ตอนที่ 1369 ทหารเก่า
ฮูหยินติ้งหย่งโหวกำลูกประคำในมือแน่น นางพยายามตั้งสติแล้วกล่าวขึ้น “ไม่ว่าจะเคยมีความสัมพันธ์หรือไม่ ผู้มาเยือนล้วนเป็นแขก…”
ไม่นานข่าวเรื่องที่จักรพรรดินีแห่งต้าโจวเดินทางไปเคารพศพของติ้งหย่งโหวที่จวนจึงแพร่กระจายไปทั่วทั้งเมืองหลวง หลายคนที่ตั้งใจว่าจะมาเคารพศพในช่วงบ่ายต่างพากันขึ้นรถม้ามุ่งหน้าไปที่จวนติ้งหย่งโหวทันที
หานเฉิงอ๋องที่ปกติไม่ได้ไปมาหาสู่กับติ้งหย่งโหวยังมาเคารพศพเช่นเดียวกัน
หานเฉิงอ๋องเพิ่งได้รับจดหมายลับจากแคว้นตงอี๋ก็ได้ยินว่าไป๋ชิงเหยียนอยู่ที่จวนติ้งหย่งโหว เขาครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งจากนั้นตัดสินใจให้คนพาเขามาที่จวนติ้งหย่งโหว เขาไม่ได้ต้องการประจบจวนติ้งหย่งโหวเหมือนที่คนอื่นคิดทำ เขามาเพราะมีเรื่องสำคัญจะคุยกับไป๋ชิงเหยียน
หานเฉิงอ๋องเคารพศพเสร็จจึงถูกเชิญไปที่ด้านหลังหอทำพิธี เขาเห็นไป๋ชิงเหยียนกำลังสนทนาบางอย่างอยู่กับผู้สำเร็จราชการของต้าเยี่ยน หน้าต่างห้องถูกเปิดออกเล็กน้อย เว่ยจง ชุนจือและชุนเถายืนเฝ้าอยู่ที่หน้าประตู ไม่มีผู้ใดกล้าชะโงกหน้าเข้าไปสำรวจสถานการณ์ในห้อง หานเฉิงอ๋องไม่กล้าเดินเข้าไปรบกวนเช่นเดียวกัน เขาได้แต่เรียกเว่ยจงมาบอกว่ามีเรื่องสำคัญจะบอกให้ไป๋ชิงเหยียนทราบ
เว่ยจงหันไปมองไป๋ชิงเหยียนแวบหนึ่ง จากนั้นหันกลับไปกล่าวกับหานเฉิงอ๋อง “อีกไม่นานฝ่าบาทก็คงเสด็จกลับแล้ว หากหานเฉิงอ๋องมีเรื่องด่วนไม่สู้ไปนั่งรอบนรถม้าก่อน ท่านจะได้พบฝ่าบาทแน่นอน”
“ขอบคุณเว่ยกงกงมากที่ชี้แนะ” หานเฉิงอ๋องโค้งกายคำนับเว่ยจงและจากไปทันที
ไป๋ชิงเหยียนนั่งถือถ้วยชาสนทนากับเซียวหรงเหยี่ยนอยู่บนเก้าอี้ประมุขในโถงรับรอง “การที่ท่านมาจวนติ้งหย่งโหวในวันนี้คงทำให้คนมากมายสงสัยจวนติ้งหย่งโหวแน่นอน”
“ข้าเดาได้ว่าเจ้าจะมาจึงอดใจไม่ไหว…” เซียวหรงเหยี่ยนเงยหน้าสบตาไป๋ชิงเหยียน “ข้าผิดเอง ข้าไม่ได้คิดให้รอบคอบ แค่อยากมา…พบหน้าเจ้าเท่านั้น”
เซียวหรงเหยี่ยนกล่าวจบจึงวางถ้วยชาในมือลง “ดูเหมือนว่าหานเฉิงอ๋องมีเรื่องจะคุยกับเจ้า ข้าจะรอเจ้าที่นอกเมือง…”
“นอกเมืองอย่างนั้นหรือ” ไป๋ชิงเหยียนไม่เข้าใจ
“อีกไม่กี่วันสองแคว้นคงเจรจากันเสร็จเรียบร้อย ถึงเวลานั้นข้าคงต้องเดินทางกลับต้าเยี่ยนแล้ว” เซียวหรงเหยี่ยนลุกขึ้นยืนพลางโค้งกายคำนับไป๋ชิงเหยียนด้วยท่าทีจริงจัง “นานๆ ทีเจ้าจะทิ้งงานออกมานอกวังเช่นนี้ พวกเราไปเที่ยวเล่นนอกเมืองกันเถิด”
“ข้ามาปรากฏตัวที่จวนติ้งหย่งโหวแล้ว หากออกไปนอกเมืองกับท่านอาจถูกคนสงสัยได้” ไป๋ชิงเหยียนลุกขึ้นยืน “ข้าจะหาเวลาอยู่เป็นเพื่อนท่านก่อนท่านกลับต้าเยี่ยน ทว่า ตอนนี้พวกเรากลับจวนใครจวนมันก่อนน่าจะเหมาะสมที่สุด”
เซียวหรงเหยี่ยนเข้าใจความกังวลของไป๋ชิงเหยียนดี ทว่า เขาอดผิดหวังไม่ได้
ไป๋ชิงเหยียนก้าวไปด้านหน้าเล็กน้อย จากนั้นกล่าวกับเซียวหรงเหยี่ยนเสียงเบา “เมื่อสองแคว้นรวมเป็นหนึ่งสำเร็จพวกเรายังมีเวลาอีกมาก ไม่ต้องรีบร้อน”
เซียวหรงเหยี่ยนอยากเข้าไปกุมมือไป๋ชิงเหยียนและรั้งนางเข้ามากอดในอ้อมแขน ทว่า ได้แต่ห้ามใจตัวเอง “ได้ เช่นนั้นข้าจะออกไปพร้อมกับเจ้า…”
ไป๋ชิงเหยียนพยักหน้า ขณะที่ทั้งสองคนเดินออกไปด้านนอก เซียวหรงเหยี่ยนกล่าวขึ้นต่อ “อาลี่และเซี่ยสวินส่งจดหมายมาแล้วว่าทูตของเทียนเฟิ่งไม่ได้ขอเจรจากับต้าเยี่ยน ดังนั้นเทียนเฟิ่งคงมาต้าโจวเพราะเรื่องหยกจักจั่นอย่างที่เจ้าคิดจริงๆ”
“อาจเป็นเพราะเรื่องศิษย์ของจอมเวทย์ของแคว้นเทียนเฟิ่งด้วย เขาถูกจับได้ที่ภูเขาหานเหวิน หากเทียนเฟิ่งให้ความสำคัญกับคนผู้นี้ พวกเขาคงต้องหาทางขอตัวเขากลับไปแน่นอน” ไป๋ชิงเหยียนเดินข้ามธรณีประตูโถงรับรองออกไปด้านนอก “หากพวกเขามาเพราะเรื่องหยกจักจั่นจริงๆ เมื่อทูตของเทียนเฟิ่งมาถึงพวกเขาจะเห็นหยกจักจั่นที่คล้ายคลึงกันวางขายอยู่ทั่วท้องถนนของต้าโจว หากพวกเขาฉลาดย่อมรู้ว่าข้าเตรียมการป้องกันไว้ก่อนแล้ว”
“แคว้นเทียนเฟิ่งค่อนข้างแปลกประหลาด คำนวณดูจากเวลาเมื่อพวกเขามาถึงเมืองหลวงของต้าโจวข้าคงจากไปแล้ว เจ้าระวังพวกเขาให้ดีด้วย” เซียวหรงเหยี่ยนเดินตามหลังไป๋ชิงเหยียนออกไปจากโถงรับรอง
“ขอบคุณอ๋องเก้ามากที่เป็นห่วง เรารู้ขอบเขตดี” ไป๋ชิงเหยียนปฏิบัติต่อเซียวหรงเหยี่ยนอย่างเกรงใจและเหินห่างเมื่ออยู่ต่อหน้าผู้อื่น
คนของจวนติ้งหย่งโหวออกไปส่งทั้งสองคนที่นอกจวน
ตอนที่เว่ยจงประคองไป๋ชิงเหยียนขึ้นไปบนรถม้าเขาบอกกับหญิงสาวแล้วว่าหานเฉิงอ๋องรออยู่บนรถ เมื่อไป๋ชิงเหยียนเข้าไปในตัวรถจึงเห็นหานเฉิงอ๋องนั่งคุกเข่ารออยู่บนพื้น
ไป๋ชิงเหยียนนั่งลงด้วยท่าทีปกติ เมื่อรถม้าเริ่มเคลื่อนตัวจึงกล่าวกับหานเฉิงอ๋อง “ลุกขึ้นเถิด มีเรื่องด่วนอันใดเจ้าจึงรีบร้อนมาพบข้าที่จวนติ้งหย่งโหวเช่นนี้”
หานเฉิงอ๋องไม่ได้ลุกขึ้น เขาก้มศีรษะคำนับไป๋ชิงเหยียนแนบพื้น
“ฝ่าบาท สายลับของแคว้นตงอี๋ส่งจดหมายลับมารายงานกระหม่อมว่าแคว้นตงอี๋เริ่มเคลื่อนย้ายทหารเรือแล้วพ่ะย่ะคะ แม้จุดประสงค์จะไม่ชัดเจน ทว่า ชาวบ้านซึ่งอาศัยอยู่ชายทะเลที่จับปลาเป็นอาชีพอาจตกอยู่ในอันตรายได้พ่ะย่ะค่ะ ตั้งแต่ที่แคว้นต้าโจวถูกสถาปนาขึ้น ต้าโจวมัวทำสงครามกับซีเหลียงและเทียนเฟิ่งอยู่ หลักจากทหารเรือของต้าเหลียงถูกควบคุมตัวพวกเขาจึงไม่ได้รับความสนใจมากนัก” ใบหน้าของหานเฉิงอ๋องเต็มไปด้วยความกังวล “ตอนนี้ฝ่าบาทคงต้องเร่งฝึกพวกเขาแล้วพ่ะย่ะค่ะ มิเช่นนั้นหากแคว้นตงอี๋บุกมาโจมตีถึงหน้าบ้านพวกเรา ชาวบ้านต้าโจวจะได้รับความเดือดร้อนได้พ่ะย่ะค่ะ”
ไป๋ชิงเหยียนรู้ว่าหานเฉิงอ๋องเป็นห่วงชาวบ้านจากใจจริง นางประคองหานเฉิงอ๋องให้ลุกขึ้น “ข้าให้เว่ยจงส่งจดหมายไปรายงานเสนาบดีกรมทหารตั้งแต่วันที่เจ้ามาพบข้าแล้ว เจ้าไม่ต้องเป็นห่วง…”
ที่ก่อนหน้านี้จางตวนหนิงไม่ใส่ใจทหารเรือเป็นเพราะต้าโจวไม่มีเขตแดนติดทะเลเขาจึงไม่ได้ฝึกซ้อมทหารเรืออย่างเข้มงวด ดังนั้นต้าโจวจึงเข้าไปยุ่งกับกองทัพทหารเรือของต้าเหลียงไม่ได้ ตอนนี้หัวหน้าของคนเหล่านั้นยังเป็นคนต้าเหลียงเหมือนเดิม ต่อให้ต้าโจวจะส่งคนเข้าไปภายหลังก็ไม่เกิดผลอันใด ต่อให้คนผู้นั้นจะเป็นคนที่มีตำแหน่งสูง ทว่า ขอเพียงทหารเรือเหล่านั้นกล่าวว่าเขาไม่มีความรู้เรื่องทะเล ให้มอบหมายให้ลูกน้องเป็นคนจัดการ ขุนนางผู้นั้นก็เถียงสิ่งใดไม่ได้แล้ว
จางตวนหนิงต้องการลดอำนาจของทหารเรือ เขาจึงลดค่าใช้จ่ายและจำนวนทหารเรือลงตั้งแต่ที่ต้าโจวยึดครองต้าเหลียงมาได้ จางตวนหนิงต้องการกำจัดทหารเรือเก่าที่ยังจงรักภักดีต่อต้าเหลียงออก จากนั้นค่อยๆ ส่งคนของต้าโจวเข้าไปแทน ทว่า ตอนนี้แคว้นตงอี๋เริ่มลงมือแล้ว จางตวนหนิงจะค่อยๆ จัดการเรื่องนี้อย่างช้าๆ ไม่ได้อีกต่อไป
จางตวนหนิงรายงานเรื่องนี้ให้หลู่ไท่เว่ยรับรู้แล้ว หลู่ไท่เว่ยอนุญาตเรื่องนี้โดยไม่ได้รายงานไป๋ชิงเหยียน เพราะแต่ไรมาพวกเขาก็จัดการกับกองทัพที่ไม่เชื่อฟังด้วยวิธีเช่นนี้มาโดยตลอด ไม่จำเป็นต้องรายงานให้ไป๋ชิงเหยียนรับรู้อีก
หานเฉิงอ๋องพิจารณาจากสถานการณ์ในตอนนี้ เขาคิดว่าหากทำสงครามกันขึ้นมาจริงๆ ชาวบ้านอาจได้รับความเดือดร้อนได้ เขารายงานเรื่องที่จางตวนหนิงลดค่าใช้จ่ายและลดจำนวนทหารของทหารเรือลงให้ไป๋ชิงเหยียนรับรู้อย่างทนไม่ไหว
“ฝ่าบาททรงมีแผนการในใจแล้วกระหม่อมก็วางใจ ทว่า ตอนนี้จำนวนทหารเรือลดลงมากเกินไป ฝ่าบาทควรส่งคนที่ไว้ใจได้และมีความสามารถไปควบคุมเรื่องนี้และเรียกตัวทหารเรือเก่าเหล่านั้นกลับมารวมตัวกันนะพ่ะย่ะค่ะ”