สตรีแกร่งตระกูลไป๋ – ตอนที่ 1340 เห็นแก่ส่วนรวม

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

ตอนที่ 1340 เห็นแก่ส่วนรวม

“เรื่องชาติตระกูลนี่แหล่ะ!”

หลี่ซื่อขมวดคิ้วแน่น

“อาเป่า สิ่งที่ข้าเป็นกังวลก็คือเรื่องชาติตระกูล ตอนนี้เจ้ากำลังพาตระกูลไป๋ของพวกเราทำเรื่องที่ยิ่งใหญ่ เรื่องใหญ่ยังไม่สำเร็จ…หากเสี่ยวซื่อมีใจให้หลู่หยวนเผิงจริง คนเป็นแม่อย่างข้ายินดีปล่อยให้เสี่ยวซื่อทำตามความต้องการของตัวเองอยู่แล้ว ทว่า ในฐานะคนของตระกูลไป๋ ข้าจะไม่มีทางยอมให้การแต่งงานของเสี่ยวซื่อสร้างภาระให้แก่เจ้าและตระกูลไป๋เด็ดขาด เจ้าเข้าใจใช่หรือไม่! ตอนนี้เจ้าคือจักรพรรดินีของแคว้น หากเสี่ยวซื่อแต่งงานเข้าตระกูลของหลู่ไท่เว่ย ตระกูลหลู่อาจมีคนมีใจคิดเป็นอื่นหลอกใช้เสี่ยวซื่อก็ได้ อาเป่า…อารู้ว่าเจ้ารักน้องสาวของตัวเอง ทว่า ตอนนี้เจ้าคือจักรพรรดินีของแคว้นต้าโจว เจ้าต้องเห็นแก่ส่วนรวมเป็นหลัก!”

แววตาของหลี่ซื่อเต็มไปด้วยความกังวลและลังเล นางไม่อยากคิดถึงนิสัยและชาติตระกูลของหลู่หยวนเผิง ตั้งแต่ที่หลี่ซื่อแต่งเข้าตระกูลไป๋ นางได้ยินสามีของตัวเองเอ่ยถึงปณิธานที่ยิ่งใหญ่ของตระกูลไป๋นับครั้งไม่ถ้วน…

ตอนนี้ทุกคนในต้าโจวมีใจเป็นหนึ่งเดียว นางใกล้จะได้เห็นใต้หล้าที่สงบสุขที่สามีของนางอยากเห็นมาตลอดชีวิตแล้ว หลี่ซื่อไม่อยากให้การแต่งงานของบุตรสาวของตัวเองสร้างปัญหาให้แก่เรื่องนี้ ทว่า ในฐานะมารดา…นางก็ไม่อยากทำลายความสุขของบุตรสาวตัวเองเช่นเดียวกัน

ไป๋ชิงเหยียนรู้ดีว่าอาสะใภ้สามของนางกล่าวถ้อยคำเหล่านี้ออกมาจากใจ เมื่อเห็นว่าครอบครัวของนางพร้อมสนับสนุนและช่วยเหลือนางอย่างเต็มที่ ไป๋ชิงเหยียนจึงนึกถึงเซียวหรงเหยี่ยนขึ้นมาอีกครั้ง…

ขอบตาของไป๋ชิงเหยียนร้อนผ่าว นางกุมมือของหลี่ซื่อแน่น

“ท่านอาสะใภ้สาม เรื่องไม่ได้ร้ายแรงถึงขั้นนั้นเจ้าค่ะ! ข้าเป็นคนที่หากใช้คนจะไม่สงสัยหรือหวาดระแวงในตัวคนผู้นั้น ที่สำคัญตอนนี้ข้าได้นั่งบนบัลลังก์แห่งนี้แล้ว หากข้ายังปกป้องความสุขของน้องๆ ตัวเองไม่ได้ ข้าจะเป็นจักรพรรดิที่ดีได้อย่างไรเจ้าคะ”

เมื่อได้ยินน้ำเสียงที่อ่อนโยนของไป๋ชิงเหยียนหลี่ซื่อจึงวางใจลง นางไม่เคยสงสัยในการมองคนของไป๋ชิงเหยียน

ไป๋ชิงเหยียนตบหลังมือของหลี่ซื่อเบาๆ พลางกล่าวขึ้น

“ข้าคิดไว้นานแล้วเจ้าค่ะ ข้าอยากให้น้องๆ ของข้าทุกคนไม่ว่าจะเป็นพวกอาฉี อาอวี๋ เสี่ยวซื่อ เสี่ยวอู่และคนอื่นๆ มีชีวิตที่ปลอดภัยและสงบสุข ได้พบคนที่รักพวกเขาและพวกเขาก็รักคนผู้นั้นอย่างใจจริง ข้าจะไม่เอาเรื่องการแต่งงานของพวกเขามาเป็นข้อผูกมัดทางการเมืองเด็ดขาด หากพวกท่านอาสะใภ้ไม่วางใจให้พวกน้องสาวแต่งงานออกไปอยู่ตระกูลอื่น พวกนางมีบรรดาศักดิ์เป็นของตัวเอง พวกนางสามารถแต่งเขยเข้าตระกูลได้เจ้าค่ะ”

หลี่ซื่อเม้มปากแน่น เมื่อได้ยินคำกล่าวของไป๋ชิงเหยียนจึงถึงถึงพ่อสามีและสามีของตัวเองขึ้นมา…

ตอนนั้นนางกับสามียังไม่ได้แต่งงานกัน มีสตรีตระกูลสูงศักดิ์มากมายหมายปองสามีของนาง นางคือบุตรสาวของภรรยาเอกที่สูญเสียมารดาไปตั้งแต่เล็ก แม้ภรรยาใหม่ของบิดาจะไม่ได้รังแกนาง ทว่า ก็ไม่เคยใส่ใจนางอย่างแท้จริง ต่อให้บิดาจะรักนางมากเพียงใดก็ไม่สามารถยื่นมือเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องในเรือนหลังได้ นางกลัวว่าตัวเองจะไม่ได้แต่งงานกับคุณชายสามที่นางหลงรักมาตั้งแต่เด็ก

ต่อมาคนภายนอกต่างรับรู้ว่าองค์หญิงใหญ่จะหมั้นหมายบุตรสาวของราชครูถานให้กับคุณชายสามของตระกูลไป๋ นางเองก็ถูกภรรยาใหม่ของบิดาเร่งให้แต่งงานกับตระกูลรองของตระกูลชุย หลี่ซื่อร้องไห้จนใจแทบสลาย ทว่า ผู้ใดจะคิดว่าเรื่องกลับมีการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ พ่อสามีของนางมาสู่ขอนางให้คุณชายสามตระกูลหลี่กับบิดาของนางที่จวนหลี่ด้วยตัวเองหลังจากได้รับชัยชนะกลับมาจากสงครามและไปเข้าเฝ้าจักรพรรดิในวังหลวงเสร็จโดยไม่ได้ถอดเกราะออกแม้แต่น้อย

หลี่ซื่อเห็นเจิ้นกั๋วกงพ่อสามีของนางในชุดนักรบที่น่าเกรงขามเป็นครั้งแรก ตอนนั้นนางรู้สึกหวาดกลัวพ่อสามีของตัวเองมาก

ทว่า เจิ้นกั๋วกงกลับยื่นป้ายหยกให้นางยิ้มๆ พลางบอกว่าคุณชายสามมอบหยกนี้ให้แก่นาง เขากล่าวว่าการแต่งงานของทายาทตระกูลไป๋ต้องเกิดจากความรัก เขาจะไม่ยอมใช้การแต่งงานเป็นเครื่องมือทำให้ตระกูลยิ่งใหญ่ขึ้นเด็ดขาด หากนางยินดีแต่งงานกับบุตรชายของเขาก็จงรับป้ายหยกนี้ไว้ เรื่องอื่นปล่อยให้เป็นหน้าที่ของเขาเอง

ขอบตาของหลี่ซื่อร้อนผ่าว นางเอื้อมมือไปรับป้ายหยกนั้นมากำไว้ในมือแน่นทั้งน้ำตาพลางพยักหน้าให้พ่อสามีของตัวเอง

ตอนนี้หลี่ซื่อเห็นร่างของพ่อสามีของนางในตัวไป๋ชิงเหยียน ขอบตาของนางร้อนผ่าวขึ้นทันที

“อาเป่าเหมือนท่านปู่ของเจ้าขึ้นทุกที!”

หลี่ซื่อใช้ผ้าเช็ดหน้าซับน้ำตาที่หางตาของตัวเอง

“ไม่รู้ว่าเป็นเพราะข้าแก่แล้วหรือไม่ถึงได้ชอบนึกถึงเรื่องในอดีตขึ้นมาเช่นนี้”

ไม่เพียงแค่หลี่ซื่อเท่านั้นที่นึกถึงเรื่องในอดีต ไป๋ชิงเหยียนเองก็เช่นเดียวกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งตอนที่เห็นน้องชายและน้องสาวของตัวเองเติบโตขึ้นเป็นคนที่โดดเด่นยิ่งทำให้นางนึกถึงท่านปู่ ท่านพ่อ บรรดาท่านอาและน้องชายที่เสียชีวิตไปแล้ว…

“ท่านอาสะใภ้สามไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องของเสี่ยวซื่อนะเจ้าคะ ข้าคิดว่าเสี่ยวซื่อคงยังไม่ได้รู้สึกอันใดกับหลู่หยวนเผิงหรอกเจ้าค่ะ นางแค่นิสัยเหมือนเด็กเลยคิดว่าเรื่องเหล่านี้น่าสนใจเท่านั้น หากพวกเขามีสิ่งใดผิดสังเกตจิ่นซิ่วที่จับพิรุธเก่งคงส่งจดหมายกลับมารายงานข้านานแล้วเจ้าค่ะ”

ไป๋ชิงเหยียนกล่าวกับหลี่ซื่อยิ้มๆ

“ข้าไม่รบกวนเวลาพักผ่อนของท่านอาสะใภ้สามแล้ว พรุ่งนี้ยังต้องรบกวนท่านอาสะใภ้สามดูแลเรื่องงานเลี้ยงชมดอกไม้อีก!”

“ได้!”

หลี่ซื่อลุกขึ้นยืนแล้วเดินไปส่งไป๋ชิงเหยียนที่หน้าประตู เมื่อมองส่งไป๋ชิงเหยียนจากไป ใจของหลี่ซื่อเริ่มกังวลขึ้นมาอีกครั้ง

หากเสี่ยวซื่อมีใจให้หลู่หยวนเผิงจริง นางกลัวว่าเรื่องของเสี่ยวซื่อกับหลู่หยวนเผิงจะสร้างปัญหาให้ไป๋ชิงเหยียน ทว่า หากเสี่ยวซื่อไม่ได้รู้สึกอันใดกับหลู่หยวนเผิง นางก็เป็นกังวลว่าบุตรสาวของตัวเองจะไม่เข้าใจเรื่องนี้จนหาคู่ครองที่เหมาะสมไม่ได้

หลี่ซื่อไม่กล้าเป็นคนริเริ่มเรื่องแต่งเขยเข้าตระกูลอย่างที่ไป๋ชิงเหยียนแนะนำเมื่อครู่ เรื่องการอนุญาตให้สตรีเข้ารับการศึกษาและสอบขุนนางของไป๋ชิงเหยียนทำให้ราชสำนักต้าโจวแตกตื่นมากจนไป๋ชิงเหยียนต้องเดินทางไปอธิบายให้บัณฑิตที่สำนักศึกษากั๋วจื่อเจียนฟังด้วยตัวเองแล้ว

ตอนนี้ทุกคนมีจุดมุ่งหมายเดียวกันคือการรวบรวมใต้หล้าให้เป็นหนึ่งจึงยอมรับเรื่องการอนุญาตให้สตรีเข้ารับการศึกษาและเป็นขุนนางในราชสำนัก หากเสี่ยวซื่อแต่งเขยเข้าตระกูลแล้วชาวบ้านธรรมดาเลียนแบบการกระทำของราชวงศ์ขึ้นมาบ้างจนบุรุษในต้าโจวคิดว่าสตรีอันตรายต่อพวกเขาขึ้นมาแล้วเกิดมีใจคิดเป็นอื่นดึงไป๋ชิงเหยียนลงมาจากบัลลังก์พวกนางจะทำเช่นไรกัน…

ตอนนี้ไป๋ชิงเหยียนมีทายาทฝาแฝดชายหญิงแล้ว น้องชายของนางมีชีวิตรอดกลับมาแล้วเช่นเดียวกัน หลี่ซื่อได้ยินคนนตระกูลมารดาของตัวเองกล่าวว่าตั้งแต่ที่พวกอาฉีกลับมาร่วมงานพิธีบรมราชาภิเษกของไป๋ชิงเหยียนคนในราชสำนักก็เริ่มถกเถียงกันเรื่องที่ไป๋ชิงเหยียนมีบุตรยาก อยากให้หญิงสาวคัดเลือกน้องชายสักคนขึ้นเป็นผู้สืบทอดบัลลังก์ต่อจากนางแทนแล้ว

ดังนั้นหลี่ซื่อคิดว่านางจะเป็นคนเริ่มเรื่องนี้ไม่ได้เด็ดขาดต่อให้ไป๋ชิงเหยียนจะรักน้องชายและน้องสาวของตัวเองมากเพียงใดก็ตาม

หลี่ซื่อตัดสินใจได้จึงเขียนจดหมายถึงไป๋ชิงอวิ๋นให้ไป๋ชิงอวิ๋นช่วยดูแลเสี่ยวซื่อให้ดี อย่าให้เสี่ยวซื่อก่อปัญหาอันใดขึ้นมาตอนช่วงเวลาสำคัญเช่นนี้เด็ดขาด

วังหลวงจัดงานเลี้ยงชมดอกไม้ขึ้น บุตรสาวของตระกูลสูงศักดิ์ที่อยู่ในวัยออกเรือนจึงแต่งกายกันอย่างเต็มยศเพื่อจะได้เป็นที่สะดุดตาของไทเฮาหรือฮูหยินคนอื่นๆ ของตระกูลไป๋ ไป๋ชิงเหยียนให้ความสำคัญกับน้องชายของตัวเองถึงเพียงนี้ หากพวกนางได้แต่งงานกับน้องชายของไป๋ชิงเหยียนตระกูลของพวกนางต้องรุ่งเรืองกว่าเดิมแน่นอน

สตรีต่างแต่งกายงดงามราวกับดอกไม้เพื่อให้ไทเฮาและฮูหยินตระกูลไป๋ได้ยลโฉม คุณชายในเมืองหลวงที่ยังไม่หมั้นหมายต่างแต่งตัวอย่างดูดีที่สุดให้คุณหนูของตระกูลไป๋ได้เห็นเช่นเดียวกัน บางคนถึงกับโลภมากอย่างได้ตำแหน่งพระภัสดาคนใหม่ของจักรพรรดินีแห่งต้าโจวด้วยซ้ำ

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

Status: Ongoing
นิยายจีนโบราณเข้มข้น ปะทะคารม ทดสอบไหวพริบ สนุกถึงใจ!เพราะถูกคนชั่วหลอกใช้ชาติก่อนคนทั้งตระกูลของนางจึงต้องตายอย่างน่าอนาถ ไร้ซึ่งคนทวงถามความเป็นธรรมชาตินี้นางหวนกลับมาก่อนเรื่องราวเกิดขึ้น แม้เพียงเล็กน้อยแต่หากสามารถช่วยเหลือคนในครอบครัวได้แม้สักคนนางก็ยินดีทุ่มเทกำลังให้ถึงที่สุดสตรีตระกูลไปแต่ไรมาแกร่งกล้ำเพียบพร้อมบุ๋นบู๊ แม้ไร้ซึ่งที่พึ่งพิงแล้วจริงแต่ก็จะไม่ยอมให้ผู้ใดมากดขี่ได้!และเพราะเรื่องราวที่เปลี่ยนแปลงไปนางจึงได้พบกับ ‘เขา’ ไวกว่าชาติก่อนเขาผู้นี้แม้ภายนอกดูป็นมิตรและสง่งามกว่าใคร แต่นงแจ่มแจ้งดีว่าเขาเจ้าเล่ห์และอำหิตมากเพียงไหนชาติก่อนแม้ยืนกันคนละฝั่งแต่บุรุษผู้นี้กลับเป็นผู้มอบทางรอดให้แก่นาง อย่างนั้นชาตินี้นางก็ย่อมตอบแทนเขาเป็นอย่างดีเช่นกัน“แม่นางไปช่วยเหลือข้าหลายครั้งหลายครา ใช่ว่าชื่นชอบข้าหรือไม่?”“คุณชายเข้าใจผิดแล้วล่ะ”“ข้าช่วยเหลือแม่นางไปมาหลายครั้งหลายครา แม่นางไปมีใจชื่นชอบข้าบ้างหรือไม่?”“…”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท