ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก – ตอนที่ 474 เธอมาตามหาใคร(1)

ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก

ตอนที่ 474 เธอมาตามหาใคร(1)

ตอนที่ 474 เธอมาตามหาใคร(1)

เหมาชุนเถาก็ได้ทราบเรื่องการตั้งครรภ์ของฉินมู่หลานแล้ว ตอนนี้เมื่อได้พบเธอที่หอพัก ก็กล่าวด้วยสีหน้าดีใจ “มู่หลาน พรุ่งนี้ฉันจะทำซุปไก่มาให้เธอดื่ม เธอกำลังท้องลูกแฝด ต้องบำรุงเยอะ ๆ”

ฉินมู่หลานได้ยินแบบนี้ก็รีบโบกมือแล้วบอกกล่าวทันที “ไม่ต้องหรอกชุนเถา เธอเอาไปบำรุงให้จี๋เซียงดีกว่า”

แต่ถึงอย่างนั้นเหมาชุนเถาก็ยังกล่าวพร้อมรอยยิ้ม “วางใจ ฉันก็จะแบ่งไว้ให้จี๋เซียงด้วย”

เมื่อเห็นว่าฉินมู่หลานทำท่าจะปฏิเสธ เหมาชุนเถาก็รีบกล่าวทันที “มู่หลาน ฉันได้รับค่าลิขสิทธิ์อีกแล้วนะ ในที่สุดพวกเราสองแม่ลูกก็มีหวังแล้ว และเธอก็เป็นคนนำพาสิ่งพวกนี้มาให้ เพราะฉะนั้นฉันจะทำซุปไก่ให้เธอชามหนึ่งมันก็สมควรแล้ว เธออย่าได้ปฏิเสธฉันเลย เพราะนอกเหนือจากวิธีนี้ฉันก็ไม่รู้ว่าจะตอบแทนยังไงแล้ว”

เมื่อได้หังแบบนี้ ฉินมู่หลานก็ไม่พูดขัดอะไรอีก

“ได้ ถ้าอย่างนั้นก็ลำบากเธอแล้วล่ะ”

เหมาชุนเถาได้ยินแบบนี้ ก็ยกยิ้มแล้วพยักหน้า ก่อนจะกล่าวขึ้น “อื้ม พรุ่งนี้เช้าตอนมามหาวิทยาลัยฉันจะเอามาให้เธอ” หลังจากพูดจบ เธอก็หันมองคนอื่นในหอพักแล้วกล่าวว่า “พรุ่งนี้ฉันจะเอาเล่าปิ่งที่ทำเองมาฝากนิดหน่อย มีใครอยากกินไหม?”

เฉินเซี่ยวอวิ๋นกับพวกเซี่ยปิงหรุ่ยต่างพยักหน้าอย่างเป็นกันเองแล้วบอกกล่าว “เอาสิ”

เมื่อถึงวันรุ่งขึ้น เหมาชุนเทาก็นำซุปไก่และเล่าปิ่งมา หล่อนมอบซุปไก่ให้แค่ฉินมู่หลานเท่านั้น ส่วนเล่าปิ่งนั้นแจกให้ทุกคนในหอพักคนละสองชิ้น

“ชุนเถา เล่าปิ่งนี้อร่อยมากเลย เธอนี่ฝีมือดีจังเลยนะ”

เฉินเซี่ยวอวิ๋นที่กินเล่าปิ่งผักดองได้แต่รู้สึกว่ายิ่งอร่อยเข้าไปใหญ่ เพราะหล่อนไม่เคยกินเล่าปิ่งผักดองมาก่อนเลย

คนอื่นก็รู้สึกว่าอร่อยเหมือนกัน แม้แต่เซี่ยปิงหรุ่ยและเกาซุนชิวต่างก็อดพูดไม่ได้ “ใช่แล้ว ไม่คิดเลยว่าเล่าปิ่งผักดองจะอร่อยขนาดนี้”

เหมาชุนเถารู้สึกเขินนิดหน่อย

“ต่อไปถ้ามีโอกาส ฉันจะทำเล่าปิ่งเนื้อสับให้” ผักดองพวกนี้หล่อนก็หมักเองด้วยเช่นกันและมีรสชาติค่อนข้างดี หลังจากใส่น้ำมันเพิ่มลงไปนิดหน่อยแล้ว เมื่อนำมาใช้ทำเล่าปิ่งก็ได้รสชาติดีจนน่าแปลกใจ จึงทำเล่าปิ่งผักดองเยอะมาก ตอนนี้เมื่อเห็นว่าเพื่อนร่วมห้องต่างชอบ จึงรู้สึกโล่งใจ

และฉินมู่หลานก็ได้กินเล่าปิ่งหนึ่งชิ้นด้วย จากนันก็ค่อย ๆ ดื่มซุปไก่

“ชุนเถา ซุปไก่อร่อยมาก ลำบากเธอเลย”

เหมาชุนเถาได้ยินแบบนี้ก็รีบส่ายหัวทันที แล้วบอกกล่าว “ไม่ลำบากหรอก ตอนนี้เธอกำลังตั้งท้องคงต้องลำบากมาก เพราะฉะนั้นต่อไปต้องใส่ใจเวลาเดินทางมาเรียนให้มากยิ่งขึ้น”

ฉินมู่หลานพยักหน้าพร้อมรอยยิ้ม แล้วกล่าว “ได้ ต่อไปฉันจะใส่ใจมากขึ้น”

เมื่อถึงเวลาเลิกเรียน ฉินมู่หลานเพิ่งเดินออกจากประตู ก็เห็นฉินเคอวั่งยืนรออยู่ตรงนั้น “พี่ พี่เลิกเรียนแล้วเหรอ”

ฉินมู่หลานเห็นฉินเคอวั่ง ก็อดพูดไม่ได้ “เคอวั่ง นายมาตั้งแต่เมื่อไหร่?”

“ผมก็เพิ่งมา ต่อไปผมจะมารับพี่กลับบ้านทุกวันเลย” พี่สาวกำลังตั้งครรภ์ ต้องใส่ใจให้มากยิ่งขึ้น เขาในฐานะน้องชายก็ต้องคอยช่วยดูแลให้มากขึ้นอยู่แล้ว

ฉินมู่หลานได้ยินแบบนี้ ก็อดไม่ได้ที่จะเอ่ยทั้งรอยยิ้ม “ได้สิ ถ้าอย่างนั้นต่อไปต้องรบกวนเคอวั่งของเราแล้วล่ะนะ”

เซี่ยปิงหรุ่ยออกมาพร้อมฉินมู่หลาน เมื่อเห็นฉินเคอวั่งมารับคนแล้ว หล่อนก็เตรียมตัวที่จะกลับทันที “มู่หลาน ถ้าอย่างนั้นเธอกับเคอวั่งกลับกันดี ๆ นะ ฉันก็จะกลับบ้านแล้วเหมือนกัน”

“ตกลง”

หลังจากฉินมู่หลานและฉินเคอวั่งกลับถึงบ้าน ก็พบว่าเจี่ยงสือเหิงกับเซี่ยปิงชิงมาหา

ฉินมู่หลานเห็นพวกเขามาจึงเอ่ยถามพร้อมรอยยิ้ม “พ่อบุญธรรม ปิงชิง กลับมากันตั้งแต่เมื่อไหร่คะ?”

“พวกเราเพิ่งกลับมาเมื่อวานนี้ แต่กว่าจะถึงบ้านก็มืดแล้ว ก็เลยมาหาพวกลูกวันนี้แทน” เจี่ยงสือเหิงบอกกล่าวพร้อมรอยยิ้ม จากนั้นก็มองไปที่ท้องของฉินมู่หลาน แล้วเอ่ยขึ้น “มู่หลาน ยังไม่ได้แสดงความยินดีกับลูกเลย ที่แท้ลูกก็ท้องลูกแฝดอีกแล้ว แต่ลูกก็คงต้องลำบากอีกครั้ง”

เซี่ยปิงชิงก็แสดงความยินดีพร้อมทั้งรอยยิ้มเหมือนกัน ขณะเดียวกันก็ก้าวเดินไปข้างหน้าด้วยความอยากรู้อยากเห็น ก่อนจะเอ่ย “มู่หลาน เธอน่าทึ่งมากเลย ได้ลูกแฝดอีกแล้ว ดูเหมือนว่ายีนของตระกูลเซี่ยเราจะทรงพลังมาก ก่อนหน้านี้ที่คนอื่นไม่มีลูกแฝดกัน เพราะพวกเขาไม่มีน้ำยา”

ฉินมู่หลานได้ยินแบบนี้ก็อดหัวเราะขึ้นมาเสียไม่ได้ จากนั้นก็หันมองแล้วเอ่ยถามเซี่ยปิงชิง “ปิงชิง แล้วเธอล่ะ พอจะมีข่าวดีบ้างไหม เธออยากให้ฉันลองตรวจชีพจรให้ไหมล่ะ”

เซี่ยปิงชิงนึกไม่ถึงว่าจะวกกลับมาเข้าตัวเอง หลอ่นรีบส่ายหัวทันที “ไม่เอาๆ ฉันรู้ร่างกายตัวเองดี ยังไม่ท้องแน่นอน เธอไม่ต้องตรวจให้ฉันหรอก”

ซูหว่านอี๋เพิ่งเข้ามา เมื่อได้ยินที่เซี่ยปิงชิงพูด ก็อดพูดพร้อมรอยยิ้มเสียไม่ได้ “ปิงชิง ถ้าอย่างนั้นเธอกับสือเหิงต้องทำงานหนักกันหน่อยแล้ว”

เมื่อได้ยินแบบนี้ เซี่ยปิงชิงก็รู้สึกเขินอายเล็กน้อยที่จะกล่าวอะไรต่อ

ก่อนหน้านี้หล่อนไม่เคยคิดมาก่อน ว่าจริง ๆ แล้วตัวเองยังมีความเขินอายอยู่ด้วย

เจี่ยงสือเหิงเห็นสาวน้อยดูเขินอายนิดหน่อย จึงรีบเปลี่ยนเรื่องทันที “จริงสิมู่หลาน อาหลี่ล่ะ เข้าย้ายมาแล้วใช่ไหม กลับบ้านได้ทุกวันหรือเปล่า?”

ฉินมู่หลานได้ยินแบบนี้ก็ส่ายหัวพลางบอกกล่าว “ไม่มีทางกลับได้ทุกวันอยู่แล้วค่ะ ตั้งแต่อาหลี่ไปรายงานตัวที่ฐานทัพใหม่ ก็ยังไม่ได้กลับมาเลย ไม่รู้ว่าเขาจะกลับมาอีกทีเมื่อไหร่”

“ไปรายงานตัวตั้งแต่เมื่อไหร่?”

“ก็หลายวันได้แล้วค่ะ” ฉินมู่หลานลองนับนิ้วก่อนจะกล่าว “ประมาณเจ็ดหรือแปดวันได้แล้ว”

“มาอยู่ที่นี่แล้ว ก็คงกลับมาได้บ่อยกว่าเดิม ลูกก็อย่าเพิ่งใจร้อนเลย”

เมื่อได้ยินคำพูดของเจี่ยงสือเหิง ฉินมู่หลานก็หัวเราะขึ้นทันที “ฉันก็ไม่ได้ใจร้อนนะคะ”

เมื่อเห็นฉินมู่หลานหัวเราะและมีอารมณ์มั่นคงมาก เจี่ยงสือเหิงจึงรู้สึกโล่งใจ

ระหว่างที่ทั้งสองคุยกัน คนอื่นก็ต่างพากันกลับมาแล้ว และอาหารเย็นก็เตรียมพร้อมแล้ว หลังจากเจี่ยงสือเหิงและเซี่ยปิงชิงกินข้าวเสร็จก็กลับไป

ฉินมู่หลานไปกลับมหาวิทยาลัยพร้อมกับฉินเคอวั่งทุกวัน สองพี่น้องเข้าออกบ้านพร้อมกัน หลายคนจึงไม่เป็นกังวลอีกต่อไป และฉินมู่หลานก็นึกถึงสิ่งที่เซี่ยฉางชิงบอกกล่าวก่อนหน้านี้ขึ้นมาได้ จึงรู้สึกว่าควรไปบอกเขาหน่อย เพราะเขาก็เคยบอกเอาไว้แล้ว ไม่ว่าจะมีลูกหนึ่งหรือสองคนก็ให้ไปบอกเขาหน่อย เมื่อถึงช่วงสุดสัปดาห์ ฉินมู่หลานจึงไปบ้านตระกูลเซี่ย

เซี่ยฉางชิงเห็นลูกสาวมาหา สีหน้าก็เต็มไปด้วยความดีใจ

“มู่หลาน ทำไมวันนี้ลูกถึงมาล่ะ รีบเข้ามาเร็ว”

ไม่นานนัก เซี่ยฉางชิงก็นึกถึงจุดประสงค์ที่ลูกสาวมาหาได้ “มู่หลาน ลูกคงจะไปตรวจร่างกายมาแล้ว เป็นลูกคนเดียวหรือสองคนเหรอ?”

เมื่อเห็นสีหน้าของเซี่ยฉางชิงดูอยากรู้อยากเห็น ฉินมู่หลานก็บอกกล่าวพร้อมรอยยิ้ม “สองคนค่ะ”

ถึงแม้ว่าในใจจะพอคาดเดาได้แล้ว แต่เมื่อได้ยินจากปากลูกสาวเอง เซี่ยฉางชิงก็ยังรู้สึกตื่นเต้นอยู่ดี “จริงเหรอเนี่ย ดีจังเลย พ่อว่าแล้วว่าลูกมีโอกาสสูงที่จะได้ฝาแฝด”

โชคดีที่เขาคาดการณ์เอาไว้เรียบร้อยแล้ว จึงจัดการซื้อของทุกอย่างเพิ่มเป็นสองชิ้นเท่ากันหมด

เมื่อฉินมู่หลานมาหา สมาชิกตระกูลเซี่ยหลายคนก็ทยอยเดินมาที่ห้องรับแขกกันหมด หลังจากว่านจี้อวิ๋นพบว่าฉินมู่หลานได้ลูกแฝดอีกครั้ง สายตาก็เต็มไปด้วยความอิจฉา

“มู่หลาน เธอนี่สุดยอดจริง ๆ”

อย่าว่าแต่ว่านจี้อวิ๋นเลย แม้แต่เริ่นม่านนีสีหน้าก็ยังมียิ้มแย้ม นอกจากนี้ยังเอ่ยถามอย่างมีความหวัง “มู่หลาน มียาอะไรที่ช่วยให้ตั้งท้องลูกแฝดได้หรือเปล่า”

ฉินมู่หลานได้ยินแบบนี้ ก็อดหันมองเริ่นม่านนีเสียไม่ได้ ก่อนจะบอกกล่าว “พี่คิดเยอะไปแล้วค่ะ ไม่มียาแบบนั้นหรอก” ถึงแม้จะมีตำรับยามากมาย แต่หลังจากกินแล้วก็ไม่แน่ใจว่าจะได้ลูกกี่คน หากได้เจ็ดหรือแปดคนพร้อมกันขึ้นมา เช่นนั้นแล้วคงไม่ดีต่อทั้งแม่และเด็ก

……………………………………………………………………………………………………………………….

สารจากผู้แปล

อย่าอิจฉาเลย มีลูกแฝดแล้วคลอดยากดูแลยากอยู่เหมือนกันนะ

ไหหม่า(海馬)

ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก

ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก

Status: Ongoing
เมื่อแพทย์สาวมือฉมังพบว่าตนเองได้กลายเป็นหญิงอ้วนผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรในยุค 70 ผู้ไม่เป็นที่รักของสามี เธอจะเปลี่ยนเป็นคนใหม่ที่สามีคลั่งรักได้หรือไม่กันนะ?ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก[嫁七零糙汉后,我双胞胎体质藏不住]ผู้แต่ง : 钰儿เรื่องย่อหลังผชิญวรหนักจนวูบ ฉินมู่หลาน แพทย์สาวมือฉมังก็พบว่าตนองได้มาสวมร่างของหญิงอ้วนหลานสาวผู้เชี่ยวชาญด้นสมุนไพรในยุค 70 ผู้ไม่มีอะไรดีสักอย่างนอกจากได้สามีหล่อเหลานิสัยดีผู้แสนเย็นขาจากความลั่งรักของตัวเองจจับเขามาแต่งงด้วยสำเร็จ ซึ่งกรสวมวิญญาณในครั้งนี้เธอได้รับภารกิจหลักสามอย่าง หนึ่งคือสร้างเนื้อสร้างตัว สองคือลดน้ำหนักให้ตนเองทำงานทำการสะดวกขึ้น และสามคือทำให้สามีเป็นฝ่ายคลั่งรักเธอแทน คุณหมอฉินจะทำสำเร็จหรือไม่ จะเปลี่ยนเป็นฉินมู่หลานคนใหม่ที่สามีคลั่งรักได้หรือไม่กันนะ?

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท