สตรีแกร่งตระกูลไป๋ – ตอนที่ 1427 แก้ไข

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

ตอนที่ 1427 แก้ไข

สิ่งที่พวกทหารเรือจะสืบรู้ก็คือ…เฉิงหย่วนจื้อและแม่ทัพอีกสิบเอ็ดคนที่เหลือไปรวมตัวคุกเข่าอยู่ที่ประตูอู่เต๋อเพื่อบีบให้ไป๋ชิงเหยียนยึดอำนาจทางทหารคืนจากหานเฉิงอ๋อง ทว่า จักรพรรดินีแห่งต้าโจวกลับเชื่อใจในตัวหานเฉิงอ๋อง กระทั่งสั่งทำโทษโบยแม่ทัพทั้งสิบสองคนของต้าโจว

ไช่จื่อหยวนเดินทางมาที่ชายฝั่งทะเลในครั้งนี้เพื่อช่วยไป๋ชิงเหยียนซื้อใจทหารเรือเหล่านี้ด้วยเช่นเดียวกัน

ไป๋ชิงเหยียนรับผิดชอบทำให้หานเฉิงอ๋องจงรักภักดีต่อนาง ส่วนเขามีหน้าที่ช่วยซื้อใจทหารเรือที่เหลือแทนไป๋ชิงเหยียน

ไช่จื่อหยวนไปส่งหานเฉิงอ๋องและแม่ทัพเฉิงหย่วนจื้อขึ้นเรือพร้อมกับแม่ทัพกองทัพเรือคนอื่นๆ เมื่อเรือออกจากฝั่งเขาจึงเดินตามแม่ทัพคนอื่นๆ กลับไป

ระหว่างทางแม่ทัพบางคนเอ่ยถามไช่จื่อหยวนอย่างทนไม่ไหวว่าเฉิงหย่วนจื้อถูกจักรพรรดินีต้าโจวโบยที่ประตูอู่เต๋อเพราะเขากล่าววาจาสามหาวใช่หรือไม่

ไช่จื่อหยวนถอนหายใจยาวออกมา จากนั้นเล่าเรื่องที่พวกเฉิงหย่วนจื้อไปคุกเข่าบีบบังคับให้ไป๋ชิงเหยียนยึดอำนาจทางทหารคืนจากหานเฉิงอ๋อง ทว่า ไป๋ชิงเหยียนกล่าวว่าเชื่อใจหานเฉิงอ๋องไม่เสื่อมคลาย รวมถึงเรื่องที่ไป๋ชิงเหยียนขึ้นครองราชย์เพราะไม่อยากให้โศกนาฏกรรมเกิดขึ้นกับทหารที่เสียสละเพื่อชาวบ้านคนใดในใต้หล้าอีกให้แม่ทัพทหารเรือฟังอีกครั้งอย่างละเอียด

“ที่ฝ่าบาทส่งแม่ทัพทั้งสิบสองคนมาในครั้งนี้และลอบสั่งให้คนนำป้ายทองมามอบให้หานเฉิงอ๋องก็เพราะต้องการให้แม่ทัพทั้งสิบสองสร้างมิตรภาพในฐานะสหายร่วมรบกับหานเฉิงอ๋อง อย่าคิดสงสัยหรือระแวงพวกเดียวกันอีก!” ไช่จื่อหยวนกล่าวเสียงเบา “ฝ่าบาททรงเกิดในตระกูลนักรบ ทรงเข้าใจมิตรภาพของสหายในสนามรบดี ได้แต่หวังว่าพวกแม่ทัพเฉิงจะไม่ทำให้ฝ่าบาททรงผิดหวังอีก! ตอนนี้แคว้นต้าโจวกำลังเดิมพันกับต้าเยี่ยน แคว้นตงอี๋คิดก่อสงครามกับพวกเรา พวกเราต้าโจวควรสามัคคีร่วมแรงร่วมใจกันถึงจะรวบรวมใต้หล้าให้เป็นหนึ่งได้สำเร็จ ถึงจะเห็นความสงบสุขของใต้หล้าอย่างแท้จริง!”

“ไช่เซียนเซิง ไช่เซียนเซิง!” หลู่หยวนเผิงวิ่งแบกสัมภาระมาแต่ไกล “หานเฉิงอ๋องกับแม่ทัพเฉิงไปแล้วหรือขอรับ!”

“แม่ทัพหลู่จะทำสิ่งใด” ไช่จื่อหยวนมองหลู่หยวนเผิงด้วยความประหลาดใจ

หลู่หยวนเผิงขบกรามแน่น “ซือหม่าผิงทำให้ข้าเสียเวลา! ไช่เซียนเซิงบอกว่าการเป็นทหารเรือลำบากให้แม่ทัพเฉิงไปสัมผัสด้วยตัวเองไม่ใช่หรือขอรับ! ข้าก็อยากไปสัมผัสบ้างว่าทหารเรือลำบากกว่าพวกเราอย่างไรขอรับ”

หลู่หยวนเผิงรู้สึกไม่พอใจ ผู้ใดไม่เคยนั่งเรือบ้าง…มันสบายจะตายไป ไม่ได้ต้องลำบากขี่ม้าเดินทางทั้งวันทั้งคืนเหมือนกองทัพไป๋ของพวกเขาเสียหน่อย!

“เจ้าไม่ต้องไปวุ่นวายด้วยหรอก” ไช่จื่อหยวนมองไปที่สัมภาระของหลู่หยวนเผิง “หากแม่ทัพเฉิงไม่มีสิ่งใดทำเมื่อฝึกซ้อมเสร็จก็ควรหาตำรามาอ่านให้มากเหมือนที่ใต้เท้าหลู่เฟิ่งหลางเคยกำชับดีกว่า”

ไช่จื่อหยวนกล่าวจบจึงหันไปทำความเคารพแม่ทัพทหารเรือทุกคน จากนั้นจากไปทันที

“ไช่เซียนเซิง! คำกล่าวของท่านไม่เข้าหูข้าสักนิด…” หลู่หยวนเผิงวิ่งแบกสัมภาระของตัวเองตามหลังไช่จื่อหยวนไป “แม่ทัพเฉิงรู้ตัวอักษรเพียงไม่กี่ตัว เหตุใดเขาจึงสามารถออกทะเลได้ อย่างน้อยข้าก็เป็นถึงคุณชายของตระกูลหลู่ ไม่ได้รู้ตัวอักษรเพียงไม่กี่ตัวเหมือนแม่ทัพเฉิง อย่างน้อยข้าก็แข็งแกร่งกว่าเสี่ยวซื่อ เหตุใดทุกคนจึงเอาแต่บังคับให้ข้าอ่านตำรา ส่วนแม่ทัพเฉิงกลับออกทะเลได้ขอรับ!”

ไช่จื่อหยวนยืนเอามือไขว้หลังมองหลู่หยวนเผิงที่ขวางหน้าเขาอยู่แวบหนึ่ง จากนั้นเดินหนีไปอีกทาง ทว่า หลู่หยวนเผิงยังคงตามไป “ไช่เซียนเซิงกล่าวมาตามตรงเดี๋ยวนี้นะขอรับ หรือท่านต้องการให้ข้ามีเรื่องกับทหารเรือเหล่านั้นก่อนขอรับ!”

เหล่าแม่ทัพทหารเรือยืนรวมกลุ่มกันมองดูหลู่หยวนเผิงที่ตามตอแยไช่จื่อหยวนไม่เลิก ถึงขนาดกล้ากล่าวออกมาว่าต้องการมีเรื่องกับพวกเขาอย่างไม่เกรงกลัวนิ่งอย่างใช้ความคิด

“ข้าคิดว่าแม่ทัพกองทัพไป๋คงไม่ได้ตั้งใจดูถูกพวกเรา พวกแม่ทัพไป๋เก่งการสู้รบก็จริง ทว่า ดูเหมือนสมองจะไม่ค่อยดีสักเท่าใดนัก!”

แม่ทัพทหารเรือคนอื่นพยักหน้าตามอย่างเห็นด้วย

“ดูท่าแล้วคงเป็นอย่างที่เจ้าว่า บรรดาแม่ทัพของกองทัพไป๋คงเป็นเพียงแม่ทัพที่ดุดันเท่านั้น เรื่องสมองคงต้องพึ่งพาไช่จื่อหยวนเซียนเซิงที่ปรึกษาของกองทัพแต่เพียงผู้เดียว”

“น่าจะเป็นเช่นนั้น!”

แคว้นตงอี๋

คนผู้หนึ่งแอบเข้าไปพบหลิ่วหรูซื่อที่โรงเตี๊ยมของทูตต้าโจวในช่วงปลายของยามอิ๋น[1]

โชคดีที่หลิ่วหรูซื่อเคยชินกับการตื่นขึ้นมาอ่านตำราตั้งแต่ช่วงปลายของยามอิ๋นตั้งแต่ตอนเป็นเพียงบัณฑิต เมื่อได้ยินว่าสายลับที่แฝงตัวอยู่ในแคว้นตงอี๋ขอเข้าพบจึงรีบให้คนพาสายลับเข้ามาในห้องทันทีโดยที่ตัวเองยังไม่ทันได้หวีผมให้เรียบร้อยด้วยซ้ำ

เมื่อคนผู้นั้นเข้ามาในห้องหลิ่วหรูซื่อก็ได้กลิ่นคาวเลือดทันที บุรุษชุดดำคุกเข่าลงบนพื้นพลางกำหมัดรายงานด้วยสภาพสะบักสะบอม “ใต้เท้าหลิ่ว องค์ชายสองทราบเรื่องที่ต้าโจวลอบสมคบคิดกับฮองเฮาคิดสนับสนุนองค์ชายเจ็ดขึ้นครองราชย์แล้วขอรับ องค์ชายสองเดือดดาลมาก ตอนนี้วังหลวงเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ ครอบครัวของใต้เท้าของข้าถูกประหารทั้งตระกูล ใต้เท้าสั่งให้ข้าหนีเอาตัวรอดมารายงานเรื่องนี้กับใต้เท้าหลิ่วให้ใต้เท้าหลิ่วรีบหนีกลับต้าโจวขอรับ! องค์ชายสองรับปากต้าเยี่ยนและเทียนเฟิ่งแล้วว่าเมื่อขึ้นครองราชย์จะเปิดศึกกับต้าโจวทันทีขอรับ!”

บุรุษผู้นั้นกล่าวจบจึงล้วงหยิบป้ายคำสั่งแผ่นหนึ่งออกมาจากอก จากนั้นยื่นให้หลิ่วหรูซื่อด้วยมือที่เต็มไปด้วยเลือด “นี่คือป้ายผ่านทาง ใต้เท้าหลิ่วรีบหนีไปให้เร็วที่สุดเถิดขอรับ!”

“ใต้เท้าหลิ่ว!” ฟ่านอวี้กานวิ่งเข้ามาทันทีที่ได้รับรายงาน

สมองของหลิ่วหรูซื่อสับสนขึ้นทันที ไม่นานเขาจึงจับประเด็นสำคัญได้จึงเอ่ยถามขึ้น “จักรพรรดิตงอี๋เป็นเช่นไรบ้าง ทรงสวรรคตแล้วหรือไม่”

“ข้าไม่ทราบขอรับ ใต้เท้าหลิ่วอย่ามัวเสียเวลาอยู่เลยขอรับ รีบหนีไปเถิดขอรับ ใต้เท้าของข้าจะได้ไม่สละชีพอย่างสูญเปล่าขอรับ!” ลูกน้องเงยหน้ามองหลิ่วหรูซื่อด้วยความร้อนใจ “หากช้าไปกว่านี้คนขององค์ชายสองคงมาล้อมที่นี่ไว้หมดแน่ขอรับ!”

หลิ่วหรูซื่อกำป้ายผ่านทางในมือแน่น ไม่แปลกที่องค์ชายสองจะโกรธจนแทบเสียสติเมื่อรู้ว่าต้าโจวคิดลอบสนับสนุนองค์ชายเจ็ดขึ้นครองราชย์ ให้ฮองเฮาคอยเป่าหูจักรพรรดิทุกคืนทั้งๆ ที่ภายนอกต้าโจวกำลังร่วมมือกับองค์ชายใหญ่และเขาอยู่ ตอนนี้ตงอี๋กับต้าโจวคงกลายเป็นศัตรูกันไปแล้ว

โชคดีที่หลิ่วหรูซื่อเตรียมรับมือไว้ล่วงหน้าแล้ว เขาเตรียมเรือสำหรับหนีเมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้นนานแล้ว

หลิ่วหรูซื่อเงยหน้ามองฟ่านอวี้กานที่กำลังเดินผูกเชือกคาดเอวของตัวเองมาหาเขาด้วยสีหน้าร้อนรนและหวาดกลัว “ฟ่านอวี้กาน เจ้าและหลู่เฟิ่งหลางจงรีบพาขุนนางต้าโจวคนอื่นๆ หนีไปจากตงอี๋และนำข่าวไปบอกให้ต้าโจวรู้โดยเร็วที่สุด!”

ฟ่านอวี้กานมองป้ายผ่านทางที่หลิ่วหรูซื่อยื่นให้พลางเบิกตาโพลง “แล้วใต้เท้าเล่าขอรับ!”

หลิ่วหรูซื่อเม้มปากแน่น ไม่กล่าวสิ่งใดออกมาทั้งสิ้น

“ใต้เท้า!” หลู่เฟิ่งหลางรีบวิ่งเข้ามาเช่นเดียวกัน

“ไม่ต้องกล่าวสิ่งใดทั้งสิ้น รีบแต่งกายให้เรียบร้อยและรีบออกเดินทางทันที!” หลิ่วหรูซื่อจ้องหลู่เฟิ่งหลาง “รีบไปแจ้งขุนนางคนอื่นๆ”

“เจ้าค่ะ” หลู่เฟิ่งหลางรับคำ

“แล้วใต้เท้าเล่าขอรับ” ฟ่านอวี้กานดึงแขนของหลิ่วหรูซื่อ

“ข้าคือทูตหลักที่มีหน้าที่รับผิดชอบการเจรจาในครั้งนี้ ข้ายังจากไปไม่ได้ ไม่แน่เรื่องนี้อาจยังพอมีทางแก้ไข” หลิ่วหรูซื่อสะบัดแขนของฟ่านอวี้กานออก “ปกป้องขุนนางคนอื่นๆ ให้ดี รีบไปได้แล้ว!”

“ไม่ได้ขอรับ ใต้เท้าคือคนที่ไม่ควรอยู่ที่ตงอี๋ที่สุด ฝ่าบาททรงให้ความสำคัญกับใต้เท้ามาก หากใต้เท้าอยู่ที่นี่ต่อตงอี๋อาจใช้ใต้เท้าบีบบังคับต้าโจวกับฝ่าบาทได้! เรื่องแค่นี้ใต้เท้าคิดไม่ได้จริงๆ หรือขอรับ!” ฟ่านอวี้กานกล่าวด้วยสีหน้าเคร่งเครียด

[1] ยามอิ๋น เวลาระหว่าง 03.00-05.00 นาฬิกา

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

Status: Ongoing
นิยายจีนโบราณเข้มข้น ปะทะคารม ทดสอบไหวพริบ สนุกถึงใจ!เพราะถูกคนชั่วหลอกใช้ชาติก่อนคนทั้งตระกูลของนางจึงต้องตายอย่างน่าอนาถ ไร้ซึ่งคนทวงถามความเป็นธรรมชาตินี้นางหวนกลับมาก่อนเรื่องราวเกิดขึ้น แม้เพียงเล็กน้อยแต่หากสามารถช่วยเหลือคนในครอบครัวได้แม้สักคนนางก็ยินดีทุ่มเทกำลังให้ถึงที่สุดสตรีตระกูลไปแต่ไรมาแกร่งกล้ำเพียบพร้อมบุ๋นบู๊ แม้ไร้ซึ่งที่พึ่งพิงแล้วจริงแต่ก็จะไม่ยอมให้ผู้ใดมากดขี่ได้!และเพราะเรื่องราวที่เปลี่ยนแปลงไปนางจึงได้พบกับ ‘เขา’ ไวกว่าชาติก่อนเขาผู้นี้แม้ภายนอกดูป็นมิตรและสง่งามกว่าใคร แต่นงแจ่มแจ้งดีว่าเขาเจ้าเล่ห์และอำหิตมากเพียงไหนชาติก่อนแม้ยืนกันคนละฝั่งแต่บุรุษผู้นี้กลับเป็นผู้มอบทางรอดให้แก่นาง อย่างนั้นชาตินี้นางก็ย่อมตอบแทนเขาเป็นอย่างดีเช่นกัน“แม่นางไปช่วยเหลือข้าหลายครั้งหลายครา ใช่ว่าชื่นชอบข้าหรือไม่?”“คุณชายเข้าใจผิดแล้วล่ะ”“ข้าช่วยเหลือแม่นางไปมาหลายครั้งหลายครา แม่นางไปมีใจชื่นชอบข้าบ้างหรือไม่?”“…”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท