สตรีแกร่งตระกูลไป๋ – ตอนที่ 1420 เสียชีวิต

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

ตอนที่ 1420 เสียชีวิต

“เอาล่ะ เรื่องการแต่งงานของพวกเจ้ามีท่านอาสะใภ้คอยจัดการอยู่ พี่จะไม่กล่าวให้มากความไปกว่านี้แล้ว”

ไป๋ชิงเหยียนวางถ้วยชาลงบนโต๊ะ

“พวกเจ้ารู้ดีแก่ใจก็พอ”

ไป๋ชิงเหยียนวกกลับมาเรื่องสำคัญอีกครั้ง

“แคว้นเล็กอย่างตงอี๋อาจไม่กล้าเปิดศึกกับต้าโจว ทว่า พวกเจ้าได้อ่านรายงานลับแล้ว จักรพรรดิของเทียนเฟิ่งลอบร่วมมือกับขุนนางต้าเยี่ยนเข้าแทรกแซงการเมืองของแคว้นตงอี๋ คิดสนับสนุนองค์ชายสองของตงอี๋ขึ้นครองบัลลังก์ หากองค์ชายสองของตงอี๋เป็นคนเสียสติและโหดร้ายอย่างที่ในรายงานว่าไว้จริงๆ…”

ไป๋ชิงเหยียนชะงักคำกล่าวไว้แค่นั้น ทว่า คนอื่นๆ เข้าใจความหมายที่ไป๋ชิงเหยียนต้องการจะสื่อเป็นอย่างดี

“แม้ภายนอกแคว้นต้าเยี่ยนจะไม่ได้มีติดต่อหรือมีความสัมพันธ์ใดๆ กับแคว้นเทียนเฟิ่ง กระทั่งเคยทำสงครามกันมาก่อนที่ซีเหลียง ทว่า ใต้หล้าแห่งนี้ไม่มีศัตรูที่ถาวร มีเพียงผลประโยชน์เท่านั้น ตอนนี้ต้าเยี่ยนและเทียนเฟิ่งมีเป้าหมายเดียวกันคือการสร้างปัญหาให้ต้าโจว พวกเขาย่อมจับมือกันเป็นธรรมดา”

ไป๋ชิงเจวี๋ยกล่าวเสียงเบา

“ดังนั้นพวกเราจะปล่อยให้เทียนเฟิ่งและต้าเยี่ยนทำสำเร็จไม่ได้เด็ดขาด!”

ไป๋ชิงเหยียนก้มหน้าลง

“ต้องรอดูว่าหลิ่วหรูซื่อจะทำสำเร็จหรือไม่ มิเช่นนั้นหากปล่อยให้ต้าเยี่ยนและเทียนเฟิ่งสนับสนุนองค์ชายสองขึ้นครองราชย์ได้สำเร็จ แคว้นตงอี๋อาจถูกต้าเยี่ยนและเทียนเฟิ่งยุยงจนคิดทำสงครามกับต้าโจวขึ้นมาจริงๆ แม้ต้าโจวจะไม่กลัวการทำสงคราม ทว่า พวกเราควรเตรียมรับมือไว้ล่วงหน้า”

“ขอรับ!”

หานเฉิงอ๋องยืนมองแผ่นหลังของเหล่าชาวประมงที่ออกเรือไปหาปลากลางทะเลท่ามกลางการอารักขาของทหารเรือนิ่งอยู่บนโขดหิน

ตอนนี้หลิ่วหรูซื่อผู้มีวาทศิลป์เก่งกล้าของต้าโจวเดินทางไปถึงแคว้นตงอี๋แล้ว ทหารต้าโจวและกองทัพไป๋มาถึงที่นี่แล้วเช่นเดียวกัน อีกไม่นานคงรู้กันแล้วว่าพวกเขาต้องทำสงครามหรืออยู่กันอย่างสงบสุขต่อไป

หานเฉิงอ๋องรู้ว่ากองทัพไป๋คือกองทัพของไป๋ชิงเหยียน หากไม่ถึงคราวจำเป็นจริงๆ หานเฉิงอ๋องไม่อยากเคลื่อนย้ายทัพกองทัพไป๋ ที่สำคัญคือกองทัพไป๋ไม่ชำนาญการรบทางทะเล หานเฉิงอ๋องคิดไว้ดีแล้ว หากต้องทำสงครามกันขึ้นมาจริงๆ เขาจะให้กองทัพต้าโจวและกองทัพไป๋อยู่ปกป้องคนบนฝั่ง ส่วนเรื่องทางทะเล…ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของทหารเรือฝ่ายพวกเขาเอง

หานเฉิงอ๋องคลำป้ายทองที่อกของตัวเอง ขอบตาของเขาร้อนผ่าวขึ้นอย่างคุมไม่อยู่…

เขาไม่รู้จะบรรยายความรู้สึกนี้ออกมาอย่างใด เขาหวังอยากได้รับความไว้วางใจจากเสด็จพ่อของเขามาตลอดชีวิตแต่เขาไม่เคยได้รับมันเลยสักครั้ง ทว่า เขากลับได้รับความไว้วางใจนี้จากจักรพรรดิของแคว้นศัตรูที่เขายอมจำนน

ไป๋ชิงเหยียนมอบป้ายทองให้เขาโดยไม่กลัวว่าเขาจะก่อกบฏแม้แต่น้อย!

เขาจะทำให้ดีที่สุดให้สมกับที่จักรพรรดินีแห่งต้าโจวเชื่อใจในตัวเขา!

ก่อนหน้าที่เขาจะได้พบกับไป๋ชิงเหยียน หานเฉิงอ๋องเคยคิดว่าที่ตระกูลไป๋และไป๋ชิงเหยียนบอกว่าต้องการรวบรวมใต้หล้าให้เป็นหนึ่งเพื่อความสงบสุขของชาวบ้านทั่วใต้หล้าเป็นเพียงข้ออ้างที่ต้องการแย่งแคว้นและอำนาจทางทหารของแคว้นอื่นไปเท่านั้น

บัดนี้หานเฉิงอ๋องเชื่อแล้วว่าที่ไป๋ชิงเหยียนสามารถขึ้นครองราชย์เป็นจักรพรรดิได้เป็นเพราะนางมีสิ่งที่แตกต่างจากผู้อื่น ความคิดและการกระทำของนางช่างแตกต่างจากผู้อื่นจริงๆ

หานเฉิงอ๋องเงยหน้ามองท้องฟ้าที่แสงแดดกำลังแผดจ้าพลางยกยิ้มมุมปากขึ้นเล็กน้อย ตอนนี้เมื่อได้ทำความรู้จักไป๋ชิงเหยียนเขาถึงได้เข้าใจความแตกต่างระหว่างมนุษย์ด้วยกันเอง

บางคนเกิดมาบนโลกแห่งนี้เพราะบุพเพสันนิวาสของชาติที่แล้วและชาตินี้ เกิดมาเพื่อพร้อมพลีชีพเพื่อความรักอย่างเช่นพระชายาเอกของเขา

บางคนเกิดมาเพื่อลำบากฝึกฝนประสบการณ์ดั่งเช่นเหล่าทหารของเขา

บางคนเกิดมาเพื่อเสพสุขไปวันๆ อย่างเช่นคนตระกูลสูงศักดิ์ของต้าเหลียงเหล่านั้น

บางคนเกิดมาเพื่อทำปณิธานที่ตั้งไว้ให้เป็นจริง ดั่งเช่นไป๋ชิงเหยียน

ไป๋ชิงเหยียนใจกว้างและมีปณิธานที่ยิ่งใหญ่ดังนั้นนางจึงกล้าเชื่อใจเขา

การรวบใต้หล้าให้เป็นหนึ่งไม่ใช่เรื่องที่คนๆ เดียวสามารถทำสำเร็จได้ จักรพรรดิที่กล้าใช้คนจึงจะสามารถครอบครองใต้หล้าแห่งนี้ได้

หากสุดท้ายแล้วไป๋ชิงเหยียนคือคนที่ได้ครอบครองใต้หล้าแห่งนี้ หานเฉิงอ๋องจะยอมรับด้วยความเต็มใจ

ตั้งแต่ที่ได้รับจดหมายจากไป๋ชิงเหยียนที่ส่งมาบอกว่าให้ทหารเรือคุ้มกันชาวประมงเหล่านั้นออกไปหาปลาหานเฉิงอ๋องก็อยู่ในสถานการณ์เตรียมพร้อมรบตลอดเวลา เขากลัวว่าทหารเรือทั้งสองฝ่ายอาจมีปากเสียงกันจนเกิดเป็นสงครามขึ้นมาในที่สุด

หลังจากที่หานเฉิงอ๋องสะสางงานในกองทัพเสร็จ เขาจะมายืนอยู่บนโขดหินเพื่อดูว่ามีรายงานทางทหารด่วนใดส่งมาบ้างหรือไม่จนตะวันตกดินจึงกลับไปยังที่พักของตัวเอง

ตอนนี้จักรพรรดิของแคว้นเทียนเฟิ่งอาศัยอยู่ในแคว้นตงอี๋ ดูเหมือนว่าเขาต้องการสนับสนุนให้องค์ชายสองผู้มีนิสัยโหดร้ายของตงอี๋ขึ้นครองราชย์เป็นคนถัดไป ต้าเยี่ยนต้องการให้ตงอี๋ก่อกวนต้าโจวดังนั้นพวกเขาคงอยากสนับสนุนองค์ชายสองงขึ้นครองราชย์เช่นเดียวกัน

ตอนนี้จักรพรรดิของแคว้นตงอี๋คงใกล้ไม่ไหวแล้ว หากองค์ชายสองได้ขึ้นครองราชย์จริงๆ ต้าโจวคงต้องทำสงครามกับตงอี๋อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้แน่นอน

หานเฉิงอ๋องรู้ดีว่าตอนนี้ต้าโจวกำลังเดิมพันแคว้นกับต้าเยี่ยนอยู่ ทางที่ดีที่สุดคือไม่ควรปล่อยให้สงครามเกิดขึ้น

เขาได้แต่หวังว่าหลิ่วหรูซื่อจะทำสัญญาพันธมิตรกับตงอี๋ได้สำเร็จ หวังว่าหลิ่วหรูซื่อจะทำข้อตกลงกับองค์ชายสองได้ว่าองค์ชายสองจะไม่เปิดศึกกับต้าโจวเมื่อเขาขึ้นครองราชย์ได้สำเร็จแม้ต้องแลกด้วยผลประโยชน์มากมายหน่อยก็ตาม

ตอนนี้ต้าโจว ต้าเยี่ยนและเทียนเฟิ่งล้วนอยากดึงแคว้นตงอี๋มาเป็นพวกของตนด้วยกันทั้งสิ้น

ราชสำนักของตงอี๋ในตอนนี้เป็นเหมือนที่หานเฉิงอ๋องคิดไว้ไม่มีผิดเพี้ยน พวกเขาไม่ไว้หน้าหลิ่วหรูซื่อสักนิดเพราะโกรธแค้นเรื่องที่โดนปฏิเสธการแต่งงานเชื่อมไมตรีในตอนนั้น ตอนนี้สถานการณ์กลับกันแล้ว ทูตของต้าโจวเดินทางมายังแคว้นตงอี๋ พวกเขาจึงไม่จำเป็นต้องไว้หน้าต้าโจวเช่นแดียวกัน

ทว่า ขุนนางตงอี๋ไม่รู้ว่าขุนนางของต้าโจวอย่างหลิ่วหรูซื่อจะเป็นคนรับมือได้ยากเช่นนี้ ข้างกายของเขายังมีลูกศิษย์ที่หน้าไม่อายและสตรีที่รูปโฉมงดงามอีกสองคน

ขุนนางแคว้นตงอี๋รู้ว่าตอนนี้จักรพรรดิของแคว้นต้าโจวเป็นสตรี นางเป็นคนอนุญาตให้สตรีร่ำเรียน เข้าร่วมการสอบขุนนางและรับราชการในราชสำนัก ดังนั้นพวกเขาจึงยกเรื่องที่สตรีอย่างหลู่เฟิ่งหลางเดินทางมาเจรจากับแคว้นอื่นด้วยตัวเองอย่างไม่รู้จักละอายขึ้นมาเป็นประเด็น

ฟ่านอวี้กานที่เรียนรู้ภาษาของแคว้นตงอี๋จากหลิ่วหรูซื่อมาบ้างได้ยินจึงเอ่ยถามขุนนางตงอี๋เป็นภาษาตงอี๋อย่างไม่เกรงใจทันทีว่าพวกเขาไม่ได้เกิดมาจากท้องของสตรีหรือ มารดาของพวกเขาล้วนเป็นบุรุษใช่หรือไม่ หรือว่าหากมารดาของพวกเขาออกจากบ้านจะโดนลูกเนรคุณอย่างพวกเขาด่าทอทุกครั้ง

ยังไม่พอเท่านี้ ฟ่านอวี้กานยังหันไปกล่าวกับหลู่เฟิ่งหลางอีกว่าแคว้นตงอี๋เป็นแคว้นที่ดี มีแต่บุรุษอาศัยอยู่ในแคว้น เขาถูกใจยิ่งนัก ขุนนางตงอี๋เหล่านั้นโมโหจนแทบเสียชีวิตลงตรงนั้น ทว่า เมื่อฟ่านอวี้กานกล่าวจบกลับขอขมาพวกเขาพลางบอกว่าตนเพิ่งเรียนภาษาตงอี๋ได้ไม่นาน หากกล่าววาจาผิดไปบ้างหวังว่าพวกเขาจะไม่ถือสา

ขุนนางของเทียนเฟิ่งเคยเสียเปรียบฟ่านอวี้กานมาก่อนพวกเขาจึงรู้ดีว่าฟ่านอวี้กานจงใจทำเช่นนี้

ตกดึก ฟ่านอวี้กาน หลู่เฟิ่งหลางและหลิ่วหรูซื่อนั่งรวมตัวกันอยู่ในโรงเตี๊ยมด้วยสีหน้าเคร่งเครียด

“ตอนนี้คนของต้าเยี่ยนลอบเคลื่อนไหวในแคว้นตงอี๋อย่างลับๆ แล้ว พวกเขาคงอยากให้ตงอี๋และต้าโจวเปิดศึกกันมาก ตอนนี้เทียนเฟิ่งเข้ามาร่วมวงด้วยอีกแคว้น ผลประโยชน์ที่พวกเรานำมาให้แคว้นตงอี๋คงกลายเป็นเพียงเงินสนับสนุนกองทัพตงอี๋เท่านั้น!”

ฟ่านอวี้กานกล่าวพลางขมวดคิ้วแน่น

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

Status: Ongoing
นิยายจีนโบราณเข้มข้น ปะทะคารม ทดสอบไหวพริบ สนุกถึงใจ!เพราะถูกคนชั่วหลอกใช้ชาติก่อนคนทั้งตระกูลของนางจึงต้องตายอย่างน่าอนาถ ไร้ซึ่งคนทวงถามความเป็นธรรมชาตินี้นางหวนกลับมาก่อนเรื่องราวเกิดขึ้น แม้เพียงเล็กน้อยแต่หากสามารถช่วยเหลือคนในครอบครัวได้แม้สักคนนางก็ยินดีทุ่มเทกำลังให้ถึงที่สุดสตรีตระกูลไปแต่ไรมาแกร่งกล้ำเพียบพร้อมบุ๋นบู๊ แม้ไร้ซึ่งที่พึ่งพิงแล้วจริงแต่ก็จะไม่ยอมให้ผู้ใดมากดขี่ได้!และเพราะเรื่องราวที่เปลี่ยนแปลงไปนางจึงได้พบกับ ‘เขา’ ไวกว่าชาติก่อนเขาผู้นี้แม้ภายนอกดูป็นมิตรและสง่งามกว่าใคร แต่นงแจ่มแจ้งดีว่าเขาเจ้าเล่ห์และอำหิตมากเพียงไหนชาติก่อนแม้ยืนกันคนละฝั่งแต่บุรุษผู้นี้กลับเป็นผู้มอบทางรอดให้แก่นาง อย่างนั้นชาตินี้นางก็ย่อมตอบแทนเขาเป็นอย่างดีเช่นกัน“แม่นางไปช่วยเหลือข้าหลายครั้งหลายครา ใช่ว่าชื่นชอบข้าหรือไม่?”“คุณชายเข้าใจผิดแล้วล่ะ”“ข้าช่วยเหลือแม่นางไปมาหลายครั้งหลายครา แม่นางไปมีใจชื่นชอบข้าบ้างหรือไม่?”“…”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท