สตรีแกร่งตระกูลไป๋ – ตอนที่ 1360 แคว้นไม่สงบ

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

ตอนที่ 1360 แคว้นไม่สงบ

“แคว้นต้าเยี่ยนของพวกเจ้ายังไม่ห่วงใยชีวิตของทหารและชาวบ้านเลยด้วยซ้ำ ยังกล้าใช้ชีวิตของชาวบ้านและทหารมาอ้างกับต้าโจวอีก พวกเจ้ากล้าใช้ชีวิตของชาวบ้านและทหารมาข่มขู่…”

หลิ่วหรูซื่อยกมือคารวะไปทางวังหลวง

“เพราะพวกเจ้ารู้ว่าจักรพรรดินีแห่งต้าโจวของพวกข้ารักและห่วงใยชาวบ้านและทหารมาโดยตลอด พระองค์ปฏิบัติต่อชาวบ้านต้าเหลียงและซีเหลียงที่ตอนนั้นยังไม่ใช่ชาวบ้านของต้าโจวเป็นอย่างดีราวกับชาวบ้านของต้าโจวเอง!”

“ใช่แล้ว!”

ฟ่านอวี้กานกล่าวสนับสนุนหลิ่วหรูซื่อ

หลิ่วหรูซื่อกวาดสายตาคมกริบมองไปทางขุนนางต้าเยี่ยนทุกคน

“ทว่า พวกเจ้าทุกคนควรจำให้ขึ้นใจว่าที่จักรพรรดินีแห่งต้าโจวของพวกข้าปฏิบัติต่อชาวบ้านทั่วหล้าเหมือนกันเป็นเพราะพระองค์มีความเมตตา ทว่า ความเมตตาของจักรพรรดินีของพวกเราไม่ใช่เครื่องมือให้พวกเจ้าหลอกใช้! ยิ่งไม่ใช่สิ่งที่พวกเจ้าจะนำมาข่มขู่ต้าโจวได้!”

หวังหานปิงเห็นเหตุการณ์จึงรีบเข้าไปโค้งกายคำนับหลิ่วหรูซื่อ

“ในเมื่อใต้เท้าหลิ่วมาแล้วก็เชิญนั่งลงก่อนเถิด พวกเราค่อยๆ เจรจากัน…”

“ข้ามาเพื่อเจรจาอยู่แล้ว ทว่า ข้าจำเป็นต้องเตือนทุกท่านก่อนการเจรจาจะเริ่มขึ้นสักนิด หากข้ากล่าววาจาล่วงเกินผู้ใดไปบ้าง หวังว่าทุกท่านจะไม่ถือสา…”

หลิ่วหรูซื่อโค้งกายคำนับขุนนางต้าเยี่ยน จากนั้นกล่าวต่อ

“บทกวีในคัมภีร์ซือจงบทหนึ่งกล่าวไว้ว่า หนูมีฟัน ทว่า มนุษย์ไร้ยางอาย[1] เหตุใดคนไร้ยางจึงไม่สิ้นใจไปเสีย…ทุกท่าน ก่อนเป็นขุนนางพวกเราทุกคนล้วนเป็นมนุษย์คนหนึ่ง หามนุษย์ไร้คุณธรรม ขุนนางย่อมไร้ศีลธรรม แคว้นย่อมไร้ความสงบ! หวังว่าทุกท่านในที่นี้จะรู้สึกความละอายใจบ้าง!”

ขุนนางต้าเยี่ยนถูกดูถูกเหยียดหยามถึงเพียงนี้จะทนได้อย่างไรกัน

“เจ้า…”

ขุนนางต้าเยี่ยนคนหนึ่งอยากลุกขึ้นเถียง ทว่า ถูกหวังหานปิงรั้งไว้เสียก่อน

“เขาดูถูกพวกเราถึงเพียงนี้เจ้ายังทนได้อีกหรือ!”

ขุนนางต้าเยี่ยนผู้นั้นโมโหจนหน้าแดงก่ำ

“หากท่านลุกขึ้นโต้เถียงจะติดกับของใต้เท้าหลิ่วทันที”

แววตาของหวังหานปิงราบเรียบเหมือนเคยราวกับว่าคำดูถูกเหล่านี้ไม่มีผลกับเขาแม้แต่น้อย

ขอเพียงเจรจากับแคว้นต้าโจวได้สำเร็จ ถ้อยคำดูถูกเหล่านี้ถือเป็นเรื่องเล็กน้อยสำหรับหวังหานปิง ต่อให้เขาต้องก้มหน้ารับคำถูกถูกเหล่านั้นไว้เองเขาก็ยินดี

เมื่อหลิ่วหรูซื่อเห็นขุนนางต้าเยี่ยนผู้นั้นถูกหวังหานปิงรั้งตัวไว้จึงหันไปกล่าวกับขุนนางฝ่ายตัวเอง

“ต้าโจวของพวกเราไม่เคยรังแกแคว้นที่อ่อนแอกว่า ทว่า ทุกท่านจงจำไว้ว่าทุกท่านจงจำไว้ว่าตอนนี้กองทัพหลักของต้าเยี่ยนถูกต้าโจวควบคุมไว้แล้ว ต้าโจวยกทัพประชิดอยู่ที่ชายแดนต้าเยี่ยนแล้ว เบื้องหลังของพวกเราคือแรงสนับสนุนของทุกคนในแคว้นต้าโจว!”

หลิ่วหรูซื่อกวาดสายตามองขุนนางต้าโจวทุกคนที่ถูกส่งมาเจรจาในครั้งนี้

“ทหารต้าโจวของพวกเราไม่กลัวที่ต้องหลั่งเลือด พวกเขากลัวแค่ว่าพวกเราจะทำตัวเป็นคนขี้ขลาดทั้งๆ ที่พวกเขาพร้อมสละชีวิตในสนามรบ!”

ฟ่านอวี้กานกำหมัดแน่น สมองของเขาเต็มไปด้วยภาพเหล่าทหารกำอาวุธต่อสู้ในสงครามภายใต้ธงศึกที่โบกสะบัดไปมา เลือดร้อนของเขาพุ่งพล่านขึ้นทันที

ไม่เพียงแค่ฟ่านอวี้กานเท่านั้น ขุนนางคนอื่นๆ ฮึกเหิมขึ้นหลังจากได้ยินคำของหลิ่วหรูซื่อเช่นเดียวกัน

ที่ตอนนี้ต้าโจวของพวกเขาได้เปรียบในการเจรจาเพราะทหารแคว้นพวกเขาสละชีพแลกมันมา ทหารที่อยู่ในสงครามและพวกเขาที่นั่งเจรจาอยู่ตรงนี้ล้วนทำเพื่อแคว้นต้าโจวทั้งสิ้น ต้าโจวรักชีวิตของชาวบ้านและทหารทุกคน ทว่า ชีวิตของคนเหล่านั้นไม่ควรถูกต้าเยี่ยนใช้มาข่มขู่ต้าโจว

“คนต้าโจวทุกคนหยิ่งทระนงในศักดิ์ศรี! ยอมหักแต่ไม่ยอมงอ! พวกเจ้าจงยืดอกเงยหน้าขึ้นมาให้ข้าได้เห็น! วันนี้ใดกล้าหงอให้ต้าเยี่ยนตอนเจรจา ข้าจะทูลขอให้ฝ่าบาทสั่งให้ทหารรักษาพระองค์ตัดเอวของพวกเจ้าทิ้งเสีย ชีวิตนี้อย่าได้คิดหยัดหลังตรงอีกเลย!”

หลิ่วหรูซื่อเป็นคนรูปงาม แม้นิสัยของเขาจะค่อนข้างดื้อรันและไม่เกรงกลัวผู้ใด ทว่า น้อยครั้งนักที่จะเห็นเขาเยือกเย็นและเต็มไปด้วยไอสังหารเช่นนี้

หลิ่วหรูซื่อตะโกนถามเสียงดังลั่น

“ได้ยินแล้วหรือไม่!”

“ได้ยินแล้วขอรับ!”

ฟ่านอวี้การตอบรับเป็นคนแรก

“คนต้าโจวไม่มีทางยอมลดศักดิ์ศรีให้ผู้ใดทั้งสิ้นขอรับ!”

“ใช่…พวกเรายอมหักแต่ไม่ยอมงอ”

“พวกเรายอมหักแต่ไม่ยอมงอ”

ขุนนางต้าโจวทุกคนพากันตะโกนว่ายอมหักแต่ไม่ยอมงอ

หลิ่วหรูซื่อพยักหน้า จากนั้นหันไปมองขุนนางของต้าเยี่ยน ร่างของเขาเต็มไปด้วยไอสังหารไม่แตกต่างจากทหารที่รบอยู่ในสงครามแม้แต่น้อย

หวังหานปิงกำหมัดแน่น มิน่าผู้สำเร็จราชการจึงหวาดระแวงหลิ่วหรูซื่อผู้นี้นัก!

เมื่อได้พบกันวันนี้หวังหานปิงจึงเข้าใจว่าหลิ่วหรูซื่อผู้นี้ร้ายกาจสมคำร่ำลือจริงๆ แค่คำกล่าวเพียงไม่กี่ประโยคก็ทำให้พวกเขาไม่สามารถใช้ชีวิตของทหารและชาวบ้านมาบีบบังคับต้าโจวได้อีกต่อไป

เมื่อหลิ่วหรูซื่อมาถึง กำลังใจของขุนนางต้าโจวเพิ่มขึ้นกว่าเดิมทันที แววตาของแต่ละคนเต็มไปด้วยความดุดันราวกับลูกหมาป่าที่เพิ่งถูกปล่อยออกมาจากกรง

หลู่ไท่เว่ยเห็นเหตุการณ์จึงยิ้มกว้างออกมา จากนั้นกล่าวขึ้น

“ในเมื่อใต้เท้าหลิ่วกลับมาแล้ว ข้าก็ขอตัวก่อน…”

หลู่ไท่เว่ยกล่าวจบจึงหันไปกล่าวกับขุนนางต้าเยี่ยนยิ้มๆ

“เดิมทีฝ่าบาทมอบหมายให้ใต้เท้าหลิ่วเป็นคนเจรจากับพวกท่าน ข้าเพียงแค่รับช่วงต่อดูแลชั่วคราวระหว่างที่ใต้เท้าหลิ่วทำหน้าที่ไม่ได้เท่านั้น ในเมื่อตอนนี้ใต้เท้าหลิ่วกลับมาแล้ว ข้าคงต้องขอตัวก่อน ฝ่าบาททรงมีรับสั่งให้ใต้เท้าหลิ่วเป็นคนตัดสินใจเรื่องการเจรจาทั้งหมดแต่เพียงผู้เดียว เจตนารมณ์ของใต้เท้าหลิ่วคือเจตนารมณ์ของพวกเราต้าโจวทุกคน!”

หวังหานปิงมองไปทางหลู่ไท่เว่ยที่ก่อนหน้านี้เอาแต่นั่งจิบชา ไม่กล่าวสิ่งใดทั้งสิ้นแวบหนึ่ง เขารู้ตั้งแต่แรกแล้วว่าต้าโจวส่งขุนนางคนสำคัญที่สุดของต้าโจวก็เพื่อควบคุมสถานการณ์ไม่ให้สองฝ่ายก่อความวุ่นวายเท่านั้น

การเจรจายืดเยื้อมาจนถึงวันนี้แล้ว มันควรสิ้นสุดลงเสียที ดังนั้นหลู่ไท่เว่ยจึงจากไปและยกสนามคืนให้แก่หลิ่วหรูซื่อ ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนเป็นแผนการของต้าโจว แม้ก่อนหน้านี้มือสังหารของจงสิงเสี่ยวจะไม่ลอบสังหารหลิ่วหรูซื่อ หลิ่วหรูซื่อก็คงยังไม่ปรากฏกายในตอนแรกอยู่ดี

“หลู่ไท่เว่ยกลับดีๆ ขอรับ”

หลิ่วหรูซื่อพยักหน้าให้หลู่ไท่เว่ยพลางผายมือเชิญ

ขุนนางต้าเยี่ยนยืนส่งหลู่ไท่เว่ยจากไป เมื่อคิดได้ว่าอีกครู่ต้องเผชิญหน้ากับหลิ่วหรูซื่อก็รู้สึกปวดศีรษะมาก

เมื่อหลู่ไท่เว่ยเดินหายไปจากสายตาหลิ่วหรูซื่อจึงหันกลับไปมองหวังหานปิง

“ใต้เท้าหวัง พวกเราเริ่มการเจรจาเถิด…”

ในเมื่อรู้แล้วว่าผู้นำในการเจรจาในครั้งนี้ของต้าเยี่ยนคือผู้ใดหลิ่วหรูซื่อจึงไม่อยากแสร้งทำเป็นไม่รู้อีก

“เชิญใต้เท้าหลิ่ว…”

หวังหานปิงกล่าวยิ้มๆ

ในเมื่อหลิ่วหรูซื่อมาแล้วหวังหานปิงก็ไม่อยากอ้อมค้อมกับต้าโจวอีก หลิ่วหรูซื่อก็คงไม่ยอมให้เป็นเช่นนั้นเหมือนกัน

เมื่อนั่งลงเรียบร้อยหวังหานปิงจึงกล่าวขึ้นก่อนหลิ่วหรูซื่อ

“ต้าเยี่ยนไม่ขอรับเมืองอวิ๋นจิงที่ต้าโจวจะมอบให้ เป็นดั่งที่ใต้เท้าหลิ่วกล่าว แคว้นที่ชนะย่อมได้ทุกสิ่งทุกอย่างของอีกแคว้นอยู่แล้ว เมืองไม่มีค่ามากขนาดนั้นจริงๆ ทว่า พวกเราไม่สามารถส่งผู้สำเร็จราชการของต้าเยี่ยนให้ต้าโจวได้จริงๆ เช่นเดียวกับที่ต้าเยี่ยนไม่มีทางขอให้จักรพรรดินีแห่งต้าโจวเดินทางไปเป็นตัวประกันของต้าเยี่ยนเช่นเดียวกัน”

“ใต้เท้าหวังหมายความว่าผู้สำเร็จราชการของต้าเยี่ยนคือจักรพรรดิแห่งต้าเยี่ยนแล้วอย่างนั้นหรือ”

หลิ่วหรูซื่อมองไปทางสองข้างของตัวเองแวบหนึ่ง

“หากเป็นเช่นนั้นจริง แผนที่จักรพรรดิของต้าเยี่ยนของท่านเสนอมาคงใช้ไม่ได้แล้วกระมัง!”

[1] มนุษย์ไร้ยางอาย เป็นการเปรียบเปรยด้วยคำพ้องเสียงของจีน ฉื่อในภาษาจีนแปลว่า ฟันและความละอาย

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

Status: Ongoing
นิยายจีนโบราณเข้มข้น ปะทะคารม ทดสอบไหวพริบ สนุกถึงใจ!เพราะถูกคนชั่วหลอกใช้ชาติก่อนคนทั้งตระกูลของนางจึงต้องตายอย่างน่าอนาถ ไร้ซึ่งคนทวงถามความเป็นธรรมชาตินี้นางหวนกลับมาก่อนเรื่องราวเกิดขึ้น แม้เพียงเล็กน้อยแต่หากสามารถช่วยเหลือคนในครอบครัวได้แม้สักคนนางก็ยินดีทุ่มเทกำลังให้ถึงที่สุดสตรีตระกูลไปแต่ไรมาแกร่งกล้ำเพียบพร้อมบุ๋นบู๊ แม้ไร้ซึ่งที่พึ่งพิงแล้วจริงแต่ก็จะไม่ยอมให้ผู้ใดมากดขี่ได้!และเพราะเรื่องราวที่เปลี่ยนแปลงไปนางจึงได้พบกับ ‘เขา’ ไวกว่าชาติก่อนเขาผู้นี้แม้ภายนอกดูป็นมิตรและสง่งามกว่าใคร แต่นงแจ่มแจ้งดีว่าเขาเจ้าเล่ห์และอำหิตมากเพียงไหนชาติก่อนแม้ยืนกันคนละฝั่งแต่บุรุษผู้นี้กลับเป็นผู้มอบทางรอดให้แก่นาง อย่างนั้นชาตินี้นางก็ย่อมตอบแทนเขาเป็นอย่างดีเช่นกัน“แม่นางไปช่วยเหลือข้าหลายครั้งหลายครา ใช่ว่าชื่นชอบข้าหรือไม่?”“คุณชายเข้าใจผิดแล้วล่ะ”“ข้าช่วยเหลือแม่นางไปมาหลายครั้งหลายครา แม่นางไปมีใจชื่นชอบข้าบ้างหรือไม่?”“…”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท