ทะลุมิติไปเป็นช่างเสริมสวยยุค 80 – ตอนที่ 454 ระวังจะขาดทุนย่อยยับ

ทะลุมิติไปเป็นช่างเสริมสวยยุค 80

ตอนที่ 454 ระวังจะขาดทุนย่อยยับ

ตอนที่ 454 ระวังจะขาดทุนย่อยยับ

ครั้นหลินเซี่ยที่จ้องจะเอาเรื่องเซี่ยไห่อย่างเต็มที่เห็นว่าหญิงชราและพ่อของเธอเข้ามา เธอก็รู้สึกเหมือนมีคนช่วยสนับสนุนอีกแรง พูดกับพวกเขาว่า “คุณย่า พวกคุณมาได้จังหวะเหมาะพอดีเลย ถามอารองสิคะว่าเขาทำบ้าอะไรลงไป?”

เมื่อคุณแม่เซี่ยเห็นว่าหลานสาวแสดงสีหน้าโกรธเกรี้ยวอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน นางก็จ้องเขม็งคาดคั้นเซี่ยไห่ด้วยสายตาคมกริบราวใบมีด

เซี่ยไห่แตะจมูก แล้วอธิบายว่า “เจ้าของธุรกิจที่เชินเฉิงน่ะ เขามาที่ไห่เฉิงเพื่อตามหาเซี่ยเซี่ย แล้วผมก็ไล่เขากลับไป”

ความจริงที่ว่าอู๋เซิ่งหงมาติดต่อเขาเพื่อขอเงินสนับสนุนการลงทุนตอนพวกเขาอยู่ในเชินเฉิง เซี่ยไห่ได้เล่าให้ครอบครัวของเขาฟังหลังจากกลับมาถึงบ้าน นอกจากนี้เขายังบอกด้วยว่าหลินเซี่ยกับอู๋เซิ่งหงดูสนิทสนมกันแปลก ๆ แถมหลินเซี่ยยังมาชักชวนให้เขาลงทุนอีก

เซี่ยเหลยไม่คาดคิดว่าเถ้าแก่อู๋จะยอมเดินทางมาถึงไห่เฉิง เขาพูดกับเซี่ยไห่ว่า “มีช่องทางติดต่อเขาหรือเปล่า? ถามซิว่าตอนนี้เขาอยู่ที่ไหนแล้ว? ไปพาเขากลับมา”

“พี่ใหญ่ ทำไมต้องไปพาเขากลับมาด้วย?”

แม้ช่วงเวลาหน้าสิ่วหน้าขวานแบบนี้ เซี่ยไห่ก็ยังไม่อยากให้อู๋เซิ่งหงกลับมา ต่อให้หลินเซี่ยอารมณ์เสียจนยกเอาคำบริภาษทุกอย่างมาด่าเขา เขาสู้ยอมทนฟังดีกว่า

ถ้าไปตามตัวอู๋เซิงหงกลับมาจริง อีกฝ่ายต้องสร้างปัญหาให้ทุกคนอย่างไม่รู้จบ

เมืองเชินเฉิงอยู่ในระหว่างการพัฒนาเป็นเมืองท่าขนาดใหญ่ หลายคนสามารถสร้างรายได้ด้วยการไขว่คว้าโอกาส

แต่โอกาสที่ว่าก็ไม่แน่นอนเสมอไป

ยังมีหลายคนที่สูญเงินทั้งหมดไปกับการลงทุนที่ไม่เกิดผล เงินมหาศาลจมหายวับไปกับตา

เขาใช้ชีวิตอยู่ในสังคมแบบนั้นมานานหลายปี มีฉากไหนบ้างที่เขาไม่เคยเห็น?

เขาเองก็เคยล้มเหลวมาก่อน

เพียงแต่ทุกย่างก้าวหลังจากนั้น เขาจะระมัดระวังอย่างยิ่งงวด ด้วยความที่เดินบนชั้นน้ำแข็งบาง ๆ จึงไม่มีโอกาสให้ก้าวพลาดอีก

ทุกวันนี้เขามีทรัพย์สินเป็นกอบเป็นกำ ครอบครัวมีกิจการขนาดย่อมเป็นของตัวเอง และได้อยู่ร่วมกันอย่างสงบสุข ความสุขสบายเหล่านี้กว่าจะได้มาช่างยากเย็น

สนามการลงทุนไม่ใช่สนามเด็กเล่น

พี่ใหญ่อาจจะอยากตามใจลูกสาวของเขา จึงมองข้ามหลักการที่ควรจะเป็นไป

เซี่ยเหลยออกคำสั่ง “โทรเดี๋ยวนี้”

คุณแม่เซี่ยมองหลานสาวที่โกรธหน้าดำหน้าแดง แล้วพูดกับเซี่ยไห่ว่า “ใช่ รีบโทรกลับไปหาเขาเลย ไม่ว่าการลงทุนที่ว่าจะเชื่อถือได้หรือเปล่า แกก็ต้องปล่อยให้เซี่ยเซี่ยคุยกับอีกฝ่ายด้วยตัวเอง ถือดียังไงไปตัดสินใจแทนหล่อน? เขาเดินทางมาจากเมืองไกล อย่างน้อยก็ควรเชิญเขาไปกินอาหาร ธุระจะสำเร็จหรือไม่ พวกเราก็ควรปฏิบัติต่อเขาด้วยความสุภาพ”

เซี่ยเหลยและคุณแม่เซี่ยเป็นเหมือนภูเขาสูงที่พร้อมกดทับ ดังนั้นเซี่ยไห่จึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากหยิบโทรศัพท์ออกมา

เขาโทรหาอู๋เซิ่งหง แต่ไม่มีใครรับสาย

พอไม่มีสัญญาณตอบรับจากปลายสาย หลินเซี่ยก็กำลังจะระเบิดอารมณ์อีก ต้องการเอาเรื่องเซี่ยไห่ถึงที่สุด

คุณแม่เซี่ยจึงต้องเป็นกรรมการห้ามมวย จากนั้นก็ดึงหลินเซี่ยออกไป

คุณแม่เซี่ยดึงแขนเธอออกจากร้าน พยายามปลอบโยนเบา ๆ “เซี่ยเซี่ย อย่ากังวลไปเลย ถ้าติดต่อไม่ได้ยังไง ค่อยให้อารองพาเธอไปที่เชินเฉิงอีกครั้งก็ได้”

“คุณย่า พ่อ ไม่ต้องกังวลเรื่องนี้หรอกค่ะ” หลินเซี่ยหันกลับไปมองเซี่ยไห่ด้วยความโกรธ จากนั้นก็เดินตรงไปที่มอเตอร์ไซค์ ขับไปที่สถานีรถไฟ เพื่อเช็กขบวนรถไฟที่จะเดินทางกลับไปเชินเฉิง

ถังจวิ้นเฟิงบอกว่ารถไฟไปเชินเฉิงจะให้บริการเฉพาะตอนกลางคืนเท่านั้น ไม่ใช่ตอนกลางวัน ดังนั้นแปลว่าอู๋เซิ่งหงน่าจะยังอยู่ในไห่เฉิง

เมื่อหลินเซี่ยกลับมาที่ร้านตัดผม ชุนฟางก็รีบเข้ามาขอโทษเธอยกใหญ่เหมือนเด็กที่พลั้งทำความผิด

หลินเซี่ยโบกมืออย่างอ่อนแรง “ไม่ใช่ความผิดของเธอหรอก อย่ากังวลจนส่งผลกระทบต่องานในร้านเลย”

เมื่อเซี่ยเหลยเห็นว่าลูกสาวของเขากลับมาแล้ว จึงเรียกเธอไปคุยกันที่ร้านอาหาร ขณะนี้ทุกคนต่างช่วยกันคิดหาวิธีแก้ไขสถานการณ์อย่างแข็งขัน

เฉินเจียเหอก็อยู่ที่นั่นด้วย

หลินเซี่ยบอกเขาตั้งแต่เมื่อคืนว่าเถ้าแก่อู๋จะมาถึงไห่เฉิงวันนี้

พวกเขาตกลงว่าจะไปพบกับเถ้าแก่อู๋ด้วยกัน เขาเองก็ได้นัดหมายกับเพื่อนที่เป็นทนายความล่วงหน้า ถ้าการลงทุนในครั้งนี้เชื่อถือได้ เพื่อนของเขาจะเอาเอกสารสัญญาไปตรวจสอบอีกครั้ง

เมื่อเห็นหลินเซี่ยเข้ามาด้วยสีหน้าผิดหวัง ดวงตาของเฉินเจียเหอก็เต็มไปด้วยความทุกข์ รีบเทน้ำหนึ่งแก้วให้เธอจิบ แล้วปลอบเธอเบา ๆ “ไม่ต้องห่วง ผมจะลองโทรหาเถ้าแก่อู๋อีกรอบ ตราบใดที่ยังพอติดต่อเขาได้ เราก็นัดคุยกันใหม่ได้เหมือนกัน”

หลินเซี่ยหยิบแก้วน้ำขึ้นจิบ ปรับอารมณ์ตัวเอง ทรุดตัวลงนั่งบนเก้าอี้ และพูดว่า “เถ้าแก่อู๋คงยังไม่เดินทางกลับในเร็ว ๆ นี้ ฉันแค่รู้สึกสังหรณ์ใจว่าต้องมีบางอย่างผิดปกติ ไม่งั้นเขาคงโทรกลับหาฉันตั้งนานแล้ว”

เฉินเจียเหอกดโทรออกซ้ำแล้วซ้ำเล่าอย่างไม่ละความพยายาม

ในที่สุด…

อีกฝ่ายก็รับสาย

เฉินเจียเหอเปลี่ยนสีหน้าเป็นโล่งใจ กรอกเสียงพูดไปตามสายว่า “สวัสดีครับ ใช่เบอร์เถ้าแก่อู๋หรือเปล่า?”

น้ำเสียงบ่งบอกความงัวเงียเพราะเพิ่งตื่นดังขึ้นจากปลายสายอีกด้าน “ผมเอง ใครเหรอครับ?”

เฉินเจียเหอรีบยื่นโทรศัพท์ให้หลินเซี่ย “เซี่ยเซี่ย คุยกับเขาสิ”

เมื่อหลินเซี่ยเห็นว่าสายมีการเชื่อมต่อ จิตใจอันแสนว้าวุ่นของเธอก็กลับมามีชีวิตชีวาทันที เธอทักทายเขาด้วยเสียงแจ่มใสว่า “เถ้าแก่อู๋ ฉันหลินเซี่ยเองนะคะ ตอนนี้คุณอยู่ที่ไหนแล้ว?”

อู๋เซิ่งหงรีบขอโทษ “เสี่ยวหลิน ผมอยู่ในโรงแรม ขอโทษด้วย ผมเหนื่อยเกินกว่าจะขึ้นรถไฟกลับตอนกลางคืน ก็เลยจองโรงแรมนอนสักคืน”

หลินเซี่ยอารมณ์ดีมากเมื่อได้ยินอย่างนั้น ถามด้วยรอยยิ้ม

“ เถ้าแก่อู๋ คุณพักอยู่ที่โรงแรมไหนในไห่เฉิงเหรอคะ? ฉันจะไปหาคุณเดี๋ยวนี้เลย”

“โรงแรมหงซิงครับ”

“ค่ะ อีกไม่กี่นาทีฉันน่าจะไปถึง”

ทุกคนพลอยโล่งอกพร้อมกันเมื่อได้ยินว่าเถ้าแก่อู๋ยังอยู่ในไห่เฉิง

โดยเฉพาะเซี่ยไห่ที่โล่งใจยิ่งกว่า ดูเหมือนครั้งนี้เขาจะเอาตัวรอดจากภัยพิบัติไปได้

โชคดีที่อู๋เซิ่งหงยังไม่กลับไปทันที ไม่อย่างนั้น วันนี้เขาคงโดนพี่ใหญ่และหลานสาวคนโต ‘เฉดหัว’ เป็นแน่

หลินเซี่ยวางสาย หันไปพูดกับพวกเขาด้วยน้ำเสียงร่าเริง “คุณย่า พ่อคะ เฉินเจียเหอ ฉันขอตัวไปหาเถ้าแก่อู๋ก่อนนะคะ”

คุณแม่เซี่ยบอกว่า “ให้อารองขับรถไปส่งหลานถึงที่สิ ดูเหมือนธุระครั้งนี้จะเป็นเรื่องที่จริงจังมาก”

พูดจบคุณแม่เซี่ยก็ขยิบตาให้เซี่ยไห่ เป็นนัยว่าต้องการให้เขาชดใช้ความผิดโดยเร็ว

หลินเซี่ยส่ายหน้าและปฏิเสธทันควัน “ไม่เป็นไรหรอกค่ะคุณย่า อารองก็มีงานยุ่งเหมือนกัน ฉันจะไปกับเฉินเจียเหอเอง”

เรื่องมาถึงขั้นนี้แล้ว เธอไม่อนุญาตให้เซี่ยไห่ไปเจอหน้าอู๋เซิ่งหงแล้วทำลายโอกาสอันดีงามของเธออีกต่อไป

หลินเซี่ยกลัวว่าเซี่ยไห่จะอุตริขับรถตามพวกเขาไป จึงพูดดักคอเซี่ยไห่ไว้ก่อนว่า “อารอง กลับไปติดตั้งไฟให้เสร็จเถอะ เราไม่อยากได้คนตามไปส่ง”

เธอไม่ให้โอกาสเซี่ยไห่ได้อ้าปากพูด ลากเฉินเจียเหอออกมาจากร้านและตะโกนว่า “พวกเราไปก่อนนะคะ”

สามีภรรยาหนุ่มสาวรีบร้อนขี่มอเตอร์ไซค์ออกไป มุ่งตรงไปยังโรงแรมเป้าหมาย

เซี่ยไห่มองตามมอเตอร์ไซค์ที่ห่างออกไปไกล ถอนหายใจเฮือกใหญ่ แล้วต่อว่าเซี่ยเหลย “พี่ใหญ่ การลงทุนมีความเสี่ยง เป็นธรรมดาที่เราต้องระมัดระวังเรื่องการใช้จ่าย ไม่ง่ายเลยกว่าครอบครัวเราจะใช้ชีวิตอย่างสุขสบายโดยไม่ต้องกังวลเรื่องอาหารและเสื้อผ้า ถ้าพลาดขึ้นมาคงไม่พ้นกลับไปสิ้นเนื้อประดาตัวเหมือนเมื่อก่อน”

เซี่ยเหลยกำลังชั่งใจ แต่คุณแม่เซี่ยพูดขัดขึ้นก่อนว่า “ตอนนี้อย่าเพิ่งคาดเดาอะไรไปเองเลย มารอดูกันดีกว่าว่าเรื่องจะออกมาในทิศทางไหน เถ้าแก่อู๋อุตส่าห์มาที่นี่ด้วยตัวเอง เซี่ยเซี่ยก็เป็นคนฉลาด ไม่มีใครหลอกลวงหล่อนได้ทั้งนั้น ถ้าหล่อนทำเงินได้ขึ้นมาจริง ๆ ล่ะ?”

เซี่ยไห่ถามย้อนเสียงแผ่ว “ถ้าอย่างนั้นหล่อนมีเงินลงทุนหรือไง?”

เซี่ยไห่ไม่แน่ใจว่าผู้หญิงคนนั้นกำลังวางแผนจะทำอะไรกันแน่

เธอเชิญอู๋เซิ่งหงมาที่ไห่เฉิง แต่ไม่มีวี่แววว่าจะชักชวนให้เขาร่วมลงทุนเลย

หรือเธออยากใช้เงินของตัวเองเพื่อลงทุน?

เซี่ยไห่ส่ายหน้าไล่ความคิดทิ้งไป เพราะไม่น่าจะเป็นไปได้

เขารู้ดีว่าตอนนี้เธอมีเงินอยู่ในมือเท่าไหร่ แล้วเธอก็ใช้เงินที่มีลงทุนไปกับการเปิดร้านใหม่หมดแล้ว

เฉินเจียเหอก็ไม่มีเงินมากมายขนาดนั้น

เซี่ยไห่ลูบคางพลางพิจารณาอย่างรอบคอบ ทันใดนั้นก็คิดถึงความเป็นไปได้บางอย่าง

เขามองเซี่ยเหลยและแม่ผู้ชราของเขาอย่างจริงจัง เตือนพวกเขาด้วยสีหน้าเคร่งเครียดว่า “แม่ พี่ใหญ่ ถ้าเซี่ยเซี่ยมาชักชวนให้พวกคุณควักเงินทำศพออกมาลงทุน อย่าลืมชั่งน้ำหนักให้รอบคอบด้วย”

คุณแม่เซี่ยจ้องมองเซี่ยไห่ด้วยสีหน้ามืดมน “ดูพูดจาเข้าซิ เงินทำศพไร้สาระอะไร? พี่ใหญ่ของแกเพิ่งจะอายุเท่าไหร่เอง เรื่องอะไรต้องเก็บออมเงินไว้ทำศพตัวเองด้วย? เขามีลูก พอแก่ตัวลงก็มีคนดูแล ต่อให้ตายก็มีคนจัดงานศพให้ มีแค่พวกที่ไม่ยอมแต่งงานมีลูกเท่านั้นแหละที่ต้องเก็บเงินบั้นปลายเอาไว้ทำศพตัวเอง”

เซี่ยไห่ “!!!”

แม้แต่แม่แท้ ๆ ก็เลือกวางมวยกับลูกตัวเองเหรอ?

คุณแม่เซี่ยโบกมือไล่เขาออกไปด้วยความรังเกียจ “กลับไปทำงานของตัวเองซะ”

เซี่ยไห่กลอกตาขึ้นฟ้า กลับไปที่ห้องเต้นรำเพื่อจัดการกับปัญหาที่ค้างอยู่ ตัดสินใจว่าจะไม่เอาตัวเองไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องของพวกเขาอีกต่อไป หลังจากนี้อยากจะทำอะไรก็เชิญเลย!

………………………………………………………………………………………………………………………..

สารจากผู้แปล

ดีที่เถ้าแก่อู๋ยังไม่กลับ ไม่งั้นชะตาขาดแน่เซี่ยไห่

แม่เซี่ยช็อตลูกชายหนักมาก เป็นเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคหรือเปล่าคะ

ไหหม่า(海馬)

ทะลุมิติไปเป็นช่างเสริมสวยยุค 80

ทะลุมิติไปเป็นช่างเสริมสวยยุค 80

Status: Ongoing
เมื่อสวรรค์ได้ให้โอกาสเธอย้อนกลับมาแก้ขในสิ่งที่ผิดพลาด เธอจะใช้โอกาสนี้เป็นช่างเสริมสวยยอดฝีมือให้ได้ตามฝันอย่างไรกันนะ?เรื่องย่อ : ในชาติก่อน หลินเ เป็นสไตสต์คนโง่ผู้ร้ความคิดป็นของตัวเอง จึงถูกดาราดาวรุ่งผู้เป็นเพื่อนสนิทวางแผนทำลายชีวิตจนพังพินาศ ไร้ซึ่งเครดิต ไร้ซึ่งอำนาจ และหน้ามืดตามัวทิ้งสามีพ่อม่ายลูกติดที่คอยสนับสนุนมาตลอดได้ลงค แต่เหมือนสวรรค์ยังคงเห็นใจต่ชะตาชีวิตอันรันทดของเธอ จึงทำให้เธอได้ย้อนกลับมาเกิดใหม่ในปี 1988 อันเป็นปีที่ทุกอย่างยังไม่สายเกินกว่าแก้ หลินเชี่ยจะใช้โอกาสที่ได้มีชีวิตครั้งที่สองเปลี่ยนแปลงชะตาชีวิตของตัวเองอย่างไรบ้าง?

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท