ตอนที่ 1432 อธิบาย
ผู้ใดสามารถรับประกันได้ว่าพวกนั้นจะร่วมแรงร่วมใจเป็นหนึ่งเดียวกับต้าโจว จะยอมรับใช้ต้าโจวอย่างแท้จริง!
ต่อให้ทหารเรือของต้าเหลียงเหล่านั้นจะเต็มใจรับใช้ต้าโจวจริงๆ ทว่า พวกนั้นจะสู้ทหารเรือตงอี๋อย่างพวกเขาได้หรือ
องค์ชายสองเคยพาตู้อวี่หลางไปสนทนาร่วมกับจักรพรรดิเทียนเฟิ่งมาก่อน องค์ชายสองและตู้อวี่หลางล้วนเห็นด้วยกับแนวคิดยุติสงครามด้วยสงครามของจักรพรรดิเทียนเฟิ่งมาก
หากพวกเขาสามารถกำจัดทหารเรือของต้าเหลียงจนหมดสิ้นในครั้งนี้และบุกไปยังแผ่นดินของต้าโจวได้ แคว้นตงอี๋ของพวกเขาต้องแข็งแกร่งกว่าต้าโจวอย่างแน่นอน! ที่สำคัญต้าเยี่ยนรับปากพวกเขาแล้วว่าหากแคว้นตงอี๋ทำสงครามกับต้าโจวขึ้นมาจริงๆ ต้าเยี่ยนจะช่วยสนับสนุนอาวุธและเสบียงอาหารให้ตงอี๋
เมื่อตู้อวี่หลางเห็นเรือของทูตต้าโจวเข้าไปอยู่ในการอารักขาของทหารเรือต้าโจวแล้วเขาจึงยกมือสั่งให้ลูกเรือลดความเร็วเรือลง
หานเฉิงอ๋องสั่งให้ลูกเรือลดความเร็วเรือลงเช่นเดียวกัน
ไม่นานเรือของต้าโจวและตงอี๋จึงเผชิญหน้ากันอยู่กลางทะเล
แสงของดวงอาทิตย์โผล่ขึ้นสู่ขอบฟ้าท่ามกลางเรือใหญ่สองลำที่จอดอยู่กลางทะเล แสงของดวงอาทิตย์ส่องกระทบเรือทั้งสองลำจนเปล่งประกายเป็นสีทอง
หานเฉิงอ๋อง เฉิงหย่วนจื้อและตู้อวี่หลางยืนอยู่ด้านหน้าสุดของเรือใหญ่ทั้งสองลำ
รองแม่ทัพข้างกายตู้อวี่หลางกล่าวขึ้น
“ไปบอกต้าโจวว่าให้ส่งตัวองค์ชายเจ็ดคืนให้พวกเรา ครั้งนี้พวกเราไม่ได้มาเพื่อทำสงคราม พวกเรามาเพื่อนำตัวองค์ชายเจ็ดกลับไปเท่านั้น หากต้าโจวไม่ยอมส่งตัวองค์ชายเจ็ดคืนให้พวกเราก็แสดงว่าต้องการเป็นศัตรูกับพวกเรา!”
ไม่นานทหารถ่ายทอดคำสั่งจึงนั่งเรือเล็กไปถ่ายทอดคำสั่งที่เรือของต้าโจว
เมื่อหานเฉิงอ๋องฟังจบ แม้เขาจะไม่เข้าใจว่าเกิดเรื่องอันใดขึ้นกันแน่ ทว่า เขารู้ดีว่าหลิ่วหรูซื่อไม่ใช่คนโง่ หากหลิ่วหรูซื่อพาองค์ชายเจ็ดกลับมาจริงๆ ก็แสดงว่าเขามีเหตุผลที่ต้องทำเช่นนั้น
“ถุย! องค์ชายเจ็ดของพวกเจ้าหายตัวไปเองแท้ๆ ทว่า พวกเจ้ากลับโทษว่าเป็นความผิดของต้าโจวอย่างนั้นหรือ การใส่ร้ายคนไม่ได้ทำกันได้ง่ายๆ! เช่นนั้นข้าก็สามารถกล่าวได้ว่าพวกเจ้าขโมยเมียของข้าไปให้พวกเจ้ารีบคืนตัวเมียของข้ามานะสิ!”
หานเฉิงอ๋องคิดอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นกล่าวขึ้น
“ให้แคว้นตงอี๋รอสักครู่ ข้าจะส่งคนไปถามทูตของต้าโจวก่อน”
“พ่ะย่ะค่ะ!”
ไม่นานเรือเล็กของทหารเรือต้าโจวจึงแล่นไปสอบถามเรื่องราวที่เรือขุนนางของต้าโจว
ฟ่านอวี้กานตะลึง
“องค์ชายเจ็ดอันใด”
“นั่นเป็นแค่ข้ออ้างที่แคว้นตงอี๋ใช้เพื่อไล่ตามจับพวกเราเท่านั้น!”
ขุนนางต้าโจวคนหนึ่งกล่าวขึ้นด้วยความโมโห
“แคว้นตงอี๋ช่างบังอาจจริงๆ เป็นเพียงแคว้นเล็กยังกล้าคิดต่อกรกับต้าโจวของพวกเราอีก!”
หลู่เฟิ่งหลางก้มหน้าลงอย่างใช้ความคิด ไม่นานจึงฉุกคิดสิ่งใดขึ้นมาได้ นางเงยหน้าขึ้นด้วยใบหน้าที่ซีดเผือด
“พวกเราคงโดนฮองเฮาของตงอี๋หลอกใช้แล้ว!”
“ว่าอย่างใดนะ!”
ฟ่านอวี้กานได้ยินคำของหลู่เฟิ่งหลาง ทว่า เขายังประมวลผลตามไม่ทัน
หลู่เฟิ่งหลางคิดทบทวนเรื่องการกบฏขององค์ชายสองอีกครั้งอย่างรวดเร็ว
นางพอจะเดาได้แล้วว่าฮองเฮาของตงอี๋เตรียมแผนสำรองไว้อีกทาง ฮองเฮาอยากให้โอรสของตัวเองได้ขึ้นครองราชย์ ทว่า อีกใจก็กลัวองค์ชายสองจะจับได้ดังนั้นนางจึงเตรียมแผนการไว้สองแผนหลังจากฟังคำแนะนำจากหลู่เฟิ่งหลาง
ฮองเฮาจะเตรียมช่วยให้องค์ชายเจ็ดได้ขึ้นครองบัลลังก์ ทว่า ขณะเดียวกันก็จะส่งองค์ชายเจ็ดออกไปลี้ภัยไปจากแคว้นตงอี๋ด้วยเพื่อความไม่ประมาทเช่นกัน มิเช่นนั้นหากแผนการของนางล้มเหลวองค์ชายสองต้องเอาชีวิตองค์ชายเจ็ดแน่
หากฮองเฮาทำสำเร็จ นางค่อยรับองค์ชายเจ็ดกลับมาสืบทอดบัลลังก์
หากนางล้มเหลว นางจะให้โอรสของนางหนีเอาตัวรอดไป…
หลู่เฟิ่งหลางคิดได้กระทั่งว่าฮองเฮาต้องให้คนพาองค์ชายเจ็ดหลบหนีไปที่ต้าโจวแน่นอน เหตุผลแรกเป็นเพราะตอนนี้ต้าเยี่ยนและเทียนเฟิ่งต่างสนับสนุนองค์ชายสอง มีเพียงต้าโจวเท่านั้นที่อยากสนับสนุนองค์ชายองค์อื่นขึ้นครองบัลลังก์
ประการต่อมาหากองค์ชายเจ็ดหนีไปที่ต้าโจว หากองค์ชายใหญ่ได้ขึ้นครองราชย์เขาต้องอยู่ร่วมกับต้าโจวอย่างสงบสุขแน่นอน โอรสของนางจะได้ใช้ชีวิตเป็นคนมั่งคั่งอยู่ที่ต้าโจวอย่างมีความสุข
ทว่า หากองค์ชายสองได้ขึ้นครองราชย์และเปิดศึกกับต้าโจว โอรสของนางสามารถยืมกำลังทหารของต้าโจวบุกกลับไปแย่งชิงบัลลังก์คืนจากองค์ชายสองได้
เมื่อนั้นองค์ชายเจ็ดที่มีราชโองการของจักรพรรดิตงอี๋อยู่ในมือจะได้ขึ้นครองราชย์อย่างชอบธรรม
“เราติดกับแล้ว!”
หลู่เฟิ่งหลางจับรั้วเรือแน่นด้วยร่างที่สั่นเทา
สายลับที่ไปรายงานใต้เท้าหลิ่วที่โรงเตี๊ยมอาจโดนฮองเฮาซื้อตัวให้มาหลอกพวกนางหรือไม่ฮองเฮาก็อาจรู้ฐานะของเขาแล้ว จากนั้นหลอกใช้เขาเช่นเดียวกัน!
ฝ่ามือของหลู่เฟิ่งหลางชื้นไปด้วยเหงื่อ นางประมาทศัตรูเกินไปเอง!
ตอนนั้นฝ่าบาทกำชับใต้เท้าหลิ่วแล้วว่าให้สนับสนุนองค์ชายใหญ่ต่อไป นางไม่ควรดึงองค์ชายเจ็ดเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยทั้งๆ ที่ไม่ได้รู้จักนิสัยของฮองเฮาจริงๆ
เดิมทีองค์ชายเจ็ดไม่มีโอกาสแย่งชิงบัลลังก์นั้นด้วยซ้ำ ต่อให้ฮองเฮาอยากให้โอรสขึ้นครองราชย์มากเพียงใดก็ต้องเป็นห่วงชีวิตของโอรสของตัวเองมากกว่าจนไม่กล้าลงมือทำสิ่งใดอยู่ดี
ทว่า นางกลับไปพบฮองเฮาในวังหลวง นางเป็นคนยื่นโอกาสและความกล้าให้ฮองเฮาเอง นางทำให้ทูตของต้าโจวทุกคนติดกับแผนของฮองเฮา
ฮองเฮาของแคว้นตงอี๋ไม่ได้เป็นเพียงสตรีอ่อนแอที่ไม่มีตระกูลฝ่ายมารดาคอยสนับสนุนเท่านั้น ที่นางอยู่อย่างสงบมาหลายปีเป็นเพราะนางกำลังรอคอยโอกาสนี้อยู่ต่างหาก
หลู่เฟิ่งหลางเพิ่งตระหนักรู้ว่าตัวเองทำผิดพลาดอย่างมหันต์เพียงใด ทว่า นางกลับรู้สึกนับถือฮองเฮาของตงอี๋อยู่ลึกๆ ที่ฮองเฮายังสามารถหาทางรอดให้บุตรชายของตัวได้ทั้งๆ ที่ตกอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้
“ข้าจะไปพบแม่ทัพของตงอี๋ผู้นั้น”
หลู่เฟิ่งหลางกล่าวขึ้น
“เหตุใดต้องไปด้วย!”
ฟ่านอวี้กานขมวดคิ้วแน่น
“หากต้องไปก็ควรเป็นข้าที่ไป”
ฟ่านอวี้กานรับปากหลู่หยวนเผิงไว้ว่าจะดูแลปกป้องหลู่เฟิ่งหลางให้ดี
“ข้ารู้ขอบเขตดี!”
หลู่เฟิ่งหลางกล่าวเสียงหนักแน่น นางสั่งให้ฟ่านอวี้กานรีบกลับไปยังต้าโจว จากนั้นนางจึงนั่งเรือลำเล็กมุ่งหน้าไปยังทิศที่เรือใหญ่สองลำจอดเผชิญหน้ากันอยู่
หานเฉิงอ๋องเห็นหลู่เฟิ่งหลางมาด้วยจึงประหลาดใจ
“เหตุใดใต้เท้าหลู่จึงมาที่นี่”
หลู่เฟิ่งหลางทำความเคารพหานเฉิงอ๋องจากนั้นกล่าวขึ้น
“หานเฉิงอ๋อง หากต้องการยุติสงครามครั้งนี้ หม่อมฉันจะเป็นต้องไปพบแม่ทัพตงอี๋ด้วยตัวเองเพคะ”
“เพราะเหตุใด”
หานเฉิงอ๋องไม่ได้ขัดขวางหลู่เฟิ่งหลางอย่างไร้เหตุผล
“พวกเราไม่ได้พาองค์ชายเจ็ดหนีกลับไปยังต้าโจวด้วย ทว่า ตงอี๋กลับคิดเช่นนั้น นี่คือเรื่องเข้าใจผิด หม่อมฉันต้องเป็นคนอธิบายเรื่องเข้าใจผิดนี้ให้แม่ทัพตงอี๋ฟังด้วยตัวเองเพคะ”
หลู่เฟิ่งหลางกล่าว
“พวกเราจะปล่อยให้ขุนนางอ่อนแออย่างเจ้าไปอธิบายกับทหารแคว้นศัตรูคนเดียวได้อย่างใด อย่างมากก็แค่ทำสงครามเท่านั้น!”
เฉิงหย่วนจื้อกล่าว
เฉิงหย่วนจื้อไม่ได้ต้องการปกป้องหลู่เฟิ่งหลางเพียงเพราะนางเป็นสตรี ทว่า เขาคิดว่าทหารอย่างพวกเขาไม่ควรหลบอยู่หลังขุนนางฝ่ายบัณฑิตเช่นนี้
ผมของหลู่เฟิ่งหลางถูกลมพัดจนยุ่งเหยิง นางกล่าวขึ้น
“ตอนนี้หากไม่ทำสงครามได้คือเรื่องดีที่สุด ชาวประมงผู้บริสุทธิ์ยังอยู่ด้านหลังเรือของพวกเรา จำนวนเรือของพวกเราน้อยกว่าเรือของฝ่ายนั้นมาก พวกเราต้องยอมรับว่าพวกเรากำลังเป็นตกเป็นรองศัตรูเจ้าค่ะ!”