ตอนที่ 1425 ถูกวางยาพิษ
ชุนเถาเห็นไป๋ชิงเหยียนถือถ้วยชานิ่งด้วยท่าทางครุ่นคิดพลางรับคำออกมาเบาๆ อย่างไม่ใส่ใจจึงเอ่ยขึ้นอีกครั้ง “อีกไม่ถึงสองชั่วยามก็จะถึงเวลาว่าราชการตอนเช้าแล้ว คุณหนูใหญ่ต้องพักผ่อนสักนิดพรุ่งนี้จะได้มีแรงนะเจ้าคะ”
ไป๋ชิงเหยียนพยักหน้าแล้วก้มจิบน้ำชา จากนั้นกล่าวกับเว่ยจง “เสิ่นเทียนจือส่งฎีกากลับมาบ้างหรือไม่”
“ทูลฝ่าบาท ฝ่าบาททรงลืมไปแล้วหรือพ่ะย่ะค่ะว่าฝ่าบาทให้เจิ้นกั๋วอ๋องกับฮู่กั๋วอ๋องเป็นคนรับผิดชอบเรื่องการเดิมพันทั้งหมด ตอนนี้ฎีกาของใต้เท้าเสิ่นถูกส่งไปที่จวนเจิ้นกั๋วอ๋องแล้วพ่ะย่ะค่ะ” เว่ยจงกล่าวยิ้มๆ “คราวที่แล้วเจิ้นกั๋วอ๋องตรัสว่าฝ่าบาททรงงานหนักมาก ในเมื่อทรงมอบหมายเรื่องการเดิมพันกับต้าเยี่ยนให้เจิ้นกั๋วอ๋องจัดการแล้วก็ไม่ควรสนใจเรื่องเล็กน้อยเหล่านี้ให้เสียเวลาอีก ควรใส่ใจแค่เรื่องใหญ่ของแคว้นก็พอฝ่าบาทจะได้ไม่เหนื่อยเกินไปพ่ะย่ะค่ะ”
ไป๋ชิงเหยียนได้ยินจึงนึกขึ้นได้ว่าอาอวี๋เคยกล่าวกับนางเช่นนี้จริงๆ
แววตาของไป๋ชิงเหยียนมีรอยยิ้มขึ้นมาทันที น้องชายของนางกลับมาแล้ว…นางไม่จำเป็นต้องแบกรับทุกอย่างคนเดียวอีกต่อไป พวกน้องๆ ของนางสามารถช่วยแบ่งเบาภาระของนางได้ ทว่า ไป๋ชิงเหยียนแค่ยังไม่คุ้นเคยกับการมีคนคอยช่วยเหลือเท่านั้น
“เช่นนั้นก็นอนเถิด…” ไป๋ชิงเหยียนใช้นิ้วสางผมยาวสลวยของตัวเอง จากนั้นลุกเดินไปยังเตียงนอน
ลูกน้อยทั้งสองของนางนอนหลับสนิทอยู่ในมุ้งบนเตียง ไป๋ชิงเหยียนลูบใบหน้าของพวกเขาอย่างแผ่วเบา ขยับผ้าห่มให้เข้าที่ จากนั้นนอนลงข้างกายลูกๆ
ในเมื่อมีบรรดาน้องชายคอยช่วยแบ่งเบาภาระของนางไป๋ชิงเหยียนจึงตัดสินใจปล่อยให้พวกเขาเป็นคนจัดการทุกอย่าง ทว่า ไป๋ชิงเหยียนเห็นแก่ที่ไป๋จิ่นซิ่ว ฉินหล่างและวั่งเกอแยกจากกันนานจึงไม่ได้มอบหมายงานให้น้องสาวคนที่สองของตัวเองมากนัก แค่ให้ไป๋จิ่นซิ่วรับผิดชอบสำนักตรวจสอบเท่านั้น
หลายวันมานี้ไป๋ชิงเหยียนจึงได้พักผ่อนอย่างสบายใจแบบที่แทบไม่เคยมีมาก่อน
ใกล้ถึงวันที่สิบห้า เดือนแปดแล้ว นอกจากไป๋จิ่นถงที่ไม่ได้กลับมา บัดนี้คนตระกูลไป๋ที่มีชีวิตรอดกลับมาจากสงครามหนานเจียงต่างอยู่พร้อมหน้ากันที่เมืองหลวงดังนั้นจึงควรจัดงานในครอบครัวขึ้นสักครั้ง ไป๋ชิงเหยียนรับต่งซื่อกลับเข้ามาในวัง ให้ต่งซื่อจัดเตรียมงานเลี้ยงครอบครัวในวันที่สิบห้า เดือนแปด
แม้วันที่สิบห้า เดือนแปดจะไม่มีงานเลี้ยงฉลองของแคว้น มีเพียงงานเลี้ยงเล็กๆ สำหรับครอบครัว ทว่า ไป๋ชิงเหยียนต้องเชิญคนจากตระกูลบรรพบุรุษไป๋มาด้วย
เมื่อเอ่ยถึงตระกูลบรรพบุรุษไป๋ ไป๋ชิงเหยียนจึงนึกได้ว่าไป๋ชิงผิงป่วยไม่ได้เข้าร่วมประชุมราชสำนักตอนเช้ามาสองวันแล้ว หญิงสาวหันไปกล่าวกับเว่ยจง “เจ้านำของบำรุงไปเยี่ยมไป๋ชิงผิงที่จวนด้วยตัวเองที…พาหมอไปด้วย”
ไป๋ชิงเหยียนพอรู้จักนิสัยของไป๋ชิงผิงอยู่บ้าง หากแค่ป่วยเพียงเล็กน้อยเขาไม่มีทางหยุดงานในราชสำนักแน่นอน แสดงว่าเขาคงป่วยหนักแน่
“ฝ่าบาทไม่ต้องเป็นห่วงพ่ะย่ะค่ะ บ่าวจะไปเดี๋ยวนี้พ่ะย่ะค่ะ” เว่ยจงกล่าว
หนึ่งชั่วยามหลังจากนั้นเว่ยจงกลับมารายงานไป๋ชิงเหยียน ไป๋จิ่นซิ่วนำรายชื่อของคนที่อยู่เบื้องหลังในการสร้างปัญหาให้เสิ่นเทียนจือที่สำนักตรวจสอบสืบได้มามอบให้ไป๋ชิงเหยียนพอดี
“แม้แต่ซื่อหลางของกรมขุนนางยังมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ ดูเหมือนเสิ่นเทียนจือจะได้เลื่อนตำแหน่งเร็วไปจนคนเหล่านี้ไม่พอใจมาก…” สีหน้าของไป๋ชิงเหยียนขรึมลงกว่าเดิม
ต้าโจวไม่ได้เลื่อนตำแหน่งขุนนางจากพื้นฐานของตระกูลหรือความอาวุโสเหมือนต้าจิ้น ผู้ใดมีความสามารถเช่นไรก็จะได้นั่งอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม ขุนนางของกรมขุนนางควรเข้าใจเรื่องนี้ตั้งแต่ก่อนที่ไป๋ชิงเหยียนจะสั่งให้คนติดประกาศคำตอบของต่งถิงเจินแล้ว หากซื่อหลางของกรมขุนนางไม่ได้มีจิตใจคับแคบเกินไปก็แสดงว่าเขาต้องการเป็นปรปักษ์กับจักรพรรดินีแห่งต้าโจวอย่างนาง
“ซื่อหลางของกรมขุนนางมีที่มาที่ไปอย่างไร” ไป๋ชิงเหยียนชี้ไปที่นามของซื่อหลางในรายชื่อ
“พี่หญิงใหญ่ไม่ต้องห่วงเจ้าค่ะ ขอเพียงซื่อหลางผู้นี้มีประวัติไม่บริสุทธิ์แม้เพียงเล็กน้อย จิ่นซิ่วจะสืบหาความผิดของเขาพบภายในสามวันแน่นอนเจ้าค่ะ” ไป๋จิ่นซิ่วกล่าว
ไป๋ชิงเหยียนพยักหน้า “ลำบากเจ้าแล้ว เอาล่ะ ไม่รั้งเจ้าไว้ในวังต่อแล้ว รีบกลับไปหาวั่งเกอเถิด”
เมื่อเอ่ยถึงวั่งเกอรอยยิ้มบนใบหน้าของไป๋จิ่นซิ่วกว้างกว่าเดิม “เจ้าค่ะ พี่หญิงใหญ่อย่าหักโหมเกินไปนะเจ้าคะ”
“ชุนเถานำของเข้ามาได้” ไป๋ชิงเหยียนหันไปกล่าวกับชุนเถายิ้มๆ
ชุนเถารับคำแล้วเดินไปหยิบตะกร้าไม้ไผ่ใบเล็กซึ่งด้านในเต็มไปด้วยของเล่นเด็กมาทันที
“ของเหล่านี้คือของเล่นเด็กที่เด็กต้าเยี่ยนกำลังนิยมเล่น!” ไป๋ชิงเหยียนกล่าวเสียงเบา “เสิ่นเทียนจือเป็นคนให้คนส่งมาให้”
ของเล่นเหล่านี้ล้วนเป็นของที่เซียวหรงเหยี่ยนส่งมาให้เด็กๆ ถงหมัวมัวคัดของเล่นที่สี่เล่อและคังเล่อยังเล่นไม่ได้ออกมาให้เสี่ยวปาและวั่งเกอ
เซียวหรงเหยี่ยนไม่ได้อยู่ข้างกายไป๋ชิงเหยียนจึงรู้สึกผิดมาก เมื่อเห็นสิ่งของใดน่าสนใจจึงส่งมาให้ไป๋ชิงเหยียนและลูกทั้งสอง
“คุณหนูรอง ด้านในยังมีสูตรทำขนมดอกกุ้ยฮวาที่คุณชายน้อยชอบด้วยเจ้าค่ะ เมื่อวานบ่าวได้ยินหลัวหมัวมัวที่มาส่งน้ำแกงให้คุณหนูใหญ่ในวังกล่าวว่าคุณชายน้อยกำลังอยากทาน ทว่า ตอนนี้คุณชายน้อยไม่ได้อยู่ในวังหลวง กว่าบ่าวจะทำเสร็จและให้คนนำออกไปให้คุณชายน้อยก็เกรงว่าขนมจะเย็นชืดเสียก่อน บ่าวจึงเขียนสูตรให้บ่าวที่โรงครัวทำให้คุณชายน้อยทานแทนเจ้าค่ะ” ถงหมัวมัวกล่าว
คุณชายน้อยที่ถงหมัวมัวกล่าวถึงคือวั่งเกอ
“ลำบากหมัวมัวแล้ว” ไป๋จิ่นซิ่วกล่าวขอบคุณ
เมื่อไป๋จิ่นซิ่วจากไปเว่ยจงจึงก้าวเข้าไปรายงานไป๋ชิงเหยียน “ฝ่าบาท ไป๋ชิงผิงไม่ได้ป่วยพ่ะย่ะค่ะ ทว่า เขาอ้างว่าป่วยเพื่อดูแลประมุขไป๋พ่ะย่ะค่ะ”
“ประมุขไป๋เป็นอันใด” ไป๋ชิงเหยียนยกชาขึ้นจิบ นางรู้สึกแปลกใจเล็กน้อยเพราะไป๋ฉีเหอดูแข็งแรงมาโดยตลอด
“ถูก…วางยาพิษพ่ะย่ะค่ะ”
ไป๋ชิงเหยียนเงยหน้ามองเว่ยจง “ถูกวางยาพิษอย่างนั้นหรือ สืบหาสาเหตุพบแล้วหรือไม่”
“บุตรสาวของท่านประมุขไป๋เป็นคนวางยาบิดาตัวเองพ่ะย่ะค่ะ ทว่า ดูเหมือนนางจะไม่รู้ว่านั่นคือยาพิษ นางคิดว่าเป็นเพียงยาที่ทำให้บิดาของนางไม่สามารถมีทายาทได้อีกพ่ะย่ะค่ะ” เว่ยจงกล่าวเสียงเบา
ไป๋ชิงเหยียนตะลึง
“ไป๋ชิงผิงขอเป็นคนจัดการเรื่องนี้ด้วยตัวเอง เขาปิดเรื่องนี้ได้อย่างมิดชิด เขากำจัดบ่าวรับใช้ที่รู้เรื่องนี้หมดทุกคนแล้ว ที่ไป๋ชิงผิงขอลาหยุดสองวันก็เพื่อจัดการเรื่องเหล่านี้พ่ะย่ะค่ะ ทว่า เขาอ้างกับคนภายนอกว่าเขาป่วยหนัก เมื่อบ่าวไปเยี่ยมเขาจึงบอกความจริงกับบ่าวเพราะไม่อยากหลอกลวงฝ่าบาท เรื่องนี้เป็นเรื่องน่าอายในครอบครัว ไป๋ชิงผิงบอกว่าไม่อยากทำให้เป็นเรื่องใหญ่พ่ะย่ะค่ะ”
เว่ยจงยืนเล่าเรื่องทุกอย่างให้ไป๋ชิงเหยียนฟังอย่างละเอียดอยู่ข้างกายหญิงสาว “สาเหตุเป็นเพราะประมุขไป๋กำลังหาภรรยาเอกคนใหม่มาดูแลครอบครัว ประมุขไป๋เป็นประมุขของตระกูลบรรพบุรุษไป๋คนในตระกูลจึงอยากยกบุตรสาวของตัวเองให้แต่งงานกับประมุขไป๋ บุตรสาวของประมุขไป๋กังวลว่าหากภรรยาใหม่ของประมุขไป๋ตั้งท้องจะทำให้ฐานะบุตรสาวของภรรยาเอกของนางสั่นคลอนจึงอยากวางยาให้ประมุขไป๋ไม่สามารถมีบุตรได้อีกก่อนที่ภรรยาใหม่จะแต่งงานเข้ามาในตระกูล ทว่า นางไม่รู้ว่ายาทำหมันคือยาพิษที่ออกฤทธิ์อ่อนพ่ะย่ะค่ะ”
“นางได้ยามาจากฟางซื่อมารดาของนางอย่างนั้นหรือ” ไป๋ชิงเหยียนถาม
เว่ยจงพยักหน้า “ถูกต้องพ่ะย่ะค่ะ…”
“โชคดีที่รู้ตัวทัน ทว่า หลังเกิดเหตุการณ์นี้ร่างกายของประมุขไป๋คงไม่แข็งแรงเหมือนเมื่อก่อนอีกแล้วพ่ะย่ะค่ะ” เว่ยจงบอกคำของหมอหลวงให้ไป๋ชิงเหยียนฟัง
ฟางซื่อเสียสติไปแล้วถึงได้กล้าให้บุตรสาวของนางวางยาพิษบิดาแท้ๆ ของตัวเองเช่นนี้!
ถึงแม้นางจะโกรธเกลียดที่ถูกไป๋ฉีเหอหย่ามากเท่าใดก็ไม่ควรให้บุตรสาวของตัวเองวางยาพิษบิดาแท้ๆ เช่นนี้!