ตอนที่ 1390 ทางรอด
ชายชราทั้งสองคุกเข่าคำนับแนบพื้นด้วยความดีใจทั้งน้ำตา เอาแต่กล่าวว่าดวงวิญญาณของบรรพบุรุษตระกูลไป๋คอยปกป้องเหล่าคุณชายอยู่บนสวรรค์
ทุกคนในตระกูลไป๋ต่างดีใจที่ไป๋ชิงอวี๋ทายาทสายหลักของเจิ้นกั๋วกงไป๋ฉีซานกลับมาอย่างปลอดภัยและตื่นเต้นที่กองทัพไป๋รวมใจกันทำลายล้างแคว้นซีเหลียงจนดับสูญได้สำเร็จ ตั้งแต่ที่เจิ้นกั๋วอ๋องและเจิ้นกั๋วกงจากไป แม้คุณหนูใหญ่จะขึ้นครองราชย์เป็นจักรพรรดินีของต้าโจวแล้ว ทว่า คนส่วนใหญ่มักกล่าวกันว่ากองทัพไป๋ที่ไม่เคยพ่ายแพ้ในสงครามไม่ได้เก่งกาจเหมือนเมื่อก่อนอีกแล้ว
ทว่า ตอนนี้คุณชายและคุณหนูของตระกูลไป๋กลับมาแล้ว พวกนางทำให้กองทัพไป๋แข็งแกร่งขึ้นอีกครั้งได้แล้ว!
พวกเขาไม่ได้ปล่อยให้ธงเฮยฟานไป๋หมั่งของกองทัพไป๋ล้มลง บ่าวรับใช้ของตระกูลไป๋ที่เคยถอนตัวออกมาจากกองทัพจึงรู้สึกดีใจมาก
หมอหงกลับมาถึงจวนไป๋ เขาพักผ่อนครู่หนึ่ง จากนั้นจึงรีบเปลี่ยนเครื่องแต่งกายไปตรวจชีพจรให้ไป๋ชิงเหยียน หมอหงตรวจชีพจรให้ไป๋ชิงเหยียนพลางบ่นไป๋ชิงอวี๋ที่ยืนนิ่งอยู่ด้านข้าง รวมถึงหมอหลวงหวงศิษย์น้องของตนและหมอหลวงในราชสำนักทุกคน
หมอหงบ่นไป๋ชิงอวี๋เพราะนึกถึงเรื่องความบ้าบิ่นไม่กลัวตายของไป๋ชิงอวี๋ที่ทำให้ไป๋ชิงเหยียนตกใจจนคลอดก่อนกำหนดขึ้นมาได้
เขาด่าหมอหลวงหวงเพราะยาบางตัวที่หมอหลวงหวงให้ไป๋ชิงเหยียนทานไม่ใช่ยาที่ดีนักจึงทำให้ไป๋ชิงเหยียนดูแข็งแรงแต่ภายนอกเท่านั้น หมอหงด่าหมอหลวงหวงว่าเป็นหมอที่ไม่ได้เรื่อง ดีแต่หลอกรักษาคนไปวันๆ จนไป๋ชิงเหยียนไม่รู้จะหัวเราะหรือร้องไห้ออกมาดี
เมื่อหมอหลวงหวงตรวจชีพจรให้ไป๋ชิงเหยียนเสร็จจึงรีบจากไปสั่งสอนศิษย์น้องของตัวเองทันทีด้วยความโมโห เขาไม่ได้อยู่รับประทานอาหารกลางวันกับหญิงสาว เมื่อตรวจอาการให้กู่เหล่าเสร็จอีกคนจึงรีบเดินทางไปที่จวนของหมอหลวงหวงทันที
ช่วงบ่ายของวันนั้นทุกคนจุดธูปเคารพดวงวิญญาณของท่านปู่ ท่านพ่อ ท่านลุงและท่านอา เมื่อเสร็จแล้วไป๋ชิงเหยียนจึงอยู่รับประทานอาหารกลางวันที่จวนไป๋ต่อ
ไป๋ชิงอวี๋เดินไปยังเรือนเสาหวาพร้อมกับไป๋ชิงเหยียน เว่ยจง ชุนเถาและหวังต้งซึ่งขาพิการข้างหนึ่งเดินตามสองพี่น้องไปห่างๆ
“ตอนนี้ต้าโจวเดิมพันด้วยแคว้นกับต้าเยี่ยนแล้ว แค่ส่งเสิ่นเทียนจือไปคนเดียวคงไม่พอ พี่หญิงใหญ่ไว้ใจเสิ่นเทียนจือจนกล้ามอบกำลังทหารไว้ในมือของเขา ทว่า ใจคนยากจะคาดเดา เขามีกองกำลังทหารอยู่ในมืออาจมีใจเป็นอื่นได้ทุกเมื่อขอรับ”
ไป๋ชิงอวี๋เดินเอามือไขว้หลังไปตามระเบียงทางเดินที่ทอดยาวพลางกลาวขึ้นอย่างไม่รีบร้อน
“ข้าคิดว่าเมื่อกำจัดซีเหลียงเรียบร้อยแล้ว พวกเราควรระวังแคว้นเทียนเฟิ่งและแคว้นตงอี๋ไว้ด้วยขอรับ”
เมื่อเห็นว่าด้านหน้าคือบันไดไป๋ชิงอวี๋จึงรีบประคองร่างพี่สาวของตัวเอง เมื่อสองพี่น้องเดินขึ้นบันไดเสร็จเรียบร้อยไป๋ชิงอวี๋จึงกล่าวต่อ
“กองทัพไป๋ของพวกเราไม่ถนัดสงครามทางทะเล ในบรรดาพวกเราพี่น้องมีเพียงพี่หญิงรองคนเดียวเท่านั้นที่พอถนัดในเรื่องนี้ แคว้นเทียนเฟิ่งที่อยู่ติดกับซีเหลียงโดยมีหิมะกั้นขวางมีกองทัพไป๋คอยเฝ้าระวังอยู่ไม่มีทางมีปัญหาแน่นอนขอรับ เรื่องนี้สามารถมอบให้พี่ชายสามเป็นคนดูแลได้ขอรับ”
“เจ้าอยากไปต้าเยี่ยนอย่างนั้นหรือ”
ไป๋ชิงเหยียนชะงักฝีเท้า นางมองไปทางน้องชายที่ตอนนี้สูงกว่านางแล้ว
ไป๋ชิงอวี๋ที่สวมหมวกกวานอยู่บนศีรษะมองหน้าพี่สาวของตัวเองนิ่งด้วยความจริงจัง
“การเดินทางไปต้าเยี่ยนหากไม่รอบคอบแม้เพียงนิดเดียวอาจถูกต้าเยี่ยนจับเป็นตัวประกันได้ แทนที่จะส่งน้องๆ คนอื่นไปแล้วข้าเป็นห่วง ไม่สู้ให้ข้าไปเองดีกว่าขอรับ”
ไป๋ชิงเหยียนจ้องหน้าน้องชายนิ่งครู่หนึ่ง จากนั้นเดินไปยังเรือนเสาหวาพร้อมกับน้องชายต่อ
“พี่หญิงรองของเจ้ามีวั่งเกอ พี่ไม่อยากให้นางลำบากเดินทางไกลอีกแล้ว ฉินหล่างกำลังจะกลับมา เมื่อฉินหล่างกลับมาให้พวกเขาได้อยู่พร้อมหน้าพร้อมตากันสักพัก หากบิดามารดาล้วนไม่อยู่ข้างกายวั่งเกอคือคนที่น่าสงสารที่สุด พี่จะมอบสำนักตรวจการให้พี่หญิงรองของเจ้าเป็นคนดูแล”
ไป๋ชิงอวี๋เห็นด้วยกับคำกล่าวของพี่สาว ตอนนี้เขา พี่ชายสาม น้องชายเจ็ดและน้องชายเก้ากลับมาแล้ว พี่หญิงรองไม่จำเป็นต้องลำบากเหมือนก่อนหน้านี้อีก
“พี่มอบหมายให้หานเฉิงอ๋องเป็นคนดูแลเมืองแถบชายทะเล เจ้าน่าจะยังไม่เคยพบหน้าเขา พี่ค่อนข้างให้ความสำคัญกับเขา คนผู้นี้ยอมแบกรับคำครหาว่าทรยศบ้านเมืองจากชาวบ้านแสดงว่าเขาเป็นคนที่มีใจรักชาวบ้าน ไม่ใช่ทุกคนจะมีความกล้าในการโดนชาวบ้านก่นด่ารุนแรงเช่นนี้”
ใบหน้าของไป๋ชิงเหยียนเต็มไปด้วยรอยยิ้ม
“พี่อยากเชื่อหานเฉิงอ๋อง ตอนนี้ต้าโจวกว้างใหญ่ขึ้นกว่าเดิมมาก หากต้องใช้งานคนของตัวเองทุกเรื่องพวกเราคงเหนื่อยตายกันพอดี งานใดแบ่งให้พวกเขาทำได้ก็ควรแบ่ง”
“ทว่า ถึงแม้หานเฉิงอ๋องจะไม่คิดกบฏ แต่เขามีกำลังทหารอยู่ในมือ ข้ากลัวว่าทหารเก่าของต้าเหลียงอาจคิดกบฏได้ขอรับ”
ไป๋ชิงอวี๋ยังคงไม่วางใจ
“ทหารในกองทัพไม่ค่อยพอใจเรื่องที่พี่หญิงนำแคว้นไปเดิมพันกับต้าเยี่ยนและเรื่องที่มอบกำลังทหารให้หานเฉิงอ๋องเท่าใดนัก โดยเฉพาะกองทัพไป๋ของพวกเราที่คัดค้านรุนแรงกว่าผู้อื่นขอรับ”
“การปกครองแคว้นไม่ใช่การใช้งานคนของตัวเองเพียงอย่างเดียว การใช้งานคนให้ถูกเรื่องถึงจะเห็นผลลัพธ์ที่ดีที่สุด พี่กล้ากล่าวได้เลยว่าไม่มีผู้ใดในกองทัพไป๋บังคับทหารเรือได้ดีกว่าหานเฉิงอ๋องแน่นอน”
ไป๋ชิงเหยียนขมวดคิ้วมองไปทางน้องชาย
“ในเมื่อต้องการใช้งานหานเฉิงอ๋องก็ต้องยอมรับการกระทำของทหารเก่าของต้าเหลียงให้ได้ ทว่า พี่เชื่อว่าหานเฉิงอ๋องจะจัดการได้ดี เจ้าไม่ต้องกังวลเกินไปนัก”
“ส่วนเสิ่นเทียนจือ…”
เมื่อเอ่ยถึงเสิ่นเทียนจือไป๋ชิงเหยียนจึงนึกขึ้นมาได้ว่าเขาคือทางรอดของตระกูลไป๋ที่ท่านพ่อของนางทิ้งไว้ให้พวกนาง ไป๋ชิงเหยียนยิ้มออกมาน้อยๆ
“เสิ่นเทียนจือคือสหายของท่านพ่อ เขาคือทางรอดที่ท่านพ่อเหลือให้พวกเราที่ซั่วหยาง”
ไป๋ชิงเหยียนเล่าเรื่องระหว่างเสิ่นเทียนจือและท่านพ่อให้ไป๋ชิงอวี๋ฟังอย่างละเอียด
“เสิ่นเทียนจือเป็นคนมีความสามารถมาก ทว่า เขากลับยอมเป็นเพียงเจ้าเมืองอยู่ที่ซั่วหยางเพราะคำสัญญาที่เคยให้ไว้กับท่านพ่อ เขาเป็นวิญญูชนที่ยึดมั่นในคำสัญญา พี่มั่นใจใช้งานวิญญูชนผู้นี้ยิ่งกว่าหานเฉิงอ๋อง”
ไป๋ชิงเหยียนก้มหน้าลง
“ที่สำคัญพี่เชื่อสายตาของท่านพ่อของพวกเรา ท่านพ่อไม่มีทางฝากชีวิตของคนในตระกูลไป๋ไว้กับคนที่ไว้ใจไม่ได้แน่นอน”
ไป๋ชิงอวี๋ฟังเรื่องของเสิ่นเทียนจือจบจึงนิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง จากนั้นกล่าวขึ้น
“ช้าเชื่อในสายตาของท่านพ่อเช่นเดียวกันขอรับ”
“ที่สำคัญจิ่นถงก็อยู่ที่ต้าเยี่ยน พี่จะให้คนนำตราทัพของต้าโจวไปให้จิ่นถงเพื่อความไม่ประมาท…”
ไป๋ชิงเหยียนต้องการป้องกันไทเฮาของต้าเยี่ยน
ความจริงด้วยนิสัยของไป๋ชิงเหยียนไทเฮาไม่ควรมีชีวิตอยู่ต่อไปอีก ทว่า ไม่ว่าอย่างไรนางก็คือพี่สะใภ้ของอาเหยี่ยน มารดาแท้ๆ ของมู่หรงลี่ ภรรยาของมู่หรงอวี้
หากต้าเยี่ยนพ่ายแพ้ขึ้นมาจริงๆ แล้วไทเฮาแห่งต้าเยี่ยนไม่ยอมแพ้ ไป๋จิ่นถงสามารถใช้ตราทัพที่นางมอบให้เคลื่อนย้ายทหารต้าโจวที่อยู่ในแคว้นต้าเยี่ยนมาใช้งานและปกป้องชีวิตของตัวเองได้
ไป๋ชิงฉีเล่าเรื่องของไป๋จิ่นถงให้ไป๋ชิงอวี๋ฟังหมดแล้ว
ทั้งสองสนทนาพลางเดินเข้าไปในเรือนเสาหวาที่เต็มไปด้วยดอกไม้หลากหลายชนิด กลิ่นหอมของดอกไม้หลากหลายสายพันธ์ลอยโชยมาปะทะจมูก
แสงกระดิ่งทองแดงดั่งขึ้นยามลมพัดเบาๆ เป็นเสียงที่ไพเราะรื่นหูยิ่งนัก