สตรีแกร่งตระกูลไป๋ – ตอนที่ 1351 ดาบคม

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

ตอนที่ 1351 ดาบคม

“ในเมื่อตกลงกันเสร็จแล้วบ่าวคงไม่อยู่รบกวนแล้ว หวังเหล่าไท่จวินพักผ่อนให้มาก อนาคตของตระกูลหวังยังอีกยาวไกลขอรับ!”

เว่ยจงกล่าวจบจึงทำความเคารพหวังเหล่าไท่จวินและเดินออกมาจากห้อง จากนั้นเดินไปทำความเคารพฮูหยินสี่ที่ห้องด้านข้างก่อนจากไป

หวังติ้งคุนและหวังหลี่ซื่อหน้าซีดเผือด พวกเขาเอาแต่ขอร้องฮูหยินสี่หวังซื่อ กวนหมัวมัวปกป้องฮูหยินสี่ไว้ทางด้านหลัง เมื่อเห็นเว่ยจงจากไปแล้วนางจึงพาหวังซื่อเข้าไปในห้องของหวังเหล่าไท่จวิน

หวังติ้งคุนและหวังหลี่ซื่ออยากตามเข้าไป ทว่า ถูกองครักษ์ตระกูลไป๋ห้ามไว้เสียก่อน ทั้งสองคนอยากเอ่ยเรียกหวังซื่อแต่เมื่อเห็นองครักษ์ชักดาบออกมาจึงรีบวิ่งออกไปจากเรือนฉางซงด้วยความตกใจ

หวังซื่อกลัวว่าไป๋ชิงเหยียนจะเป็นห่วงเรื่องการแต่งงานของไป๋ชิงเจวี๋ยจนกล่าววาจาทำร้ายจิตใจหวังเหล่าไท่จวินจนมารดาของนางรับไม่ไหว เมื่อหวังซื่อเดินเข้าไปในห้องหวังเหล่าไท่จวินจึงดึงมือของนางเข้าไปใกล้และร้องไห้ออกมาจนหวังซื่อตกใจ ใจของฉินหมัวมัวกระตุกวูบเช่นเดียวกัน

หวังเหล่าไท่จวินเอื้อมมือลูบศีรษะของหวังซื่ออย่างแผ่วเบาพลางกล่าวออกมาเสียงสะอื้น “เดิมทีข้าคิดว่าลูกสาวของข้าน่าสงสาร เจ้าได้แต่งงานกับสามีที่ดีแต่สามีดันมาเสียชีวิตในสนามรบก่อนวัยอันควร แม้แต่เสี่ยวสือชียัง…”

หวังเหล่าไท่จวินเอ่ยถึงคุณชายสิบเจ็ดแล้วปวดหัวใจ ใบหน้าของนางอาบไปด้วยน้ำตา ทว่า พยายามฝืนยิ้มออกมาให้ได้มากที่สุด “ทว่า นึกไม่ถึงเลยว่าแม้สามีของเจ้าจะเสียชีวิตไปแล้ว เจ้าก็ยังมีหลานสาวของสามีคอยปกป้อง ฝ่าบาททรงดีต่อเจ้ากับอาเจวี๋ยมากเหลือเกิน แม้อาเจวี๋ยไม่อยู่นางก็ยังคอยปกป้องเจ้าอย่างดี จนแม่อย่างข้าละอายใจยิ่งนัก!”

นางคือมารดาแท้ๆ ของหวังซื่อ ทั้งๆ ที่นางรู้ว่าบุตรสาวของตัวเองเป็นคนอ่อนแอก็ยังปล่อยให้สองสามีภรรยาคู่นั้นบีบบังคับลูกสาวของตัวเอง ทว่า หลานสาวของสามีของบุตรสาวนางกลับทนเห็นบุตรสาวนางถูกรังแกไม่ได้และยื่นมือเข้าช่วยเหลือ

“โชคดีที่ตอนนั้นเจ้าได้แต่งงานเข้าตระกูลไป๋ที่ทรงคุณธรรมเช่นนี้ ท่านพ่อของเจ้าคงนอนตายตาหลับแล้ว!” หวังเหล่าไท่จวินตบหลังมือของบุตรสาวตัวเองเบาๆ

“ท่านแม่ ท่านอย่าทำให้ข้าตกใจเจ้าค่ะ…” หวังซื่อสีหน้าซีดเผือด ไม่รู้ว่าเกิดสิ่งใดขึ้นกันแน่ นางกลัวว่ามารดาของตัวเองจะคิดสั้น

“ไม่ต้องกลัว!” หวังเหล่าไท่จวินเช็ดน้ำตาให้บุตรสาว “ฝ่าบาทตรัสว่าเรื่องดีๆ ของตระกูลหวังยังรอพวกเราอยู่ในวันข้างหน้า ให้แม่ดูแลตัวเองให้ดี แม่ยังต้องรอดูอาเจวี๋ยเป็นฝั่งเป็นฝาอยู่!”

หวังซื่อได้ยินมารดากล่าวเช่นนี้จึงพยักหน้าทั้งน้ำตา

เซียวหรงเหยี่ยนไม่ได้อยู่ในวังหลวงนานนักเพราะไม่อยากทำให้ผู้อื่นสงสัย เขาอยู่กับลูกๆ ของตัวเองครู่เดียวแล้วจึงกลับที่พักของตัวเอง

โรงเตี๊ยมของต้าเยี่ยน

เหล่าขุนนางต้าเยี่ยนที่ไปเจรจากับต้าโจวในวันนี้กำลังรอผู้สำเร็จราชการของต้าเยี่ยนกลับมาจากงานเลี้ยงในวังหลวงด้วยความร้อนใจและเป็นกังวล

เมื่อได้ยินว่าผู้สำเร็จราชการถูกรั้งตัวให้อยู่ในวังหลวงต่อเหล่าขุนนางจึงยิ่งเป็นกังวลมากกว่าเดิม

เมื่อได้ยินว่ารถม้าของเซียวหรงเหยี่ยนกลับมาแล้วทุกคนจึงรีบออกไปต้อนรับ เมื่อเห็นเซียวหรงเหยี่ยนออกมาจากตัวรถม้าเสนาบดีกรมการคลังของต้าเยี่ยนจึงยื่นมือไปประคองเซียวหรงเหยี่ยนลงจากรถม้าด้วยตัวเอง จากนั้นเอ่ยถาม “ท่านอ๋องไม่ได้ถูกกดดันในวังหลวงใช่หรือไม่พ่ะย่ะค่ะ”

เสนาบดีกรมการคลังยังไม่ลืมว่าเซียวหรงเหยี่ยนเคยได้รับบาดเจ็บกลับมาหลังจากเข้าวังไปพบไป๋ชิงเหยียนเมื่อคราวที่แล้ว แม้ผู้สำเร็จราชการจะไม่ได้บอกให้พวกเขารับรู้ ทว่า ขุนนางต้าเยี่ยนอย่างพวกเขาก็อดเป็นห่วงไม่ได้อยู่ดี

“มิเป็นอันใด แค่คุยเรื่องของจงสิงเสี่ยวเท่านั้น” เซียวหรงเหยี่ยนกล่าวพลางเดินเข้าไปในเรือนของตัวเอง “วันนี้เจรจากับพวกหลู่ไท่เว่ยเป็นอย่างไรบ้าง”

“ต้าโจวเสนอเงื่อนไขสองสามข้อ เงื่อนไขแรกคือให้กั๋วจิ้วเหย่อยู่ที่ต้าโจวต่อจนกว่าจะสืบเรื่องมือสังหารที่ลอบสังหารใต้เท้าหลิ่วของต้าโจวได้แน่ชัด อีกเงื่อนไข…ต้าโจวต้องการตัวประกันจากต้าเยี่ยน พวกเขาต้องการให้องค์ชายสองมู่หรงผิง แม่ทัพใหญ่เซี่ยสวินและ…”

เซียวหรงเหยี่ยนชะงักฝีเท้า เขามองไปทางเสนาบดีกรมการคลัง ดวงตาดำขลับภายใต้หน้ากากสีเงินล้ำลึกจนยากจะคาดเดา “ยังมีอีกหรือ ต้าโจวคงไม่ได้ขอให้ไทเฮาแห่งต้าเยี่ยนมาเป็นตัวประกันที่ต้าโจวหรอกใช่หรือไม่”

“ต้าโจวอยากให้ผู้สำเร็จราชการอยู่เป็นตัวประกันที่ต้าโจวพ่ะย่ะค่ะ” เสนาบดีกรมการคลังของต้าเยี่ยนขมวดคิ้วแน่นพลางกล่าวออกมาด้วยความโมโหจนแทบทนไม่ไหว “เคยได้ยินเรื่องการส่งตัวประกัน ทว่า ไม่เคยได้ยินแคว้นใดจับผู้สำเร็จราชการและแม่ทัพใหญ่ของแคว้นอื่นเป็นตัวประกัน!”

“ตอนนี้ต้าโจวอ้างเรื่องที่พวกเราเคยแทงข้างหลังต้าโจวมาก่อนตอนเป็นแคว้นพันธมิตรกันขอให้พวกเราส่งองค์ชายสอง แม่ทัพใหญ่เซี่ยสวินและผู้สำเร็จราชการของต้าเยี่ยนมาเป็นตัวประกันของต้าโจว มิเช่นนั้นเมื่อต้าเยี่ยนตั้งตัวขึ้นได้อีกครั้ง พวกเราอาจเรียกกองกำลังของต้าเยี่ยนกลับแคว้นและเปิดศึกกับต้าโจวได้ ถึงตอนนั้นต้าโจวมีแต่เสียพ่ะย่ะค่ะ”

สิ่งที่ทำให้เสนาบดีกรมการคลังโมโหมากที่สุดก็คือต้าโจวกล่าวมีเหตุผล ต้าเยี่ยนของพวกเขาแทงข้างหลังต้าโจวก่อนจริงๆ ตอนนี้พวกเขาต้องการให้ต้าเยี่ยนส่งองค์ชายและแม่ทัพมาเป็นตัวประกันที่ต้าโจวเพื่อแสดงความจริงใจ เช่นนี้สองแคว้นจะได้พอใจทั้งสองฝ่าย

“นั่นนะสิ หากพวกเราส่งแม่ทัพที่เก่งกาจที่สุดของเรามาเป็นตัวประกันที่ต้าโจวแล้วต้าโจวคิดแทงข้างหลังพวกเราขึ้นมาโดยจับแม่ทัพใหญ่ของพวกเราไว้แล้วเปิดศึกกับต้าเยี่ยนทันทีพวกเราจะเอาตัวรอดได้อย่างไรกัน” รองเสนาบดีกรมการคลังกล่าวเสริม “ขุนนางสตรีที่ปากกล้านามว่าหลู่เฟิ่งหลางผู้นั้นกล่าวว่าต้าโจวไม่เคยผิดสัญญากับแคว้นพันธมิตรมาก่อนตั้งแต่สถาปนาแคว้นขึ้น ต้าเยี่ยนเป็นคนผิดสัญญากับต้าโจวก่อน ทว่า พวกนางเพิ่งสถาปนาแคว้นขึ้นมาได้ไม่นานเท่านั้น นางยังกล้าใช้คำว่าตั้งแต่สถาปนาแคว้นอีกหรือ!”

เซียวหรงเหยี่ยนฟังออกแล้วว่าครั้งนี้ขุนนางของต้าเยี่ยนเต็มไปด้วยโทสะ

“องค์ชายสองยังไม่เท่าใด แม่ทัพใหญ่เซี่ยสวินยังพอรับได้…” น้ำเสียงของเสนาบดีกรมการคลังเต็มไปด้วยโทสะที่ควบคุมไม่อยู่ “แคว้นใดส่งผู้สำเร็จราชการของแคว้นมาเป็นตัวประกันบ้าง! ตอนนี้ฝ่าบาทยังทรงพระเยาว์ ไทเฮา…”

เสนาบดีกรมการคลังกลืนคำว่าเลอะเลือนลงไปในลำคอได้ทัน เขากล่าวเพียง “ไทเฮาอ่อนแอ ผู้สำเร็จราชการเป็นคนตัดสินใจเรื่องทุกอย่างในต้าเยี่ยน หากกักตัวผู้สำเร็จราชการไว้เป็นตัวประกันที่ต้าโจวพวกเรายังต้องแข่งขันสิ่งใดอีก ยอมแพ้ไปเลยยังดีกว่า!”

เสนาบดีกรมการคลังของต้าเยี่ยนกล่าวถ้อยคำนี้ออกไปตอนอยู่ที่หงหลู่ซื่อด้วยความโมโหเช่นเดียวกัน ทว่า ฟ่านอวี้กานกลับกล่าวว่า ‘ยอมแพ้เลยก็ได้ ทว่า ไม่รู้ว่าตอนนี้บัญชีของกรมการคลังของต้าเยี่ยนเน่าเฟะเพียงใด หากต้าเยี่ยนต้องการยอมแพ้ตอนนี้ รบกวนเสนาบดีกรมการคลังช่วยกลับไปจัดการกับบัญชีของกรมการคลังให้เรียบร้อยก่อนด้วย หากกรมการคลังหมดตัวหรือเป็นหนี้ ต้าเยี่ยนต้องชดใช้ให้ต้าโจวก่อนแล้วค่อยยอมแพ้และยอมเป็นส่วนหนึ่งของต้าโจว ต้าโจวไม่อยากรับแคว้นที่มีแต่เปลือก’

ขุนนางต้าเยี่ยนที่ไปเจรจากับต้าโจวในครั้งนี้เกือบมีเรื่องกับฟ่านอวี้กาน ครึ่งชั่วยามหลังจากนั้นหงหลู่ซื่อจึงกลายเป็นสงครามน้ำลายขึ้นมาทันที การเจรจาไม่ได้ข้อสรุปแม้แต่น้อย

ต่อมาหวังหานปิงออกมาช่วยคลี่คลายสถานการณ์ สองแคว้นจึงยอมกลับเข้าประเด็นอีกครั้ง

พวกเขาได้แต่อดทนและอดกลั้นกับการเจรจากับต้าโจวในหลายวันที่ผ่านมาเพราะพวกเขาทำผิดต่อต้าโจวก่อน ตอนนี้ต้าโจวมีหลักฐานที่ใช้บีบบังคับพวกเขาได้ พวกเขาจึงทำสิ่งใดไม่ได้แม้แต่น้อย

“ผู้สำเร็จราชการ พวกเราต้องวางแผนเรื่องนี้ให้ดีพ่ะย่ะค่ะ ตอนนี้ต้าโจวไม่ยอมอ่อนข้อให้พวกเราแม้แต่น้อย ไม่ว่าอย่างไรพวกเราก็ปล่อยให้ท่านตกเป็นตัวประกันอยู่ที่นี่ไม่ได้เด็ดขาดพ่ะย่ะค่ะ องค์ชายสองและแม่ทัพเซี่ยคือแม่ทัพที่เก่งที่สุดของต้าเยี่ยนในตอนนี้ หากพวกเขาตกเป็นตัวประกันของต้าโจวเท่ากับพวกเรามอบดาบคมของเราให้ต้าโจวกับมือนะพ่ะย่ะค่ะ!” หวังหานปิงกล่าวเสียงเคร่งเครียด

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

Status: Ongoing
นิยายจีนโบราณเข้มข้น ปะทะคารม ทดสอบไหวพริบ สนุกถึงใจ!เพราะถูกคนชั่วหลอกใช้ชาติก่อนคนทั้งตระกูลของนางจึงต้องตายอย่างน่าอนาถ ไร้ซึ่งคนทวงถามความเป็นธรรมชาตินี้นางหวนกลับมาก่อนเรื่องราวเกิดขึ้น แม้เพียงเล็กน้อยแต่หากสามารถช่วยเหลือคนในครอบครัวได้แม้สักคนนางก็ยินดีทุ่มเทกำลังให้ถึงที่สุดสตรีตระกูลไปแต่ไรมาแกร่งกล้ำเพียบพร้อมบุ๋นบู๊ แม้ไร้ซึ่งที่พึ่งพิงแล้วจริงแต่ก็จะไม่ยอมให้ผู้ใดมากดขี่ได้!และเพราะเรื่องราวที่เปลี่ยนแปลงไปนางจึงได้พบกับ ‘เขา’ ไวกว่าชาติก่อนเขาผู้นี้แม้ภายนอกดูป็นมิตรและสง่งามกว่าใคร แต่นงแจ่มแจ้งดีว่าเขาเจ้าเล่ห์และอำหิตมากเพียงไหนชาติก่อนแม้ยืนกันคนละฝั่งแต่บุรุษผู้นี้กลับเป็นผู้มอบทางรอดให้แก่นาง อย่างนั้นชาตินี้นางก็ย่อมตอบแทนเขาเป็นอย่างดีเช่นกัน“แม่นางไปช่วยเหลือข้าหลายครั้งหลายครา ใช่ว่าชื่นชอบข้าหรือไม่?”“คุณชายเข้าใจผิดแล้วล่ะ”“ข้าช่วยเหลือแม่นางไปมาหลายครั้งหลายครา แม่นางไปมีใจชื่นชอบข้าบ้างหรือไม่?”“…”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท