ทะลุมิติไปเป็นช่างเสริมสวยยุค 80 – ตอนที่ 499 ยังสบายดี แค่จะพิสูจน์ให้ดูทีหลัง

ทะลุมิติไปเป็นช่างเสริมสวยยุค 80

ตอนที่ 499 ยังสบายดี แค่จะพิสูจน์ให้ดูทีหลัง

ตอนที่ 499 ยังสบายดี แค่จะพิสูจน์ให้ดูทีหลัง

ชายอายุสามสิบอย่างเย่ไป่ เมื่อต้องเผชิญกับสถานการณ์แบบนี้ เขาก็ทั้งความกังวลใจและกลัวจะสูญเสีย

แต่ไม่นาน เขาก็โผเข้ากอดหล่อนอย่างตรงตรงมา

เซี่ยอวี่ตกใจกับพฤติกรรมของเขามาก จึงผลักพร้อมพูดว่า “ทำอะไรของคุณเนี่ย?”

“ไม่อยากให้ผมเอาเปรียบตอนที่คุณเป็นแบบนี้แล้วเหรอ?”

“ตอนนี้คุณมีสติอยู่ไหม”

ทันใดนั้นเขาก็พลิกตัวหล่อน แล้วบรรเลงจูบริมฝีปากหล่อนทันที

ในตอนแรกเซี่ยอวี่ขัดขืนอยู่บ้าง แต่ความต่างด้านพละกำลังระหว่างทั้งสองนั้น ทำให้หล่อนไม่สามารถผลักเขาออกไปได้เลย สุดท้ายจึงหยุดดิ้นรนและกอดเขาอย่างแนบแน่น ปล่อยให้เขาทำตามอำเภอใจ

ขณะทั้งสองกำลังสับสน และเกือบจะถลำลึกไปมากกว่านี้

เย่ไป๋ตัดสินใจเบรกกะทันหันโดยไม่ให้สัญญาณ

“พักผ่อนกันเถอะ” เขาจับหล่อนที่กำลังจะถูกลอกคราบให้เปลือยเปล่า จูบหน้าผากเบา ๆ และกล่อมให้หล่อนนอน

เซี่ยอวี่ “…”

ด้วยฤทธิ์ของยาที่ยังหลงเหลืออยู่ในร่าง เมื่อถูกเขากระตุ้นก็เกิดอารมณ์ร่วมอย่างง่ายดาย และทำให้หล่อนรู้สึกร้อนรุ่มขึ้นมาอีกครั้ง แต่ด้วยเหตุผลบางอย่าง เขากลับถอยห่างออกไปในช่วงเวลาเข้าด้ายเข้าเข็มแบบนี้

จิตสำนึกของหล่อนพร่ามัวทันที เมื่อเห็นเขาขยับห่างออกไป หล่อนจึงเตะเขาอย่างแรง “คุณป่วยรึไงเนี่ย?”

“ผมไม่ได้ป่วย ผมสบายดี แค่จะพิสูจน์ให้ดูทีหลังต่างหาก”

เขาลูบหลังหล่อนเบา ๆ “พักผ่อนให้เต็มที่เถอะ พรุ่งนี้ยังมีอีกหลายเรื่องที่เราต้องทำ”

“นอนไปเลยไป”

เขาพยายามกล่อมให้เซี่ยอวี่สงบอารมณ์ลง ไม่ช้าเปลือกตาของหล่อนก็เริ่มปรือ และผล็อยหลับไปในที่สุด

หล่อนผล็อยหลับไปในอ้อมแขนของเขา ต่างจากเขาที่ยังไม่รู้สึกง่วงเลย และไม่กล้าที่จะข่มตาหลับตอนนี้

เมื่อมาต่างถิ่นและเพิ่งประสบกับอันตราย เขาต้องตื่นตัวและปกป้องหล่อนอยู่ตลอดเวลา

อย่างไรก็ตาม นี่กลับเป็นเรื่องที่เลวร้ายยิ่งกว่า

เพราะผู้หญิงที่เขารัก กำลังนอนเปลือยเปล่าอยู่ในอ้อมแขนเขานี่สิ

ตอนนี้เขารู้สึกร้อนรุ่มไปทั้งตัวแล้ว ทั้งยังหายใจหอบแรงอีก

เขาคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่นาน แต่ใครมันจะไปทนได้กับการมีหยกอุ่นอยู่ในอ้อมแขนตัวเอง

ดูเหมือนหล่อนเองก็นอนหลับไม่ค่อยสนิท เอาแต่เคลื่อนตัวไปมาอยู่ในอ้อมแขนของเขา

เย่ไป๋รู้สึกว่าเขาเกือบจะไม่สามารถควบคุมตัวเองได้หลายครั้ง จนคิดจะเอาเปรียบหล่อนให้รู้แล้วรู้รอด

แต่เหตุผลบางอย่างกลับบอกเขาว่าต้องเป็นสุภาพบุรุษเข้าไว้ และพวกเขาเองควรตกลงใจกันเรื่องนี้ในคืนแสนสุข ไม่ใช่หลังจากเจอฝันร้ายแบบนี้

ถ้าเวลานี้มีอะไรเกินเลยเกิดขึ้นจริง ๆ พอตื่นเช้าวันรุ่งนี้ บางทีทั้งคู่อาจจะรู้สึกแย่ต่อกันก็ได้

เขาหลับตาลง หายใจเข้าลึก พยายามตั้งสมาธิให้มั่นคง

สุดท้าย… มันก็ล้มเหลว

สงบสติอารมณ์ไม่ได้เลยโว้ย!

เขาลุกขึ้นยืนอย่างเบาที่สุด แล้วไปซักเสื้อผ้าของหล่อน

หลังจากอาบน้ำเสร็จ เขากลับมานอนอยู่ข้างหล่อนเหมือนเดิม

ด้วยพลังใจอันแรงกล้า ในที่สุดเขาก็ฝืนอดทนอดกลั้นมาถึงรุ่งสางของวันถัดมา

ทันทีที่ท้องฟ้านอกหน้าต่างปรากฏแสงสว่าง เขาก็ปล่อยหล่อนที่ฝังตัวอยู่ในอ้อมกอดอย่างเบามือ ลุกขึ้นแล้วไปเข้าห้องน้ำ

เมื่อออกมาจากห้องน้ำได้ไม่นาน ก็ได้ยินเสียงเคาะประตู

เมื่อไปส่องที่ตาแมว ก็พบว่าเป็นลินดาที่ยืนอยู่หน้าประตู

หล่อนยังคงแต่งกายด้วยชุดสีดำเหมือนเคย แต่สีหน้ากลับดูเหมือนคนอดนอน เมื่อหล่อนเห็นเย่ไป๋ หล่อนก็ขอโทษขอโพยอย่างรู้สึกผิดมาก ๆ “ฉันขอโทษนะคะหมอเย่ ฉันปกป้องหล่อนได้ไม่ดีเอง”

“อย่าเพิ่งพูดเรื่องนี้เลย” เย่ไป๋พูดกับหล่อนต่อ “เดี๋ยวคุณช่วยไปซื้อเสื้อผ้าให้เซี่ยอวี่ก่อนเถอะ เมื่อคืนผมซักเสื้อผ้าหล่อนแล้วตากไว้ในห้องน้ำ น่าจะยังไม่แห้งดี”

ลินดาเหลือบมองผ่านประตูเข้าไปด้วยสีหน้าสงสัย และถามว่า “หล่อนยังหลับอยู่เหรอคะ?”

เย่ไป๋ตอบ “อืม ยังไม่ตื่นตอนนี้หรอก”

การแสดงออกของลินดาแฝงความหมายบางอย่าง แต่หล่อนก็ไม่กล้าแสดงมันออกมาชัดเจนเกินไป ทำแค่พยักหน้าตอบเท่านั้น

“ค่ะ ฉันจะออกไปก่อนแล้วกัน”

หล่อนต้องไปทำในสิ่งที่เขามอบหมาย รู้สึกโชคดีมากที่เย่ไป๋มาช่วยเหลือได้ทันเวลาเมื่อคืนนี้ ไม่อย่างนั้นหล่อนไม่กล้าคิดถึงผลที่ตามมานั้นเลย

ลินดาหันหลังกลับและออกไปซื้อเสื้อผ้า ส่วนเย่ไป๋ปิดประตูแล้วกลับเข้ามาในห้อง

เสียงของพวกเขาปลุกเซี่ยอวี่ให้ตื่นขึ้น เมื่อเซี่ยอวี่ลืมตาขึ้น ขณะยืดตัว ผ้าห่มที่คลุมตัวอยู่ก็หลุดออก ทำให้รู้สึกหนาวเล็กน้อย

เมื่อมองลงไปใต้ผ้าห่ม หล่อนก็เห็นว่าผ้าเช็ดตัวที่ห่อตัวเองไว้ถกไปกองอยู่ใต้เท้า ซึ่งตอนนี้หล่อนกำลังเปลือยเปล่า จึงรีบพันตัวเองในผ้าห่มอย่างเขินอาย

หลังจากลูบหัวที่รู้สึกปวด ๆ มึน ๆ เล็กน้อย ฉากที่เถ้าแก่หวังพยายามกดหล่อนลงบนเตียงและพยายามใช้ประโยชน์จากหล่อนที่มึนเมาเพราะฤทธิ์ยาก็แจ่มชัดอยู่ในใจไม่หาย

เมื่อเห็นเย่ไป๋เดินเข้ามา อาการไม่สบายเนื้อสบายตัวก็หายไปเล็กน้อย

อย่างไรก็ตาม ฉากนี้ก็น่าอายและสับสนพอ ๆ กัน

เขากอดเราที่เปลือยเปล่าและหลับจนถึงเช้าเลยเหรอ…

นอนด้วยกันแบบนี้จนเช้า แต่ไม่มีอะไรเกิดขึ้นเนี่ยนะ?

เซี่ยอวี่ก้มหน้าลงโดยไม่รู้ตัว และมองลงไปใต้ผ้าห่มอีกครั้ง

พบว่าไม่มีร่องรอยของการเกิดเรื่องอย่างว่าแม้แต่น้อย

ยกเว้นริมฝีปากที่บวมแดงเพราะถูกจูบ

หล่อนรู้สึกซับซ้อนมากเมื่อนึกไปว่าหล่อนยั่วยวนเขาเมื่อคืนนี้ แต่เขากลับพาหล่อนเข้ามาในห้องน้ำโดยปราศจากตัณหา และช่วยสาดน้ำให้หล่อนเพื่อคลายความร้อนรุ่มในร่างกาย

หล่อนรู้สึกเขินอายเมื่อมองเขา สะบัดผมแล้วถามด้วยน้ำเสียงที่แสร้งทำเป็นเฉยเมย

“คือว่า… เสื้อผ้าของฉันอยู่ไหน?”

“มันยังไม่แห้งเลย” เย่ไป๋ตอบกลับ

หล่อนแสดงท่าทีแปลก ๆ “ไม่มีเหลือสักชิ้นเลยเหรอ?”

“เมื่อคืนมันเปียกไปทั้งชุดนี่ ก็เลยซักแล้วตากไว้ ยังไงก็ไม่แห้งทันวันนี้หรอก”

หลังจากได้ยินคำพูดของเขา เซี่ยอวี่ก็มองดูตัวเองใต้ผ้าห่มอีกครั้ง

ถ้ายังไม่มีเสื้อผ้าใส่ แปลว่าต้องนอนรอจนกว่าเสื้อจะแห้งเลยเหรอ?

แล้วลินดาอยู่ที่ไหน?

กระเป๋าเดินทางของฉันล่ะ?

หล่อนไม่สนใจที่จะคิดถึงเรื่องนี้ต่อไป แต่ตัดสินใจพูดอย่างเชื่องช้าขึ้นว่า

“อย่างนั้นคุณออกไปก่อนนะ ฉันขอใช้ห้องน้ำสักพัก”

เย่ไป๋ยืนนิ่ง “ตามสบายเลย”

เซี่ยอวี่เริ่มมีสีหน้าแดงก่ำ และพูดด้วยความโกรธว่า “ฉันไม่ได้ใส่เสื้อผ้านะ จะให้ออกจากผ้าห่มเดินโชว์ให้คุณดูเหรอ?”

“ใช่ว่าผมไม่เคยเห็นมาก่อนนี่”

หลังจากพูดจบ โทรศัพท์ก็ดังขึ้น เขาซึ่งกำลังยุ่งเรื่องที่คุยกันอยู่รีบกดรับโทรศัพท์เพื่อคุยกับครอบครัว

“แม่ ผมอยู่กับเสี่ยวอวี่ วันนี้คงไม่ได้กลับบ้าน”

“ไม่ต้องเป็นห่วงนะครับแม่ เราแค่มาเดตกันเฉย ๆ”

เซี่ยอวี่สามารถจินตนาการได้ว่าครอบครัวของเย่ไป๋จะคิดอย่างไร ถ้าพวกเขารู้ว่าเย่ไป๋อยู่กับหล่อนทั้งคืน

ความจริงแล้ว หล่อนเองก็คงจะคิดแบบนั้นเหมือนกัน แต่คนที่อยู่ตรงหน้าช่างเป็นคนดีราวกับพระถังซัมจั๋ง

หล่อนรู้สึกขอบคุณที่ไม่ได้รับอันตรายร้ายแรงใด ๆ แต่พฤติกรรมของเย่ไป๋ ทำให้หล่อนสงสัยในเสน่ห์ของตัวเองไม่น้อย

จนถึงกับถามตัวเองว่า เขาเป็นแฟนของหล่อนจริงหรือเปล่า?

หรือเขาแค่แสร้งทำตัวเป็นสุภาพบุรุษ?

เซี่ยอวี่รู้สึกโกรธเล็กน้อยเมื่อคิดถึงเรื่องนี้

หล่อนทนไม่ไหวแล้ว แต่ไม่กล้าส่งเสียงขึ้นมาอีก ทำเพียงคว้าผ้าเช็ดตัวจากใต้ผ้าห่มมาพันรอบตัว ลุกขึ้นจากเตียงแล้วเดินไปทางเขา

ขณะเย่ไป๋รับโทรศัพท์ สายตาของเขาไม่เคยละสายตาไปจากหล่อนเลย เฝ้าติดตามหล่อนจนกระทั่งเข้าห้องน้ำไป

หลังจากเข้าห้องน้ำมาแล้ว หล่อนก็เห็นว่าเสื้อผ้าทั้งหมดของตัวเองถูกซักตากไว้ตามจุดต่าง ๆ จริง

กางเกงยังไม่แห้งดี เสื้อบาง ๆ เริ่มแห้งแล้ว ส่วนชุดชั้นในมีความชื้นเล็กน้อย

หล่อนมองเสื้อผ้าตัวเอง จากนั้นดูผ้าเช็ดตัวที่ยับยู่ยี่ซึ่งพันรอบตัวไว้อย่างหลวม ๆ และจะหลุดออกเมื่อไรก็ได้

หัวใจหล่อนเต้นแรงมาก ขณะเอื้อมมือไปหยิบกางเกงชั้นในออกมา ถึงจะยังชื้นอยู่ แต่ใส่ไว้ก็น่าจะดีกว่า

การจอดรถตากแดดเวลากลางวันแสก ๆ เป็นเรื่องที่ไม่ควรอยู่แล้ว

ผ้าเช็ดตัวผืนนี้คุณภาพแย่มาก แทบจะเรียกได้ว่าเศษผ้า ใช้คลุมตัวต่อไปก็ดูท่าไม่ดีจริง ๆ

หล่อนไม่สนใจอะไรแล้ว ตัดสินใจหยิบกางเกงในที่ยังชื้นอยู่ออกมาสวมใส่

ปกติคนเราสามารถอบอุ่นร่างกายตัวเองได้ทันทีเมื่อรู้สึกหนาว

แม้หล่อนจะสวมใส่เสื้อผ้าบางชิ้นไปแล้ว แต่ก็ยังไม่กล้าออกไปข้างนอกอยู่ดี

กางเกงชั้นในแทบจะปิดบังบั้นท้ายหล่อนไม่ได้ด้วยซ้ำ

หล่อนกำลังครุ่นคิดอย่างหนักว่าจะใส่กางเกงเปียก ๆ ทับไปเลยดีหรือเปล่า

ตอนถ่ายทำมักมีฉากที่ต้องลงน้ำ การใส่ชุดเปียกถือเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับหล่อน โดยเฉพาะเวลาที่ต้องเข้าฉากโชว์พลังยุทธ์ เพื่อให้การต่อสู้ดูสมจริง หล่อนทุ่มเทถึงขั้นลุยน้ำโคลน ต่อสู้และเกลือกกลิ้งไปมา ดังนั้นการสวมเสื้อผ้าแบบนี้จึงไม่ใช่สิ่งที่หล่อนไม่คุ้นเคย

อย่างไรก็ตาม การสวมเสื้อผ้าที่เปียกระหว่างการถ่ายทำมักจะทำให้ท้องอืดและปวดเนื้อปวดตัว ยิ่งมีวันนั้นของเดือนก็ยิ่งเลวร้ายไปกันใหญ่

ถึงจะคุ้นเคยแต่ก็เป็นปัญหาอยู่ดี

เพราะตอนนี้หล่อนไม่ได้ทำอะไรเกี่ยวกับการถ่ายทำเลย และไม่ได้อยู่ในกองถ่ายด้วย จึงไม่จำเป็นต้องทรมานตัวเองแบบนี้ และแสวงหาความเจ็บป่วยให้กับตัวเองโดยเสียเปล่า

เย่ไป๋รออยู่ข้างนอกไม่ไหวจึงเคาะประตูอีกครั้ง “เมื่อไหร่คุณจะออกมา?”

“คุณจะทำไมกับฉันล่ะ?” เซี่ยอวี่ถามด้วยความหงุดหงิด

เย่ไป๋ตอบกลับ “เพราะผมเองก็อยากใช้ห้องน้ำเหมือนกันน่ะสิ”

“ทนอีกเดี๋ยวนะ”

ริมฝีปากของเซี่ยอวี่โค้งขึ้นเล็กน้อย กลัวว่าเขาจะผลักประตูเข้ามาจึงล็อกประตูทันที

คนตัวเหม็น มาดูกันว่าเขาจะต้านทานเสน่ห์ของหล่อนได้ถึงไหน

………………………………………………………………………………………………………………………….

สารจากผู้แปล

คุณอาก็ แฟนไม่ล่วงเกินก็ดีแล้วไม่ใช่เหรอ ถือว่าเขาเป็นคนดีพอที่จะแต่งงานด้วยไง

ไหหม่า(海馬)

ทะลุมิติไปเป็นช่างเสริมสวยยุค 80

ทะลุมิติไปเป็นช่างเสริมสวยยุค 80

Status: Ongoing
เมื่อสวรรค์ได้ให้โอกาสเธอย้อนกลับมาแก้ขในสิ่งที่ผิดพลาด เธอจะใช้โอกาสนี้เป็นช่างเสริมสวยยอดฝีมือให้ได้ตามฝันอย่างไรกันนะ?เรื่องย่อ : ในชาติก่อน หลินเ เป็นสไตสต์คนโง่ผู้ร้ความคิดป็นของตัวเอง จึงถูกดาราดาวรุ่งผู้เป็นเพื่อนสนิทวางแผนทำลายชีวิตจนพังพินาศ ไร้ซึ่งเครดิต ไร้ซึ่งอำนาจ และหน้ามืดตามัวทิ้งสามีพ่อม่ายลูกติดที่คอยสนับสนุนมาตลอดได้ลงค แต่เหมือนสวรรค์ยังคงเห็นใจต่ชะตาชีวิตอันรันทดของเธอ จึงทำให้เธอได้ย้อนกลับมาเกิดใหม่ในปี 1988 อันเป็นปีที่ทุกอย่างยังไม่สายเกินกว่าแก้ หลินเชี่ยจะใช้โอกาสที่ได้มีชีวิตครั้งที่สองเปลี่ยนแปลงชะตาชีวิตของตัวเองอย่างไรบ้าง?

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท