแล้ว ไหนจะต้องมานั่งตามล้างตามเช็ดปัญหาที่ไทเฮาก่อขึ้นมาอีก ช่างน่างสงสารเสียจริง

มู่หรงลี่เม้มปากแน่น ไม่นานจึงส่งสัญญาณให้ทหารพาคนสนิทของแม่ทัพชราชุยซานจงออกไปก่อน เมื่อในตำหนักไม่มีคนนอกอีกต่อไปมู่หรงลี่จึงกล่าวขึ้นต่อ

“เรารู้ว่าตอนที่คุณชายห้าของกองทัพไป๋ถูกจับตัวไปจักรรพรรดินีแห่งต้าโจวสั่งให้ทหารยกทัพมาประชิดชายแดนต้าเยี่ยนเพราะความโกรธ นับแต่นั้นเป็นต้นมาเราก็เอาแต่คิดหาวิธีรับมือกับต้าโจวหากคุณชายห้าหรือคุณหนูเจ็ดของตระกูลไป๋เป็นอันใดไปขึ้นมาจริงๆ มาโดยตลอด…”

เซียวหรงเหยี่ยนนั่งเอนกายพิงอยู่บนเก้าอี้ข้างบัลลังก์ประดับมุกของมู่หรงลี่ เขารู้ว่ามู่หรงลี่กำลังจะเอ่ยถึงเรื่องการแข่งขันด้วยระบอบการปกครองของสองแคว้นจึงได้แต่ฟังนิ่งๆ

“เราพิจารณากองกำลังของต้าเยี่ยนในตอนนี้ คำนวณเสบียงอาหารทั้งหมดที่สามารถนำออกมาใช้ในการทำสงครามกับเสนาบดีการคลังเรียบร้อยแล้ว”

มู่หรงลี่มองไปทางเสนาบดีการคลัง

เสนาบดีการคลังรีบโค้งคำนับเพื่อยืนยันว่ามีเรื่องนี้จริง

“กองทัพหลักของแม่ทัพเซี่ยสวินกลับมาไม่ได้ ต้าเยี่ยนไม่มีเสบียงอาหารที่เพียงพอในการทำสงคราม หากกองทัพต้าโจวบุกเข้ามาในต้าเยี่ยน…”

น้ำเสียงของมู่หรงลู่เคร่งขรึมขึ้นทันที

“ต้าเยี่ยนของพวกเราไม่มีทางชนะต้าโจวแน่นอน!”

ขุนนางในราชสำนักเงียบกริบ แม้แต่จงสิงเสี่ยวก็เงียบไปเช่นเดียวกัน พวกเขารู้ดีว่ามู่หรงลี่กล่าวถูกต้อง สถานการณ์ในตอนนี้ไม่เป็นผลดีต่อแคว้นต้าเยี่ยนแม้แต่น้อย

[1]กั๋วจิ้วเหย่ คือคำเรียกพี่ชายของภรรยาของจักรพรรดิของแคว้น

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

Status: Ongoing
นิยายจีนโบราณเข้มข้น ปะทะคารม ทดสอบไหวพริบ สนุกถึงใจ!เพราะถูกคนชั่วหลอกใช้ชาติก่อนคนทั้งตระกูลของนางจึงต้องตายอย่างน่าอนาถ ไร้ซึ่งคนทวงถามความเป็นธรรมชาตินี้นางหวนกลับมาก่อนเรื่องราวเกิดขึ้น แม้เพียงเล็กน้อยแต่หากสามารถช่วยเหลือคนในครอบครัวได้แม้สักคนนางก็ยินดีทุ่มเทกำลังให้ถึงที่สุดสตรีตระกูลไปแต่ไรมาแกร่งกล้ำเพียบพร้อมบุ๋นบู๊ แม้ไร้ซึ่งที่พึ่งพิงแล้วจริงแต่ก็จะไม่ยอมให้ผู้ใดมากดขี่ได้!และเพราะเรื่องราวที่เปลี่ยนแปลงไปนางจึงได้พบกับ ‘เขา’ ไวกว่าชาติก่อนเขาผู้นี้แม้ภายนอกดูป็นมิตรและสง่งามกว่าใคร แต่นงแจ่มแจ้งดีว่าเขาเจ้าเล่ห์และอำหิตมากเพียงไหนชาติก่อนแม้ยืนกันคนละฝั่งแต่บุรุษผู้นี้กลับเป็นผู้มอบทางรอดให้แก่นาง อย่างนั้นชาตินี้นางก็ย่อมตอบแทนเขาเป็นอย่างดีเช่นกัน“แม่นางไปช่วยเหลือข้าหลายครั้งหลายครา ใช่ว่าชื่นชอบข้าหรือไม่?”“คุณชายเข้าใจผิดแล้วล่ะ”“ข้าช่วยเหลือแม่นางไปมาหลายครั้งหลายครา แม่นางไปมีใจชื่นชอบข้าบ้างหรือไม่?”“…”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท