ตอนที่ 1433 เสียเปรียบ
เมื่อหานเฉิงอ๋องได้ยินหลู่เฟิ่งหลางกล่าวจบจึงพยักหน้า “ตกลง เช่นนั้นลำบากใต้เท้าหลู่แล้ว ข้าจะส่งทหารยอดฝีมือไปกับใต้เท้าหลู่สองคน”
หลู่เฟิ่งหลางทำความเคารพหานเฉิงอ๋อง จากนั้นนั่งเรือเล็กตรงไปยังเรือของตงอี๋พร้อมทหารเรือองครักษ์สองนาย
ไม่นานตู้อวี่หลางก็เห็นเรือเล็กของขุนนางต้าโจวหลู่เฟิ่งหลางที่เดินทางไปยังตงอี๋แล่นตามเรือเล็กของทหารที่เขาส่งไปเจรจากับต้าโจวกลับมาด้วย
ตู้อวี่หลางได้ยินว่าขุนนางสตรีผู้นั้นคือหลานสาวของไท่เว่ยของแคว้นต้าโจว
หลู่เฟิ่งหลางขึ้นไปบนเรือของตงอี๋ท่ามกลางการคุ้มครองของทหารเรือองครักษ์สองนาย
หลู่เฟิ่งหลางทำความเคารพตู้อวี่หลาง จากนั้นกล่าวขึ้น “ได้ยินว่าแม่ทัพไล่ตามเรือของต้าโจวมาเพราะคิดว่าองค์ชายเจ็ดอยู่บนเรือของพวกเราหรือเจ้าคะ”
“ใต้เท้าหลู่ถามทั้งที่รู้อยู่แล้วอย่างนั้นหรือ” ท่าทีของตู้อวี่หลางไม่เป็นมิตรนัก
หลู่เฟิ่งหลางพยายามควบคุมสติ นางแสร้งยิ้มออกมาราวกับไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้น “ดูเหมือนว่าพวกเราทุกคนจะถูกฮองเฮาของแคว้นตงอี๋ปั่นหัวเข้าให้แล้ว ข้าเพิ่งเข้าใจเรื่องทุกอย่างตอนที่แม่ทัพส่งคนไปขอตัวองค์ชายเจ็ดจากพวกข้า! ฮองเฮาแห่งตงอี๋ต้องการสนับสนุนให้โอรสแท้ๆ ของตัวเองได้ขึ้นครองราชย์ดังนั้นจึงบอกกับข้าตอนที่ข้านำของล้ำค่าไปถวายนางในวังว่าหากต้าโจวยินดีช่วยเหลือนางเมื่อถึงคราวจำเป็น นางจะตอบแทนบุญคุณของต้าโจวแน่นอน แคว้นต้าโจวของพวกเราไม่สนใจการเมืองของแคว้นตงอี๋ พวกเราแค่อยากอยู่อย่างสงบกับตงอี๋ในตอนที่พวกเรากำลังเดิมพันกับแคว้นต้าเยี่ยนอยู่เท่านั้น ขุนนางฟ่านอวี้กานของแคว้นข้าคงทูลองค์ชายสองแล้วเช่นเดียวกัน”
เมื่อเห็นแม่ทัพตู้อวี่หลางของตงอี๋ครุ่นคิดตามหลู่เฟิ่งหลางจึงรู้ทันทีว่าแม่ทัพคนนี้คือคนสนิทขององค์ชายสอง เขาคงรู้เรื่องที่ต้าโจวคิดร่วมมือกับฮองเฮาแล้ว
หลู่เฟิ่งหลางจึงกล่าวต่ออย่างมั่นใจกว่าเดิม “สองสามวันก่อนฮองเฮาส่งคนมาบอกใต้เท้าหลิ่วของพวกข้าที่โรงเตี๊ยมว่าองค์ชายสองบุกวังหลวงแล้ว ที่สำคัญองค์ชายสองเชื่อคำยุของต้าเยี่ยนและเทียนเฟิ่งให้สังหารขุนนางของต้าโจวและเปิดศึกกับต้าโจว ใต้เท้าหลิ่วเป็นห่วงพวกข้าจึงให้พวกข้าหลบหนีมาก่อน ส่วนเขาอยู่ที่แคว้นตงอี๋ต่อ คนขององค์ชายสองคงพบใต้เท้าหลิ่วที่โรงเตี๊ยมของขุนนางต้าโจวแล้ว”
“ความจริงฮองเฮาให้คนพาองค์ชายเจ็ดหนีไปนานแล้ว จากนั้นส่งคนมาบอกพวกเราว่าองค์ชายสองก่อกบฏและข่มขู่ว่าองค์ชายสองจะสังหารขุนนางของต้าโจวทิ้ง! นางทำไปทั้งหมดเพราะต้องการหลอกให้ขุนนางต้าโจวหนีไปจากแคว้นตงอี๋เพื่อล่อให้ทหารเรือขององค์ชายสองไล่ตามพวกเรามา องค์ชายเจ็ดจะได้มีเวลาหนีมากขึ้น!” หลู่เฟิ่งหลางกล่าวอย่างไม่รีบร้อนด้วยภาษาตงอี๋ที่ไม่ค่อยถนัดนัก “ท่านลองคำนวณเวลาดู หากต้าโจวต้องการสนับสนุนองค์ชายเจ็ดขึ้นครองราชย์จริง หากพวกเราเพิ่งพาองค์ชายเจ็ดหนีมาหลังจากรู้ว่าฮองเฮาทำไม่สำเร็จ ทหารเรือของพวกท่านคงไล่ตามพวกเราทันไปนานแล้ว คงไม่เสียเวลาอยู่หลายวันเช่นนี้หรอก!”
ตู้อวี่หลางเงยหน้ามองหลู่เฟิ่งหลางที่มีสีหน้าหนักแน่นนิ่ง จากนั้นเม้มปากเล็กน้อย
“ท่านแม่ทัพลองคิดดูว่าหากไม่ได้รับการช่วยเหลือจากฮองเฮาพวกเราจะหนีออกมาได้อย่างรวดเร็วเช่นนี้ได้อย่างไรกัน ฮองเฮาผู้นั้นร้ายกาจกว่าที่ข้าคิดไว้มาก นางเริ่มวางแผนเรื่องนี้ตั้งแต่ที่ข้าไปพบนางในวังหลวง อีกทั้งวางกับดักให้ต้าโจวไว้เสร็จสรรพแล้ว!” หลู่เฟิ่งหลางแสยะยิ้มเย็นออกมา จากนั้นหันไปมองทหารเรือของแคว้นตัวเอง “หากวันนี้ทหารเรือของแคว้นตงอี๋เปิดศึกกับต้าโจวที่มีกำลังทหารน้อยกว่าอย่างเห็นได้ชัดเท่ากับว่าแคว้นตงอี๋ประกาศเป็นศัตรูกับต้าโจวอย่างโจ่งแจ้ง กองทัพต้าโจวที่อยู่บนแผ่นดินใหญ่จะยอมทนหรือเจ้าคะ ต่อให้พวกเรายอมทนไปจนกว่าการเดิมพันระหว่างต้าโจวกับต้าเยี่ยนจะสิ้นสุดลง วันหน้าพวกเราก็ต้องแก้แค้นตงอี๋อยู่ดี!”
เมื่อหลู่เฟิ่งหลางเห็นว่าตู้อวี่หลางเริ่มลังเลกับคำกล่าวของตนนางจึงกล่าวต่อ “หากวันนี้พวกเราตกลงกันอย่างสงบได้ ตอนนี้ใต้เท้าหลิ่วของต้าโจวยังอยู่ในแคว้นของพวกท่าน วันหน้าสองแคว้นสามารถเปิดตลาดการค้าเสรีร่วมกันได้! หากพวกท่านสงสัยว่าต้าโจวพาองค์ชายเจ็ดของแคว้นตงอี๋หนีมา พวกเราจะยอมให้พวกท่านขึ้นไปค้นบนเรือของทูตต้าโจวดูว่ามีร่องรอยขององค์ชายเจ็ดอยู่บ้างหรือไม่!”
หลู่เฟิ่งหลางอธิบายและใช้ผลประโยชน์หลอกล่อได้ดีมากจนตู้อวี่หลางเริ่มเชื่อในคำกล่าวของนาง หากเป็นแม่ทัพของแคว้นอื่นอาจหวั่นไหวไปกับคำกล่าวของหลู่เฟิ่งหลางแล้ว ทว่า ตู้อวี่หลางได้รับคำสั่งตรงมาจากองค์ชายสอง หากเขาพาตัวองค์ชายเจ็ดกลับไปไม่ได้…โทษของเขาคือตายสถานเดียว!
องค์ชายสองไม่ใช่คนมีเมตตา ไม่ใช่คนที่จะรับฟังคำอธิบายของผู้อื่น หากเขานำศีรษะขององค์ชายเจ็ดกลับไปให้องค์ชายสองไม่ได้ หัวของเขาต้องหลุดออกจากบ่าแทนแน่นอน เขารู้จักนิสัยเจ้านายของเขาคนนี้ดี
ตอนนี้เขามีเพียงสองทางเลือกเท่านั้น ทางแรกคือเสี่ยงหันเรือกลับไปเพื่อรักษาความสงบสุขกับต้าโจว
ทางที่สองคือเปิดศึกกับต้าโจวทันทีโดยไม่สนว่าองค์ชายเจ็ดจะอยู่บนเรือนั้นหรือไม่ จากนั้นกลับไปรายงานองค์ชายสองว่าต้าโจวไม่ยอมมอบตัวองค์ชายเจ็ดให้พวกเขา พวกเขาจึงเปิดศึกกับต้าโจวตามคำสั่งขององค์ชายสอง ซึ่งเขาก็อยากทำสงครามกับต้าโจวอยู่พอดีเช่นเดียวกัน!
ตู้อวี่หลางก้มหน้าครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง เขาคิดว่าชีวิตของตัวเองไม่สำคัญ ทว่า เขาไม่ควรทำให้ภรรยาและบุตรชายของเขาต้องเดือดร้อนไปด้วยเพราะความเมตตาเพียงชั่ววูบของเขา เขาจ้องหน้าหลู่เฟิ่งหลางนิ่ง จากนั้นตะโกนเสียงดังลั่น “จับนางไปขัง! ถ่ายทอดคำสั่งให้หันเรือกลับ !พลธนูเตรียมพร้อม!”
หลู่เฟิ่งหลางเบิกตาโพลง นางคิดไม่ถึงเลยว่าเมื่อคำนวณส่วนได้ส่วนเสียแล้วตู้อวี่หลางจะยังตัดสินใจเช่นนี้
หานเฉิงอ๋องเห็นธงคำสั่งของเรือฝ่ายศัตรูกำลังโบกออกคำสั่งจึงชาวาบไปทั้งร่าง เขาหันไปตะโกนสั่งอย่างรวดเร็ว “หันเรือกลับ! พลธนูเตรียมพร้อม รีบถ่ายทอดคำสั่งให้เรือประมงรีบหนีไปเร็ว!”
แสงอรุณโผล่พ้นขอบฟ้า
แสงสีทองส่องสว่างไปทั่วมหาสมุทรอันกว้างใหญ่ เรือใหญ่ฝั่งทิศใต้และทิศเหนือที่กำลังเผชิญหน้ากันอยู่หันเรือกลับด้วยความรวดเร็วจนคลื่นโหมกระหน่ำ เสียงแตรศึกดังขึ้นไม่หยุดหย่อน ทหารเรือวิ่งไปมาบนเรือเพื่อเตรียมความพร้อมอย่างขวักไขว่ พลทหารธนูยืนเรียงแถวรัดร่างของตัวเองไว้กับเรืออย่างแน่นหนา จากนั้นเล็งธนูไปยังฝ่ายศัตรูนิ่ง
หลู่เฟิ่งหลางที่ถูกทหารเรือของตงอี๋จับกุมตัวเบิกตาโพลง นางพยายามสะบัดกายให้หลุดจากการเกาะกุมพลางตะโกนเสียงดังลั่น “เจ้าเสียสติไปแล้วหรืออย่างไร เมื่อจักรพรรดิองค์ใหม่ขึ้นครองราชย์ต้องควบคุมสถานการณ์ในราชสำนักและแคว้นเพื่อนบ้านให้สงบ เจ้าเปิดศึกโดยพลการการเช่นนี้ไม่กลัวฝ่าบาทของเจ้าลงโทษอย่างนั้นหรือ!”
ไม่มีผู้ใดตอบรับหลู่เฟิ่งหลาง ทหารเรือองครักษ์สองนายที่เดินทางมาคุ้มกันนางถูกสังหารทิ้ง นางถูกจับขังไว้ในห้องบนเรือ
หลู่เฟิ่งหลางใช้ร่างกระแทกประตูห้องด้วยความร้อนรนพลางส่งเสียงตะโกนร้องไม่หยุด ทว่า ร่างของนางกลับเซล้มไปอีกทางเพราะการกลับลำเรืออย่างกะทันหัน นางสัมผัสได้ว่าเรือถูกลูกธนูโจมตี ได้ยินเสียงลูกธนูลอยมากลางอากาศ
ในที่สุดแคว้นตงอี๋กับแคว้นต้าโจวก็เปิดศึกกันแล้ว!
ทว่า ตอนนี้จำนวนเรือของแคว้นตงอี๋มีมากกว่าต้าโจวหลายเท่านัก หากต้องทำสงครามกันขึ้นมาจริงๆ ต้าโจวเป็นฝ่ายเสียเปรียบแน่นอน!