ตอนที่ 1291 มีชื่อเสียงเป็นที่จารึกยาวนาน
“กระหม่อมคิดว่าไทเฮาควรมั่นใจในตัวฝ่าบาทพ่ะย่ะค่ะ” จงสิงเสี่ยวกล่าวเสียงอ่อนโยนกว่าเดิม ถ้อยคำที่เรียกมู่หรงลี่เปลี่ยนไปเช่นเดียวกัน “อาลี่เป็นเด็กที่รู้ขอบเขตมาตั้งแต่เล็ก เขาฉลาดตั้งแต่เด็ก เป็นคนกล้าหาญและละเอียดรอบคอบ ที่สำคัญตั้งแต่ต้าโจวเริ่มใช้ระบอบการปกครองใหม่ อาลี่ได้รับรายงานจากสายลับในต้าโจวอยู่เสมอ กระหม่อมได้ยินขันทีข้างกายอาลี่บอกว่าอาลี่ตั้งใจอ่านรายงานเหล่านั้นทุกฉบับพ่ะย่ะค่ะ”
ไทเฮาพยักหน้า “ข้ารู้เรื่องนี้เช่นเดียวกัน”
ตอนนั้นไทเฮารู้สึกว่าอาลี่ลำบากเกินไปจึงไปบอกให้เขาผ่อนปรนบ้าง นางบอกว่าต้าโจวเป็นเพียงแคว้นที่ลอกเลียนแบบสติปัญญาของผู้อื่นเท่านั้น อาลี่ไม่จำเป็นต้องใส่ใจระบอบการปกครองใหม่ของต้าโจวถึงเพียงนี้ แค่ดูแลปกครองต้าเยี่ยนให้ดีก็พอ แม้อาลี่จะรับปากนาง ทว่า ลับหลังเขาก็ยังแอบอ่านระบอบการปกครองของต้าโจวต่ออยู่ดี
“ดังนั้นอาลี่น่าจะรู้แล้วว่าระบอบการปกครองของต้าโจวสู้พวกเราไม่ได้เขาจึงกล้าส่งทูตไปพนันกับต้าโจวเพื่อช่วยเหลือแคว้นต้าเยี่ยนของพวกเราเช่นนี้” ใบหน้าของจงสิงเสี่ยวเต็มไปด้วยรอยยิ้ม “เพียงแต่อาลี่อายุยังน้อย เขาถูกผู้สำเร็จราชการกดดันในราชสำนัก อีกทั้งต้องการปกป้องมารดาอย่างพระองค์ เมื่อเขาใจร้อนจึงยิ่งอธิบายสิ่งใดไม่ชัดเจนก็เท่านั้น”
ไทเฮากำหมัดแน่น นางรู้สึกซาบซึ้งใจมาก แม้ตั้งแต่วันที่พวกนางสองแม่ลูกทะเลาะกันวันนั้นอาลี่จะไม่เคยมาสนทนากับนางอีกเลย ทว่า อาลี่เกิดมาจากท้องของนางซึ่งตั้งท้องเขามากว่าสิบเดือน ในใจของอาลี่ยังมีแม่อย่างนางอยู่เสมอ
อาลี่คิดวิธีนี้ขึ้นมาก็เพื่อปกป้องแม่อย่างนาง
ไทเฮาฝืนกลั้นน้ำตาไม่ให้ไหลลงมา จากนั้นหันไปทางพี่ชายของตัวเอง “ข้ารู้แล้ว กลับไปข้าจะไปเกลี้ยกล่อมอาเหยี่ยนเอง ข้าจะโน้มน้าวให้อาเหยี่ยนเห็นด้วยกับความคิดของอาลี่ ไม่แน่ครั้งนี้อาลี่อาจทำให้ต้าเยี่ยนได้ต้าโจวมาครอบครองโดยที่ทหารไม่ต้องเสียเลือดเนื้อเลยก็ได้ เขาจะมีชื่อจารึกในประวัติศาสตร์ไปอีกยาวนานทีเดียว”
“ถึงแม้พวกเราอาจได้ต้าโจวมาครอบครองโดยไม่ต้องทำสงคราม ทว่า พวกเราควรเตรียมแผนสำรองไว้ด้วยพ่ะย่ะค่ะ” จงสิงเสี่ยวกล่าวขึ้นช้าๆ “กระหม่อมไม่มีอำนาจไปกล่าวกับอ๋องเก้า หากอ๋องเก้ายอมเห็นด้วยกับความคิดของฝ่าบาท ไทเฮาโปรดช่วยบอกให้อ๋องเก้าเตรียมแผนสำรองทางทหารเพื่อรับมือกับต้าโจวไว้ด้วยนะพ่ะย่ะค่ะ”
ไทเฮาเห็นท่าทีจงรักภักดีของพี่ชายก็ยิ่งรู้สึกซาบซึ้ง นางกล่าวเสียงเบา “ทำให้ท่านพี่ลำบากแล้ว อาเหยี่ยนกับอาลี่ยังเด็กจึงไม่ยอมเชื่อใจท่านพี่ ทว่า ข้ารู้ดีว่าท่านพี่ทำไปทั้งหมดเพราะหวังดีกับต้าเยี่ยนของพวกเราจริงๆ !”
จงสิงเสี่ยวได้ยินคำกล่าวของน้องสาวจึงคิดว่าที่น้องสาวเชื่อว่ามู่หรงเหยี่ยนในตอนนี้ยังเป็นคนเดียวกับมู่หรงเหยี่ยนในตอนที่สามีของนางยังมีชีวิตอยู่เพราะนางรักสามีของนางมาก เขาไม่อยากเถียงเรื่องนี้กับน้องสาวให้น้องสาวรู้สึกไม่ดีกับเขา เขาจึงพยายามแสดงออกอย่างอ่อนน้อมที่สุด เขาก้าวถอยหลังไปสามก้าวเพื่อโค้งคำนับไทเฮา จากนั้นแสร้งกล่าวเสียงสะอื้นเล็กน้อย “ทำเพื่อต้าเยี่ยนคือหน้าที่ของกระหม่อม! ขอเพียงไทเฮาเชื่อพระทัยในตัวกระหม่อม ต่อให้กระหม่อมต้องตายก็ไม่คิดเสียดายชีวิตพ่ะย่ะค่ะ”
“ท่านพี่รีบลุกขึ้นเถิด!” ไทเฮารีบเข้าไปประคองให้พี่ชายลุกขึ้น “ข้ารู้ว่าท่านพี่จงรักภักดีต่อพวกเรา ทว่า จนปัญญาในความไม่ไว้วางใจของอาเหยี่ยนและอาลี่ วันหน้าข้าจะพยายามเกลี้ยกล่อมให้อาเหยี่ยนและอาลี่เห็นว่าท่านพี่เป็นคนดีให้ได้”
จงสิงเสี่ยวรีบโบกมือ “ความจงรักภักดีไม่จำเป็นต้องบอกให้ผู้อื่นรับรู้ กระหม่อมแค่หวังว่าหากวันหนึ่งกระหม่อมถูกใส่ร้าย กระหม่อมอยากขอร้องให้ไทเฮาช่วยชีวิตคนที่เหลือของตระกูลจงให้ปลอดภัย ให้กระหม่อมตายไปเพียงคนเดียวก็พอ”
“ไทเฮา ยังมีอีกเรื่อง…” จงสิงเสี่ยวรีบลุกขึ้นยืนพลางกล่าวต่อโดยไม่รอให้ไทเฮากล่าวสิ่งใดออกมา “ไทเฮาควรรีบโน้มน้าวให้อ๋องเก้าเห็นด้วยกับฝ่าบาทโดยเร็วที่สุดพ่ะย่ะค่ะ มิเช่นนั้นหากขุนนางฝ่ายอ๋องเก้าเกิดมีใจคิดเป็นอื่นขึ้นมา แอบทำสิ่งใดลับหลังอ๋องเก้าเกรงว่าจะเป็นการทำลายความสัมพันธ์ของฝ่าบาทและอ๋องเก้าได้พ่ะย่ะค่ะ”
จงสิงเสี่ยวรู้จักน้องสาวของตัวเองดี ไทเฮายังอยากปกป้องมู่หรงเหยี่ยนอยู่ดังนั้นถึงแม้เขาอยากยุให้ทั้งสองแตกคอกันก็ไม่สามารถทำอย่างเปิดเผยได้ ไม่ว่าอย่างไรมู่หรงเหยี่ยนก็เป็นน้องชายแท้ๆ ของจักรพรรดิองค์ก่อน ไทเฮารักมู่หรงอวี้มาก ดังนั้นนางย่อมรักมู่หรงเหยี่ยนด้วยเช่นเดียวกัน
ดังนั้นแผนการของจงสิงเสี่ยวที่ทำมาโดยตลอดคือไม่กล่าวว่าร้ายมู่หรงเหยี่ยนต่อหน้าไทเฮา เช่นนี้ไทเฮาจะได้ไม่คิดว่าเขาอยากยุยงให้ไทเฮาและมู่หรงเหยี่ยนแตกคอกัน เช่นนี้ไทเฮาจะได้เชื่อฟังเขาทุกเรื่อง
“ท่านพี่คิดเพื่ออาเหยี่ยนและอาลี่ถึงเพียงนี้ ทว่า เด็กสองคนนั่นกลับเอาแต่หวาดระแวงท่านพี่” ไทเฮามองหน้าพี่ชายด้วยความสงสาร “ท่านพี่ไม่ต้องเป็นห่วง พรุ่งนี้ข้าจะไปพบอาเหยี่ยนเพื่อเกลี้ยกล่อมให้เขาเห็นด้วยกับความคิดของอาลี่แต่เช้า”
จงสิงเสี่ยวพยักหน้า “เช่นนี้กระหม่อมจะได้วางใจพ่ะย่ะค่ะ”
เมื่อเซียวหรงเหยี่ยนกลับถึงจวนผู้สำเร็จราชการเขาก็ส่งคนไปแพร่กระจายข่าวเรื่องที่มู่หรงลี่ส่งทูตไปยังต้าโจวเพื่อเสนอเรื่องการใช้ระบอบการปกครองของสองแคว้นตัดสินผลแพ้ชนะเพื่อรวมแคว้นเป็นหนึ่งเดียวแทนจนผู้สำเร็จราชการอ๋องเก้าแห่งต้าเยี่ยนเดือดดาลอย่างหนัก มู่หรงลี่ยังกล่าวอีกว่าถึงแม้อ๋องเก้าและไทเฮาจะไม่เห็นด้วยก็สายเกินไปแล้ว นอกเสียจากว่าพวกเขาจะปลดจักรพรรดิอย่างเขาลงจากบัลลังก์และประกาศให้ใต้หล้ารับรู้ว่าคำกล่าวของจักรพรรดิอย่างเขาไม่ประกาศิตอีกต่อไปจนอ๋องเก้าแห่งต้าเยี่ยนสะบัดชายชุดจากไปด้วยความโมโหให้ชาวบ้านในต้าเยี่ยนทุกคนรับรู้
ที่มู่หรงเหยี่ยนให้คนกระจายข่าวเรื่องที่มู่หรงลี่ขู่ให้ปลดเขาลงจากบัลลังก์ออกไปให้ทุกคนรับรู้ก็เพื่อบีบให้ขุนนางฝ่ายไทเฮาและไทเฮารีบมาเกลี้ยกล่อมให้เขาเห็นด้วยโดยเร็วที่สุด
เช่นนี้ไทเฮาจะได้เลิกหวาดระแวงในตัวเซียวหรงเหยี่ยน ไม่คิดว่าเซียวหรงเหยี่ยนจะลอบทำสิ่งใดเพื่อยกต้าเยี่ยนให้ลูกของเขาทั้งสองคนอีกต่อไป
เซียวหรงเหยี่ยนต้องไม่เห็นด้วยกับความคิดของมู่หรงลี่ไปอีกสักระยะหนึ่ง ยิ่งเขาไม่ยอมเห็นด้วยมากเท่าใดพี่สะใภ้ของเขาจะยิ่งลดความหวาดระแวงในตัวเขามากเท่านั้น
เมื่อไทเฮาได้ยินเรื่องข่าวหลุดรอดออกไปจึงอยู่ไม่สุขขึ้นมาทันทีเหมือนที่เซียวหรงเหยี่ยนคาดการณ์ไว้ไม่มีผิด
เมื่อคนที่จงสิงเสี่ยวสั่งให้จับตาดูขุนนางฝ่ายผู้สำเร็จราชการพบว่าขุนนางฝ่ายนี้แอบปรึกษากันเองลับหลังอ๋องเก้าแห่งต้าเยี่ยนเรื่องการสนับสนุนให้ชายหนุ่มขึ้นครองบัลลังก์แทน ไทเฮาจึงทนไม่ไหวอีกต่อไป นางปลอมกายออกจากวังไปพบเซียวหรงเหยี่ยนยามวิกาลที่จวนผู้สำเร็จราชการ
ข่าวต่างๆ ที่เกิดขึ้นในราชสำนักต้าเยี่ยนถูกส่งไปให้ไป๋จิ่นถงไม่ขาดสาย ไป๋จิ่นถงสรุปเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมด แม้ไป๋จิ่นถงจะตกตะลึงมากเมื่อรู้ว่ามู่หรงลี่อยากใช้ระบอบการปกครองของสองแคว้นเป็นตัวตัดสินผลแพ้ชนะของแคว้น ทว่า นางก็คิดว่านี่คือวิธีเดียวที่ต้าเยี่ยนสามารถเอาตัวรอดจากเหตุการณ์ครั้งนี้ได้