สตรีแกร่งตระกูลไป๋ – ตอนที่ 1319 รับมือไม่ทัน

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

ตอนที่ 1319 รับมือไม่ทัน

เซียวหรงเหยี่ยนไม่ได้อยู่เป็นเพื่อนอาเป่าตอนนางคลอดลูกก่อนกำหนด ชายหนุ่มยังรู้สึกผิดจนถึงตอนนี้ ความรู้สึกผิดและความห่วงหาทำให้เขาแทบอยากติดปีกบินมาหาหญิงสาว ทว่า จำต้องควบคุมความรู้สึกของตัวเองเอาไว้ ดังนั้นระหว่างที่เดินทางมายังต้าโจวไม่มีวันใดเลยที่ชายหนุ่มจะไม่รู้สึกทรมาน

“ฝ่าบาท องค์ชายน้อยและองค์หญิงน้อยรอท่านอ๋องเก้าอยู่ในตำหนักแล้วพ่ะย่ะค่ะ” เว่ยจงบอกเซียวหรงเหยี่ยนยิ้มๆ

นอกตำหนักไม่มีทหารรักษาพระองค์รักษาการ ทุกคนถูกส่งไปเฝ้าด้านล่างบันไดตำหนักเท่านั้น

เซียวหรงเหยี่ยนพยักหน้า เขาหันไปสั่งให้เยว่สือรอเขาอยู่นอกตำหนัก จากนั้นเดินตามเว่ยจงเข้าไปในตำหนักหมิงอันที่เปิดไฟสว่างโล่ง

ยิ่งเดินเข้าใกล้ประตูตำหนักมากเท่าใดเซียวหรงเหยี่ยนก็ยิ่งรู้สึกตื่นเต้นมากเท่านั้น ตอนนี้เขากลายเป็นพ่อคนแล้ว

เซียวหรงเหยี่ยนไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าวันหนึ่งเขาจะมีลูกเป็นของตัวเอง เขาคิดว่าเขาคงอุทิศชีวิตทั้งหมดของตัวเองให้แก่แคว้นต้าเยี่ยนเท่านั้น

อาเป่า…คือสิ่งที่เหนือความคาดหมายของเขา ลูกทั้งสองมาเร็วจนเขาตั้งตัวไม่ทัน

เซียวหรงเหยี่ยนไม่แน่ใจว่าเขาจะกลายเป็นพ่อที่ดีได้หรือไม่เพราะบิดาของเขาเลือดเย็นกับสายเลือดแท้ๆ ของตัวเองถึงเพียงนั้น ในร่างกายของเขามีสายเลือดของคนผู้นั้นอยู่ เซียวหรงเหยี่ยนกลัวว่าเขาจะเป็นพ่อที่ดีไม่ได้

ประตูตำหนักหมิงอันถูกเว่ยจงเปิดออกช้าๆ

ในตำหนักมีผ้าม่านสีเหลืองผืนบางที่เกี่ยวอยู่บนเสาสีทองต้นใหญ่สองข้างของตำหนักบดบังอยู่หลายชั้น ภายในตำหนักอบอวลด้วยกลิ่นธูปหอม พื้นตำหนักถูกปูด้วยพรมสีแดงซึ่งปักด้วยลวดลายมังกรและลายมงคลอื่นยาวไปจนถึงเสื่องาช้าง ไป๋ชิงเหยียนและต่งซื่อซึ่งอุ้มเด็กน้อยไว้ในอ้อมแขนคนละคนกำลังสนทนาบางอย่างอยู่กับชุนเถาที่ยืนอยู่ด้านข้างด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม

เซียวหรงเหยี่ยนยืนมองดูภาพอบอุ่นตรงหน้านิ่งอยู่กับที่ ใจที่เต้นรัวสงบลงในทันที จู่ๆ เขาก็รู้สึกไม่อยากเข้าไปทำลายภาพอบอุ่นตรงหน้านี้

เว่ยจงเตรียมเดินเข้าไปรายงานไป๋ชิงเหยียนและต่งซื่อที่ยังไม่รู้ตัวว่าประตูตำหนักถูกเปิดออกแล้ว ทว่า กลับถูกเซียวหรงเหยี่ยนห้ามไว้เสียก่อน

ภาพตรงหน้าทำให้เซียวหรงเหยี่ยนหวนนึกถึงภาพในความทรงจำของตัวเอง เซียวหรงเหยี่ยนยังพอจำได้อย่างเลือนรางมารดาของเขาเคยนั่งสนทนาอยู่กับบิดาของเขาตอนที่ยังสติไม่สมประกอบอยู่บนเสื่องาช้างในตำหนักนี้เช่นเดียวกัน ข้างกายของมารดามีโต๊ะสี่เหลี่ยมตัวเล็กที่วางผลไม้และขนมอยู่บนนั้น มารดาของเขามักจะอุ้มพวกเขาพี่น้องนั่งเล่นอยู่ในตำหนักท่ามกลางแสงไฟสว่างนวล รอยยิ้มของมารดาเป็นรอยยิ้มที่ตราตรึงใจของเขามาก

ต่งซื่อใช้ผ้าเช็ดหน้าปิดปากหัวเราะ นางเหลือบเห็นเซียวหรงเหยี่ยนที่ยืนอยู่หน้าประตูตำหนักเข้าพอดี

เซียวหรงเหยี่ยนได้สติ ชายหนุ่มรีบถอดหน้ากากส่งให้เว่ยจง จากนั้นโค้งกายทำความเคารพต่งซื่อ

“อาเหยี่ยนกลับมาแล้ว…” รอยยิ้มของต่งซื่อกว้างขึ้นกว่าเดิม นางกวักมือเรียกเซียวหรงเหยี่ยนด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความเมตตาและอ่อนโยน “รีบเข้ามาเถิด”

ต่งซื่อกล่าวจบจึงหันไปสั่งชุนจือ “นำน้ำบ๊วยมาให้อาเหยี่ยนเร็ว”

อากาศในเดือนห้าเริ่มร้อนแล้ว ถงหมัวมัวเป็นคนทำน้ำบ๊วยด้วยตัวเอง ทว่า ตำหนักของไป๋ชิงเหยียนไม่มีน้ำแข็ง มีแต่น้ำอุณหภูมิห้อง ต่งซื่อรู้ว่าเซียวหรงเหยี่ยนจะมาจึงสั่งให้คนเตรียมน้ำแข็งไว้รอชายหนุ่มแล้ว

เซียวหรงเหยี่ยนได้ยินคำว่า ‘กลับมา’ จึงรู้สึกตะลึงมาก เขาเดินเข้าไปหาต่งซื่ออย่างนอบน้อม ไม่กล้าเงยหน้ามองไป๋ชิงเหยียนแม้แต่นิดเดียว เขาหยุดยืนอยู่หน้าต่งซื่อโดยเว้นระยะห่างอย่างเหมาะสม จากนั้นทำความเคารพอีกครั้ง “อาเหยี่ยนคารวะมารดาขอรับ”

ไป๋ชิงเหยียนมองไปที่เซียวหรงเหยี่ยนตลอดเวลา เมื่อเห็นท่าทีระมัดระวังตัวของชายหนุ่มจึงอดหัวเราะอยู่ในใจไม่ได้ ไป๋ชิงเหยียนสวมชุดกระโปรงสีเรียบ ปักปิ่นปักผมที่ชายหนุ่มเคยมอบให้ นางก้มมองบุตรสาวในอ้อมกอดแวบหนึ่ง จากนั้นมองไปทางเซียวหรงเหยี่ยนที่มีท่าทีหวาดเกรงต่งซื่อมารดาของนางอย่างเห็นได้ชัด รอยยิ้มของนางกว้างขึ้นกว่าเดิม

“พอเถิด ครอบครัวเดียวกันไม่จำเป็นต้องมากพิธีเช่นนี้!” ต่งซื่อกวักมือเรียกเซียวหรงเหยี่ยนยิ้มๆ “มาดูเด็กสองคนนี่เร็ว…”

เว่ยจงเดินเข้าไปช่วยถอดรองเท้าให้เซียวหรงเหยี่ยน

เซียวหรงเหยี่ยนคุกเข่าลงนั่งข้างกายไป๋ชิงเหยียน เขามองหน้าหญิงสาวนิ่งอยู่พักใหญ่ จากนั้นละสายตามองไปยังลูกน้อยตัวขาวนุ่มนิ่มในอ้อมกอดของไป๋ชิงเหยียน ใจของเซียวหรงเหยี่ยนอ่อนยวบราวขนนก เขาไม่รู้ว่านี่คือความรู้สึกอันใดกันแน่

“เร็ว รีบส่งสี่เล่อให้อาเหยี่ยนดู…” ต่งซื่อส่งเด็กน้อยในอ้อมกอดให้ชุนเถา

ชุนเถารับตัวสี่เล่อมาอย่างระมัดระวัง จากนั้นเดินไปหยุดอยู่ข้างกายเซียวหรงเหยี่ยนพลางกล่าวเสียงเบา “นายท่านเขยดูคุณชายน้อยสิเจ้าคะ น่าเอ็นดูมากเลยเจ้าค่ะ!”

ชุนเถาคือสาวใช้คนสนิทของไป๋ชิงเหยียน นางย่อมรู้ฐานะของเซียวหรงเหยี่ยนแล้ว นางได้ยินเรื่องของเซียวหรงเหยี่ยนมาจากเฉินชิ่งเซิงเช่นเดียวกัน หลังจากตกตะลึงไปพักใหญ่ชุนเถาก็คิดได้ว่าหากอ๋องเก้าแห่งต้าเยี่ยนผู้นี้รักคุณหนูใหญ่ของนางจริงๆ ชุนเถาก็จะยอมรับเขาเช่นเดียวกัน

ตอนที่นางอยู่ในเมืองหลวงนางได้ยินว่าอ๋องเก้าแห่งต้าเยี่ยนยกทัพไปช่วยเหลือคุณหนูใหญ่ที่เมืองเจียงจือทั้งๆ ที่ตัวเองได้รับบาดเจ็บหนักและกำลังจะยึดเมืองอวิ๋นจิงได้ก่อนต้าโจว

นายท่านเขยผู้นี้ให้ความสำคัญกับคุณหนูใหญ่ของนางมาเป็นอันดับหนึ่ง ความโมโหในใจของชุนเถาจึงหายไปแทนที่ด้วยความรู้สึกดีใจแทนคุณหนูใหญ่ของตัวเอง

เมื่อเซียวหรงเหยี่ยนเห็นหน้าเด็กทั้งสองเขาจึงตระหนักได้ว่าตัวเองกลายเป็นพ่อของเด็กสองคนแล้ว

ตอนที่ได้ยินว่าไป๋ชิงเหยียนคลอดก่อนกำหนดเขาเป็นห่วงแต่ไป๋ชิงเหยียน เขารีบร้อนอยากมาพบหญิงสาวที่เมืองหลวง เขาไม่ได้รู้สึกคิดถึงหรือเป็นห่วงลูกทั้งสองที่ยังไม่เคยพบหน้ากันมากเท่ากับไป๋ชิงเหยียน

ตอนนี้เมื่อพบหน้าลูกน้อยทั้งสอง จุดที่อ่อนไหวที่สุดในใจของเซียวหรงเหยี่ยนจึงสั่นไหวขึ้นเพราะร่างนุ่มนิ่มตัวน้อยของลูกน้อยทั้งสอง เขาอยากก้มหน้าหอมแก้มลูกน้อยทั้งสองอย่างอดใจไม่อยู่ ทว่า เขายังไม่ได้ล้างหน้า เขากลัวว่าฝุ่นและสิ่งสกปรกที่ติดอยู่ที่ร่างกายของเขาระหว่างเดินทางมาที่ต้าโจวจะแพร่ไปยังลูกน้อยของตัวเอง

ชายหนุ่มเอื้อมมือไปจับมือน้อยของลูกทั้งสองที่อยู่ในแขนเสื้อ เขารู้สึกว่ามือของลูกน้อยนุ่มนิ่มราวกับน้ำที่พร้อมละลายได้ทุกเมื่อ

“อยากอุ้มหรือไม่” ไป๋ชิงเหยียนเอ่ยถาม

เซียวหรงเหยี่ยนหยัดกายตรง เขาเงยหน้าสบตาไป๋ชิงเหยียนด้วยแววตาที่อ่อนหวานและอ่อนโยนที่สุด ฝ่ามือของเขาชื้นไปด้วยเหงื่อจากความประหม่า ชายหนุ่มเอ่ยถามเสียงเบา “ข้ายังไม่ทันได้เปลี่ยนเครื่องแต่งกาย อุ้มพวกเขาจะไม่เป็นอันใดหรือ”

ไป๋ชิงเหยียนยิ้มออกมาน้อยๆ จากนั้นส่งคังเล่อในอ้อมแขนให้เซียวหรงเหยี่ยน เด็กสาวดูตัวนิดเดียว ทว่า ตอนที่เซียวหรงเหยี่ยนรับตัวลูกน้อยมาอุ้มไว้ในอ้อมแขนอย่างระมัดระวังจึงรู้ว่าตัวของเด็กน้อยหนักกว่าที่เขาคิดไว้

อาจเป็นเพราะรับรู้ได้ว่าถูกเปลี่ยนคนอุ้ม เด็กน้อยขยับริมฝีปากของตัวเองเล็กน้อยพลางกะพริบตาปริบๆ จากนั้นหลับต่ออย่างรวดเร็ว

ร่างของเซียวหรงเหยี่ยนแข็งทื่อ เขาพยายามขยับแขนให้น้อยที่สุดเพราะกลัวจะทำให้ลูกน้อยได้รับบาดเจ็บ ชายหนุ่มเงยหน้ามองไป๋ชิงเหยียนพลางเอ่ยถามความเห็น “ข้าอุ้มถูกหรือไม่”

ต่งซื่อใช้ผ้าเช็ดหน้าปิดปากหัวเราะ “ไม่ร้องแสดงว่าถูกแล้ว!”

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

Status: Ongoing
นิยายจีนโบราณเข้มข้น ปะทะคารม ทดสอบไหวพริบ สนุกถึงใจ!เพราะถูกคนชั่วหลอกใช้ชาติก่อนคนทั้งตระกูลของนางจึงต้องตายอย่างน่าอนาถ ไร้ซึ่งคนทวงถามความเป็นธรรมชาตินี้นางหวนกลับมาก่อนเรื่องราวเกิดขึ้น แม้เพียงเล็กน้อยแต่หากสามารถช่วยเหลือคนในครอบครัวได้แม้สักคนนางก็ยินดีทุ่มเทกำลังให้ถึงที่สุดสตรีตระกูลไปแต่ไรมาแกร่งกล้ำเพียบพร้อมบุ๋นบู๊ แม้ไร้ซึ่งที่พึ่งพิงแล้วจริงแต่ก็จะไม่ยอมให้ผู้ใดมากดขี่ได้!และเพราะเรื่องราวที่เปลี่ยนแปลงไปนางจึงได้พบกับ ‘เขา’ ไวกว่าชาติก่อนเขาผู้นี้แม้ภายนอกดูป็นมิตรและสง่งามกว่าใคร แต่นงแจ่มแจ้งดีว่าเขาเจ้าเล่ห์และอำหิตมากเพียงไหนชาติก่อนแม้ยืนกันคนละฝั่งแต่บุรุษผู้นี้กลับเป็นผู้มอบทางรอดให้แก่นาง อย่างนั้นชาตินี้นางก็ย่อมตอบแทนเขาเป็นอย่างดีเช่นกัน“แม่นางไปช่วยเหลือข้าหลายครั้งหลายครา ใช่ว่าชื่นชอบข้าหรือไม่?”“คุณชายเข้าใจผิดแล้วล่ะ”“ข้าช่วยเหลือแม่นางไปมาหลายครั้งหลายครา แม่นางไปมีใจชื่นชอบข้าบ้างหรือไม่?”“…”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท