ตอนที่ 1333 ไม่มีสิ่งใดต้องละอาย
เกาอวี้สิงตั้งใจแล้วว่าต่อให้ต้องแลกด้วยชีวิตเขาก็จะไม่ยอมให้แผนการเจ้าเล่ห์ของต้าเยี่ยนสำเร็จลุล่วงเป็นอันขาด ดังนั้นเขาจึงสมัครเป็นองครักษ์ติดตามจงสิงเสี่ยวมายังต้าโจว
วันนี้ผู้สำเร็จราชการของต้าเยี่ยนและจงสิงเสี่ยวส่งคนไปสืบว่าคนในเมืองหลวงมีความคิดเห็นเช่นไรต่อเรื่องนี้ เขาสืบรู้มาว่าเสี่ยวไป๋ไซว่เหมือนจะเห็นด้วยกับข้อเสนอของต้าเยี่ยน
เกาอวี้สิงรู้ดีว่าเสี่ยวไป๋ไซว่เคยกล่าวตั้งแต่ครั้งแรกที่ไปออกรบว่าไม่อยากเห็นแผ่นดินที่แห้งแล้งเพราะสงคราม สภาพน่าอนาถและซากศพที่กองเป็นภูเขาอีกต่อไป
เสี่ยวไป๋ไซว่ของพวกเขาเคยกล่าวว่านางยินดีทำทุกอย่างเพื่อรวบรวมใต้หล้าให้เป็นหนึ่ง ยินดีสร้างสันติสุขให้ใต้หล้า
เกาอวี้สิงจำได้ทุกอย่าง…
เขากลัวว่าเสี่ยวไป๋ไซว่จะถูกผู้อื่นบีบบังคับ กลัวว่าเสี่ยวไป๋ไซว่จะใจอ่อนเพราะชาวบ้านและเหล่าทหาร ดังนั้นเขาจึงลอบสังหารขุนนางของต้าโจวในฐานะองครักษ์ของจงสิงเสี่ยวเพื่อไม่ให้ผู้ใดกลายเป็นอุปสรรคขัดขวางเสี่ยวไป๋ไซว่รวบรวมใต้หล้าให้เป็นหนึ่ง
“ท่านโง่เสียจริง” ลำคอของไป๋ชิงเหยียนร้อนผ่าวอย่างรุนแรง หากครั้งนี้หลิ่วหรูซื่อไม่ได้สังเกตเห็นสิ่งไม่ชอบมาพากล ไป๋ชิงเหยียนไม่มีทางขอพบมือสังหารของต้าเยี่ยน นั่นอาจทำให้นางสูญเสียเกาอวี้สิงไปอีกครั้ง ที่สำคัญครั้งนี้เกาอวี้สิงจะเสียชีวิตด้วยน้ำมือของคนของไป๋ชิงเหยียนเอง
ทว่า คนผู้นี้คือแม่ทัพเกาอวี้สิงแห่งกองทัพไป๋ของพวกนาง!
“ข้าเป็นคนเสนอข้อเสนอนี้กับต้าเยี่ยนตั้งแต่ก่อนที่ต้าโจวกับต้าเยี่ยนจะทำลายล้างซีเหลียงได้สำเร็จแล้ว!” ไป๋ชิงเหยียนพยายามฝืนน้ำตาไม่ให้ไหลออกมา “อู๋เจ๋อสละชีวิตของตัวเองนำรายงานสถานการณ์รบของกองทัพไป๋กลับมาให้ตระกูลไป๋ ข้าทำผิดต่อแม่ทัพเกา!”
เมื่อเกาอวี้สิงได้ยินถ้อยคำนี้ร่างของเขาแข็งทื่อขึ้นมาทันที เขามองหน้าไป๋ชิงเหยียนอย่างไม่อยากเชื่อ
หลายปีก่อนอู๋เจ๋อได้รับบาดเจ็บจึงติดตามนายท่านสองไป๋ฉีอิงมาเป็นองครักษ์ไป๋ที่เมืองหลวง จากนั้นจึงไม่ได้กลับไปที่กองทัพไป๋อีก เขายังคิดว่าโชคดีที่อู๋เจ๋อไม่ได้อยู่ในสงครามที่หนานเจียงด้วย นึกไม่ถึงเลยว่าหลานชายของเขาจะเสียชีวิตไปแล้ว
“แม่ทัพเกาส่งอู๋เจ๋อมาเป็นองครักษ์ที่ตระกูลไป๋เพราะจะได้ให้ท่านหมอหงช่วยรักษาอาการบาดเจ็บของเขา ทว่า ข้าเป็นคนสั่งให้อู๋เจ๋อเดินทางไปยังหนานเจียง ข้าทำผิดต่อแม่ทัพเกา! ข้าทำผิดต่อทหารกองทัพไป๋ที่เสียชีวิตไปแล้ว!” ไป๋ชิงเหยียนเงยหน้ามองเกาอวี้สิงด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความรู้สึกผิดและโกรธแค้น “ข้าโกรธตัวเองที่ไม่ลุกขึ้นยืนให้เร็วกว่านี้ ไม่ได้ติดตามท่านปู่และท่านพ่อไปปกป้องพวกท่านทุกคน!”
เมื่อเอ่ยถึงอู๋เจ๋อไป๋ชิงเหยียนร้องไห้ออกมาอย่างควบคุมไม่อยู่
นางไม่เคยลืมภาพที่อู๋เจ๋อนำม้วนไม้ไผ่รายงานสถานการณ์รบกลับมาให้นางทั้งๆ ที่ร่างโชกไปด้วยเลือด ไม่เคยลืมตอนที่อู๋เจ๋อกล่าวกับนางยิ้มๆ ว่า ‘เกิดมาไม่เสียชาติเกิด’ และขอให้ชาติหน้าได้เกิดเป็นบ่าวรับใช้ของตระกูลไป๋อีก
เกาอวี้สิงค่อยๆ คลายบ่าที่เกร็งแน่นลง
“เสี่ยวไป๋ไซว่ พวกเราคือทหารของกองทัพไป๋ ตอนเข้าร่วมกองทัพไป๋พวกเราสาบานไว้แล้วว่าจะเสียสละเพื่อชาวบ้านและกองทัพไป๋ไปตลอดชีวิตแม้พวกเราจะถอนตัวออกจากกองทัพไป๋แล้วก็ตาม!” เกาอวี้สิงกล่าวเสียงสะอื้นจนตัวโยน “เป็นคนของกองทัพไป๋วันหนึ่งคือคนของกองทัพไป๋ตลอดชีวิต! อู๋เจ๋อสามารถนำบันทึกสถานการณ์รบของกองทัพไป๋กลับมาให้เสี่ยวไป๋ไซว่ได้ถือว่าเขาได้ตายอย่างสมเกียรติแล้วขอรับ!”
ทุกคนภายนอกรู้เพียงว่าจี้ถิงอวี๋เป็นคนนำสถานการณ์รบกลับมาให้ตระกูลไป๋ ทว่า นอกจากไป๋ชิงเหยียน หลูผิง ไป๋จิ่นซิ่ว ไป๋จิ่นถงและไป๋จิ่นจื้อแล้ว ไม่มีผู้ใดรู้ว่าแท้จริงแล้วอู๋เจ๋อเป็นคนนำรายงานสถานการณ์รบกลับมา
ไป๋ชิงเหยียนกัดฟันกรอด “ดังนั้น…แม่ทัพเกาต้องมีชีวิตอยู่ต่อไป!”
“ทว่า เสี่ยวไป๋ไซว่…”
ไป๋ชิงเหยียนจับบ่าเกาอวี้สิงแน่น “ข้าขอสาบานต่อฟ้าดินว่าข้าเป็นคนเสนอการแข่งขันด้วยระบอบการปกครองขึ้นมาเองตั้งแต่ซีเหลียงยังไม่ดับสูญ พวกข้าสามคนตกลงเรื่องนี้กันไว้นานแล้ว ครั้งนี้ข้ากับผู้สำเร็จราชการแห่งต้าเยี่ยนแค่แสดงละครให้คนภายนอกเห็นเท่านั้น ข้าให้ต้าเยี่ยนเป็นคนเสนอเรื่องนี้ขึ้นมาเพื่อที่แผนการนี้จะได้ดำเนินไปอย่างราบรื่น หากข้าโกหกแม้แต่คำเดียวขอให้ไป๋ชิงเหยียนไม่ตายดี!”
“เสี่ยวไป๋ไซว่!” เกาอวี้สิงหยัดกายตรงขึ้นทันที “ขอเชื่อแล้วขอรับ!”
ไป๋ชิงเหยียนตบบ่าเกาอวี้สิงเบาๆ เป็นการปลอบโยน “ข้ารู้ว่าการรวมสองแคว้นเป็นหนึ่งโดยสันติวิธีอาจดูไร้เดียงสาไปสักหน่อย ทว่า สิ่งใดในใต้หล้าแห่งนี้ไม่ดูไร้เดียงสาบ้าง หากตอนนั้นข้าบอกกับทุกคนว่าข้าต้องการเข้าแทนที่ราชวงศ์ต้าจิ้น ผู้อื่นจะคิดว่าข้าไร้เดียงสาหรือไม่ ข้าแค่อยากลองใช้วิธีที่นุ่มนวลที่สุดรวบรวมใต้หล้าให้เป็นหนึ่งเท่านั้น หากแม้แต่ลองยังไม่เคยลองกลับเลือกใช้วิธีที่เหล่าทหารต้องสละชีวิตของตัวเอง ชาวบ้านต้องได้รับความเดือดร้อน ข้าคงรู้สึกผิดมาก”
“แม่ทัพเกา ศรัทธาแรกเริ่มของกองทัพไป๋คือปกป้องชาวบ้านและแคว้น ต่อให้ตายไป๋ชิงเหยียนก็ไม่มีวันลืมเรื่องนี้!”
เกาอวี้สิงมองไปทางเสี่ยวไป๋ไซว่ที่แววตาเด็ดเดี่ยวมุ่งมั่นนิ่ง เขาจำได้ว่าครั้งแรกที่ไป๋ชิงเหยียนออกรบหญิงสาวพากลุ่มองครักษ์หญิงของตัวเองไปออกรบด้วย หญิงสาวนั่งอยู่บนหลังม้าด้วยท่าทีองอาจสง่างามที่สุด
ตอนนี้ไป๋ชิงเหยียนเติบโตเป็นคนที่เด็ดเดี่ยว มุ่งมั่นและแบกรับหน้าที่ที่ยิ่งใหญ่ได้แล้ว ใบหน้าของหญิงสาวทำให้เกาอวี้สิงคิดถึงใบหน้าที่เต็มไปด้วยความสุขุมของรองแม่ทัพใหญ่ไป๋ฉีซานขึ้นมา
“เสี่ยวไป๋ไซว่เคยคิดหรือไม่ขอรับว่าต้าเยี่ยนไม่ได้มีเพียงจักรพรรดิต้าเยี่ยนและผู้สำเร็จราชการของต้าเยี่ยนเท่านั้นที่มีอำนาจ ต้าเยี่ยนยังมีไทเฮาอยู่อีกคนนะขอรับ” เกาอวี้สิงอาศัยอยู่ในต้าเยี่ยนมานาน เขาค่อนข้างรู้เรื่องราวในราชสำนักของต้าเยี่ยนเป็นอย่างดี “เราไม่ควรประมาทขุนนางฝ่ายของไทเฮานะขอรับ”
“เรื่องในราชสำนักระหว่างจักรพรรดิต้าเยี่ยนและผู้สำเร็จราชการไม่ได้เป็นอย่างที่คนภายนอกคิด อ๋องเก้าสนับสนุนให้มู่หรงลี่ขึ้นครองบัลลังก์ไม่ใช่เพราะต้องการเป็นหุ่นเชิด ทว่า เขาต้องการปกป้องมู่หรงลี่ ต้องการเป็นดาบในมือของมู่หรงลี่ แบกรับชื่อเสียงเลวร้ายเหล่านั้นไว้คนเดียว!”
ไป๋ชิงเหยียนกลัวว่าจะโน้มน้าวเกาอวี้สิงไม่สำเร็จ เดิมทีนางอยากบอกความจริงกับเกาอวี้สิงเรื่องที่มู่หรงเหยี่ยนคือเซียวหรงเหยี่ยนสามีของนาง ทว่า นางกลัวว่าเกาอวี้สิงจะคิดว่าเซียวหรงเหยี่ยนกำลังหลอกให้นางหลงรัก
“เรื่องนี้ค่อนข้างซับซ้อน ทว่า แม่ทัพเกาไม่ต้องหวาดระแวงว่านี่จะเป็นแผนการของต้าเยี่ยน” ไป๋ชิงเหยียนมองเกาอวี้สิงด้วยแววตาจริงจัง “ข้าตัดสินใจเรื่องนี้อย่างแน่วแน่แล้ว ข้าอยากลองดูสักครั้ง ต่อให้สุดท้ายจะล้มเหลวและต้องทำสงครามกัน ทว่า ข้าก็มั่นใจว่าพวกเราจะเอาชนะต้าเยี่ยนได้ แต่ก่อนจะเกิดสงครามกันจริงๆ ข้าอยากให้ทุกคนในแคว้นต้าโจวร่วมแรงร่วมใจกันอย่างเต็มที่ พวกเราจะได้ไม่รู้สึกเสียใจภายหลัง ไม่มีสิ่งใดต้องละอาย ข้าหวังว่าแม่ทัพเกาจะเชื่อใจข้า”
เกาอวี้สิงจะไม่เชื่อไป๋ชิงเหยียนได้อย่างไร ไป๋ชิงเหยียนคือเสี่ยวไป๋ไซว่ของกองทัพไป๋ที่ไม่เคยวางแผนผิดพลาดมาก่อน
ดังนั้นเมื่อไป๋ชิงเหยียนขอให้เกาอวี้สิงเชื่อใจนาง เกาอวี้สิงจะไม่เชื่อใจได้อย่างไร
เกาอวี้สิงพยักหน้าด้วยดวงตาที่แดงก่ำ “เกาอวี้สิงยินดีเชื่อเสี่ยวไป๋ไซว่ขอรับ!”
“หากพวกลุงเสิ่นรู้ว่าแม่ทัพเกากลับมาพวกเขาต้องดีใจแน่นอน แม่ทัพเกาไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องนี้แล้ว เดี๋ยวข้าจะให้หมอหลวงหวงทำแผลให้ท่าน จากนั้นจะให้พ่อบ้านเหาพาแม่ทัพเกาไปพักรักษาตัวที่จวนไป๋”
เกาอวี้สิงกลัวว่าตัวเองจะสร้างความเดือดร้อนให้ไป๋ชิงเหยียนจึงรีบกล่าวขึ้น “ทว่า ครั้งนี้ข้าลอบสังหารใต้เท้าหลิ่ว…”
“แม่ทัพเกาไม่ต้องเป็นห่วง ข้าจะบอกกับทุกคนว่ามือสังหารของต้าเยี่ยนสิ้นใจไปแล้วเพราะทนถูกทรมานไม่ไหว” ไป๋ชิงเหยียนเห็นสีหน้าร้อนใจของเกาอวี้สิงจึงรีบกล่าวขึ้น “ที่สำคัญครั้งนี้แม่ทัพเกาลอบสังหารขุนนางของต้าโจวในฐานะองครักษ์ของต้าเยี่ยนทำให้ต้าโจวมีหลักฐานเอาผิดต้าเยี่ยน นี่ถือเป็นเรื่องดีสำหรับต้าโจว”