สตรีแกร่งตระกูลไป๋ – ตอนที่ 1389 ขอร้อง

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

ตอนที่ 1389 ขอร้อง

หลิวซื่อพยักหน้าพลางสะอื้นจนตัวโยน ทว่า ไม่ได้กล่าวสิ่งใดออกมาทั้งสิ้น

ใช่แล้ว บุตรชายของนางต้องมีชีวิตอยู่แน่นอน ตอนนี้พวกเขาอาจอยู่ที่ใดสักแห่งในใต้หล้าแห่งนี้จึงยังกลับมาไม่ได้ ทว่า ขอเพียงพวกเขายังมีชีวิตอยู่หลิวซื่อเชื่อว่านางต้องได้พบพวกเขาในสักวันแน่ๆ

ต่งซื่อเดินไปหยุดอยู่ตรงหน้าบุตรชายของตัวเองทั้งน้ำตา นางประคองบุตรชายของตัวเองให้ลุกขึ้น ใบหน้าครึ่งซีกของบุตรชายของนางเสียโฉมจากแผลไฟลวก ไม่ได้รูปงามเหมือนก่อนหน้านี้อีกแล้ว นางลูบรอยแผลไฟไหมบนใบหน้าครึ่งซีกของบุตรชายด้วยความสงสาร อยากเอ่ยถามว่าเจ็บหรือไม่ ทว่า เสียงที่เปล่งออกมามีแต่เสียงร้องไห้เท่านั้น

ต่งซื่อกัดริมฝีปากของตัวเองแน่นอย่างพยายามควบคุมอารมณ์อ่อนไหวของตัวเอง นางลืมตาโตมองหน้าบุตรชาย พยายามควบคุมน้ำเสียงของตัวเองให้เป็นปกติ จากนั้นมองไปทางบุรุษของตระกูลไป๋ทุกคนที่น้องสะใภ้ประคองให้ลุกขึ้นยืน นางกล่าวด้วยน้ำเสียงภาคภูมิใจ “แม้ท่านปู่ ท่านพ่อ ท่านลุงและท่านอาของพวกเจ้าจะจากไปแล้ว ทว่า พวกเจ้าเติบใหญ่กันหมดแล้ว พวกเจ้าสามารถดูแลตระกูลไป๋ต่อจากพวกเขาได้แล้ว ท่านปู่ ท่านพ่อ ท่านลุงและท่านอาของพวกเจ้าต้องภูมิใจในตัวพวกเจ้าทุกคนมากแน่ๆ ! พวกเจ้าไม่เคยทำผิดต่อคำสั่งสอนของท่านปู่ของพวกเจ้า ไม่เคยทำให้ท่านลุงท่านอาของพวกเจ้าผิดหวัง พวกเจ้าคือบุตรคนดีของตระกูลไป๋!”

ไป๋ชิงเหยียนยืนมองน้องชายและน้องสาวของตัวเองด้วยแววตาเปล่งประกายอยู่ทางด้านหลังต่งซื่อ นางรู้สึกภาคภูมิใจในตัวน้องๆ ของตัวเองมาก!

ไป๋ชิงเหยียนละสายตาจากน้องๆ ของตัวเองมองไปทางธงเฮยฟานไป๋หมั่งและทหารกองทัพไป๋ที่ยืนอยู่ท่ามกลางแสงแดดทั้งน้ำตา

ขุนนางใหญ่ของต้าโจวซึ่งนำโดยหลู่ไท่เว่ยที่ออกมาต้อนรับกองทัพใหญ่กลับจากซีเหลียงยืนอยู่ด้านหลังไป๋ชิงเหยียน

เดิมทีต่งชิงผิงซึ่งเป็นเพียงซือถูไม่ควรทำตัวข้ามหน้าข้ามตาหลู่ไท่เว่ย ทว่า เมื่อเห็นอาอวี๋กลับมาอย่างปลอดภัยเขาจะไม่ดีใจได้อย่างไรกัน

ต่งชิงผิงก้าวไปยืนอยู่ข้างต่งซื่อพลางมองดูไป๋ชิงอวี๋ทั้งน้ำตา เขารู้แล้วว่าหลานชายของเขาคืออ๋องหน้ากากผีแห่งหรงตี๋ หลานชายของเขาต้องลำบากมามาก ทว่า หลานชายของเขายังคงพยายามทำเพื่อความสงบสุขของใต้หล้าอย่างไม่ย่อท้อ เขายึดหรงตี๋มาให้ต้าโจวได้สำเร็จในที่สุด!

เด็กคนนี้ต้องเข้มแข็งและมีปณิธานที่ยิ่งใหญ่เพียงใดกันนะ! เขา…ต้องทรมานร่างกายและจิตใจของตัวเองเพียงใดกัน

ต่งชิงผิงจะไม่สงสารและปวดใจได้อย่างไร!

“ท่านลุง…” ไป๋ชิงอวี๋ทำความเคารพต่งชิงผิง

ต่งชิงผิงพยักหน้า บุรุษอกสามศอกอย่างเขาน้ำตาไหลอย่างคุมไม่ได้เมื่อเห็นใบหน้าที่เคยรูปงามเหนือผู้ใดในเมืองหลวงของหลานชายเสียโฉมเพราะถูกไฟไหม้เช่นนี้ เมื่อได้ยินเสียงแหบพร่าของอาอวี๋เอ่ยเรียกเขาว่าท่านลุง ต่งชิงผิงรู้สึกปวดใจราวกับถูกมีดกรีดลงบนนั้น

ต่งชิงผิงขบกรามแน่นพลางเอื้อมมือไปตบไหล่หลานชายของตัวเองเบาๆ เขาอยากฉีกยิ้มออกมา ทว่า น้ำเสียงสะอื้นจนแทบฟังไม่เป็นคำ “กลับมา…กลับมาก็ดีแล้ว มีชีวิตรอดกลับมาได้สำคัญกว่าสิ่งใดทั้งสิ้น”

“พี่หญิง…” น้ำเสียงของไป๋ชิงอวี๋ดังขึ้นข้างกายไป๋ชิงเหยียน

ไป๋ชิงเหยียนได้สติจึงหันกลับไปมองไป๋ชิงอวี๋

“พี่หญิงใหญ่…”

“พี่หญิงใหญ่!”

“พี่หญิงใหญ่…”

ไป๋ชิงฉี ไป๋จิ่นซิ่วและพี่น้องคนอื่นๆ ต่างหันไปมองไป๋ชิงเหยียนที่ไม่ได้กล่าวสิ่งใดออกมาทั้งสิ้น ไป๋จิ่นจื้อถลาเข้าไปหาไป๋ชิงเหยียนเป็นคนแรก สาวน้อยเงยหน้ากล่าวกับไป๋ชิงเหยียน “พี่หญิงใหญ่ พี่ชายห้าบอกว่าเขาไม่ใช่แม่ทัพใหญ่ของกองทัพไป๋ แม่ทัพใหญ่ของกองทัพไป๋คือพี่หญิงใหญ่ตลอดไปเจ้าค่ะ! พวกเราพี่น้องก็คิดเช่นนี้เหมือนกัน พี่หญิงใหญ่คือเสี่ยวไป๋ไซว่ของกองทัพไป๋ ตอนนี้คือแม่ทัพใหญ่ของพวกเรากองทัพไป๋ด้วยเจ้าค่ะ!”

ไป๋ชิงเหยียนนิ่งอึ้งไปครู่หนึ่ง นางขยับปากราวกับจะกล่าวสิ่งใดออกมา ทว่า กลัวจะเปล่งเสียงร้องไห้ออกมาก่อนจึงได้แต่เอื้อมมือไปลูบศีรษะของไป๋จิ่นจื้อยิ้มๆ นางมองไปทางน้องชายและน้องสาวทุกคนแล้วกล่าวขึ้น “พวกเรากลับบ้านกันเถิด…”

ไป๋ชิงฉีที่สุขุมมาโดยตลอดเกือบกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ เขาตะโกนขึ้นเสียงดัง “เข้าเมือง กลับบ้าน!”

หลู่จิ่นเสียนซึ่งยืนอยู่ข้างหลู่ไท่เว่ยชะโงกหน้ามองไปทางด้านหลังขบวน เมื่อไม่เห็นหลู่หยวนเผิงจึงขมวดคิ้วแน่น “เหตุใดจึงไม่เห็นหยวนเผิง เขาตรงไปยังค่ายทหารแล้วอย่างนั้นหรือ”

เมื่อได้ยินบุตรชายเอ่ยถึงหลู่หยวนเผิงสีหน้าของหลู่ไท่เว่ยจึงขรึมลงทันที “เจ้าเด็กอกตัญญูนั่น หากกลับมาให้มันรีบไปคุกเข่าสำนึกผิดที่หอบรรพชนทันที!”

หลู่จิ่นเสียนได้ยินคำของหลู่ไท่เว่ยจึงกล่าวออกมายิ้มๆ “ท่านพ่อ ลุงใหญ่อย่างข้าอยากขอร้องแทนเสี่ยวลิ่วขอรับ”

หลู่ไท่เว่ยโมโหจนแทบรอให้หลู่หยวนเผิงไปคุกเข่าสำนึกผิดที่หอบรรพชนไม่ไหว เขาอยากใช้ไม้ไผ่ตีมือของหลานไม่เอาไหนของตัวเองให้บวมเสียเดี๋ยวนี้ ไม่รู้ว่าเด็กนั่นกล่าวสิ่งใดตอนทำสงครามกับซีเหลียงทุกคนจึงได้ลือกันว่าเขามีบุตรนอกสมรสคนหนึ่งที่ถูกส่งไปทำสงครามในกองทัพไป๋!

หลู่ไท่เว่ยก่นด่าหลู่หยวนเผิงในจวนไม่รู้กี่รอบต่อกี่รอบ ชื่อเสียงที่เขาสั่งสมมาตลอดชีวิตกลับต้องมาแปดเปื้อนเพราะหลานชายคนนี้ ไม่ว่าครั้งนี้ผู้ใดมาขอร้องก็ไม่มีประโยชน์ทั้งสิ้น หากครั้งนี้เขาไม่ลงโทษเด็กนั่นให้หลาบจำเขาก็ไม่ใช่ปู่ของมันอีกแล้ว!

ตอนนี้ไป๋ชิงอวี๋คือเจิ้นกั๋วอ๋องดังนั้นเขาจึงควรอาศัยอยู่ในจวนไป๋

ป้ายจวนไป๋ถูกพ่อบ่านเหาเปลี่ยนเป็นป้ายจวนเจิ้นกั๋วอ๋องเรียบร้อยแล้ว

บรรดาอาสะใภ้ของไป๋ชิงเหยียนปรึกษากันตั้งแต่ก่อนที่เด็กๆ จะกลับมาแล้วว่าหากพวกเขากลับมาพวกนางจะย้ายกลับมาอยู่ที่จวนไป๋เหมือนเดิม

เด็กๆ กลับมากันหมดแล้ว หากพวกเขาไปอยู่ในวังกับพวกนางด้วยคงไม่เหมาะสมสักเท่าใดนัก พวกนางก็อยากอยู่รวมกันกับลูกๆ ของตัวเอง

นี่คือเรื่องที่สมเหตุสมผล ไป๋ชิงเหยียนสั่งให้เว่ยจงให้คนช่วยขนของของบรรดาอาสะใภ้กลับไปยังจวนไป๋

ทว่า ไป๋ชิงเหยียนเป็นจักรพรรดินี นางไม่มีนางสนมในวังหลวงดังนั้นนางจึงเก็บตำหนักของบรรดาอาสะใภ้เอาไว้ พวกนางสามารถเข้ามาพักในวังหลวงได้เสมอ

ไป๋ชิงเหยียนรู้ว่ามารดาคิดถึงอาอวี๋มากจึงสั่งให้เว่ยจงและฉินหมัวมัวเก็บของของต่งซื่อไปส่งที่จวนไป๋ กำชับให้มารดาอยู่เป็นเพื่อนอาอวี๋สักระยะ

ต่งซื่อไม่เคยเอ่ยถึงเรื่องย้ายกลับไปอยู่ที่จวนไป๋เพราะนางสงสารบุตรสาวของตัวเอง ไม่อยากทิ้งนางไว้ที่วังหลวงเพียงคนเดียว ตอนนี้บุตรสาวของนางคือจักรพรรดินีของต้าโจว นางไม่สามารถเข้าออกวังหลวงได้ตามใจชอบ อีกทั้งไม่สามารถไปพักที่จวนไป๋ได้ หากเหล่าขุนนางรู้เข้าไม่รู้ว่าจะมองไป๋ชิงเหยียนเช่นไร

ตอนที่ฉินหมัวมัวเก็บของให้ต่งซื่อ ต่งซื่อกล่าวว่าจะกลับไปอยู่ที่จวนไป๋เพียงสามวันและจะกลับมาช่วยดูแลเด็กทั้งสองคนเพราะกลัวไป๋ชิงเหยียนจะดูแลไม่ไหว

ไป๋ชิงเหยียนรับคำ ทว่า ในใจนางอยากให้มารดาได้มีเวลาอยู่กับอาอวี๋ให้นานกว่านี้

นางอยู่ข้างกายมารดามาโดยตลอด ทว่า อาอวี๋กลับต้องปกปิดตัวตนของตัวเองอยู่ที่หนานเจียง เขาลอบทำเพื่อต้าโจวอย่างลับๆ โดยที่ผู้อื่นไม่รับรู้

ตอนนี้ซีเหลียงดับสูญลงแล้ว อาอวี๋กลับมาแล้ว มารดาของนางควรอยู่ดูแลอาอวี๋ให้มาก

เมื่อพ่อบ้านเหาและกู่เหล่าเห็นไป๋ชิงอวี๋และคุณชายคนอื่นๆ ของตระกูลไป๋กลับมาอย่างปลอดภัยจึงดีใจมาก

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

Status: Ongoing
นิยายจีนโบราณเข้มข้น ปะทะคารม ทดสอบไหวพริบ สนุกถึงใจ!เพราะถูกคนชั่วหลอกใช้ชาติก่อนคนทั้งตระกูลของนางจึงต้องตายอย่างน่าอนาถ ไร้ซึ่งคนทวงถามความเป็นธรรมชาตินี้นางหวนกลับมาก่อนเรื่องราวเกิดขึ้น แม้เพียงเล็กน้อยแต่หากสามารถช่วยเหลือคนในครอบครัวได้แม้สักคนนางก็ยินดีทุ่มเทกำลังให้ถึงที่สุดสตรีตระกูลไปแต่ไรมาแกร่งกล้ำเพียบพร้อมบุ๋นบู๊ แม้ไร้ซึ่งที่พึ่งพิงแล้วจริงแต่ก็จะไม่ยอมให้ผู้ใดมากดขี่ได้!และเพราะเรื่องราวที่เปลี่ยนแปลงไปนางจึงได้พบกับ ‘เขา’ ไวกว่าชาติก่อนเขาผู้นี้แม้ภายนอกดูป็นมิตรและสง่งามกว่าใคร แต่นงแจ่มแจ้งดีว่าเขาเจ้าเล่ห์และอำหิตมากเพียงไหนชาติก่อนแม้ยืนกันคนละฝั่งแต่บุรุษผู้นี้กลับเป็นผู้มอบทางรอดให้แก่นาง อย่างนั้นชาตินี้นางก็ย่อมตอบแทนเขาเป็นอย่างดีเช่นกัน“แม่นางไปช่วยเหลือข้าหลายครั้งหลายครา ใช่ว่าชื่นชอบข้าหรือไม่?”“คุณชายเข้าใจผิดแล้วล่ะ”“ข้าช่วยเหลือแม่นางไปมาหลายครั้งหลายครา แม่นางไปมีใจชื่นชอบข้าบ้างหรือไม่?”“…”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท