คุณหนูใบ้หัวใจแกร่ง – ตอนที่ 379 สามีตัวน้อย

คุณหนูใบ้หัวใจแกร่ง

ตอนที่ 379 สามีตัวน้อย

เซียวฮูหยินโกรธอย่างมาก!

โกรธจนหายใจไม่ทัน แม้แต่จะพูดยังพูดไม่ออก

เยียนอวิ๋นฉีทั้งร้อนใจทั้งโกรธ นางชี้เซียวอี้ “เจ้าออกไป เจ้ารีบออกจากจวนองค์หญิง ที่นี่ไม่ต้อนรับเจ้า!”

นางพาบ่าวรับใช้รีบส่งตัวเซียวฮูหยินกลับห้องนอนไปพักผ่อน อีกทั้งยังให้คนไปเชิญไต้ฟูมา

ไต้ฟูเดินทางมาอย่างเร่งรีบ หลังจากตรวจดูแล้ว จึงจ่ายยา พร้อมทั้งกำชับให้พักรักษาตัวอย่างสงบ

“ร่างกายขององค์หญิงไม่ได้มีปัญหามาก เพียงแค่โกรธจนแน่นหน้าอก จึงหายใจไม่ทั่วท้องไปชั่วขณะ หลังจากนี้อย่าได้เกิดอารมณ์โกรธเป็นอันขาด ต้องพักรักษาอย่างสงบ ไม่นานก็จะฟื้นฟูกลับมา”

“ขอบพระคุณไต้ฟู!”

เมื่อส่งไต้ฟูจากไปแล้ว

บ่าวรับใช้ก็มารายงานบอกว่านายน้อยอี้ยังไม่ไป ยังรออยู่ที่ห้องโถง

เยียนอวิ๋นฉีโกรธจัด “เขาทำให้ท่านแม่โกรธจนล้มป่วยแล้ว เขายังคิดจะทำอันใดอีก หรือว่าต้องบีบให้คนตายจึงจะพอใจหรือ”

“พี่สองอย่าร้อนใจ! เรื่องไม่ได้ร้ายแรงเหมือนที่ท่านคิด เกรงว่าเขาก็คงกังวลอาการของท่านแม่ หากไม่ได้รับข่าวว่าท่านแม่ปลอดภัย เขาคงไม่กล้าจากไป ข้าจะไปพบเขา บอกเขาให้กระจ่าง ทางท่านแม่ลำบากพี่สองดูแลแล้ว”

เยียนอวิ๋นฉีเช็ดน้ำตา พลันกอดเยียนอวิ๋นเกอเอาไว้ “ลำบากน้องสี่แล้ว! ก่อนหน้านี้ข้าคิดว่าเซียวอี้เพียงแค่อารมณ์ร้อน ไม่คิดว่าเขาจะเป็นคนโง่ สมองทึบ ไม่รู้จักการเข้าสังคมแม้แต่น้อย เขาเติบโตมาได้อย่างไร ไม่ใช่เด็กชนบทเสียหน่อย ทั้งที่เป็นนายน้อยจวนอ๋อง แต่ทำตัวเหมือนคนที่ไม่ได้รับการสั่งสอน เมื่อคิดว่าน้องสี่ต้องแต่งงานกับเขา ข้าก็รู้สึกไม่เป็นธรรมแทนน้องสี่!”

“ขอบพระคุณพี่สอง! หากท่านคิดว่าข้าไม่ได้รับความเป็นธรรม ก็ให้พี่เขยเตรียมสินสอดให้ข้ามากหน่อย หากไม่มีสินสอดหนึ่งหมื่นก้วน ข้าจะไม่รับ”

เยียนอวิ๋นฉีหัวเราะออกมา “เจ้าวางใจ! ถึงแม้เขาจะไม่ให้สินสอดเจ้า ข้าก็ต้องให้สินสอดจำนวนมากให้แก่เจ้า”

เยียนอวิ๋นเกอส่ายหน้า “ข้าไม่ต้องการให้พี่สองเสียเงิน! ข้าต้องการแค่สินสอดจากพี่เขย มันเป็นสิ่งที่เขาติดค้างข้า ท่านบอกเขา หากเงินน้อยกว่าหนึ่งหมื่นก้วน อย่าโทษข้าที่ไม่ยอมรับพี่เขยอย่างเขา!”

“ได้! ข้าจะนำคำพูดของเจ้าส่งถึงเขา”

เยียนอวิ๋นฉียืนกรานที่จะยืนอยู่ฝั่งเยียนอวิ๋นเกอ เตรียมปล้นเซียวเฉิงเหวินสักตั้ง

เยียนอวิ๋นเกอกลับมายังห้องโถงอีกครั้ง!

เซียวอี้ยังคงยืนอยู่ที่เดิม ไม่แม้แต่จะขยับ

“องค์หญิงเป็นอันใดมากหรือไม่”

เขาอาจไม่คุ้นชินกับการพูดเป็นห่วงเป็นใยผู้อื่น จึงแสดงออกมาด้วยความกังวลและไม่เป็นธรรมชาติ!

“เพียงแค่โกรธมากไปชั่วขณะ พักผ่อนสองวันก็หายแล้ว! นั่งลงพูดเถิด!”

เยียนอวิ๋นเกอสงบอย่างมาก อีกทั้งยังเรียกให้เขานั่งลง

เซียวอี้ประหลาดใจเล็กน้อย เขาเผยสายตาร้อนตัวอย่างหาได้ยาก

อาจเพราะคิดไม่ถึงว่าเยียนอวิ๋นเกอจะไม่โกรธเขา อีกทั้งยังพูดคุยกับเขาอย่างสงบ

ไม่เหมือนจริงเอาเสียเลย!

ทั้งสองคนนั่งเผชิญหน้ากัน แยกกันนั่งลง

บ่าวรับใช้รินน้ำชาอีกครั้ง เยียนอวิ๋นเกอเรียกให้เขาดื่มชา

เซียวอี้ยิ่งกังวล เขารู้สึกว่าเยียนอวิ๋นเกอกำลังมีแผนการบางอย่าง

เยียนอวิ๋นเกอหัวเราะ “เจ้ากลัวข้า?”

เซียวอี้ส่ายหน้า จากนั้นก็พยักหน้า “ข้ากลัวเจ้าโกรธ!”

เยียนอวิ๋นเกอยิ้ม “ในเมื่อกลัวข้าโกรธ เจ้ากล้าทูลขอพระราชโองการพระราชทานงานอภิเษกลับหลังข้าได้อย่างไร”

“นอกจากเรื่องนี้ เรื่องอื่นข้ายอมเจ้าได้” เซียวอี้ตอบอย่างรวดเร็ว “ข้ากลัวเจ้าปฏิเสธอีกครั้ง ดังนั้นจึงตัดสินใจลงมือทำก่อนค่อยบอก ทูลขอพระราชโองการก่อนค่อยมาขอขมา!”

เยียนอวิ๋นเกอหัวเราะเสียงเย็น “เจ้าทำเรื่องไม่เป็นเอาเสียเลย! จี้ซินแสไม่ได้สอนเจ้าให้ดี ไม่ได้บอกว่าเจ้าต้องทำอย่างไรหรือ”

สีหน้าของเซียวอี้จริงจัง “จี้ซินแสย่อมเคยสอนข้า เพียงแต่ข้าว่าวิธีการของเขาน่ารำคาญเกินไป ทำให้เรื่องล่าช้าเกินไป”

เยียนอวิ๋นเกอหัวเราะเสียงเย็นอีกครั้ง อีกทั้งยังกลอกตา “เจ้าช่างไม่ฟังคำโบราณเขาว่าไว้ ทำให้ต้องเสียเปรียบ ข้าก็ว่า จี้ซินแสผู้ที่รู้จักการวางตัวจะออกความคิดที่เลวร้ายเช่นนี้ให้เจ้าได้อย่างไร ที่แท้เจ้าไม่ฟังคำเกลี้ยกล่อม ตัดสินใจด้วยตนเอง วันนี้เจ้าทำให้ท่านแม่ข้าโกรธอย่างมาก หากท่านแม่ข้าเป็นอันใดไป เจ้าเคยคำนึงถึงผลที่ตามมาหรือไม่”

เซียวอี้เกิดความละอายใจอย่างหาได้ยาก “ก่อนมา ข้าไม่คิดว่าเรื่องนี้จะร้ายแรงเพียงนี้ ข้าคิดว่า…”

“ไม่ต้องบอกว่าเจ้าคิด!” เยียนอวิ๋นเกอพูดขัดเขา “ความคิดของเจ้าใช้กับการทำสงครามได้ แต่การอยู่ร่วมกับผู้คนคงไม่ได้! ข้ามักคิดว่า คนสามารถเอาแต่ใจได้ แต่ไม่อาจไม่รู้ขอบเขต แต่เจ้าไม่เพียงเอาแต่ใจ ยังไม่รู้ขอบเขตอีก! จวนองค์หญิงไม่ใช่ศัตรูของเจ้า เจ้าบีบเค้นเช่นนี้เพื่อการใด ช่างทำให้คนปวดหัวยิ่งนัก!”

เซียวอี้เก้อจนพูดไม่ออกแม้แต่ประโยคเดียว

เขาพบว่าเขาไม่อาจเถียงเยียนอวิ๋นเกอได้ ไม่อาจโต้เถียงได้แม้แต่น้อย

เยียนอวิ๋นเกอดื่มชาเพื่อชุ่มคอ

นางเงียบไปสักพัก จากนั้นจึงถามขึ้น “เจ้าอยากแต่งงานกับข้าจริงหรือ จำเป็นต้องเป็นข้าเท่านั้น? ผู้อื่นไม่ได้หรือ”

เซียวอี้พูดอย่างจริงจัง “ข้าอยากแต่งงานกับเจ้าเท่านั้น จริงแท้แน่นอน! หญิงสาวนางอื่นไม่อาจเข้าตาของข้าได้”

คำพูดนี้เหมือนทำให้เยียนอวิ๋นเกอพึงพอใจ นางเผยรอยยิ้มบางออกมาอย่างหาได้ยาก แต่ก็หายไปเพียงชั่วพริบตา

เซียวอี้รู้สึกเสียดายอย่างมาก

เยียนอวิ๋นเกอพูด “พระราชโองการพระราชทานงานอภิเษกออกมาแล้ว นอกเสียจากเจ้าตาย มิฉะนั้นข้าก็ต้องแต่งงานกับเจ้า”

เซียวอี้หัวเราะอย่างโง่เขลา

“เจ้าวางใจ ข้าไม่ตายอย่างแน่นอน! ข้าไม่มีทางให้เจ้าเป็นแม่หม้าย!”

เยียนอวิ๋นเกอ “…”

นางอยากตีคน ทำอย่างไรดี

นางสูดลมหายใจเข้า อากาศดีเช่นนี้ เหตุใดนางจึงต้องหงุดหงิดเช่นนี้

หยุดโกรธ!

ต้องหยุดโกรธ!

อย่างไรก็เป็นแค่คนโง่ ให้อภัยเขาชั่วคราวเถิด!

นางนวดขมับ “ระยะหนึ่งเดือนนี้ เจ้าอย่าได้ปรากฏตัวต่อหน้าท่านแม่ข้า หากจะส่งของขวัญก็ให้จี้ซินแสมา จี้ซินแสพูดจาสนุก เป็นคู่สนทนาที่ดี ดีกว่าเจ้าอย่างมาก ข้าไม่รู้ว่าเจ้าอยู่กับจี้ซินแสอย่างไร ต่อจากนี้เรื่องการดำรงชีวิต เจ้าฟังความเห็นของจี้ซินแสให้มากเถิด อย่าดื้อรั้นนัก!”

“ได้! ข้าฟังเจ้า” เซียวอี้แอบหัวเราะอีกครั้ง เขาได้ใจอย่างมาก

เขาอดถามไม่ได้ “เจ้าไม่คัดค้านที่จะแต่งงานกับข้า ใช่หรือไม่!”

เพียงแค่ไม่คัดค้านก็คือยอมรับ

มันเป็นสิ่งที่เขารับรู้

เยียนอวิ๋นเกอหัวเราะ “เจ้าลองคิดดูว่าจะทำอย่างไรให้ท่านแม่ข้าหายโกรธเถิด! เรื่องแต่งงานค่อยว่ากันภายหลัง ยังไม่รีบในเวลานี้”

จะบอกว่าไม่รีบได้อย่างไร

เขารีบที่จะแต่งงานอย่างมาก

สุดท้ายถูกเยียนอวิ๋นเกอถลึงตาใส่ ทุกคำที่คัดค้านล้วนกลืนลงไป

สิ่งที่นางพูดล้วนถูกต้อง เขาต้องมั่นใจในเรื่องนี้

เวลานี้ ไม่ว่าจะเป็นท่าทีนายน้อยผู้สูงส่งใดๆ ล้วนไปเจอผีเถิด!

ประจบสะใภ้ในอนาคตเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด

เยียนอวิ๋นเกอกวาดตามองเขา ถึงแม้จะโง่เขลา ใบหน้าของเขาก็ยังงดงาม รูปร่างก็ดีไม่น้อย

เพียงแค่มองหน้าก็ทำให้คนจิตใจเบิกบาน! ไฟโกรธที่มากเพียงใดก็สามารถสยบลงได้

มันคือพลังของความงดงาม ไร้เทียมทาน!

นางพูดอีกครั้ง “ต่อจากนี้ไม่ว่าทำเรื่องใด อย่าตัดสินใจเอง! ฟังความเห็นของจี้ซินแสให้มาก! ในเมื่อเจ้าตัดสินใจจะแต่งงานกับข้า ก็หัดเปลี่ยนแปลงวิธีการอยู่ร่วมกับผู้อื่นเถิด! ถึงแม้จะต้องเสแสร้ง ก็ต้องเสแสร้งให้ผู้อื่นยอมรับเจ้าง่ายมากขึ้น มีชีวิตอยู่บนโลก บางครั้งก็ต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบของสังคม”

เซียวอี้ได้ยินจึงพูดออกมา “ข้าไม่คิดว่า คำพูดนี้จะออกมาจากปากของเจ้า”

เยียนอวิ๋นเกอหัวเราะเสียงเบา “ตอนที่ข้าเจ็ดแปดขวบ ข้าเป็นคุณหนูตัวน้อยอย่างแท้จริง สามารถเอาแต่ใจได้ ทุกคนย่อมจะอดทนกับข้ามากที่สุด แต่เมื่อข้าสิบห้าสิบหก สิบเจ็ดสิบแปด ข้าก็ไม่อาจปฏิบัติเหมือนตอนแปดเก้าขวบได้แล้ว

ถึงแม้ความคิดในหัวของข้าจะไม่เปลี่ยนแปลง ข้ายังคงยืนกรานในความเป็นข้า แต่วิธีการของข้ามีการเปลี่ยนแปลง หากเป็นตอนนี้ ข้าไปเยือนจวนองค์หญิงเฉิงหยางอีกครั้ง ข้าย่อมไม่มีทางพังทลายจวนองค์หญิง สำหรับข้าในเวลานี้ การรับมือกับองค์หญิงเฉิงหยางมีวิธีมากมาย ไม่จำเป็นต้องเปลืองแรง เหนื่อยเกินไป!”

เซียวอี้หัวเราะ “ข้าชอบความเปิดเผยของเจ้า! ต่อจากนี้งานที่ต้องตีคน ข้าจะเป็นคนทำเอง!”

เยียนอวิ๋นเกอหัวเราะเสียงเย็น “ถึงแม้ข้าต้องการตีคน ข้างกายข้าย่อมมีองครักษ์ส่วนตัวทำแทน ไม่จำเป็นต้องให้เจ้าทำแทน”

“แต่ข้าเต็มใจที่จะทำแทนเจ้า”

“เรื่องนี้ค่อยพูดกันทีหลังเถิด!”

เยียนอวิ๋นเกอรังเกียจเล็กน้อย

เซียวอี้รู้สึกว่าเป็นเพราะตัวเองประพฤติได้ไม่ดีพอ ดังนั้นนางจึงรังเกียจ

เขาส่งเสียงไม่พอใจ!

เยียนอวิ๋นเกอกลอกตาใส่เขา “เรื่องที่ควรบอกก็บอกไปหมดแล้ว เจ้าเชิญกลับเถิด!”

เซียวอี้เสนอเงื่อนไขออกมาอย่างใจกล้า “ข้าหวังว่าจะแต่งงานได้ในเร็ววัน เรื่องจวนเจ้าวางใจ หลายปีก่อนข้าเตรียมไว้หมดแล้ว! หลังแต่งงาน พวกเราไม่ต้องเข้าพักในจวนท่านอ๋องตงผิง พวกเราแยกจากจวนอ๋องอย่างสิ้นเชิง”

เยียนอวิ๋นเกอไร้สีหน้า “ข้าบอกแล้ว เรื่องแต่งงานไม่รีบ อย่างไรก็ต้องให้ท่านแม่หายโกรธ เปลี่ยนทัศนคติต่อเจ้า รอก่อนเถิด!”

“ต้องรอถึงเมื่อใด ข้าร้อนใจ!”

ตรงไปตรงมาเสียจริง

เยียนอวิ๋นเกอกลอกตาใส่เขาอีกครั้ง พลันถามอย่างจริงจัง “ฟังข้าหรือไม่”

เซียวอี้สะอึก

เขาหัวเราะขมขื่น “ฟังเจ้า!”

เยียนอวิ๋นเกอพูดอย่างจริงจัง “ในเมื่อฟังข้า แต่งงานเมื่อใด ข้าย่อมมีสิทธิ์พูด เจ้ารีบร้อนไปก็ไร้ประโยชน์!”

นางเผยท่าทีของเจ้าของกิจการผู้เด็ดเดี่ยว เซียวอี้กลายเป็น ‘สามีตัวน้อย’ ในทันที!

เซียวอี้ถอนหายใจยาว เขาคาดการณ์ถึงชีวิตหลังแต่งงานได้แล้ว ไม่มีปากเสียง!

ช่างทำให้คนรู้สึกมีความสุขและเศร้าโศก

เยียนอวิ๋นเกอเคาะโต๊ะเบาๆ พลันเอ่ยเตือน “เจ้าตัดสินใจโดยร่วมมือกับเซียวเฉิงเหวินเข้าวังทูลขอพระราชโองการพระราชทานงานอภิเษก เรื่องนี้ข้าจะคิดบัญชีกับเจ้าภายหลัง เจ้ารอก่อนเถิด! อย่าคิดจะโบยตัวเองอีก ไม่มีความจริงใจแม้แต่น้อย”

เซียวอี้โต้แย้งเสียงเบา “วันนี้ข้านำความจริงใจมาเต็มเปี่ยม…”

“เจ้าหุบปากเถิด! ความจริงใจของเจ้าเกือบจะทำให้ท่านแม่ข้าโกรธตาย! ข้าจะคิดบัญชีกับเจ้าอย่างไร ข้ามีสิทธิ์พูด! เจ้าอย่าพูดมาก!”

เยียนอวิ๋นเกอไม่ให้โอกาสเซียวอี้โต้แย้งแม้แต่น้อย

เซียวอี้อ้าปาก หมดหนทางเสียจริง

ยังไม่ทันแต่งงาน เขาก็ถูกเยียนอวิ๋นเกอควบคุมจนอยู่หมัด

เขาพูดด้วยความลังเล “วันนี้ข้าไม่เพียงนำมาแค่แส้ ยังนำโฉนดที่ดินมาด้วย รวมถึงรายชื่อและบัญชี! เดิมทีข้าคิดจะทิ้งเอาไว้ให้เจ้า ดูจากเวลานี้ ครั้งหน้า…”

“ช้าก่อน! พวกโฉนดที่ดินทิ้งเอาไว้ให้หมด! ส่วนเจ้าไปได้แล้ว!”

เซียวอี้ “…”

ไร้เยื่อใยเสียจริง เอาแค่โฉนดที่ดินไม่เอาคน?

เยียนอวิ๋นเกอมองเขา “เจ้าเสียใจแล้ว? มีความเห็นต่าง?”

เซียวอี้ส่ายหน้าระรัว รีบนำโฉนดที่ดิน รายชื่อและบัญชีออกมาวางไว้ต่อหน้านาง

นางพลิกดู โอย…

สมกับเป็นผู้ชายที่มีเหมือง

“ของข้ารับเอาไว้แล้ว! เจ้าไปได้แล้ว!”

คุณหนูใบ้หัวใจแกร่ง

คุณหนูใบ้หัวใจแกร่ง

Status: Ongoing
ณหนูจวนอื่นชื่นชอบแพรพรรณงดงาม กวี ภาพเขียน บุรุษหล่อเหลา แต่คุณหนูสี่จวนโหวกลับคลั่งไคล้ในเงินทอง! การค้ารูปแบบใดที่แผ่นดินนี้ไม่เคยมีล้วนออกมาจากสมองของนางและทั้งหมดล้วนทำให้เงินทองไหลมาเทมา!นิยายโรแมนติกจีนโบราณ ที่นางเอกมากความสามารถและคลั่งไคล้เงินสุดๆ!คุณหนูสี่แห่งจวนโหว เยียนอวิ๋นเกอ เป็นใบ้เพราะอุบัติเหตุตอนยังเด็กทำให้อุปนิสัยดุร้าย อารมณ์ร้อน มุทะลุยิ่งนักใครๆ ล้วนมองว่านางเป็นหญิงเอาแต่ใจไม่เคยคำนึงถึงสิ่งใดแต่จิตวิญญาณด้านในของนางนั้นคือหญิงสาวผู้รอดชีวิตเพียงหนึ่งเดียวในวันสิ้นโลกอาจเพราะความยากลำบากในชาติก่อนสิ่งเดียวที่นางกลัวที่สุดก็คือกลัวอดตาย!ดังนั้นหากไม่อยากอดตายต้องทำอย่างไรก็ต้องมีเสบียง! และการจะมีเสบียงได้นั้นก็ต้องมีเงิน!เพื่อการนั้นนางจะทุ่มเทสมองในการบุกเบิกการค้า ปูรากฐานทุกอย่างเพื่อพี่น้องและมารดาด้วยมันสมองของคนยุคใหม่นางไม่เชื่อว่าจะทำไม่ได้ทหารต่อให้เก่งกาจเพียงใดหากไม่มีเสบียงแล้วไซร้ก็ยากจะรบต่อไปได้ถึงตอนนั้นในแผ่นดินที่ฮ่องเต้จ้องจะกวาดล้างอำนาจขุนนาง ครอบครัวนางย่อมหยัดยืนได้อย่างมั่นคง!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท