บทที่ 93 เพียงเจียงฮ่าวปล่อยของ ทั้งห้าก็คุกเข่า
หนึ่งในสถุลทั้งห้าได้พูดออกมาว่า
“ไอ้หนู รีบๆคุกเข่าแล้วเรียนพวกเราว่าท่านปู่ซะ ถ้าแกร้องขอชีวิตพวกเรามาจะปล่อยแกไป”
“ฮ่าฮ่าฮ่า”
“ใช่แล้วคุกเข่าร้องขอชีวิตซะ”
เป็นตอนนี้สถุลทั้งห้าต่างก็พอกันหัวเราะจนดังลั่น นี่ทำให้นักเรียนคนอื่นที่ได้ยินอดที่จะมองอยู่จากระยะไกลไม่ได
“เฮ้ นั่นมันไอ้พวกเด็กเกปี3ห้องหนึ่งไม่ใช่เหรอ”
“ไอ้พวกนั้นแกล้งเด็กคนอื่นอีกแล้ว”
“เฮ้อ ใครกันนะที่โชคร้ายที่ได้เจอไอ้พวกนี้เข้า”
“…”
ตอนนี้เจียงฮ่าวจ้องมองทุกคนที่ล้อมรอบอย่างไร้อารมณ์
คนที่เหมือนจะเป็นตัวหัวโจกที่ไม่เห็นเจียงฮ่าวมีท่าทีอะไรตอบโต้ แม้แต่ดวงตาก็ยังนิ่งสนิท นี่ทำให้พวกมันดูราวกับตัวโง่งม
ตอนนี้เองมันโกรธมากจนเริ่มอายตัวเองจึงได้ปล่อยหมัดหนึ่งไปยังเจียงฮ่าว
เจียงฮ่าวเองก็ตอบโต้ได้ทัน เขาคว้าจับไปยังข้อมือของตัวหัวโจกที่ปล่อยออกมาอย่างรวดเร็ว
เป็นตอนนี้เป็นรอยยิ้มเหี้ยมเกรียมได้ปรากฎขึ้นบนหน้าของเจียงฮ่าวที่กำลังรอคอยสถุลเหล่านี้เริ่มใช้กำลัง ถึงแม้มันจะดูเจ็บปวดมากขนาดไหน แต่สำหรับเขามันเป็นเพียงเศษเสี้ยวของพละกำลังทั้งหมดที่มี
“อ๊ากกกกกกกกกกกกกก”
เสียงกรีดร้องโหยหวนดังลั่นชนิดที่ว่าแม้แต่นักเรียนที่กำลังมองอยู่ห่างๆก็ยังต้องตกใจ
แต่ละคนเริ่มชะเง้อมองมายังต้นเสียงกรีดร้อง และเป็นตอนนั้นที่ทุกคนก็ได้เห็นฉากที่น่าสยดสยอง
แต่เดิม เจียงฮ่าวคิดว่าสถุลเหล่านี้เป็นเพียงมดปลวกที่อ่อนแอจึงเริ่มด้วยการจับมือเท่านั้น เขาไม่คิดเลยว่ากับแค่การจับมือจะทำให้สถุลตรงหน้ากรีดร้องจนดังลั่นขนาดนี้
ในตอนนี้อีกสี่คนที่เหลือทันทีที่ตั้งสติได้ก็ได้ประเคนหมัดและเตะใส่เจียงฮ่าวในบัดดล
อย่างไรก็ตาม เจียงฮ่าวไม่ได้รีบร้อน เขาได้ดึงตัวหัวโจกเหวี่ยงไปรอบๆก่อนที่จะปล่อยมือให้ลอยไปใส่คนหนึ่งที่พุ่งเข้ามา
ใบหน้าของคนสองคนแสดงออกมาอย่างเจ็บปวดในทันทีในขณะที่ลอยไปไกล ทั้งคู่รู้สึกได้ราวกับว่าตัวเองถูกรถยนต์คันหนึ่งพุ่งเข้าชนอย่างจัง
เมื่อเขวี้ยงเสร็จแล้ว เขาได้หมุนตัวพร้อมเหวี่ยงขาออกไปเตะคนอื่นเข้าที่ท้อง
ในตอนนี้ทุกคนกระเด็นกระดอนไม่ต่างจากตุ๊กตาแขวนที่เชือกขาด
เจียงฮ่าวได้เปลี่ยนท่าทางอีกครั้งเนื่องจากสัมผัสภยันตรายระดับสามของเขาแจ้งเตือน เขาต่อยออกไปโดยไม่ได้มอง แต่หมัดนั้นกลับมุ่งไปบนใบหน้าของสถุลคนสุดท้ายที่พุ่งเข้ามาหาเขาช้าที่สุด
กับคนสุดท้ายนี้ทันทีที่เห็นฉากที่เจียงฮ่าวสวนหมัดกลับมานั้น ใบหน้าของมันแข็งค้างจนทำอะไรไม่ถูก พร้อมกับปิดตายอมรับชะตากรรมในทันที
“ซุ่บบบบ”
แรงลมที่พัดผ่านใบหน้าของมันอย่างรุนแรง เป็นเจียงฮ่าวที่ได้หยุดหมัดตัวเองได้ทันไว้ในระยา 1 เซนติเมตรก่อนจรดบนใบหน้าจนหน้ายู่ไปเล็กน้อยตามแรงลม
สถุลคนสุดท้ายรีบตาขึ้นมาและรู้สึกดีใจขึ้นมาในทันทีที่หมัดของเจียงฮ่าวนี้ไม่ได้โดนใบหน้า แต่เจียงฮ่าวไม่ได้รีรอแต่เตะไปที่ท้องของสถุลคนสุดท้ายจนกระเด็นลอยไปไกล
ฉากที่เห็นนี้ทำให้คนที่ผ่านมาโดยบังเอิญนั้นตกตะลึงราวกับเห็นผี
ใครจะไปคิดว่าเจียงฮ่าวที่มีท่าทีอ่อนแอนั้นกลับเป็นหมาป่าในคาบลูกแกะ และสามารถเตะนักเลงห้าคนได้เพียงไม่กี่วินาที
“เฮือออกกกก”
ทุกคนในตอนนี้ถึงกับสะดุ้งในทันที
“นี่มันจะไม่เก่งเกินไปหน่อยเหรอ”
“เขาสามารถส่งคนไปไกลได้เพียงด้วยลูกเตะทีเกียว อย่าบอกนะว่าเขาเป็นวิทยายุทธน่ะ”
“ไม่จริงน่า ไอ้ฉิบหาย นักเลงห้าคนนั่นโดนกำหราบได้ง่ายดายขนาดนี้เลยเหรอ”
“…”
ในทันทีที่สายตาของทุกคนกำลังตกอยู่ในสภาพที่ตกตะลึงนั้น
ในตอนนี้เจียงฮ่าวเดินไปยังสถุลตัวสูงที่น่าจะเป็นหัวหน้ากลุ่ม เขาจ้องมองไปที่ชายตัวสูงที่กำลังนอนกองกับพื้นและใช้มือกุมท้องด้วยความเจ็บปวดอย่างมากจนบ่งบอกได้ทางใบหน้า
“เฮ้ แกรู้รึยังว่ามารยาทคืออะไร”
ชายตัวสูงจ้องมองเจียงฮ่าวอย่างหวาดกลัว
ในขณะที่เจียงฮ่าวเตรียมที่จะใช้คำพูดอบรมสั่งสอนสถุลทั้งห้าคนอยู่นี้ เขาก็ได้ยินเสียงหนึ่งดังขึ้นมาท่ามกลางคนที่มุงดู
“ถอยหน่อย หลีกไปเดี๋ยวนี้”
“ลูกพี่ฮ่าว พวกเรามาแล้ว”
“…”