ทะลุมิติไปเป็นช่างเสริมสวยยุค 80 – ตอนที่ 502 ถึงจะชื่อว่าเสี่ยวไป๋ แต่ผมก็ไม่ใช่เด็กหนุ่มที่อ่อนต่อโลก

ทะลุมิติไปเป็นช่างเสริมสวยยุค 80

ตอนที่ 502 ถึงจะชื่อว่าเสี่ยวไป๋ แต่ผมก็ไม่ใช่เด็กหนุ่มที่อ่อนต่อโลก

ตอนที่ 502 ถึงจะชื่อว่าเสี่ยวไป๋ แต่ผมก็ไม่ใช่เด็กหนุ่มที่อ่อนต่อโลก

จางเหว่ยมองเซี่ยอวี่และลินดาก่อนพูดด้วยน้ำเสียงจริงจังอย่างมาก

“คุณเซี่ยอวี่ ได้โปรดอยู่ในสัญญาเถอะครับ ผมขอแค่คุณอย่ายกเลิกสัญญากับบริษัทของเราก็พอ เพราะทางบริษัทของเราชอบคุณในฐานะพรีเซนเตอร์สินค้ามาก ๆ ครับ”

จางเหว่ยบอกว่าตนเคยพูดคุยเรื่องนี้แล้ว และเซี่ยอวี่ก็ไม่ขัดข้อง

ลินดาได้โทรหาทนายในเมืองไห่เฉิงแล้วในตอนเช้าเพื่อขอให้เขามาจัดการเรื่องทั้งหมด

แม้ว่าเย่ไป๋จะใช้แจกันฟาดศีรษะของน้องภรรยาเถ้าแก่จาง แต่ชายคนนั้นไม่ได้รับบาดเจ็บสาหัส นอกเหนือจากนี้สถานการณ์ต่าง ๆ ก็บรรเทาลงแล้ว และเถ้าแก่จางก็บังคับให้น้องภรรยาลงนามในหนังสือสัญญา แถมยังไม่ได้บีบบังคับให้เย่ไป๋รับผิดชอบ เขาจึงพยายามโน้มน้าวเซี่ยอวี่โดยใช้ความโปรดปรานเพื่อที่หล่อนจะได้ไม่ตัดสินใจอย่างหุนหันพลันแล่น

ลินดายังคงอยู่ที่บริษัทเพื่อพูดคุยเรื่องสัญญากับบริษัทของจางเหว่ย ขณะเดียวกันเซี่ยอวี่ก็พูดกับเย่ไป๋ว่า “งั้นเรากลับไห่เฉิงกันก่อนเถอะค่ะ”

หล่อนรู้ว่าเย่ไป๋ต้องทำงานกะกลางคืน ดังนั้นจึงต้องรีบกลับไปที่เมืองไห่เฉิงในตอนบ่าย

จางเหว่ยกระตือรือร้นอย่างมากที่จะจัดเตรียมรถยนต์ให้เซี่ยอวี่เพื่อพาเธอกลับเมืองไห่เฉิง แต่เย่ไป๋ปฏิเสธ

สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อคืนนี้ แม้เถ้าแก่จางจะเป็นผู้จ้างงานของเซี่ยอวี่ แต่ก็เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยส่วนบุคคลของพวกหล่อน ดังนั้นจึงไม่สามารถประมาทเลินเล่อและปล่อยให้เซี่ยอวี่คลาดสายตาได้

“ให้ผมพาคุณไปขึ้นรถบัสเถอะครับ” เย่ไป๋ถามความคิดเห็นจากเซี่ยอวี่

หลังจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อคืนนี้ เซี่ยอวี่เชื่อใจและพึ่งพาแฟนหนุ่มของหล่อนอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเขายืนอยู่ตรงหน้าเพื่อปกป้องหล่อน หัวใจของหล่อนก็เต็มไปด้วยความรู้สึกปลอดภัย

“ถ้าอย่างนั้นก็ตามใจคุณแล้วกันค่ะ”

เย่ไป๋ยื่นมือออกไปพร้อมเลิกคิ้วเพื่อส่งสัญญาณให้หล่อน

เซี่ยอวี่ประสานมือกับเขาแน่นก่อนเอนตัวพิงเขาเหมือนกับนกน้อยที่เกาะอยู่บนไหล่

เย่ไป๋ใช้มือข้างหนึ่งจับมือของหล่อนขณะที่อีกข้างถือกระเป๋าเดินทางไปด้วย จากนั้นทั้งสองก็มุ่งหน้าไปยังสถานีขนส่ง

เนื่องจากเซี่ยอวี่เป็นบุคคลมีชื่อเสียง หล่อนจึงไม่เคยนั่งรถบัสประจำทางเลย

ขณะอยู่ที่ฮ่องกง หล่อนมีรถยนต์ส่วนตัว และบริษัทมักจะจัดหารถยนต์มารับส่งทุกครั้ง ดังนั้นช่วงสองปีที่ผ่านมา หล่อนจึงไม่ได้เดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะคนเดียวบ่อย ๆ

หล่อนมองดูรถบัสที่จอดเรียงรายอยู่ในสถานีขนส่ง ขณะที่ผู้โดยสารขึ้นลงรสบัสอย่างเร่งรีบเหมือนกับที่หล่อนต้องดิ้นรนหาเลี้ยงชีพเมื่อหลายปีก่อน

เซี่ยอวี่สวมหมวกปีกกว้างและแว่นกันแดด ขณะเดียวกันเย่ไป๋ที่จับมือหล่อนแน่นสังเกตเห็นว่าเซี่ยอวี่ยืนนิ่งและมองไปข้างหน้า เขาพลันคิดในใจว่าหล่อนจะต้องกังวลเกี่ยวกับการเดินทางอย่างแน่นอน

เย่ไป๋กระซิบ “รสบัสจะพาคุณไปถึงไห่เฉิงได้ภายในสองชั่วโมง ถ้าคุณสวมหมวกไว้ตลอดก็จะไม่มีใครจำคุณได้แน่นอน”

“ถ้ามีคนจำได้ก็ไม่เป็นไรหรอกค่ะ” เซี่ยอวี่คลี่ยิ้ม “ฉันอยากกลับบ้านจนรอไม่ไหวแล้ว”

เย่ไป๋รู้สึกโล่งอกเมื่อได้ยินน้ำเสียงร่าเริงของหล่อน

เมื่อพวกเขาก้าวขึ้นรถบัส ที่นั่งก็เกือบเต็มแล้ว ทำให้ทั้งสองคนต้องนั่งเบาะข้างหลังสุด

พนักงานขายตั๋วถือกระเป๋าใบเล็กและขายตั๋วไปตลอดทางเดินตั้งแต่ข้างหน้าจนถึงข้างหลัง

เย่ไป๋หยิบเงินออกมาเพื่อซื้อตั๋วรสบัส เขาเหลือบมองผู้หญิงที่นั่งอยู่ข้าง ๆ ด้วยสายตาอ่อนโยนและความสุขที่ล้นปรี่

ตอนนี้เซี่ยอวี่รู้สึกง่วงนอนเล็กน้อย หล่อนจึงเอนศีรษะพิงไหล่ของเย่ไปแล้วผล็อยหลับไป

เย่ไป๋เหลือบมองเซี่ยอวี่ที่นั่งอยู่ด้านข้าง เขาอดใจไม่ได้ที่จะหยิกปลายจมูกของหล่อนเบา ๆ “คุณง่วงหรอ?”

เซี่ยอวี่อ้าปากหาวก่อนตอบว่า “ฉันนอนไม่หลับน่ะ”

“อย่างงั้นคุณนอนก่อนเถอะ ถ้าถึงแล้วผมจะเรียกคุณเอง”

เย่ไป๋ปรับท่านั่งของตนเองเพื่อที่หล่อนจะได้นอนพิงไหล่ของเขาในท่าที่สบาย

“เสี่ยวไป๋” เซี่ยอวี่เรียกเขาด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าว

หัวใจของเย่ไป๋พลันเต้นแรงเพื่อได้ยินหล่อนเรียกด้วยน้ำเสียงอย่างนั้น

พูดได้ว่าเขาตกใจอย่างมาก เพราะก่อนหน้านี้หล่อนจะพูดคุยกับเขาโดยใช้น้ำเสียงไร้เดียงสาเหมือนกับตอนที่พูดคุยกับครอบครัวมาตลอด

เขาตอบคำเบา “หืม? มีอะไรเหรอ?”

เซี่ยอวี่ลูบไหล่ของเขาแล้วพูดว่า “คุณใจดีจังเลย”

มุมปากของเย่ไป๋ยกขึ้นเล็กน้อยหลังจากได้ยินคำพูดของเซี่ยอวี่ ก่อนลูบผมของหล่อนแล้วตอบว่า “ในอนาคตผมจะทำดีกับคุณมากกว่านี้แน่นอน”

เซี่ยอวี่กอดแขนพลางเอนศีรษะพิงไหล่ของเขาก่อนเคลิ้มหลับไปอย่างรวดเร็ว

ความจริงแล้วเมื่อคืนนี้เย่ไป๋นอนไม่หลับเช่นกัน แต่ตอนนี้เขากลับรู้สึกไม่ง่วงเลยในทุกครั้งที่อยู่กับหล่อน เขารู้สึกหวงแหนช่วงเวลาเหล่านี้เป็นที่สุด

แม้ตอนนี้หล่อนจะกลายเป็นแฟนของเขาแล้ว แต่ทั้งสองคนก็ยุ่งมากจนยังไม่มีเวลาไปออกเดทและใช้เวลาร่วมกันอย่างเป็นทางการ

รถบัสมุ่งหน้าเข้าสู่สถานีไห่เฉิงและบังเอิญขับผ่านสถานีรถไฟ การใช้งานรถบัสสาธารณะง่ายดายอย่างมาก สามารถลงจากรถเมื่อไรก็ได้เพียงแค่บอกคนขับ

เมื่อใกล้ถึงสถานีรถไฟ เย่ไป๋ก็ปลุกเซี่ยอวี่อย่างอ่อนโยน

เซี่ยอวี่เดินตามเขาลงจากรถด้วยความงุนงง และเมื่อเงยหน้าขึ้น หล่อนก็พบว่าตอนนี้ตนเองอยู่ที่สถานีรถไฟ

หล่อนมองเขาด้วยความสับสนพร้อมถาม “เรามาทำอะไรที่นี่เหรอคะ?”

“ผมจอดมอเตอร์ไซค์ไว้ที่สถานีรถไฟน่ะ พวกเราจะขี่มอเตอร์ไซค์กลับกัน”

หลังจากได้ยินเขาอธิบาย เซี่ยอวี่ก็รู้ได้ทันทีว่าเมื่อคืนนี้เขาขี่มอเตอร์ไซค์มาที่สถานีรถไฟนั่นเอง

เขามองหญิงสาวที่อยู่ข้าง ๆ พร้อมถามว่า “จากนี้ไปคุณสามารถซ้อนมอเตอร์ไซค์ของผมได้คนเดียวเท่านั้น คุณจะรังเกียจไหม?”

เซี่ยอวี่ตอบตามความจริง “ถ้าเป็นฤดูร้อน ฉันยินดีมาก แต่การขี่มอเตอร์ไซค์ในฤดูหนาว มันจะหนาวมากเลยนะ อากาศที่ไห่เฉิงทั้งเย็นและแห้ง ถ้าต้องขี่มอเตอร์ไซค์ตลอดเวลา ฉันกลัวว่าผิวของฉันต้องพังและลอกแน่นอน”

เย่ไป๋หรี่ตาลงเล็กน้อยพร้อมถอนหายใจ “แล้วเราควรทำยังไงดี? แฟนของคุณจนซะด้วยสิ”

“คุณขับรถยนต์ได้ไหม? ฉันจะซื้อรถให้คุณเองถ้าคุณขับได้” เซี่ยอวี่มีใจกว้างมาก หล่อนวางแผนที่จะใช้เงินจำนวนไม่น้อยซื้อรถยนต์ให้แฟนหนุ่มของเธอ

เมื่อได้ยินอย่างนั้น เย่ไป๋ก็ชะงักเล็กน้อย ก่อนหันมองหล่อนด้วยสีหน้าจริงจัง “ถึงผมจะชื่อเสี่ยวไป๋ แต่ผมก็ไม่ใช่เด็กไร้เดียงสาที่ไม่สามารถดูแลคุณได้”

เซี่ยอวี่หัวเราะ “คุณนี่มั่นใจในตัวเองสุด ๆ เลยนะ”

ทั้งสองคนเดินพูดคุยกันตลอดทางไปสถานีตำรวจ

เย่ไป๋จอดรถมอเตอร์ไซค์ไว้ตรงประตูทางเข้าสถานีตำรวจ

ขณะเดินผ่านสถานีตำรวจ เขาก็บังเอิญพบกับถังจวิ้นเฟิง

“หมอเย่ คุณเซี่ยอวี่”

ถังจวิ้นเฟิงมองดูทั้งสองคนประสานมือกันอย่างแนบแน่นแล้วหัวเราะเบา “เมื่อคืนนี้หมอเย่ไปหาคุณเซี่ยสินะครับ ไม่แปลกใจเลยที่เขาจะกังวลขนาดนั้น”

เย่ไป๋จับมือเซี่ยอวี่แน่นแล้วตอบอย่างเฉยเมย “นายไม่ต้องตกใจหรอก ฉันแค่ไปรับแฟนฉันกลับ”

“คุณเซี่ยอวี่ ผมได้ยินมาว่าคุณเพิ่งไปถ่ายโฆษณา มันเป็นโฆษณาเกี่ยวกับอะไรเหรอครับ? พวกเราจะได้เห็นมันในทีวีไหม?” ถังจวิ้นเฟิงถามด้วยความสงสัย

เซี่ยอวี่ตอบ “มันเป็นโฆษณาแชมพูค่ะ ฉันได้ยินมาว่าพวกเขากำลังเจรจากับสถานีโทรทัศน์อยู่”

“จริงเหรอครับ? ถ้างั้นผมก็จะได้เห็นคุณในทีวีทุกวันน่ะสิ”

“แล้วเมื่อไหร่คุณจะถ่ายละครต่อเหรอครับ? ผมไม่ได้เห็นผลงานคุณมานานแล้ว ผมดูหนังและละครเก่า ๆ ของคุณจนหมดแล้ว ผมตั้งตารอละครเรื่องใหม่ของคุณมากเลยครับ” ถังจวิ้นเฟิงคือแฟนคลับตัวยงที่รอคอยผลงานใหม่ ๆ ของเซี่ยอวี่

เซี่ยอวี่ตอบด้วยรอยยิ้ม “พวกเรากำลังคุยเรื่องบทกันอยู่ค่ะ ถ้าทุกอย่างเป็นไปด้วยดี พวกเขาก็อาจจะเปิดกล้องภายในสองเดือนนี้”

ขณะเดียวกันเย่ไป๋จ้องมองถังจวิ้นเฟิง อดไม่ได้ที่จะนึกถึงวันที่เซี่ยอวี่ขอให้เขาแกล้งเป็นแฟนของหล่อน ในตอนนั้นเขาลังเลอยู่พักใหญ่เพราะมันกะทันหันเกินไป แต่เซี่ยอวี่กลับพูดว่า… ถ้าเขาปฏิเสธ หล่อนจะไปขอให้ถังจวิ้นเฟิงช่วย

เมื่อนึกถึงเรื่องนี้ เขาก็ยังคงมีความกลัวอยู่บ้าง

ตั้งแต่ครั้งแรกที่ถังจวิ้นเฟิงพบกับเซี่ยอวี่ครั้งแรก เขาก็แสดงท่าทีเหมือนกับตัวเองเป็นหนุ่มน้อยไร้เดียงสา

โชคดีที่เขาตอบตกลงโดยไม่ลังเล

เขาไม่อยากจะคิดเลยว่าจะเกิดอะไรขึ้นถ้าวันนั้นตนเองลังเลอีกแค่สองวินาที!

บางทีตอนนี้เซี่ยอวี่อาจยืนจับมือกับไอ้หนุ่มตำรวจที่ยืนอยู่ตรงข้ามเขาก็ได้!

จู่ ๆ เย่ไป๋ก็รู้สึกหึงหวงอย่างไม่มีเหตุผล เขาจึงพูดกับถังจวิ้นเฟิงว่า “เจ้าหน้าที่ถัง ฉันมาที่นี่เพื่อเอารถมอเตอร์ไซค์ นายย้ายมอเตอร์ไซค์ของฉันไปไว้ที่ไหนเหรอ?”

พวกเขาต้องรีบกลับแล้ว

“เมื่อคืนนี้ฉันกลัวฝนตกเลยย้ายมอเตอร์ไซค์ไปไว้ในโรงรถด้านหลังน่ะ เดี๋ยวจะไปเอามาให้นะ”

ถังจวิ้นเฟิงเดินกลับไปขี่มอเตอร์ไซค์มาให้เย่ไป๋ ขณะที่เขาและเซี่ยอวี่ยืนรออยู่ข้างนอก

ทันใดนั้นรถซานทาน่าที่คุ้นตามากก็ขับผ่านไป

เซี่ยอวี่ประหลาดใจเล็กน้อยเมื่อเห็นรถของเซี่ยไห่

หล่อนคิดว่าเซี่ยไห่และคนอื่น ๆ กลับมาถึงกันก่อนแล้วเสียอีก

รถคันนั้นหยุดลงก่อนที่เฉินเจียเหอจะลงมาจากที่นั่งคนขับ

เฉินเจียเหอรู้สึกประหลาดใจมากเช่นกันที่เห็นเย่ไป๋และเซี่ยอวี่ยืนจับมือกันอยู่หน้าสถานีตำรวจ

เขาถามว่า “คุณอา เหล่าเย่ มาทำอะไรที่นี่?”

คุณย่าบอกว่าเซี่ยอวี่ไปที่เมืองปินเฉิงเพื่อถ่ายโฆษณาไม่ใช่เหรอ?

เย่ไป๋รีบอธิบาย “เราเพิ่งกลับมาจากปินเฉิงน่ะ ฉันเลยมาเอามอเตอร์ไซค์ที่จอดทิ้งไว้”

เย่ไป๋ตอบขณะจับมือเซี่ยอวี่ไม่ยอมปล่อยถึงจะเจอคนรู้จักก็ตาม

แม้จะอยู่บนถนนที่ผู้คนพลุกพล่าน แต่ทั้งสองยังคงแสดงความรักอย่างไม่เขินอาย

ดวงตาของเฉินเจียเหอจ้องมองไปยังมือที่ประสานกันอย่างแนบแน่นของทั้งสองคน จากนั้นเลื่อนสายตาขึ้นมองหมอเย่ด้วยความรู้สึกแปลกประหลาด

เซี่ยอวี่ไม่รู้สึกอึดอัดเลยแม้แต่น้อยเมื่อถูกถังจวิ้นเฟิงจ้องมอง แต่กลับรู้สึกกระดากอายเล็กน้อยจนอยากจะถอนมือออกเมื่อถูกเฉินเจียเหอผู้เป็นสามีของหลานสาวจ้องมอง ทว่าเย่ไป๋จับมือหล่อนไว้แน่นไม่ยอมปล่อย

“เจียเหอ นายมาทำอะไรที่สถานีรถไฟ? เซี่ยเซี่ยกับครอบครัวกลับมาแล้วเหรอ?”

……………………………………………………………………………………………………………………..

สารจากผู้แปล

เห้อ มีแฟนเด็กมันดีแบบนี้นี่เองน้า

ไหหม่า(海馬)

ทะลุมิติไปเป็นช่างเสริมสวยยุค 80

ทะลุมิติไปเป็นช่างเสริมสวยยุค 80

Status: Ongoing
เมื่อสวรรค์ได้ให้โอกาสเธอย้อนกลับมาแก้ขในสิ่งที่ผิดพลาด เธอจะใช้โอกาสนี้เป็นช่างเสริมสวยยอดฝีมือให้ได้ตามฝันอย่างไรกันนะ?เรื่องย่อ : ในชาติก่อน หลินเ เป็นสไตสต์คนโง่ผู้ร้ความคิดป็นของตัวเอง จึงถูกดาราดาวรุ่งผู้เป็นเพื่อนสนิทวางแผนทำลายชีวิตจนพังพินาศ ไร้ซึ่งเครดิต ไร้ซึ่งอำนาจ และหน้ามืดตามัวทิ้งสามีพ่อม่ายลูกติดที่คอยสนับสนุนมาตลอดได้ลงค แต่เหมือนสวรรค์ยังคงเห็นใจต่ชะตาชีวิตอันรันทดของเธอ จึงทำให้เธอได้ย้อนกลับมาเกิดใหม่ในปี 1988 อันเป็นปีที่ทุกอย่างยังไม่สายเกินกว่าแก้ หลินเชี่ยจะใช้โอกาสที่ได้มีชีวิตครั้งที่สองเปลี่ยนแปลงชะตาชีวิตของตัวเองอย่างไรบ้าง?

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท