สตรีแกร่งตระกูลไป๋ – ตอนที่ 1325 บิดาใจดีมารดาเข้มงวด

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

ตอนที่ 1325 บิดาใจดีมารดาเข้มงวด

ท่านปู่เคยบอกกับนางว่า ‘อาเป่า…เจ้าคือพี่สาวคนโตดังนั้นเจ้าต้องทนลำบากสักหน่อยเพื่อเป็นตัวอย่างที่ดีให้แก่น้องๆ เจ้าต้องเป็นพี่สาวที่ดี ปกป้องบรรดาน้องชายและน้องสาวของตัวเอง อย่าคิดว่าตัวเองเป็นเพียงสตรีแล้วจะทำดีได้ไม่เท่าบุรุษ ขอเพียงเจ้าทนความลำบากได้ ต่อให้บุรุษก็ไม่สามารถเทียบเทียมเจ้าได้แน่นอน!’

ไป๋ชิงเหยียนมีความหวังเช่นนี้ในตัวบุตรสาวของนางเช่นเดียวกัน นางไม่อยากให้คังเล่อคิดว่าตัวเองควรได้รับการปกป้องจากคนในครอบครัวเพียงเพราะนางคือสตรี นางอยากให้บุตรสาวเติบโตเป็นคนที่โดดเด่นเหนือผู้อื่นเช่นเดียวกับบุตรชายของนาง

เซียวหรงเหยี่ยนตะลึงไปชั่วครู่ เขาไม่คิดเลยว่าตระกูลไป๋จะสอนทายาทในตระกูลเช่นนี้

ไม่นานเซียวหรงเหยี่ยนจึงคลี่ยิ้มกว้างออกมา “ตระกูลไป๋น่านับถือยิ่งนัก ดูเหมือนว่าต่อไปต้องลำบากให้อาเป่าเป็นคนสั่งสอนลูกทั้งสองแล้ว เช่นนั้นต่อไปครอบครัวเราจะมีพ่อใจดีและแม่ที่เข้มงวด! ให้ข้ารับบทเป็นพ่อที่แสนดีแทนก็แล้วกัน!”

ไป๋ชิงเหยียนหัวเราะออกมาอย่างคุมไม่อยู่ “ได้ ข้าจะเป็นแม่ที่เข้มงวดแล้วให้ท่านเป็นพ่อที่ใจดี”

“กล่าวแล้วห้ามคืนคำเด็ดขาดนะ! อาเป่าคือจักรพรรดินี ตรัสคำไหนต้องเป็นคำนั้น!” เซียวหรงเหยี่ยนกอดลูกน้อยในอ้อมกอดอย่างมีความสุข “ต่อไปเมื่อครอบครัวของเราได้อยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตา หากเด็กๆ ทำสิ่งใดไม่ถูกต้อง ข้าจะฟ้องอาเป่าให้อาเป่าอบรมสั่งสอนพวกเขา จากนั้นข้าจะออกมาปกป้องพวกเขาเอง”

“เหตุใดผู้สำเร็จราชการถึงได้เจ้าเล่ห์ถึงเพียงนี้กัน ท่านให้ข้าเป็นมารดาที่โหดร้าย ท่านจะได้กลายเป็นบิดาที่แสนดีอย่างนั้นหรือ!”

ชุนเถาที่ยืนอยู่ข้างเสาสีแดงในตำหนักหัวเราะออกมาอย่างคุมไม่อยู่ นางนึกถึงเรื่องที่มารดาของนางเคยเล่าให้ฟังขึ้นมาได้ ตอนที่ฮูหยินใหญ่คลอดคุณหนูใหญ่ออกมา นายท่านอุ้มคุณหนูใหญ่ไม่ยอมปล่อยมือ คุณหนูใหญ่ยังเป็นเพียงทารกแบเบาะนายท่านก็กล่าวกับฮูหยินว่าให้ฮูหยินเป็นมารดาที่เข้มงวด ส่วนเขาจะเป็นบิดาที่ใจดีเอง เช่นนี้บุตรสาวต้องสนิทกับเขามากกว่ามารดาแน่นอน

ชุนเถาเห็นภาพที่ไป๋ชิงเหยียนและเซียวหรงเหยี่ยนยืนอุ้มเด็กน้อยทั้งสองสนทนากันด้วยรอยยิ้มจึงนึกถึงนายท่านใหญ่ไป๋ฉีซานขึ้นมา ขอบตาของนางเริ่มร้อนผ่าวขึ้น หากนายท่านไป๋ฉีซานยังอยู่และเห็นว่าคุณหนูใหญ่และนายท่านเขยมีหลานที่น่าเอ็นดูให้ท่านถึงสองคนเช่นนี้เขาคงดีใจมากแน่นอน

เซียวหรงเหยี่ยนเพิ่งเข้ามาในวังหลวงเป็นครั้งแรกจึงอยู่นานไม่ได้ เมื่อกล่อมลูกน้อยทั้งสองคนหลับสนิท เซียวหรงเหยี่ยนจึงเตรียมออกไปจากวังหลวง

“ครั้งนี้มีสายลับของพี่สะใภ้ติดตามมาด้วย ข้าจึงอยู่ที่นี่นานไม่ได้ คงต้องกลับแล้ว!” เซียวหรงเหยี่ยนยกมือไป๋ชิงเหยียนขึ้นมาจุมพิตเบาๆ จากนั้นกล่าวเสียงเบา “ทว่า ยังดีที่ข้ายังอยู่ในเมืองหลวงของต้าโจว ได้อยู่ใกล้เจ้ากับลูกมากกว่าเดิม”

ชุนเถาและชุนจือเห็นเหตุการณ์จึงเข้าไปอุ้มเด็กน้อยทั้งสองออกไปจากตำหนัก ไม่อยู่รบกวนคุณหนูใหญ่และนายท่านเขยอีกต่อไป

“หากอยู่ที่จวนไป๋ก็คงดี หากเป็นจวนไป๋ข้าคงสามารถให้เยว่สือล่อองครักษ์ไป๋ไปที่อื่นแล้วลอบเข้าไปหาเจ้าและลูกในเรือนชิงฮุยได้!” เซียวหรงเหยี่ยนกล่าวอย่างเสียดาย ตอนที่ไป๋ชิงเหยียนอยู่ที่จวนไป๋มีองครักษ์ไป๋ที่รู้งานอยู่ เขาจึงสามารถเข้าไปหาไป๋ชิงเหยียนได้อย่างง่ายดาย ทว่า ตอนนี้ไป๋ชิงเหยียนอยู่ในวังหลวงที่กว้างใหญ่ เขาไม่สามารถลอบเข้ามาได้ง่ายๆ โดยที่ไม่มีผู้ใดรับรู้ ไป๋ชิงเหยียนยิ่งไม่อาจสั่งให้คนเปิดทางให้เขาได้ มิเช่นนั้นผู้อื่นอาจจับพิรุธได้

“เอาเถิด” ไป๋ชิงเหยียนก้มหน้าปลดถุงเงินออกจากเอวของเซียวหรงเหยี่ยน จากนั้นใส่ไว้ในหน้าอกของชายหนุ่ม “ล้วนอยู่ในเมืองหลวง มีวิธีนัดพบกันมากมาย อีกไม่กี่วันบรรดาท่านอาสะใภ้จะจัดงานเลี้ยงชมดอกไม้ขึ้นในวังหลวง ต้าโจวต้องเชิญขุนนางของต้าเยี่ยนมาร่วมงานด้วยแน่นอน ถึงเวลานั้นก็ได้พบหน้ากันแล้ว”

หากเซียวหรงเหยี่ยนผูกถุงเงินออกไปจากวังหลวงเช่นนี้สายลับของไทเฮาซึ่งอยู่ข้างกายชายหนุ่มต้องสังเกตเห็นอย่างแน่นอน หากเขาส่งข่าวกลับไปบอกไทเฮาว่าเซียวหรงเหยี่ยนมีถุงเงินลายปักห่านป่าทั้งสองด้านไทเฮาอาจหวาดระแวงขึ้นมาอีกครั้งได้

ไป๋ชิงเหยียนและเซียวหรงเหยี่ยนรู้ดีว่าวิธีรวมสองแคว้นเป็นหนึ่งคือวิธีที่เหมาะสมที่สุดในการรวมใต้หล้าเป็นหนึ่ง ทว่า มันเป็นวิธีในอุดมคติเกินไปดังนั้นจึงห้ามเกิดข้อผิดพลาดขึ้นแม้แต่นิดเดียว หากเกิดข้อผิดพลาดขึ้นทุกอย่างที่ทำมาคงสูญเปล่า

ไม่นานเซียวหรงเหยี่ยนจึงเดินออกไปจากตำหนัก เยว่สือรีบถลาเข้าไปหาทันที “นายท่าน!”

เซียวหรงเหยี่ยนที่สวมหน้ากากบนใบหน้าเรียบร้อยโบกมือให้เยว่สือ “กลับกันเถิด”

เว่ยจงเดินไปส่งคนทั้งสองถึงหน้าบันไดด้วยตัวเอง เมื่อเห็นองครักษ์ต้าเยี่ยนที่รออยู่ด้านล่างบันไดสูงต่างพากันยืนตรงเมื่อเห็นอ๋องเก้าแห่งต้าเยี่ยน เว่ยจงจึงเดินถือแส้พู่จากไปทันที

องครักษ์ของต้าเยี่ยนมองหน้ากันด้วยความสงสัย ผู้สำเร็จราชการเข้าไปในตำหนักนานถึงเพียงนี้ เมื่อออกมาขันทีข้างกายจักรพรรดินียังมีท่าทีไม่เคารพเขาอีก ไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอันใดขึ้นในตำหนักใหญ่กันแน่

เมื่อเซียวหรงเหยี่ยนกลับไปถึงที่พัก องครักษ์เห็นเยว่สือเดินออกมาจากห้องของชายหนุ่มด้วยท่าทีตื่นตระหนก ไม่นานจึงนำยารักษาบาดแผลเข้าไปในห้องอีกครั้ง

หวังหานปิงได้ยินว่าเซียวหรงเหยี่ยนได้รับบาดเจ็บจึงรีบไปหาเซียวหรงเหยี่ยนทันที

เสนาบดีกรมการคลังและขุนนางต้าเยี่ยนคนอื่นๆ ติดตามจงสิงเสี่ยวไปเยี่ยมใต้เท้าหลู่จิ้นที่จวนหลู่ อาจเป็นเพราะหวังหานปิงฐานะต่ำต้อย แม้เขาจะได้รับคำสั่งจากมู่หรงลี่ให้มาปฏิบัติหน้าที่ในครั้งนี้ ทว่า เขาไม่มีตำแหน่งในราชสำนักจงสิงเสี่ยวจึงไม่ได้สนใจเขา

ตอนหวังหานปิงเดินเข้าไปในห้องของเซียวหรงเหยี่ยนเขาเห็นเยว่สือถือถาดสี่เหลี่ยมที่มีผ้าพันแผลโชกเลือดและยารักษาแผลวางอยู่บนนั้นยืนอยู่ สีหน้าของหวังหานปิงเปลี่ยนไปทันที “ท่านอ๋องเก้าได้รับบาดเจ็บหลังเข้าไปในวังอย่างนั้นหรือพ่ะย่ะค่ะ เหตุใดจักรพรรดินีแห่งต้าโจวถึงไร้เหตุผลเช่นนี้!”

“มิเป็นอันใด…” เซียวหรงเหยี่ยนจัดเครื่องแต่งกายที่ยับยู่ยี่ของตัวเอง จากนั้นเดินไปนั่งบนเก้าอี้หลักพลางโบกมือให้เยว่สือออกไปก่อน “เป็นแค่เหตุสุดวิสัย เจ้ามีเรื่องอันใดอย่างนั้นหรือถึงได้มาที่นี่”

“ข้าได้ยินว่าท่านอ๋องเก้าได้รับบาดเจ็บ…อีกเรื่องคือมีจดหมายของเสนาบดีเมิ่งส่งมาพ่ะย่ะค่ะ” หวังหานปิงหยิบจดหมายลับที่เสนาบดีเมิ่งให้คนนำมาให้ออกมาจากอก จากนั้นยื่นให้เซียวหรงเหยี่ยนอย่างนอบน้อม “เดิมทีคนส่งจดหมายต้องการมอบให้ถึงมือของท่านอ๋องเก้า ทว่า ท่านอ๋องไม่อยู่ ใต้เท้าจงและขุนนางท่านอื่นก็เดินทางไปเยี่ยมใต้เท้าหลู่จิ้นที่จวนกันหมด เขาจึงนำจดหมายมาให้ข้าน้อยอย่างลับๆ ผู้อื่นไม่รู้เรื่องนี้พ่ะย่ะค่ะ”

“อยู่ต่อหน้าข้าไม่จำเป็นต้องแทนตัวเองว่าข้าน้อย ข้าไม่คิดรับเจ้าเป็นลูกน้องของข้า! เจ้าคือขุนนางของต้าเยี่ยน คือขุนนางของฝ่าบาท เจ้าควรจงรักภักดีต่อฝ่าบาทไม่ใช่ข้า!” เซียวหรงเหยี่ยนกล่าวจบจึงแกะจดหมายออกอ่าน

หวังหานปิงเม้มปากแน่น อ๋องเก้าเป็นคนช่วยชีวิตมารดาของเขาเอาไว้ ชีวิตของเขาเป็นของอ๋องเก้า เดิมทีเขาอยากเป็นลูกน้องของอ๋องเก้า ทว่า ดูเหมือนว่าการเป็นลูกน้องในสังกัดของอ๋องเก้าจะไม่ได้เป็นกันได้ง่ายๆ เพียงแค่มีความจงรักภักดีเท่านั้น

หวังหานปิงรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย เขาก้มหน้าต่ำ ไม่กล่าวสิ่งใดทั้งสิ้น

จดหมายของเสนาบดีเมิ่งกล่าวว่าเขารู้ว่าเมิ่งเจาหรงถูกจับอยู่ในคุกของต้าโจวในฐานะสายลับของต้าเยี่ยน เขาขอร้องให้เซียวหรงเหยี่ยนถือโอกาสพาตัวเมิ่งเจาหรงกลับมาต้าเยี่ยนตอนเดินทางไปเจรจาที่ต้าโจวด้วย คนชราอย่างเขาไม่อยากเสียบุตรสาวไปตอนผมหงอก ส่วนเรื่องที่เมิ่งเจาหรงล่วงเกินอ๋องเก้า เขาจะจัดการลงโทษนางหลังนางกลับมายังต้าเยี่ยนและชดใช้ให้อ๋องเก้าแห่งต้าเยี่ยนเอง

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

Status: Ongoing
นิยายจีนโบราณเข้มข้น ปะทะคารม ทดสอบไหวพริบ สนุกถึงใจ!เพราะถูกคนชั่วหลอกใช้ชาติก่อนคนทั้งตระกูลของนางจึงต้องตายอย่างน่าอนาถ ไร้ซึ่งคนทวงถามความเป็นธรรมชาตินี้นางหวนกลับมาก่อนเรื่องราวเกิดขึ้น แม้เพียงเล็กน้อยแต่หากสามารถช่วยเหลือคนในครอบครัวได้แม้สักคนนางก็ยินดีทุ่มเทกำลังให้ถึงที่สุดสตรีตระกูลไปแต่ไรมาแกร่งกล้ำเพียบพร้อมบุ๋นบู๊ แม้ไร้ซึ่งที่พึ่งพิงแล้วจริงแต่ก็จะไม่ยอมให้ผู้ใดมากดขี่ได้!และเพราะเรื่องราวที่เปลี่ยนแปลงไปนางจึงได้พบกับ ‘เขา’ ไวกว่าชาติก่อนเขาผู้นี้แม้ภายนอกดูป็นมิตรและสง่งามกว่าใคร แต่นงแจ่มแจ้งดีว่าเขาเจ้าเล่ห์และอำหิตมากเพียงไหนชาติก่อนแม้ยืนกันคนละฝั่งแต่บุรุษผู้นี้กลับเป็นผู้มอบทางรอดให้แก่นาง อย่างนั้นชาตินี้นางก็ย่อมตอบแทนเขาเป็นอย่างดีเช่นกัน“แม่นางไปช่วยเหลือข้าหลายครั้งหลายครา ใช่ว่าชื่นชอบข้าหรือไม่?”“คุณชายเข้าใจผิดแล้วล่ะ”“ข้าช่วยเหลือแม่นางไปมาหลายครั้งหลายครา แม่นางไปมีใจชื่นชอบข้าบ้างหรือไม่?”“…”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท