ตอนที่ 1308 ถูกประหารคือเรื่องใหญ่
ไป๋ชิงเหยียนจงใจเอ่ยถึงซือหม่ารั่วตานในช่วงท้ายของราชโองการเพราะต้องการเตือนสติซือหม่าเยี่ยนและเซวียเหรินอี้
หากเซวียเหรินอี้ใส่ใจคู่หมั้นของตัวเองเมื่อเขาเห็นนามของซือหม่ารั่วตานคงฉุกคิดสิ่งใดขึ้นมาได้บ้างเพราะนามซือหม่ารั่วตานไม่ใช่นามที่พบเห็นได้ทั่วไป
หากกเซวียเหรินอี้ไม่สนว่าคู่หมั้นของตัวเองจะเป็นผู้ใดก็ดีเหมือนกัน ไป๋ชิงเหยียนมองออกว่าอาฉีค่อนข้างใส่ใจซือหม่ารั่วตานผู้นี้
ทว่า ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องให้เซวียเหรินอี้รับรู้ความจริงทั้งหมด
ไป๋ชิงเหยียนเข้าใจคดีของตระกูลฝั่งมารดาของซือหม่ารั่วตานแล้ว ตระกูลของนางขวางทางถงกุ้ยเฟยจึงถูกกำจัดเช่นเดียวกับตระกูลของผู้ตรวจการสูงสุดในตอนนั้น
ดังนั้นไม่ว่าอาฉีจะชอบซือหม่ารั่วตานหรือไม่ แค่ความดีความชอบที่นางสร้างในด่านเย่เฉิงก็มากพอให้ไป๋ชิงเหยียนช่วยคืนความบริสุทธิ์ให้ตระกูลฝั่งมารดาของซือหม่ารั่วตานและซือหม่ารั่วตานแล้ว
ราชโองการของไป๋ชิงเหยียนทำให้ขุนนางหลายคนไปแสดงความยินดีซือหม่าเยี่ยนที่จวน ทุกคนต่างรับรู้ว่าบุตรสาวบุญธรรมของซือหม่าเยี่ยนนามว่าซือหม่ารั่วตาน ก่อนหน้านี้ไป๋ชิงเหยียนยังใส่ใจการแต่งงานระหว่างซือหม่ารั่วตานและเซวียเหรินอี้ในที่ประชุมว่าราชการตอนเช้าอยู่เลย ต่อมาไป๋ชิงเหยียนแต่งตั้งซือหม่ารั่วตานเป็นเซียงเสียจวินจู่ คนที่ไม่รู้เบื้องลึกเบื้องหลังของเรื่องนี้จึงคิดว่าเซียงเสียจวิ้นจู่คือบุตรสาวบุญธรรมของซือหม่าเยี่ยน
ทว่า หลายคนสงสัยว่าบุตรสาวบุญธรรมของซือหม่าเยี่ยนซึ่งอยู่แต่ในเมืองหลวงจะมีส่วนช่วยไป๋ชิงเหยียนยึดด่านเย่เฉิงสำเร็จได้อย่างไร ที่สำคัญยังเป็นคนที่มีความชอบที่สุดจนได้แต่งตั้งเป็นถึงเซียงเสียจวิ้นจู่อีก
เมื่อซือหม่าเยี่ยนที่หลายวันมานี้รู้สึกเป็นกังวลตลอดเวลาได้ยินว่าจักรพรรดินีแต่งตั้งซือหม่ารั่วตานเป็นเซียงเสียจวิ้นจู่จึงตกใจจนแทบเป็นลม เขาฝืนต้อนรับสหายที่มาแสดงความยินดีพลางกล่าวว่าอาจเป็นคนที่นามซ้ำกัน จวิ้นจู่ผู้นั้นไม่ใช่บุตรสาวบุญธรรมของเขา
เมื่อสหายจากไปซือหม่าเยี่ยนทรุดตัวนั่งลงบนเก้าอี้ด้วยใบหน้าซีดเผือด เขาไม่เข้าใจเรื่องทั้งหมดนี้แม้แต่น้อย
ภรรยาของซือหม่าซึ่งอยู่ที่เรือนหลังได้ยินข่าวนี้จึงทรุดตัวลงนั่งบนเก้าอี้ด้วยความตกใจเช่นกัน นางรีบให้สาวใช้ประคองนางไปที่เรือนหน้า นางเห็นสามีของตัวเองนั่งหน้าซีดอยู่บนเก้าอี้ ทว่า ไม่ดีมีท่าทีร้อนรนจึงอุ่นใจขึ้นมาเล็กน้อย นางโบกมือให้สาวใช้ถอยออกไป จากนั้นก้าวเท้าเข้าไปในห้อง
“ท่านพี่ มันเกิดอันใดขึ้นกันแน่เจ้าคะ”
“ครั้งนี้ท่านแม่ก่อเรื่องใหญ่แล้ว!”
ซือหม่าเยี่ยนยังคงควบคุมสติของตัวเองได้ เขาเงยหน้ามองภรรยาของตัวเอง
“ฝ่าบาททรงมีรับสั่งให้รื้อคดีตระกูลฝั่งมารดาของซือหม่ารั่วตานขึ้นมาอีกครั้ง เจ้าคิดว่าเซียงเสียจวิ้นจู่ผู้นี้คือผู้กัน”
ลำคอของภรรยาซือหม่าเยี่ยนร้อนผ่าว นางนึกถึงตอนที่สามีเล่าให้นางฟังหลังจากกลับมาจากประชุมราชการตอนเช้าว่าฝ่าบาทตรัสถามถึงการแต่งงานระหว่างซือหม่ารั่วตานและเซวียเหรินอี้ ตอนนั้นนางคิดว่าฝ่าบาทใส่พระทัยเรื่องนี้เพราะเซวียเหรินอี้คือบัณฑิตจอหงวนในปีนี้ ตอนนี้นางรู้แล้วว่าฝ่าบาทกำลังหยั่งเชิงสามีของนางเท่านั้น
ภรรยาของซือหม่าเยี่ยนนั่งลงบนเก้าอี้อย่างช้าๆ จากนั้นกล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นเทา
“มิน่า…มิน่าฝ่าบาทจึงตรัสถามถึงการแต่งงานของซือหม่ารั่วตานและเซวียเหรินอี้ ฝ่าบาททรงทราบเรื่องทุกอย่างแล้ว! ท่านพี่ เราจะทำเช่นไรกันดีเจ้าคะ”
ซือหม่าเยี่ยนหลับตาลง เขาเขวี้ยงถ้วยชาทิ้งด้วยความโมโห
“ข้าซือหม่าเยี่ยนไม่เคยทำผิดพลาดเลยสักครั้งตั้งแต่เข้ามาทำงานในสำนักตรวจการจนได้เป็นถึงผู้ช่วยผู้ตรวจการสูงสุดในวันนี้ ข้ามีแต่ตรวจสอบความผิดของผู้อื่นเท่านั้น คราวนี้ข้ากลับต้องถูกตรวจสอบเองเสียแล้ว!”
ตอนนั้นเขาไม่ควรใจอ่อนปล่อยเรื่องนี้ไปเพียงเพราะท่านแม่ของเขาใช้ความตายมาข่มขู่เลย
เขาเรียนรู้มาตั้งแต่เล็กว่าการทำเรื่องใดก็ตามหากทำแล้วก็ควรมั่นใจว่าจะไม่มีข้อผิดพลาดเด็ดขาด หากปล่อยให้เกิดข้อผิดพลาดก็ไม่สู้ไม่ทำเสียเลยดีกว่า
มารดาของเขาบอกว่าส่งคนไปจัดการกับซือหม่ารั่วตานเรียบร้อยแล้วเขาจึงเชื่อมารดา ผลปรากฏว่าซือหม่ารั่วตานกลับไปปรากฏตัวที่ด่านเย่เฉิง กลายเป็นคนที่มีความดีความชอบที่สุดที่ช่วยต้าโจวยึดด่านเย่เฉิงได้สำเร็จ
ซือหม่าเยี่ยนพยายามควบคุมอารมณ์ของตัวเอง เขารู้ดีว่านี่ไม่ใช่เวลามาระบายความโกรธ เขาควรคิดหาวิธีแก้ไข
อันดับแรกเขาควรรีบเข้าไปรับผิดกับฝ่าบาท ประการต่อมาเขาต้องอธิบายเรื่องนี้กับเซวียเหรินอี้ แม้ตอนนี้เซวียเหรินอี้จะยังไม่ได้รับมอบหมายตำแหน่งขุนนางในราชสำนักหรือส่งไปประจำการที่ใด ทว่า ซือหม่าเยี่ยนรู้ดีว่าเขามีความสามารถ มิเช่นนั้นคงไม่ได้เป็นถึงจอหงวนในปีนี้ วันหน้าคนหนุ่มอย่างเซวียเหรินอี้ต้องได้รับความไว้วางใจจากฝ่าบาทให้รับตำแหน่งสำคัญแน่นอน ดูจากแบบร่างการตรวจสอบและประเมินขุนนางของต่งถิงเจินบัณฑิตที่สอบได้ลำดับหนึ่งในระดับสองก็รู้แล้วว่าวันหน้าฝ่าบาทจะใช้งานคนหนุ่มสาวแน่นอน
เมื่อคิดได้ดังนี้ซือหม่าเยี่ยนจึงรีบเปลี่ยนเครื่องแต่งกายเป็นชุดขุนนางอย่างไม่รอช้า จากนั้นหันไปบอกภรรยาของตัวเองว่าเขาจะเข้าไปรับผิดกับฝ่าบาทในวังหลวง
ภรรยาของซือหม่าเยี่ยนไม่ได้ควบคุมอารมณ์ของตัวเองได้เหมือนสามี นางโมโหจนพาลเกลียดแม่สามีของตัวเองไปด้วย เมื่อส่งซือหม่าเยี่ยนจากไปเสร็จนางจึงตรงไปที่เรือนของซือหม่าไท่จวินทันที
หลี่ซื่อเหล่าเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดให้ซือหม่าไท่จวินฟังอีกรอบอย่างละเอียด ซือหม่าไท่จวินฟังจบจึงหน้าซีดเผือดลงทันที นางทรุดกายลงบนเก้าอี้อย่างอ่อนแรง มองไปทางหลี่ซื่ออย่างไม่อยากเชื่อพลางเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงสั่นเทา
“เจ้าบอกว่าซือหม่ารั่วตานยังไม่ตาย ทั้งยังมีความดีความชอบช่วยให้ต้าโจวยึดด่านเย่เฉิงได้จนได้เป็นถึงเซียงเสียจวิ้นจู่อย่างนั้นหรือ! เจ้าแน่ใจว่านางคือซือหม่ารั่วตานคนนั้นอย่างนั้นหรือ!”
หลี่ซื่อนั่งลงบนเก้าอี้กลมพลางประสานมือไว้ที่หน้าท้อง นางกล่าวกับแม่สามีด้วยน้ำเสียงนอบน้อมเหมือนเคย
“เจ้าค่ะ ฝ่าบาทยังมีรับสั่งให้รื้อคดีของตระกูลฝั่งมารดาของซือหม่ารั่วตานในตอนนั้นเพื่อคืนความบริสุทธิ์ให้นางด้วยเจ้าค่ะ”
ซือหม่าเหล่าไท่จวินเกือบเป็นลมหมดสติ ทว่า นางฝืนนั่งนิ่งอยู่ที่เดิม จากนั้นถามต่อ “ซือหม่าเยี่ยนล่ะ”
“เรียนท่านแม่ ท่านพี่เปลี่ยนเครื่องแต่งกายเข้าไปรับผิดกับฝ่าบาทในวังหลวงแล้วเจ้าค่ะ”
หลี่ซื่อกล่าวเสียงรอดไรฟัน
“เขาเป็นถึงผู้ช่วยผู้ตรวจการกลับทำผิดเองเช่นนี้เกรงว่าคงรักษาตำแหน่งไว้ไม่ได้เจ้าค่ะ เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับคดีคนตายถึงสองคดียังไม่รู้ว่าจะมีชีวิตรอดหรือไม่…”
หลี่ซื่อเงยหน้าขึ้นมองไปทางซือหม่าไท่จวินอย่างตำหนิและไม่พอใจ
“ท่านแม่เป็นสตรีที่สูงศักดิ์ที่สุดของจวน ทว่า ไม่ยอมฟังคำเกลี้ยกล่อมของท่านพี่และข้าสักนิด ยืนกรานจะเปลี่ยนตัวคู่หมั้นของเซวียเหรินอี้ให้ได้ ตอนนี้ตระกูลของเรากำลังเผชิญกับหายนะแล้ว ท่านแม่พอใจแล้วหรือไม่เจ้าคะ!”
ลูกสะใภ้ที่เคยเชื่อฟังนางมาโดยตลอดกล่าวกับนางเช่นนี้เป็นครั้งแรก ซือหม่าไท่จวินมองไปทางลูกสะใภ้อย่างตกตะลึง ทว่า นางเข้าใจความโกรธของลูกสะใภ้ดี
ซือหม่าเหล่าไท่จวินที่เข้มงวดกับลูกสะใภ้มาโดยตลอดนั่งเงียบไม่เอ่ยสิ่งใดทั้งสิ้น นางกำลังคิดหาวิธีแก้ไขเรื่องนี้อยู่ในใจ
“ได้ยินว่าเมื่อครู่บุตรอนุนั่นออกจากจวนไปพบคู่หมั้นของนางตามนัดแล้ว ท่านแม่คงทราบดีว่าเหตุใดเซวียเหรินอี้จึงนัดนางออกไปพบในเวลานี้นะเจ้าคะ”
หลี่ซื่อกล่าวจบจึงลึกขึ้นทำความเคารพแม่สามี
“ท่านพี่คือบุตรชายเพียงคนเดียวของท่านแม่ คือพ่อของลูกๆ ของข้า ข้ารู้จักนิสัยของเขาดี เขาต้องรับผิดทั้งหมดแทนท่านแม่แน่นอน เสียตำแหน่งยังไม่เท่าใด ทว่า การถูกประหารคือเรื่องใหญ่ ท่านพี่จะรอดหรือไม่ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของท่านแม่นะเจ้าคะ!”