ตอนที่ 165 คิดบัญชี
สำหรับนายหญิงผู้เฒ่า คนที่หมายปองหลานสาวลดลงถือเป็นเรื่องน่ายินดีใหญ่ยิ่ง
พวกที่มาหยั่งเชิงที่จวนรองเจ้ากรม นางยังพอปฏิเสธได้ นับว่ายังพอคุมได้ แต่หากมีคนไม่ทำตามธรรมเนียมตรงไปลงมือทางหลานสาวนาง เกิดชิงชิงหวั่นไหวขึ้นมาก็คงเป็นเรื่องยากจัดการแล้ว
ประลองสุรากับองค์ชายหรือ ดีสิ ฮูหยินตระกูลเหล่านั้นจะได้ทนไม่ไหว เช่นนี้ชิงชิงไม่คิดอยู่จวนรองเจ้ากรมก็ไม่ได้แล้ว
อาการสงบนิ่งของนายหญิงผู้เฒ่าทำให้รองเจ้ากรมต้วนไม่ค่อยพอใจ “ท่านแม่ ท่านตามใจนางเช่นนี้หรือ”
นายหญิงผู้เฒ่าเหลือบตามองบุตรชายทีหนึ่ง เอ่ยน้ำเสียงนิ่งเรียบ “ข้าเหนื่อยแล้ว เจ้าเองก็ไปพักผ่อนเถอะ ตอนนี้ชิงชิงกำลังแรง บังคับมากไปก็ไม่ได้ พวกเราเป็นผู้ใหญ่อย่างไรก็คงไม่อาจผลักไสนางที่ไร้บิดามารดาให้ความรักออกไปได้ ไม่เช่นนั้นน้องสาวเจ้าในปรภพคงไม่เป็นสุข”
รองเจ้ากรมต้วนขมวดคิ้ว ไม่มีกะจิตกะใจจะบ่นต่อ เดินออกจากเรือนหรูอี้ถังแล้วใบหน้าก็พลันเคร่งเครียด
คิดไม่ถึงชิงชิงก่อเรื่องมากมายเช่นนี้ ท่านแม่ไม่ได้ลดความเมตตาที่มีให้นางลงแม้แต่น้อย
นี่ไม่ใช่เรื่องที่เขาซึ่งเกิดความคิดสังหารหลานสาวอยากจะเห็น
รองเจ้ากรมต้วนกลับถึงที่พักก็ครุ่นคิดถึงแผนการขึ้นมา
ชิ่งอ๋องได้ฟังคนที่ส่งไปสังเกตเรื่องราวภายนอกกลับมารายงานแล้วก็ยิ่งโมโหเดือดดาล สั่งการให้คนไปจวนกู้ชางป๋อตามไต้เจ๋อมาจวนอ๋อง
“ท่านพี่หาข้าหรือ” ไต้เจ๋อมาถึงจวนชิ่งอ๋องก็มิได้รู้สึกว่าต้องสงวนกิริยาอันใด
บางครั้งชิ่งอ๋องรู้สึกว่าไต้เจ๋อโง่เขลาไปสักหน่อย ตอนนี้กลับรู้ว่าท่าทีเช่นนี้กำลังดี
มีบางเรื่องเขาออกหน้าไม่เหมาะ แต่ให้ไต้เจ๋อไปทำ ผู้คนก็จะรู้สึกว่าเป็นอุบัติเหตุ
“เรื่องงานเฉลิมฉลองที่จวนองค์หญิงใหญ่เจาหยาง น้องพี่ได้ยินมาแล้วใช่หรือไม่”
แม้ไต้เจ๋อเรียนหนังสือไม่สำเร็จ แต่ก็ฉับไวกับเรื่องพวกนี้ “ท่านพี่หมายถึงเรื่องประลองสุรากับคุณหนูโค่วหรือ”
ชิ่งอ๋องได้ยินคำว่า ‘ประลอง’ ก็รู้สึกเสียดแทงแก้วหู พยักหน้าด้วยสีหน้าบึ้งตึง
“แน่นอนย่อมได้ยินมาแล้ว!” ไต้เจ๋อแววตาส่องประกาย “คิดไม่ถึงจริงๆ ว่าคุณหนูโค่วพันจอกไม่เมา ไม่เสียทีที่เป็นคุณหนูโค่ว!”
ชิ่งอ๋องยิ่งฟังก็ยิ่งรู้สึกผิดปกติ “น้องพี่หมายความอย่างไร”
ไต้เจ๋อจึงได้พบว่าสีหน้าชิ่งอ๋องผิดปกติ พอคิดก็เริ่มพอจะเข้าใจ พี่ชายเขาถูกคุณหนูโค่วทำให้เสียหน้า
ก็จริง หากเขาประลองสุรากับคุณหนูผู้หนึ่งแล้วแพ้ ก็คงไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ใด นับประสาอันใดกับชิ่งอ๋อง
แต่นี่คือคุณหนูโค่วที่ขจัดกลิ่นอายชั่วร้ายได้นะ!
อ๋อ ใช่แล้ว พี่ชายเขายังไม่รู้ว่าคุณหนูโค่วเป็นผู้สูงส่ง
“ท่านพี่เล่าต่อเถิด”
“ข้าคารวะสุราอย่างจริงใจ คิดไม่ถึงว่านังเด็กนั่นให้เกียรติกลับไม่รับไว้ แต่ไรมาน้องพี่มีอุบายมากมาย มีวิธีใดจะล้างแค้นให้ข้าได้บ้าง” ชิ่งอ๋องบอกจุดประสงค์ที่ตามไต้เจ๋อมา
ไต้เจ๋ออึ้งไปทันที “ท่านพี่คิดจะให้ข้าไปหาเรื่องคุณหนูโค่วหรือ”
ชิ่งอ๋องไม่ยอมรับตรงๆ แต่สีหน้าได้บอกทุกอย่างแล้ว
ไต้เจ๋อตื่นตกใจ โบกมือโบกไม้พัลวัน “ไม่ได้เด็ดขาด!”
“หืม?” ชิ่งอ๋องขมวดคิ้วแน่น
เขาเพิ่งรู้สึกว่าไต้เจ๋อผิดปกติ ไม่ใช่ความรู้สึกคิดไปเองดังคาด
“ท่านพี่ ท่านเข้าใจอะไรคุณหนูโค่วผิดหรือไม่…”
ชิ่งอ๋องแค่นเยาะตัดบทไต้เจ๋อ “น้องพี่บอกมาว่าจะช่วยพี่หรือไม่”
“ช่วย ช่วย ช่วย เรื่องของท่านพี่ก็เป็นเรื่องของข้า ท่านพี่ว่ามาว่าข้าควรทำอย่างไร”
ชิ่งอ๋องจึงได้ถึงพอใจ แต่ไม่กล่าวออกมากระจ่าง “ในเมื่อน้องพี่เห็นว่าเป็นดังเรื่องของตนเอง เช่นนั้นน้องพี่ก็คิดดู หากน้องพบเจอเรื่องพวกนี้ควรทำอย่างไร”
“ข้าเข้าใจแล้ว”
พอไต้เจ๋อออกไป ชิ่งอ๋องก็ยิ้มร้าย
เขานับว่าโตมากับไต้เจ๋อ ย่อมเข้าใจน้องชายคนนี้
เจ้าเด็กนี่ไม่มีอันใดทำก็จะไปเกี้ยวพาราสีหญิงสาวตามท้องถนน หากคิดจะหาเรื่องหญิงสาวสักคน ก็ย่อมมีเรื่องสนุกให้รอชมแล้ว
เฮ่อชิงเซียวคาดเดาได้ว่าหลังซินโย่วสร่างเมา เผชิญหน้ากับเขาก็คงรู้สึกอึดอัด ก็รู้ตัวเองไม่ไปร้านหนังสืออีก แต่ก็เป็นห่วงว่าชิ่งอ๋องจะมาหาเรื่องซินโย่ว จึงส่งคนมาจับตาดูเงียบๆ
หลายวันนี้ซินโย่วยุ่งกับหนังสือใหม่ ขณะกำลังตรวจแม่พิมพ์ที่โรงพิมพ์เพื่อพิมพ์นิยายใหม่ ก็ได้ยินคนมารายงานว่าคุณชายไต้มา
ซินโย่ววางแม่พิมพ์นิยายลง เดินออกไปโถงด้านหน้า
“คุณชายไต้มีธุระกับข้าหรือเจ้าคะ”
พาไต้เจ๋อไปที่ห้องรับรองแล้ว ซินโย่วก็เอ่ยถามขึ้นตรงๆ
“คุณหนูโค่ว เจ้าดื่มพันจอกไม่เมาจริงหรือ”
ซินโย่วนิ่งเงียบลง
ไต้เจ๋อแล่นมาหานางเพราะต้องการรู้ความจริงเรื่องนี้เท่านั้นหรือ
ไต้เจ๋อเห็นอาการนิ่งเงียบของนางแล้วก็รู้ว่ายอมรับเงียบๆ แล้ว
“ร้ายกาจจริง!” เอ่ยถึงตรงนี้ ไต้เจ๋อก็เผยสีหน้าเสียใจ “น่าเสียดายวันนั้นข้าไม่ได้ไป”
เมื่อก่อนเขารู้สึกว่าการล่วงเกินองค์หญิงใหญ่เจาหยางไม่เป็นไร แต่ตอนนี้นึกเสียใจภายหลังแล้ว
เขาเองก็อยากเห็นคุณหนูโค่วประลองสุรากับชิ่งอ๋อง!
ใช่แล้ว ชิ่งอ๋อง
ไต้เจ๋อนึกถึงธุระขึ้นมาได้ “เรื่องคุณหนูโค่ววันนั้น ทำให้พี่ชายข้าเสียหน้ามาก”
ซินโย่วหัวใจกระตุก คาดเดาจุดประสงค์ของไต้เจ๋อ “คุณชายไต้คงไม่ได้มาเอาเรื่องข้าแทนชิ่งอ๋อง?”
ไต้เจ๋อรีบปฏิเสธทันที “เปล่าๆ ข้าจะกล้ามาเอาเรื่องคุณหนูโค่วได้อย่างไร”
ในยามที่ไม่อาจล่วงเกินพี่ชายที่เป็นองค์ชาย และไม่อาจล่วงเกินคุณหนูโค่วที่เป็นวิชานรลักษณ์ เขาก็แค่คนน่าสงสารที่ถูกบีบให้จนใจต้องเดินไปตามขั้นตอนเท่านั้น
“แต่พี่ชายข้าโมโหมากจริงๆ” ไต้เจ๋อเผยรอยยิ้มเฝื่อนไร้หนทาง
“ข้านับว่ามีความลับร่วมกับคุณชายไต้ คุณชายไต้คิดการอย่างไรลองกล่าวมาได้เลย”
คำพูดนี้ไต้เจ๋อชอบฟังที่สุด รีบบอกแผนการทันที “คุณหนูโค่ว พวกเรามาประลองสุรากัน”
ซินโย่วเลิกคิ้ว
นางฟังผิดไปหรือ
ไต้เจ๋อกระแอมไอ “ข้าจะกู้หน้าให้พี่ชายข้าด้วยการประลองสุรา เหมาะสมที่สุด”
ทำเช่นนี้ก็จะได้ทำตามที่พี่ชายฝากฝังมา และก็จะได้เห็นกับตาว่าแท้จริงคุณหนูโค่วดื่มเก่งจริงหรือไม่ เรียกได้ว่าสมบูรณ์บริบูรณ์ทั้งสองทาง
ซินโย่วคลี่ยิ้ม “ตกลง”
ครึ่งชั่วยามถัดมา ไต้เจ๋อก็ถูกบ่าวรับใช้ประคองลากพื้นออกจากประตูใหญ่ร้านหนังสือชิงซงไป
“อย่าลากข้า ข้าจะดื่มอีก!” ไต้เจ๋อทิ้งตัวลงไม่อยากไป
เสียงเคลื่อนไหวนี้ไม่เบา ไม่นานก็เป็นที่จับจ้องของคนที่เดินผ่านไปมาให้หยุดดู ทำให้คนที่ชิ่งอ๋องและเฮ่อชิงเซียวส่งมาจับตาไม่ต้องแอบมองอยู่ในที่ลับอย่างระแวดระวังอีกต่อไป
ชิ่งอ๋องได้รับรายงานก็โมโหเดือด แต่กลับไม่อาจไปคิดบัญชีกับคนเมาในตอนนี้ได้ อดทนจนวันรุ่งขึ้นจึงได้พบไต้เจ๋อ
“เมื่อวานน้องพี่ไปคิดบัญชีกับคุณหนูโค่วอย่างไร” ชิ่งอ๋องกัดฟันถาม
“คิดบัญชี?” ไต้เจ๋อนวดศีรษะที่ปวดอยู่บ้าง “อา ไปคิดบัญชีกับคุณหนูโค่ว ข้าประลองสุรากับนาง!”
ชิ่งอ๋องปวดขมับตุบๆ “เพียงแค่ประลองสุรา?”
สมองเจ้าเด็กนี่มีแต่โคลนหรือ ปกติก็เห็นว่าพอเห็นหญิงสาวคนงามก็จะลงมือรังแก แต่พอตั้งใจไปหาเรื่องกลับไปประลองสุรา?
ไต้เจ๋อยิ้มกล่าวว่า “ท่านพี่ไม่ได้บอกว่าให้ข้าทำเหมือนเป็นเรื่องของข้าเองหรือ ข้ามาคิดดู ชายชาตรีล้มจากตรงไหนก็ให้ลุกจากตรงนั้น ข้าจะต้องดื่มให้คุณหนูโค่วล้มพับไป ระบายโทสะให้ท่านพี่ให้ได้!”
เอ่ยถึงตรงนี้ ไต้เจ๋อก็ก้มหน้า “คิดไม่ถึงคุณหนูโค่วดื่มจนข้าล้มพับไป…”
ชิ่งอ๋องโมโหจนสมองอื้อไปหมด แทบจะฟาดหน้าเจ้าโง่ตรงหน้าสักสองสามหมัด ดีที่ยังมีสติยั้งไว้ทัน
ผู้ใดให้กู้ชางป๋อเป็นท่านลุงของเขาเล่า!
“น้องพี่ยังมีแผนการอื่นอีกไหม” ชิ่งอ๋องกัดฟันถาม
ไต้เจ๋อสีหน้าแปรเปลี่ยน “ระยะนี้ข้ายังไม่อยากปรากฏตัวต่อหน้าคุณหนูโค่ว!”
ชิ่งอ๋องหลับตาลง
มีน้องชายเช่นไต้เจ๋อ เป็นบททดสอบยากในชีวิตองค์ชายของเขาเสียจริง