ตอนที่ 1361 ตัวประกัน
หลิ่วหรูซื่อกล่าวจบจึงมองไปทางคนบันทึกเหตุการณ์ของสองแคว้น “มัวอึ้งอันใดกันอยู่ รีบจดลงไปว่าผู้สำเร็จราขการของต้าเยี่ยนมีความสำคัญเท่ากับจักรพรรดิของต้าเยี่ยน วันหน้าหากพวกเรามีเรื่องสำคัญอันใดปรึกษาผู้สำเร็จราชการคนเดียวก็เพียงพอแล้ว”
หวังหานปิงหรี่ตาแคบพลางกล่าวออกมายิ้มๆ “ใต้เท้าหลิ่วเข้าใจความหมายที่ข้าต้องการจะสื่อผิดไปแล้ว แม้ตอนนี้จักรพรรดิต้าเยี่ยนของพวกเราจะปรีชาชาญและตัดสินพระทัยด้วยองค์เองได้แล้ว ทว่า ฝ่าบาททรงมอบหมายให้ผู้สำเร็จราชการของต้าเยี่ยนเป็นคนตัดสินใจเรื่องทั้งหมดในการเจรจาครั้งนี้แต่เพียงผู้เดียว ครั้งนี้ถึงแม้ผู้สำเร็จราชการจะไม่เห็นด้วยกับแผนการของฝ่าบาท ทว่า ก็ยังพาขุนนางของต้าเยี่ยนมาเจรจาเรื่องนี้กับต้าโจวอยู่ดี”
หลิ่วหรูซื่อเห็นท่าทีของหวังหานปิงจึงไม่ได้ตอแยไม่เลิก เขากล่าวเพียง “ผู้สำเร็จราชการอ๋องเก้าแห่งต้าเยี่ยน แม่ทัพเซี่ยสวินและองค์ชายสองของต้าเยี่ยนต้องมาเป็นตัวประกันที่ต้าโจว! เหตุผลแรกเพราะพวกเขาทั้งสามคนเป็นแม่ทัพที่เก่งกาจในการรบของต้าเยี่ยน ต้าโจวไม่วางใจที่จะปล่อยให้พวกเขาอยู่ที่ต้าเยี่ยนต่อ แม่ทัพเซี่ยสวินไม่ใช่คนของราชวงศ์ต้าเยี่ยน พวกท่านอาจผิดสัญญากับต้าโจวและทอดทิ้งแม่ทัพผู้นี้อย่างง่ายดาย!”
“องค์ชายสองมู่หรงผิงของพวกเจ้ายังไม่ได้รับแต่งตั้งบรรดาศักดิ์เลย เห็นได้ชัดว่าองค์ชายสองผู้นี้ไม่ได้เป็นที่โปรดปรานของไทเฮาและจักรพรรดิต้าเยี่ยน พวกท่านอาจทอดทิ้งเขาอย่างง่ายดายเช่นเดียวกัน!”
“ดังนั้นมีเพียงพวกท่านส่งผู้สำเร็จราชการมาเป็นตัวประกันที่ต้าโจว ต้าโจวจึงจะวางใจและกล้าเดิมพันกับต้าเยี่ยน”
หลิ่วหรูซื่อกล่าวอย่างรวดเร็ว ทว่า มั่นคง เขาไม่ปล่อยโอกาสให้ขุนนางต้าเยี่ยนกล่าวสิ่งใดทั้งสิ้น เมื่อกล่าวจบจึงยกถ้วยชาขึ้น ทว่า ยังไม่ทันดื่มก็กล่าวเสริมขึ้นอีก “การแข่งขันกันด้วยระบอบการปกครองไม่ได้ส่งผลดีต่อต้าโจวเท่าใดนัก ขุนนางส่วนใหญ่ของต้าโจวแทบไม่เห็นด้วยกับเรื่องนี้ ทว่า ฝ่าบาทของพวกเรายอมเจรจากับต้าเยี่ยนก่อนโดยอ้างว่าห่วงใยชาวบ้าน หากตกลงกันไม่ได้ พวกเราก็แค่ทำสงครามช้าไปไม่กี่วันเท่านั้น!”
หลิ่วหรูซื่อกล่าวจบจึงยกถ้วยชาขึ้นจิบอย่างไม่รีบร้อนราวกับไม่สนใจคำตอบของต้าเยี่ยนและไม่ได้อยากเจรจาเรื่องนี้ตั้งแต่แรกแล้ว
ขุนนางต้าเยี่ยนเป็นฝ่ายร้อนรนขึ้นมาทันที พวกเขาหันไปกระซิบกระซาบกันเอง หลิ่วหรูซื่อทำเป็นไม่ได้ยิน
ก่อนหน้านี้หลู่ไท่เว่ยเอาแต่นั่งจิบชาด้วยท่าทีสบายๆ เมื่อหลิ่วหรูซื่อมาถึงกลับงัดไม้แข็งออกมาทันที หวังหานปิงรู้ดีว่าต้าโจวไม่มีสิ่งใดต้องเป็นกังวลจริงๆ ฝ่ายที่เดือดร้อนหากทำสงครามมีเพียงต้าเยี่ยนเท่านั้น
ไม่นานหวังหานปิงจึงตัดสินใจได้ เขากำมือที่ซ่อนอยู่ในแขนเสื้อแน่น “ข้าไม่เห็นด้วยกับคำที่ใต้เท้าหลิ่วกล่าวว่าองค์ชายสองมู่หรงผิงไม่เป็นที่โปรดปรานของไทเฮาและฝ่าบาท แม้ตอนนี้องค์ชายสองจะยังไม่มีบรรดาศักดิ์ ทว่า เขาคือแม่ทัพที่เก่งกาจของต้าเยี่ยน ไทเฮาและฝ่าบาทจะไม่โปรดปรานพระองค์ได้อย่างไรกัน ที่สำคัญองค์ชายใหญ่ที่เกิดจากไทเฮาเหมือนกับฝ่าบาทก็ยังไม่ได้รับการแต่งตั้งบรรดาศักดิ์เช่นเดียวกัน องค์ชายใหญ่ไม่ได้รับความโปรดปรานจากไทเฮาและฝ่าบาทด้วยอย่างนั้นหรือ”
“ส่วนแม่ทัพเซี่ยสวิน บิดาของแม่ทัพเซี่ยสวินคือเหวินเจวี่ยนโหว แม่ทัพเซี่ยสวินยอมตกเป็นตัวประกันของต้าโจว ต้าเยี่ยนจะทอดทิ้งเขาอย่างง่ายดายได้เช่นไรกัน”
สิ้นเสียงของหวังหานปิง หลิ่วหรูซื่อเงยหน้าขึ้น เขาปิดฝาชาลงตามเดิมพลางมองหน้าหวังหานปิงราวกับอยากประชันฝีมือกับหวังหานปิงเต็มที
หวังหานปิงรวบรวมความกล้าตัดสินใจทำสิ่งอาจหาญทันที เขาเงยหน้ามองหลิ่วหรูซื่อพลางกล่าวขึ้น “พวกเราส่งตัวผู้สำเร็จราชการมาเป็นตัวประกันที่ต้าโจวไม่ได้ ทว่า ต้าโจวแข็งแกร่งกว่าต้าเยี่ยนอย่างที่ใต้เท้าหลิ่วกล่าวจริงๆ ต้าเยี่ยนต้องแสดงความจริงใจให้ต้าโจวได้เห็น พวกเราจะส่งแม่ทัพเซี่ยสวินและองค์ชายสองมู่หรงผิงมาเป็นตัวประกันที่ต้าโจว ขณะเดียวกันพวกเราจะส่งองค์ชายใหญ่พระเชษฐาแท้ๆ ของจักรพรรดิต้าเยี่ยนมาเป็นตัวประกันที่ต้าโจวด้วย ไม่ทราบว่าทำเช่นนี้ต้าโจวจะพอใจหรือไม่”
หวังหานปิงไม่ได้ปรึกษาเรื่องนี้กับคนอื่น ทว่า เขามีแผนการนี้อยู่ในใจนานแล้ว ฝ่าบาทกำชับเขาว่าไม่ว่าอย่างไรก็จะปล่อยให้ผู้สำเร็จราชการตกเป็นตัวประกันของต้าโจวไม่ได้เด็ดขาด
ในเมื่อเป็นเช่นนี้พวกเขาก็ต้องเสนอโอรสแท้ๆ อีกคนของไทเฮาออกมาแทน ให้องค์ชายใหญ่มาเป็นตัวประกันที่ต้าโจวดีกว่าส่งผู้สำเร็จราชการของต้าเยี่ยนมาแน่นอน
หลิ่วหรูซื่อเงยหน้าขึ้นมองไปทางหวังหานปิง เขากำถ้วยชาของตัวเองแน่น
ไม่เพียงแค่หลิ่วหรูซื่อเท่านั้น ขุนนางของต้าเยี่ยนต่างตกตะลึงไปตามๆ กัน หวังหานปิงผู้นี้ไม่ได้ปรึกษาเรื่องนี้กับผู้ใดทั้งสิ้นก็กล้าเสนอองค์ชายใหญ่ออกมาเช่นนี้ หากไทเฮาทรงลงโทษขึ้นมาผู้ใดจะรับผิดชอบเรื่องนี้กัน!
ทว่า หวังหานปิงกล่าวออกไปแล้ว พวกเขาไม่สามารถคัดค้านได้
ตอนนี้พวกเขากำลังเจรจาเพื่อผลประโยชน์ของแคว้นตัวเองอยู่ ในเมื่อคนของแคว้นตัวเองกล่าวออกไปแล้ว พวกเขาไม่สามารถหักหน้าฝ่ายของตัวเองได้ ที่สำคัญหวังหานปิงเป็นผู้นำในการเจรจาในครั้งนี้
“ต้าโจวกังวลว่าต้าเยี่ยนจะยกทัพหลักของต้าเยี่ยนกลับไปเมืองหลวงหลังจากสองแคว้นตกลงแข่งขันกันเรียบร้อย จากนั้นผิดสัญญากับต้าโจวทันทีไม่ใช่หรือ เช่นนั้นแทนที่จะส่งผู้สำเร็จราชการของต้าเยี่ยนซึ่งเป็นเพียงอาของฝ่าบาทมาเป็นตัวประกันที่ต้าโจว ไม่สู้ส่งโอรสแท้ๆ ของไทเฮา พระเชษฐาแท้ๆ ของฝ่าบาทมาเป็นตัวประกันไม่ดีกว่าหรือ” หวังหานปิงเงยหน้ามองหลิ่วหรูซื่อ “ต้าโจวคิดว่าการแสดงความจริงใจของต้าเยี่ยนในครั้งนี้เป็นเช่นไรบ้าง”
ความจริงหลิ่วหรูซื่อรู้ดีว่าไม่ว่าอย่างไรผู้สำเร็จราชการแห่งต้าเยี่ยนก็ไม่มีทางอยู่เป็นตัวประกันที่ต้าโจวแน่นอน ทว่า เขาคิดไม่ถึงว่าสุดท้ายต้าเยี่ยนจะเสนอองค์ชายใหญ่ โอรสองค์โตของไทเฮาแห่งต้าเยี่ยนออกมาแทนเช่นนี้
หลิ่วหรูซื่อพยักหน้า “ถือว่าต้าเยี่ยนแสดงความจริงใจให้ต้าโจวได้เห็นแล้ว ทว่า ต้าโจวยังต้องการอีกคน…”
“ใต้เท้าหลิ่วไม่ต้องเป็นห่วง ใต้เท้าจงสิงเสี่ยวจะอยู่ให้ความร่วมมือต้าโจวตรวจสอบเรื่องการลอบสังหารจนกว่าเรื่องนี้จะถูกพิสูจน์ได้ ต้าเยี่ยนของพวกเรารู้เรื่องนี้ดี” หวังหานปิงกล่าวขึ้นอย่างไม่รีบร้อน
“น่าแปลกเสียจริง…” หลิ่วหรูซื่อหันไปมองฟ่านอวี้กาน หลู่เฟิ่งหลางและขุนนางต้าโจวคนอื่นๆ “ทูตของต้าเยี่ยนเจรจาง่ายจะตายไป เหตุใดพวกเจ้าจึงไม่ได้ข้อสรุปเสียที…”
“เป็นความผิดของพวกเราเองขอรับ พวกเราอ่อนแอเกินไป เวลาสำคัญต้องพึ่งพาใต้เท้าหลิ่วแล้วขอรับ” ฟ่านอวี้กานกล่าวยิ้มๆ ด้วยท่าทีประจบนอบน้อมจนหลู่เฟิ่งหลางไม่อยากมอง
หลิ่วหรูซื่อกลอกตาใส่ฟ่านอวี้กาน จากนั้นกล่าวต่อ “ในเมื่อต้าเยี่ยนแสดงความจริงใจให้พวกเราได้เห็นถึงเพียงนี้แล้วพวกเราก็มาคุยรายละเอียดเรื่องการแข่งขันกันต่อเถิด หากพวกเราจะแข่งขันด้วยเมืองทั้งหมดที่สองแคว้นมีเกรงว่าชาตินี้ก็คงไม่ได้ผลแพ้ชนะ พวกเราคัดเลือกเมืองที่ต้องการนำมาแข่งขันออกมาสักสี่ห้าเมืองดีหรือไม่”
ก่อนหน้าที่หลิ่วหรูซื่อยังไม่ได้มาสองแคว้นเอาแต่เถียงกันเรื่องตัวประกันจนตกลงไม่ได้เรื่องเสียที เมื่อหลิ่วหรูซื่อมาถึงทุกคนกลับเจรจากันถึงเรื่องการส่งเมืองตัวแทนในการแข่งขันแล้ว