ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก – ตอนที่ 472 แพ้ประลอง(1)

ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก

ตอนที่ 472 แพ้ประลอง(1)

ตอนที่ 472 แพ้ประลอง(1)

เซี่ยเจ๋อหลี่ได้ยินแบบนี้ก็หันมองถูเฉิงเสียง แล้วเอ่ยถาม “นายอยากประลองกับฉันเหรอ?”

ถูเฉิงเสียงยิ้มแล้วค่อย ๆ หันมองเซี่ยเจ๋อหลี่ ก่อนจะเอ่ยขึ้น “ใช่แล้ว ฉันได้ยินชื่อเสียงนายมานานแล้ว เลยอยากจะประลองกับนายสักหน่อย ผู้กองเซี่ยคงไม่ปฏิเสธใช่ไหม”

เซี่ยเจ๋อหลี่เห็นแบบนี้ก็เอ่ยพร้อมรอยยิ้มตามเคย “เรื่องนั้นแน่นอนอยู่แล้ว ทุกคนได้แลกเปลี่ยนฝีมือกันย่อมเป็นเรื่องดี”

เมื่อเห็นเซี่ยเจ๋อหลี่ยอมตกลง ถูเฉิงเสียงก็พาเขาตรงไปที่กลางสนามฝึก

ในตอนนี้มีคนกำลังฝึกอยู่ในสนามเยอะมาก เมื่อหลายคนเห็นถูเฉิงเสียง ก็อดมองเซี่ยเจ๋อหลี่ที่อยู่ตรงหน้าเสียไม่ได้ พลางคาดเดาตัวตนของเขาไปต่าง ๆ นา ๆ

“นี่คือหัวหน้ากองคนใหม่เหรอ”

“น่าจะเป็นอย่างนั้น รองหัวหน้าก็บอกแล้วไม่ใช่เหรอว่าจะมีหัวหน้าคนใหม่มา เพราะฉะนั้นนี่ก็คือหัวหน้าคนใหม่นั่นแหละ”

พวกเขากำลังทำอะไรน่ะ หรือว่าหัวหน้ากองคนใหม่จะประลองกับรองหัวหน้าถู?”

“คนเพิ่งได้รับตำแหน่งใหม่จะแสดงความสามารถของตน หัวหน้าคนใหม่เพิ่งมาจึงต้องทำแบบนี้ แต่เขาไม่เคยรู้เรื่องทางฝั่งเรา มาถึงก็เจอรองหัวหน้าถูเลย ไม่กลัวว่าตัวเองจะพลาดเลยเลยเหรอ”

เซี่ยเจ๋อหลี่ได้ยินบทสนทนาพวกนี้อยู่แล้ว เขาหันมองทุกคน แล้วพูด “ดูเหมือนว่ารองหัวหน้าถูจะเคยได้ยินวีรกรรมของผมมาก่อน วันนี้เพิ่งเจอหน้ากันก็ขอประลองกับผมเลย ในเมื่อสหายทุกคนก็อยู่ที่นี่กันแล้ว ถ้าอย่างนั้นก็มารับชมเป็นกำลังใจให้พวกเราได้นะ”

เมื่อได้ยินแบบนี้ หลายคนจึงได้เข้าใจ

ที่แท้รองหัวหน้าถูอยากจะประลองกับเซี่ยเจ๋อหลี่นี่เอง คนในกองบางคนที่เข้าใจดีจึงมองเซี่ยเจ๋อหลี่ด้วยความแปลกใจ อดคาดคะเนถึงความแข็งแกร่งของเขาไม่ได้

แต่เมื่อถูเฉิงเสียงเห็นเซี่ยเจ๋อหลี่อธิบายดังนี้ สีหน้าของเขาก็ดูไม่ค่อยดีนัก ตอนแรกเขาอยากให้ทุกคนคิดว่าเซี่ยเจ๋อหลี่อยากจะประลองกับพวกเขาทันทีที่มาถึง ใครจะไปรู้ว่าเขาจะพูดมากกว่าก่อนหน้านี้ที่มา

เมื่อคิดได้แบบนี้ ถูเฉิงเสียงก็คร้านเกินกว่าจะอธิบายอะไร แล้วเข้าโจมตีเซี่ยเจ๋อหลี่ทันที

“ผู้กองเซี่ย ถ้าอย่างนั้นพวกเรามาเริ่มกันเลยเถอะ”

เซี่ยเจ๋อหลี่เห็นถูเฉิงเสียงเริ่มโดยไม่บอกกล่าวก็อดขมวดคิ้วไม่ได้ แต่เขาตอบสนองเร็วมาก ขณะที่ถูเฉิงเสียงกำลังปล่อยหมัดออกมาเขาก็เริ่มหลบ จากนั้นก็สวนกลับทันที ซัดหมัดเข้าที่ใบหน้าของถูเฉิงเสียงโดยไม่เกรงใจแต่อย่างใด

ถูเฉิงเสียงเคยได้ยินว่าเซี่ยเจ๋อหลี่มีฝีมือดีมาก เขาจึงระมัดระวังอย่างยิ่ง คอยเฝ้าระวังทุกการเคลื่อนไหวของอีกฝ่าย ตอนนี้เมื่อเห็นว่าฝั่งนั้นรุกเข้ามาด้วยท่าทางน่ากลัว เขาจึงรีบหลบอย่างรวดเร็ว เพียงแต่เซี่ยเจ๋อหลี่ลงมือรวดเร็วมาก เขาจึงเสียจังหวะนิดหน่อย

แต่นั่นไม่ได้สำคัญ เพราะถูเฉิงเสียงเสียจังหวะเพียงครู่เดียวเท่านั้น เขากลับมาปรับตัวได้อย่างรวดเร็วแล้วปล่อยหมัดใส่เซี่ยเจ๋อหลี่อย่างเร็วและรุนแรง สายตาเต็มไปด้วยความดุดัน

เซี่ยเจ๋อหลี่นิ่งสงบมากยามเผชิญหน้ากับการโจมตีที่รุนแรงของถูเฉิงเสียง เขาแก้ทางได้ในแต่ละกระบวน และอาศัยจังหวะจากช่วงนั้นสวนกลับ

ไป ๆ มา ๆ ทั้งสองคนก็เคลื่อนไหวกันอยู่หลายกระบวนท่า

เมื่อเห็นทั้งสองประลองกันอย่างน่าตื่นเต้น ทุกคนรอบข้างก็พากันส่งเสียงเชียร์

“หัวหน้ากองคนใหม่ไม่เลวเลยนะ ตอนรองหัวหน้าถูต่อสู้กับคนอื่น เขาเอาชนะคู่ต่อสู้ได้อย่างรวดเร็วตลอด ตอนนี้พอเจอหัวหน้ากองคนใหม่ยังเอาชนะไม่ได้เลย ดูเหมือนว่าเขาจะต้องใช้เวลาสักพักเลยกว่าจะเอาชนะหัวหน้ากองคนใหม่ได้ ฉันไม่เคยเห็นคนที่สู้กับรองหัวหน้าถูแล้วอยู่ได้นานขนาดนี้มาก่อนเลย”

“ใช่แล้ว ดูเหมือนว่าหัวหน้ากองคนใหม่นี้จะเก่งนะ”

ทุกคนกำลังยืนพูดคุยกันอยู่ตรงนั้น ท่ามกลางพวกเขา ชายหนุ่มคนหนึ่งที่ใบหน้าคมมีมิติก็กระตุกยิ้มขึ้น ก่อนจะเอ่ย “จากที่ฉันเห็น ดูเหมือนว่าครั้งนี้ถูเฉิงเสียงจะเจอของแข็งเข้าแล้วล่ะ เดี๋ยวหัวหน้ากองคนใหม่ของเราจะต้องเอาชนะเขาได้ในไม่ช้าแน่นอน”

ได้ฟังคำพูดนี้ ทุกคนก็ดูไม่เชื่อนิดหน่อย

เพราะในกองพันของพวกเขา ทักษะการต่อสู้ของถูเฉิงเสียงน่าทึ่งมาก พวกเขาจึงไม่คิดว่าหัวหน้ากองคนใหม่จะเอาชนะถูเฉิงเสียงได้

“เฉาเจิ้งหนาน หรือเพราะนายเคยแพ้รองหัวหน้าถูมาก่อนเลยแค้นฝังใจ จึงบอกว่าเขาจะแพ้ นายดูถูกรองหัวหน้าถูเกินไปแล้ว”

เฉาเจิ้งหนานเหลือบมองทุกคน แล้วเอ่ย “พวกนายเยินยอถูเฉิงเสียงเกินไปแล้ว แบบนี้ก็เป็นการดูถูกหัวหน้ากองคนใหม่เหมือนกัน หัวหน้ากองคนใหม่ของพวกเราชื่อเซี่ยเจ๋อหลี่ ถึงแม้ว่าเขาจะไม่เคยอยู่ในถิ่นของเรามาก่อน แต่ตอนที่อยู่ในถิ่นของพวกเขา เขาก็มีชื่อเสียงมาก”

“ถึงหัวหน้ากองคนใหม่จะมีชื่อเสียงในฐานทัพเดิม แต่ที่ฐานทัพของพวกเรานี้ก็ไม่ได้น้อยหน้านะ ฐานทัพของพวกเรามีพวกเสือหมอบมังกรซ่อนอยู่ไม่น้อย และบางคนก็เก่งมาก”

ถูเฉิงเสียงเก่งที่สุดในบรรดาพวกเขา ขณะเดียวกันหลายคนก็ฝีมือค่อนข้างดีเหมือนกัน เทียบกับกองอื่นแล้วพวกเขาเก่งกว่ามาก ดังนั้นเมื่อมีหัวหน้าคนใหม่เข้ามา จึงต้องพิสูจน์ฝีมือให้แน่ใจว่าเขาสามารถเป็นผู้นำได้

ขณะที่หลายคนกำลังพูดคุยกัน ผลการตัดสินแพ้ชนะของเซี่ยเจ๋อหลี่กับถูเฉิงเสียงก็ออกมาแล้ว เซี่ยเจ๋อหลี่เตะถูเฉิงเสียงลงไปนอนกองกับพื้น ก่อนจะกระโดดโถมตัวเข้าหาถูเฉิงเสียงด้วยความเร็วดุจดั่งสายฟ้า ล็อคตัวทำให้เขาไม่สามารถเคลื่อนไหวได้

“แพ้ประลองแล้ว”

เซี่ยเจ๋อหลี่หยุดมือ หลังจากปราบถูเฉิงเสียงได้แล้ว ก็ลุกขึ้นยืนทันที

“อุ๊ย…ไม่คิดเลยว่ารองหัวหน้าถูจะแพ้”

“ใช่แล้ว ถ้าไม่เห็นกับตาตัวเองคงไม่เชื่อนะเนี่ย”

“ใช่แล้วๆ นึกไม่ถึงเลยว่าหัวหน้ากองคนใหม่จะเก่งขนาดนี้”

ทุกคนต่างพูดคุยกันในเรื่องนี้ ขณะเดียวกันทัศนคติที่มีต่อเซี่ยเจ๋อหลี่ก็เปลี่ยนไปเป็นชื่นชมอย่างยิ่ง เนื่องจากเซี่ยเจ๋อหลี่มีฝีมือมาก พวกเขาจึงยอมรับหัวหน้ากองคนใหม่ไปโดยปริยาย

แต่ก็มีบางคนที่สนิทสนมกับถูเฉิงเสียง พวกเขารีบก้าวเข้าไปหาด้วยความเป็นห่วง แล้วเอ่ยถาม “รองหัวหน้าถู คุณไม่เป็นไรใช่ไหม”

สีหน้าของถูเฉิงเสียงไม่ค่อยดีนัก แต่ก็ค่อย ๆ ยืนขึ้นอย่างช้า ๆ แล้วเอ่ย “ฉันไม่เป็นไร”

เซี่ยเจ๋อหลี่ค่อย ๆ เหลือบมองถูเฉิงเสียงแล้วเอ่ย “เนื่องจากประลองกันเสร็จเรียบร้อยแล้ว ถ้าอย่างนั้นรองหัวหน้าถูช่วยพาผมไปดูห้องพักหน่อยได้ไหมครับ”

ถูเฉิงเสียงทราบอยู่แล้วว่าเซี่ยเจ๋อหลี่ฝีมือดีมาก แต่ก็ไม่คิดว่าจะดีขนาดนี้ ตอนแรกเขาอยากจะตบหน้าเซี่ยเจ๋อหลี่ในวันแรกที่มาถึงสักหน่อย ทำให้เขาพ่ายแพ้ต่อหน้าทุกคน เช่นนั้นแล้วต่อไปก็จะมีคนติดตามเซี่ยเจอหลี่น้อยลง แต่คาดไม่ถึงเลยว่าสุดท้ายแล้วตัวเองจะแพ้

เมื่อคิดได้แบบนี้ สีหน้าของถูเฉิงเสียงก็มืดมนลง

วันนี้ขโมยไก่ไม่ได้ยังเสียข้าวสาร*อีกต่างหาก ตัวเองพ่ายแพ้ให้กับเซี่ยเจ๋อหลี่เช่นนี้ ไม่รู้ว่าต่อไปทุกคนจะมองเขาอย่างไร

(*ทำไม่สำเร็จแล้วยังเสียเปรียบอีก)

“ผู้กองเซี่ย ตอนนี้ผมเหนื่อยนิดหน่อย คุณรอผมพักก่อนได้ไหม เดี่ยวผมจะพาคุณไปดูห้องพักทีหลัง”

เซี่ยเจ๋อหลี่ได้ยินแบบนี้ ก็จ้องมองถูเฉิงเสียง แววตาค่อนข้างมืดมน

แต่เมื่อถูเฉิงเสียงมองกลับไป สีหน้ากลับนิ่งเฉยไม่เปลี่ยนแปลง ทั้งคนนิ่งขยับไม่ไหวติง บ่งบอกได้อย่างชัดเจนว่าจะไม่พาเซี่ยเจ๋อหลี่ไปตอนนี้

ในตอนนั้นเอง เฉาเจิ้งหนานก็ยิ้มแล้วกล่าวขึ้น “ผู้กองเซี่ย ให้ผมพาไปไหมครับ ผมก็รู้ว่าห้องพักอยู่ตรงไหนเหมือนกัน”

……………………………………………………………………………………………………………………….

สารจากผู้แปล

มาวันแรกก็มีเรื่องเขม่นกันกับหัวหน้าคนเก่าแล้ว พี่หลี่จะอยู่กองพันนี้อย่างสงบสุขตอนไหนเนี่ย

ไหหม่า(海馬)

ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก

ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก

Status: Ongoing
เมื่อแพทย์สาวมือฉมังพบว่าตนเองได้กลายเป็นหญิงอ้วนผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรในยุค 70 ผู้ไม่เป็นที่รักของสามี เธอจะเปลี่ยนเป็นคนใหม่ที่สามีคลั่งรักได้หรือไม่กันนะ?ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก[嫁七零糙汉后,我双胞胎体质藏不住]ผู้แต่ง : 钰儿เรื่องย่อหลังผชิญวรหนักจนวูบ ฉินมู่หลาน แพทย์สาวมือฉมังก็พบว่าตนองได้มาสวมร่างของหญิงอ้วนหลานสาวผู้เชี่ยวชาญด้นสมุนไพรในยุค 70 ผู้ไม่มีอะไรดีสักอย่างนอกจากได้สามีหล่อเหลานิสัยดีผู้แสนเย็นขาจากความลั่งรักของตัวเองจจับเขามาแต่งงด้วยสำเร็จ ซึ่งกรสวมวิญญาณในครั้งนี้เธอได้รับภารกิจหลักสามอย่าง หนึ่งคือสร้างเนื้อสร้างตัว สองคือลดน้ำหนักให้ตนเองทำงานทำการสะดวกขึ้น และสามคือทำให้สามีเป็นฝ่ายคลั่งรักเธอแทน คุณหมอฉินจะทำสำเร็จหรือไม่ จะเปลี่ยนเป็นฉินมู่หลานคนใหม่ที่สามีคลั่งรักได้หรือไม่กันนะ?

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท