สตรีแกร่งตระกูลไป๋ – ตอนที่ 1434 พลีชีพในสงคราม

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

ตอนที่ 1434 พลีชีพในสงคราม

เรื่องที่แม้แต่หลู่เฟิ่งหลางซึ่งถูกขังอยู่บนเรือของฝ่ายศัตรูยังคิดได้ หานเฉิงอ๋องย่อมคิดได้เช่นเดียวกัน

แน่นอนว่าแม่ทัพตู้อวี่หลางของกองทัพตงอี๋ย่อมคิดได้ไม่ต่างกัน

ในเมื่อต้องเปิดศึกกับต้าโจวตู้อวี่หลางจึงอยากถือโอกาสนี้ทำลายกองทัพเรือส่วนหนึ่งของต้าโจวให้ย่อยยับลงที่นี่เสียก่อน วันหน้าพวกเขาจะได้ทำสงครามกับทหารเรือที่เหลือของต้าโจวได้อย่างง่ายดายมากขึ้น

สองฝ่ายเริ่มยิงธนูโจมตีฝ่ายตรงข้าม ทหารเรือของตงอี๋ที่มากกว่าต้าโจวหลายเท่าเริ่มกระโดดลงไปในทะเล จากนั้นว่ายน้ำมุ่งตรงไปยังเรือของต้าโจว

แม่ทัพตู้อวี่หลางตะโกนเสียงดังราวกับเสียงคลื่นซัด

“แม่ทัพหวายอี้ แม่ทัพหลิวฮู่ ขอข้าสั่งให้พวกเจ้าทั้งสองนำกองทัพเรือส่วนหนึ่งอ้อมเรือทหารของต้าโจวไล่ตามเรือขุนนางของต้าโจวไป ต้องจมเรือลำนั้นให้ได้ ทำให้แน่ใจว่าองค์ชายเจ็ดไม่สามารถมีชีวิตรอดกลับมาได้อีก! ผู้ใดขัดขวางจงสังหารทิ้งทั้งหมด หากผิดพลาดจงถือศีรษะของพวกเจ้ามาพบข้าแทน!”

“รับบัญชาขอรับ!”

“รับบัญชาขอรับ!”

แม่ทัพสองคนของแคว้นตงอี๋รีบนำทัพทหารเรือส่วนหนึ่งไล่ตามเรือขุนนางของต้าโจวไปทันที

ตู้อวี่หลางผูกร่างของตัวเองติดกับเรือใหญ่อย่างแน่นหนาแล้ว เขากำขอบเรือแน่นถึงทรงตัวอยู่บนเรือได้อย่างมั่นคง ตู้อวี่หลางมองไปทางหัวหน้าแม่ทัพเรือหานเฉิงอ๋องของต้าโจวซึ่งยืนอยู่บนเรือฝั่งตรงข้ามนิ่ง จากนั้นกระชากร่างของพลธนูที่อยู่ข้างกายเข้ามาใกล้พลางชี้ไปทางหานเฉิงอ๋อง

“ยิงไปที่นั่น! หากเจ้าสังหารแม่ทัพใหญ่ของกองทัพเรือได้เจ้าจะมีความดีความชอบมากที่สุด!”

ทว่า เรือสองลำไม่เพียงอยู่ห่างกันมากเกินไป คลื่นในทะเลยังซัดแรงจนเรือโคลงเคลงอย่างหนัก พลธนูจึงยิงธนูพลาดไปจนเฉิงหย่วนจื้อรู้ตัว

เฉิงหย่วนจื้อรีบกระชากร่างของหานเฉิงอ๋องให้ก้มลงบนพื้น จากนั้นกล่าวขึ้น

“หานเฉิงอ๋อง การทำสงครามไม่ได้ทำเช่นนี้! ท่านคือแม่ทัพใหญ่ ท่านไม่ควรยืนอยู่ในจุดที่อันตรายที่สุดเช่นนี้! กลับไปสั่งการที่ด้านหลังเร็ว!”

ในสายตาของเฉิงหย่วนจื้อหานเฉิงอ๋องไม่ใช่เสี่ยวไป๋ไซว่ของพวกเขา เสี่ยวไป๋ไซว่ของพวกเขามีสัมผัสที่เร็วต่ออันตรายรอบกาย นั่นคือพรสวรรค์ที่ผู้อื่นไม่สามารถเรียนรู้หรือฝึกฝนได้…

“แม่ทัพเฉิง!”

หานเฉิงอ๋องจับไหล่เฉิงหย่วนจื้อแน่น เขาเงยหน้ามองไปทางลูกน้องคนสนิทของตัวเองแวบหนึ่ง จากนั้นบีบไหล่ของเฉิงหย่วนจื้ออย่างแรงแล้วกล่าวขึ้น

“ตอนนี้แคว้นตงอี๋จงใจเปิดศึกกับต้าโจว! ฝ่ายตรงข้ามมีจำนวนมากกว่าพวกเรามาก! ข้าทำได้เพียงถ่วงเวลาไว้ให้นานที่สุดเท่านั้น!”

หานเฉิงอ๋องยัดป้ายทองใส่มือเฉิงหย่วนจื้อ จากนั้นกล่าวเสียงจริงจัง

“นี่คือป้ายทองที่ฝ่าบาททรงมอบให้ข้า แม่ทัพเฉิงช่วยนำมันกลับไปแทนข้าที! หากวันนี้…ข้าไม่ได้กลับไป แม่ทัพเฉิงช่วยดูแลภรรยาของข้าแทนข้าด้วย! ช่วยทูลฝ่าบาทแทนข้าทีว่าข้าทำให้พระองค์ต้องผิดหวังแล้ว หากชาติหน้ามีจริง…ข้าจะขอเกิดมารับใช้ฝ่าบาทอีกครั้ง!”

วันนี้พวกเขาจำเป็นต้องสู้จนตัวตาย มิเช่นนั้นไม่มีทางยับยั้งกองทัพตงอี๋ได้แน่ อย่าว่าแต่เรือของทูตต้าโจวเลย แม้แต่เรือของชาวประมงก็คงไม่มีโอกาสกลับถึงฝั่ง

ท้องทะเลกว้างใหญ่สุดลูกหูลูกตา หากถึงเวลานั้นไม่มีคนกลับไปรายงานต้าโจวว่าตงอี๋เริ่มเปิดศึกกับต้าโจวแล้ว ต้าโจวต้องถูกโจมตีโดยที่ตั้งรับไม่ทันแน่นอน ชาวบ้านแถบชายฝั่งคงไม่สามารถมีชีวิตอยู่ต่อไปได้! หานเฉิงอ๋องจะไม่ยอมให้เรื่องเช่นนี้เกิดขึ้นอย่างแน่นอน!

ดังนั้นวันนี้เขา…หานเฉิงอ๋องจะสู้จนตัวตาย!

เฉิงหย่วนจื้อเห็นใบหน้ากลมที่เต็มไปด้วยเหงื่อของหานเฉิงอ๋องเต็มไปด้วยความหนักแน่นจึงเตรียมเอ่ยด่าออกมา ทว่า คนสนิทของหานเฉิงอ๋องกลับตีเข้าที่ศีรษะของเฉิงหย่วนจื้อจนเขาสลบไปเสียก่อน

บัดนี้หานเฉิงอ๋องที่ปกติเป็นคนอ่อนโยนดูเป็นมิตรรวบรวมความกล้าแบบที่เขาเคยทำตอนออกไปยอมจำนนกับต้าโจวออกมาอีกครั้ง เขายินดีสละชีพเพื่อชาวบ้านชายฝั่งทะเล ยินดีสละชีพเพื่อต้าโจวและจักรพรรดินีไป๋ชิงเหยียนที่ยอมรับในตัวเขา!

“รีบให้คนพาแม่ทัพเฉิงหนีไปเดี๋ยวนี้!”

หานเฉิงอ๋องหันไปสั่งลูกน้องของตัวเอง

“พ่ะย่ะค่ะ!”

ลูกน้องของหานเฉิงอ๋องรับคำ

“รายงาน! กองทัพเรือส่วนหนึ่งของตงอี๋อ้อมเรือของพวกเราไปแล้วพ่ะย่ะค่ะ!”

เมื่อเห็นเฉิงหย่วนจื้อถูกแบกจากไปแล้วหานเฉิงอ๋องจึงกำดาบพลางลุกขึ้นยืนทันที เขาหันไปเห็นกองทัพเรือของตงอี๋แบ่งทหารออกเป็นสามกองทัพ กองทัพหนึ่งกำลังสู้รบกับพวกเขา อีกสองกองทัพกำลังอ้อมเรือของพวกเขาไปทางด้านหลัง ไม่รู้ว่าพวกนั้นต้องการล้อมพวกเขาจากทางด้านหลัง ต้องการไล่ตามเรือของทูตต้าโจวหรือต้องการไล่ตามไปสังหารชาวประมงของแคว้นต้าโจวกันแน่

ทว่า ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดหานเฉิงอ๋องก็จะไม่มีวันปล่อยให้พวกเขาทำสำเร็จแน่นอน!

“ถ่ายทอดคำสั่งให้แม่ทัพตงนำทหารส่วนหนึ่งไปขัดขวางเรือรบฝั่งซ้ายของตงอี๋ แม่ทัพหวงนำทหารไปขัดขวางเรือรบฝั่งขวาไว้!”

หานเฉิงอ๋องสั่งการจบจึงมองหน้าทหารถ่ายทอดคำสั่งนิ่ง

“บอกแม่ทัพทั้งสองว่าต่อให้ต้องรบจนตัวตายก็ห้ามปล่อยให้เรือของตงอี๋ไล่ตามเรือของทูตต้าโจวและเรือของชาวประมงไปได้เด็ดขาด!”

“พ่ะย่ะค่ะ!”

ทหารถ่ายทอดคำสั่งรับคำและรีบไปถ่ายทอดคำสั่งทันที

ทหารเรือเห็นศัตรูบุกขึ้นมาบนเรือจึงตะโกนขึ้นเสียงดังลั่น

“ศัตรูบุกโจมตีเรือแล้ว ศัตรูขึ้นมาบนเรือแล้ว!”

เสียงร้องด้วยความตกใจของทหารเรือดังขึ้นบนเรือรบหลักของต้าโจว ต่อมาคือเสียงอาวุธ เสียงตะโกนฆ่าและเสียงร้องด้วยความเจ็บปวดของเหล่าทหาร

หานเฉิงอ๋องกำขอบเรือแน่น น้ำเสียงทุ้มต่ำของเขาดังขึ้นท่ามกลางเสียงฆ่าฟันและเสียงคลื่น

“ในทะเลมีศัตรู เรือทุกลำจงระวังให้ดี! พลธนูเตรียมธนูไฟให้พร้อม!”

ทหารเรือของต้าโจวที่เดิมทีก็มีจำนวนน้อยกว่าทหารเรือของตงอี๋แบ่งเป็นสามกองทัพย่อยเพื่อป้องกันการถูกโจมตีจากทางด้านหลังและเพื่อขัดขวางไม่ให้กองทัพเรือของตงอี๋ไล่ตามเรือทูตและชาวประมงของต้าโจวไปได้ ทหารเรือในสังกัดของหานเฉิงอ๋องกำลังเผชิญหน้ากับเรือรบหลักของแคว้นตงอี๋ พวกเขาใช้ร่างของตัวเองเป็นกำแพงป้องกันไม่ให้ทหารเรือของตงอี๋ปีนขึ้นมาบนเรือได้สำเร็จ

การต่อสู้ด้วยกำลังทหารที่น้อยกว่าและแบ่งทหารออกเป็นหลายส่วนคือสิ่งที่อันตรายที่สุด!

ทว่า หานเฉิงอ๋องทำสงครามครั้งนี้เพื่อยื้อเวลาเท่านั้น เขาพร้อมพลีชีพในสนามรบครั้งนี้ ไม่ได้หวังว่าตัวเองจะมีชีวิตรอดกลับไป เขาต่อสู้ด้วยกำลังทั้งหมดที่มี ต่อให้เป็นการเอาไม้ซีกไปงัดไม้ซุง ทว่า เขาจะขัดขวางไม่ให้กองทัพตงอี๋เหยียบย่ำลงบนแผ่นดินของต้าโจวอย่างสุดความสามารถ!

“วันนี้ทหารเรือของต้าโจวทุกคนจะพลีชีพในสงคราม!”

ทหารเรือบนเรือรบหลักของต้าโจวได้กำลังใจจากหานเฉิงอ๋องจึงพากันโห่ร้องออกมาด้วยความฮึกเหิม

“พลีชีพ!”

หานเฉิงอ๋องไม่เคยได้รับการยอมรับ ความไว้ใจและโอกาสจากเสด็จพ่อของตัวเองเลย ทว่า ไป๋ชิงเหยียนเป็นคนมอบสิ่งเหล่านี้ให้แก่เขาดังนั้นเขายินดีบุกน้ำลุยไฟเพื่อไป๋ชิงเหยียนอย่างไม่เสียดายชีวิต เขายินดีสละชีพเพื่อปกป้องชาวบ้านชายฝั่งทะเลอย่างไม่คิดเสียใจ!

ลูกธนูไฟลอยไปปักลงบนเรือของฝ่ายศัตรู ไฟลุกลามไปตามน้ำที่เปียกชื้นบนตัวเรือ เปลวไฟสีเงินค่อยๆ คืบคลานกลืนกินตัวเรือลำใหญ่ที่หนักอึ้ง ทหารที่อยู่บนเรือต่างช่วยกันกระโดดเหยียบลงบนกองเลือดเพื่อดับไฟที่กำลังลุกลาม ทว่า ไฟไม่ได้มีท่าทีจะมอดดับแม้แต่น้อย กลับยิ่งลุกโหมขึ้นกว่าเดิม แผ่นไม้บนตัวเรือคือเชื้อเพลิงชั้นดีของไฟ เมื่อมันรวบรวมเชื้อเพลิงได้มากพอจึงปะทุขึ้นอย่างแรงเพื่อกลืนกินเรือรบและทหารที่อยู่บนตัวเรือ!

แสงอรุณแรกของวันเพิ่งโผล่ลับขอบฟ้าที่เงียบสงบ

ทว่า เรือรบทิศเหนือและทิศใต้กำลังต่อสู้กันอย่างดุเดือดท่ามกลางมหาสมุทรอันกว้างใหญ่และลึกล้ำ เรือใหญ่ฝั่งทิศใต้และทิศเหนือของสนามรบสนามเล็กบนมหาสมุทรเต็มไปด้วยเปลวเพลิง

ทหารเรือของต้าโจวพยายามต้านทานศัตรูสุดชีวิต ทหารเรือของตงอี๋บุกต่อสู้อย่างสุดชีวิต จุดเล็กๆ กลางมหาสมุทรที่กว้างใหญ่และโดดเดี่ยวเต็มไปด้วยเปลวเพลิง ซากไม้และซากศพของทหารเรือของสองแคว้น

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

Status: Ongoing
นิยายจีนโบราณเข้มข้น ปะทะคารม ทดสอบไหวพริบ สนุกถึงใจ!เพราะถูกคนชั่วหลอกใช้ชาติก่อนคนทั้งตระกูลของนางจึงต้องตายอย่างน่าอนาถ ไร้ซึ่งคนทวงถามความเป็นธรรมชาตินี้นางหวนกลับมาก่อนเรื่องราวเกิดขึ้น แม้เพียงเล็กน้อยแต่หากสามารถช่วยเหลือคนในครอบครัวได้แม้สักคนนางก็ยินดีทุ่มเทกำลังให้ถึงที่สุดสตรีตระกูลไปแต่ไรมาแกร่งกล้ำเพียบพร้อมบุ๋นบู๊ แม้ไร้ซึ่งที่พึ่งพิงแล้วจริงแต่ก็จะไม่ยอมให้ผู้ใดมากดขี่ได้!และเพราะเรื่องราวที่เปลี่ยนแปลงไปนางจึงได้พบกับ ‘เขา’ ไวกว่าชาติก่อนเขาผู้นี้แม้ภายนอกดูป็นมิตรและสง่งามกว่าใคร แต่นงแจ่มแจ้งดีว่าเขาเจ้าเล่ห์และอำหิตมากเพียงไหนชาติก่อนแม้ยืนกันคนละฝั่งแต่บุรุษผู้นี้กลับเป็นผู้มอบทางรอดให้แก่นาง อย่างนั้นชาตินี้นางก็ย่อมตอบแทนเขาเป็นอย่างดีเช่นกัน“แม่นางไปช่วยเหลือข้าหลายครั้งหลายครา ใช่ว่าชื่นชอบข้าหรือไม่?”“คุณชายเข้าใจผิดแล้วล่ะ”“ข้าช่วยเหลือแม่นางไปมาหลายครั้งหลายครา แม่นางไปมีใจชื่นชอบข้าบ้างหรือไม่?”“…”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท