ตอนที่ 1314 ง่ายดาย
หลี่ซื่อได้ยินจึงรีบเช็ดน้ำตาพลางพยักหน้า “แต่งบุตรสาวให้แต่งกับตระกูลดีกว่า แต่งบุตรชายให้แต่งกับตระกูลด้อยกว่า ข้าเข้าใจเรื่องนี้ดีเจ้าค่ะ ท่านพี่ไม่ต้องเป็นห่วง หากข้าตัดสินใจไม่ได้ข้าจะนำเรื่องนี้ไปปรึกษาท่านแม่ของข้าเจ้าค่ะ”
ขณะสนทนาซือหม่าเยี่ยนเห็นขบวนนักโทษเนรเทศกลุ่มแรกออกมาจากประตูเมือง หัวหน้าผู้คุมนักโทษยื่นรายชื่อนักโทษให้ทหารที่เฝ้าประตูเมืองตรวจสอบ จากขี่ม้าออกมาจากเมืองหลวงช้าๆ
“ข้าไม่มีสิ่งใดจะกำชับแล้ว!” ซือหม่าเยี่ยนกล่าวจบจึงโค้งกายให้ภรรยาหนึ่งที
“ขอฝากตระกูลไว้กับฮูหยินด้วย ลำบากฮูหยินแล้ว”
หลี่ซื่อพยักหน้า “ท่านพี่รักษาตัวด้วยนะเจ้าคะ!”
ผู้สำเร็จราชการอ๋องเก้าซึ่งเป็นทูตของต้าเยี่ยนเดินทางมาถึงเมืองหลวงของต้าโจวแล้ว ไป๋ชิงเหยียนพบหน้ากลุ่มของเซียวหรงเหยี่ยนตอนว่าราชการตอนเช้า
ผู้สำเร็จราชการเซียวหรงเหยี่ยนเสนอเรื่องการใช้การปกครองของสองแคว้นเป็นตัวตัดสินเพื่อรวมสองแคว้นเป็นหนึ่งกลางท้องพระโรง ราชสำนักต้าโจวแตกตื่นขึ้นมาทันที
ขุนนางฝ่ายนักรบของต้าโจวตะโกนให้ต้าเยี่ยนมอบตัวไทเฮามาให้ต้าโจวอย่างเดือดดาล มิเช่นนั้นต้าโจวจะรบกับต้าเยี่ยนให้ตายกันไปข้างหนึ่ง ตอนนี้ต้าโจวได้เปรียบเรื่องการทำสงคราม พวกเขาอาจทำลายล้างต้าเยี่ยนจนดับสูญได้ภายในสองปี
ไป๋ชิงเหยียนนั่งมองเซียวหรงเหยี่ยนที่ยืนอยู่กลางท้องพระโรงในฐานะทูตของต้าเยี่ยนอยู่บนบัลลังก์สูง ใบหน้าของหญิงสาวเต็มไปด้วยรอยยิ้มอ่อนๆ
ถึงแม้พวกนางจะเป็นสามีภรรยากัน ทว่า ตอนนี้พวกนางคือตัวแทนของแคว้นตัวเอง พวกนางจะไม่เอาความรู้สึกส่วนตัวมาเกี่ยวข้องกับเรื่องแคว้น ไป๋ชิงเหยียนจึงไม่ได้ห้ามเหล่าขุนนางที่กำลังระบายความโกรธใส่ขุนนางของต้าเยี่ยนในตอนนี้
จงสิงเสี่ยวยืนก้มหน้าตัวสั่นอยู่ทางด้านขวาเซียวหรงเหยี่ยนกลางท้องพระโรงด้วยความหวาดกลัว เขากลัวว่าเหล่าขุนนางของต้าโจวจะฉีกเขาออกเป็นชิ้นๆ เขาหากรู้ว่าเขาคือพี่ชายของไทเฮาแห่งต้าเยี่ยน
จงสิงเสี่ยวกลัวไป๋ชิงเหยียนจะรู้ฐานะที่แท้จริงของเขา กลัวว่าไป๋ชิงเหยียนจะลอบแก้แค้นเขาลับหลังเพราะไม่กล้าจัดการเขาต่อหน้าทุกคน ไม่ว่าอย่างไรที่นี่ก็คือแผ่นดินของต้าโจว จักรพรรดินีแห่งต้าโจวสามารถจัดการเขาได้อย่างง่ายดายที่สุด
“อ๋องเก้าแห่งต้าเยี่ยน…”
หลิ่วหรูซื่อเสนาบดีกรมพิธีการก้าวไปด้านหน้า จากนั้นโค้งคำนับให้อ๋องเก้าแห่งต้าเยี่ยนที่สวมหน้ากากปิดบังใบหน้าอยู่
“ต้าโจวของพวกเราต้องการให้ต้าเยี่ยนชดเชยเรื่องที่ต้าเยี่ยนทรยศต้าโจว อ๋องเก้าต้องการเวลาเดือนครึ่ง ต้าโจวก็ให้เวลาท่านเดือนครึ่ง ทว่า อ๋องเก้าแห่งต้าเยี่ยนไม่เพียงไม่ให้คำตอบกับต้าโจว กลับเสนอเรื่องการแข่งขันด้วยระบอบการปกครองเพื่อรวมสองแคว้นเป็นหนึ่งขึ้นมาเช่นนี้ ข้อเสนอนี้มีประโยชน์กับต้าเยี่ยน ทว่า ไม่มีประโยชน์กับต้าโจวแม้แต่น้อย ต้าเยี่ยนแผนสูงเกินไปหรือไม่!”
หลิ่วหรูซื่อกล่าวจบบรรดาขุนนางในราชสำนักไม่ว่าขุนนางฝ่ายบัณฑิตหรือฝ่ายนักรบต่างเดือดดาลขึ้นทันที ต่างพากันตะโกนบอกให้ต้าเยี่ยนชดใช้ให้ต้าโจว แม่ทัพบางคนที่อารมณ์ร้อนตะโกนด่าว่าต้าเยี่ยนเป็นคนหน้าไม่อาย
ไป๋ชิงเหยียนยิ้มออกมาน้อยๆ นางไม่ได้ห้ามปรามหลิ่วหรูซื่อและขุนนางในราชสำนัก หากข้อเสนอนี้ไม่ได้เป็นความคิดของนางตั้งแต่แรก นางก็คงสงสัยว่าต้าเยี่ยนเสนอข้อเสนอนี้เพื่อยื้อเวลาให้ตัวเองได้พักรบเช่นเดียวกัน
โชคดีที่นางเป็นคนวางแผนเรื่องนี้มาตั้งแต่แรก นาง เซียวหรงเหยี่ยนและมู่หรงลี่ล้วนเตรียมการเพื่อวันนี้มานานแล้ว
เซียวหรงเหยี่ยนและมู่หรงลี่จัดการฝั่งของต้าเยี่ยนเรียบร้อยแล้ว ตอนนี้ก็ต้องรอดูว่านาง ขุนนางในราชสำนักต้าโจว หลู่ไท่เว่ย เสิ่นซือคงและท่านลุงต่งซือถูของนางจะรับมือกับเรื่องนี้เช่นไรแล้ว
“ต้าเยี่ยนไม่เพียงไม่ให้คำตอบเรื่องนี้กับพวกเรา ยังคิดจะมาเอาเปรียบต้าโจวของเราอีก พวกเจ้ายังไม่ตื่นจากฝันหรืออย่างไร!”
สีหน้าของแม่ทัพคนหนึ่งเต็มไปด้วยโทสะอย่างเห็นได้ชัด เขาตะโกนขึ้นเสียงดังลั่นท้องพระโรง
“ช่างหน้าไม่อายจริงๆ! กำลังทหารสู้ต้าโจวไม่ได้จึงเปลี่ยนเป็นแข่งขันด้วยระบอบการปกครองแทน…”
แม่ทัพคนหนึ่งกล่าวจบจึงมองไปทางเยว่สือ จากนั้นชี้นิ้วไปทางเยว่สือที่ยืนอยู่ด้านหลังเซียวหรงเหยี่ยน
“เจ้า…เจ้ามันคนกินบนเรือนขี้รดบนหลังคา เจ้าคือองครักษ์ข้างกายของอดีตพระภัสดา ตอนนี้พระภัสดาจากไปแล้วเจ้าก็ควรอยู่ปกป้ององค์ชายน้อยและองค์หญิงน้อยของพวกเรา ทว่า เจ้ากลับทรยศกลายไปเป็นสุนัขรับใช้ของต้าเยี่ยน เจ้าไม่กลัวว่าพระภัสดาจะผิดหวังในตัวเจ้าอย่างนั้นหรือ!”
เยว่สือ “…”
เดิมทีเยว่สือไม่อยากตามเข้ามาในตำหนัก ทว่า ลุงเฝิงยืนกรานให้เขาตามมาด้วย ตอนนี้เยว่สือไม่อาจเถียงแม่ทัพผู้นั้นได้ว่าเขาไม่เคยทรยศเจ้านายของตัวเอง…
เยว่สือทำได้เพียงโค้งกายคำนับแม่ทัพผู้นั้น จากนั้นกล่าวตามที่เตรียมไว้ก่อนหน้านี้
“ท่านแม่ทัพโปรดระงับความโกรธด้วย ตอนนั้นอ๋องเก้าแห่งต้าเยี่ยนมีบุญคุณต่อเจ้านายของข้า เจ้านายของข้าเสียชีวิตไปแล้วข้าจึงต้องตอบแทนบุญคุณแทนเจ้านาย แม่ทัพได้โปรดเข้าใจข้าด้วย”
“ไม่เข้าใจ!” แม่ทัพผู้นั้นชี้นิ้วไปทางร่างสูงโปร่งของเซียวหรงเหยี่ยน
“ต้าเยี่ยนเกือบทำให้เจิ้นกั๋วอ๋องและอิงฮุ่ยโหวของพวกเราเสียชีวิต นั่นคือพระอนุชาและพระขนิษฐาแท้ๆ ของฝ่าบาทเชียวนะ!”
เยว่สือแสร้งมองไปทางไป๋ชิงเหยียนที่นั่งอยู่บนบัลลังก์อย่างทำสิ่งใดไม่ถูก
“ฝ่าบาท!” จางตวนหนิงเสนาบดีกรมทหารก้าวไปด้านหน้า จากนั้นกำหมัดกล่าวกับไป๋ชิงเหยียน
“กระหม่อมคิดว่าต้าเยี่ยนเสนอข้อเสนอนี้ขึ้นมาเพื่อยื้อเวลาให้ตัวเองเท่านั้นพ่ะย่ะค่ะ ต่อให้พวกเขาพ่ายแพ้พวกเขาก็คงไม่มีทางยอมยกต้าเยี่ยนให้พวกเราแน่นอนพ่ะย่ะค่ะ ตอนนี้กองทัพหลักของพวกเขาถูกกันอยู่ที่ซีเหลียง กองทัพต้าโจวของเราประชิดอยู่ที่ชายแดนต้าเยี่ยน ตอนนี้แคว้นต้าเยี่ยนเหลือเพียงคนชราและเด็กอ่อนแอที่ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของต้าโจวเท่านั้นพ่ะย่ะค่ะ!”
“ท่านเสนาบดี…” เซียวหรงเหยี่ยนก้มศีรษะให้จางตวนหนิงเล็กน้อย จากนั้นกล่าวขึ้นอย่างไม่รีบร้อน “เสนาบดีรู้ได้อย่างไรว่าต้าเยี่ยนเหลือเพียงคนชราและเด็กอ่อนแอ เสนาบดีกรมทหารเคยไปต้าเยี่ยนอย่างนั้นหรือ”
“เสนาบดีกรมทหารของพวกเราไม่จำเป็นต้องลำบากเดินทางไปยังต้าเยี่ยน หลายปีมานี้ต้าเยี่ยนเผชิญภัยพิบัติทางธรรมชาติมากมาย ต้าเยี่ยนมีเสบียงไม่เพียงพอจนชาวบ้านล้มตายไปมากโข มีชาวบ้านอีกจำนวนมากอพยพหนีมายังต้าโจว แม้ต่อมาพวกท่านจะยึดหนานเยี่ยนกลับคืนมาได้ ทว่า นั่นเพิ่งไม่กี่ปีเท่านั้น ตอนนี้ต้าเยี่ยนฟื้นคืนสภาพเดิมแล้วอย่างนั้นหรือ”
หลิ่วหรูซื่อกล่าวเสียงเรียบ
“เห็นได้ชัดว่ายังไม่ฟื้นสภาพ กำลังทหารของต้าเยี่ยนก็มีอย่างจำกัด!”
“คนต้าเยี่ยนเป็นคนอดทนและหยิ่งในศักดิ์ศรี หากต้าเยี่ยนใกล้ดับสูญขึ้นมาจริงๆ กองกำลังหลักที่อยู่ที่ซีเหลียงต้องพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อกลับไปช่วยต้าเยี่ยนแน่นอน ที่สำคัญต้าเยี่ยนมีชาวบ้านที่ยอมพลีชีพเพื่อแคว้นทุกคน!”
เซียวหรงเหยี่ยนมองไปทางไป๋ชิงเหยียนที่นั่งอยู่บนบัลลังก์
“จักรพรรดินีแห่งต้าโจวน่าจะทราบเรื่องนี้ดี เพราะก่อนหน้านี้กองทัพไป๋เคยแย่งดินแดนของต้าเยี่ยนไปทีละดินแดน…รวมถึงเมืองหลวงแห่งนี้ด้วย!”
ไป๋ชิงเหยียนสบตากับดวงตาดำล้ำลึกของเซียวหรงเหยี่ยนที่อยู่ภายใต้หน้ากากนิ่ง
“จักรพรรดินีแห่งต้าโจวคงทราบดีว่าทหารยึดเมืองของต้าเยี่ยนแต่ละเมืองได้ยากลำบากเพียงใด ชาวบ้านทุกคนในเมืองไม่ว่าชายหญิงเด็กหรือคนชราล้วนลุกขึ้นต่อต้านศัตรู ต่อให้เป็นกองทัพไป๋ที่แข็งแกร่งก็ยังสูญเสียชีวิตไปไม่น้อยจากการยึดเมืองแต่ละเมืองของต้าเยี่ยน”
เซียวหรงเหยี่ยนยืนเอามือไขว้หลังเดินไปมาช้าๆ อยู่กลางท้องพระโรงราวกับกำลังเล่านิทานให้ทุกคนฟัง
“ที่สำคัญเมืองที่ยึดได้ล้วนมีสภาพเละไม่เป็นท่า ชาวบ้านส่วนใหญ่ในเมืองล้วนเสียชีวิตในสงคราม”