ตอนที่ 382 แถมข่าวดี
“ฮูหยิน เรื่องใหญ่แล้ว! นายน้อยใหญ่กับเซียวอี้ตีกันแล้ว”
บ่าวรับใช้วิ่งมาหาเซี่ยฮูหยินด้วยความรวดเร็ว เขารีบจนเหนื่อยหอบ
เซี่ยฮูหยินถามอย่างไม่รีบร้อน “ผู้ใดแพ้ ผู้ใดชนะ”
บ่าวรับใช้ผงะไปชั่วครู่ ก่อนจะรายงาน “รายงานฮูหยิน เหมือนว่านายน้อยใหญ่จะได้เปรียบเล็กน้อย”
เซี่ยฮูหยินหัวเราะออกมาในทันใด “ไม่เป็นอันใด! อย่ารีบร้อนเพียงนั้น ถอยออกไปเถิด!”
“ฮูหยินไม่ไปดูหรือ”
“ผู้ชายสองคนตีกัน ไม่มีสิ่งใดน่าดู ข้ายังต้องคำนวณบัญชี สองคนนั้นรู้จักยั้งมือ ตีไม่ตาย!”
บ่าวรับใช้ “…”
ใจฮูหยินช่างใหญ่ยิ่งนัก!
คนตีกันแล้วยังไม่กังวลแม้แต่น้อย
…
เซียวอี้ถูกตีครั้งหนึ่ง!
ถูกหลิงฉางจื้อตีอย่างจริงจังครั้งหนึ่ง เจ็บ!
เขาฉีกปาก พลันส่งสายตาเคียดแค้น!
เขาเป็นคนหรือไม่
ลงมือรุนแรงกับลูกพี่ลูกน้องอย่างเขาเช่นนี้ เขาเป็นคนหรือไม่
หลิงฉางจื้อสองมือเท้าเอว แหงนหน้าหัวเราะ ไร้ซึ่งภาพลักษณ์ของนายน้อยผู้สูงส่ง
ความปรารถนาหลายปี วันนี้สมความปรารถนาแล้ว เขาสาแก่ใจจนตัวแทบลอย!
สาแก่ใจยิ่งนัก!
สาแก่ใจกว่าเป็นร้อยเท่าเมื่อเทียบกับการตีหลิงฉางเฟิง!
ตีคนย่อมต้องตีเซียวอี้
เซียวอี้ “…”
ข้ามือคัน อยากจะสะบัดหมัดใส่หน้าของคนชั่วที่กำลังได้ใจอย่างหลิงฉางจื้อ
แต่…
เพื่อจวนในเมืองหลวง เขาอดทน!
รอจวนในเมืองหลวงตกถึงมือ เขาย่อมต้องแก้แค้น ใช้ไม้ตีหลิงฉางจื้อสักครั้ง
“น้องชายของข้า!”
หลิงฉางจื้อกระตือรือร้นอย่างมาก “น้องชายจะแต่งงาน ข้าในฐานะพี่ชายย่อมต้องสนับสนุนอย่างเต็มที่ เจ้าอยากซื้อจวนในเมือง ไม่มีปัญหา ข้าจะให้พ่อบ้านไปจัดการที่สำนักราชการ ขายจวนต่อให้เจ้า”
“สัญญา?”
“บุรุษเอ่ยวาจา ม้าสี่ตัวก็ยากที่จะตามกลับคืน!”
“พี่ใหญ่ของข้า ท่านเป็นพี่แท้ๆ ของข้าเสียจริง!”
เซียวอี้กอดหลิงฉางจื้อเอาไว้ ฉวยโอกาส ‘ตบ’ ลงบนหลังของอีกฝ่ายหลายที
ตบอย่างเต็มกำลัง!
เขาตื่นเต้นเพียงใดก็ใช้แรงเพียงนั้น
หลิงฉางจื้อรู้สึกหน้าอกแทบจะถูก ‘ตบ’ จนแบน!
มันคือแรงของคนหรือ
เกินไปแล้วนะ!
จวนยังไม่ตกถึงมือก็กล้าเล่นลูกไม้ เชื่อหรือไม่ว่าเขาจะผิดสัญญา
เซียวอี้หัวเราะ “ท่านลองผิดสัญญาดู เพียงแค่ท่านไม่กังวลว่าข้าจะมุดเข้าห้องของท่านในยามดึก!”
หลิงฉางจื้อ “…”
เหตุใดบนโลกจึงมีคนไร้ยางอายเพียงนี้!
เขาฉีกยิ้ม “น้องชายช่างเป็นชายประหลาดที่หาพบได้ยากบนโลกนี้!”
เซียวอี้หัวเราะ “เช่นกันๆ! ตั้งแต่เล็กจนโต ท่านพี่ก็เป็นแบบอย่างของข้าเสมอมา ข้ายึดท่านพี่เป็นเป้าหมายในการพยายาม!”
“ข้าไม่รู้มาก่อนว่าน้องชายชื่นชมข้าเพียงนี้! ช่างน่าซาบซึ้งยิ่งนัก!”
“ท่านพี่ไม่ต้องตื่นเต้นเพียงนี้! ข้ายังอยากให้ท่านมีชีวิตอยู่อีกหลายปี คนที่ตื่นเต้นง่ายมักมีชีวิตไม่ยืนยาว”
พูดจาเป็นหรือไม่
เขาต้องจงใจอย่างแน่นอน
จงใจพูดให้เขาโกรธ!
หลิงฉางจื้อหายใจเข้าลึกๆ พลันเตือนตัวเองในใจ อย่าถือสาเซียวอี้ มันเสียเกียรติ!
เพียงแต่…
น่าโมโหยิ่งนัก!
ความสามารถอื่นของเซียวอี้อาจไม่ดีนัก
แต่ความสามารถในการทำให้ผู้อื่นโมโห เขาย่อมเป็นที่หนึ่ง!
เซียวอี้มีวันนี้ได้ ท่านอ๋องจงผิงองค์ก่อนเรียกได้ว่ามีความดีความชอบอย่างยิ่ง ถือว่าเป็นตัวอย่างของ ‘บิดาผู้เข้มงวด’ อย่างแน่นอน!
…
จวนในเมืองอยู่ในกำมือ เซียวอี้เรียกได้ว่าจิตใจเบิกบาน เต็มไปด้วยความสุข
ระยะทางห่างจากการแต่งสะใภ้เข้าใกล้อีกก้าวแล้ว
เขานั่งรถม้ากลับจวนอ๋อง
องครักษ์รายงานเขา “รายงานนายน้อย มีคนตามอยู่ด้านหลัง เขาตามมาทั้งทางแล้ว ต้องให้ข้าน้อยไปจัดการคนที่สะกดรอยตามหรือไม่”
เซียวอี้เปิดหน้าต่างรถ กวาดตามองออกไปด้านนอก “รู้ว่าเป็นคนของผู้ใดหรือไม่”
“ยังไม่แน่ชัด!”
เซียวอี้ยิ้มเย็น “จอดรถที่โรงเตี๊ยมด้านหน้า ข้าหิวแล้ว จะเข้าโรงเตี๊ยมไปกินข้าว เจ้าไปบอกคนที่สะกดรอยตาม เรียกเจ้านายของเขามาพบข้า!”
“นายน้อยรู้ว่าผู้ใดสะกดรอยตาม?”
“ลับๆ ล่อๆ ดูจากท่าทางเจ้าเล่ห์นั้น ย่อมต้องเป็นตระกูลเถาอย่างไม่ต้องสงสัย!”
เซียวอี้เข้าไปในโรงเตี๊ยม สั่งอาหารมาหนึ่งโต๊ะ รอคอยนายท่านใหญ่ตระกูลเถามาถึง
เป็นไปอย่างที่คาด นายท่านใหญ่ตระกูลเถาให้คนมาสะกดรอยตามจริงๆ
หลังจากนั้นครึ่งชั่วยาม นายท่านใหญ่ตระกูลเถาก็ปรากฏตัวอยู่ในห้องของโรงเตี๊ยม
“หากข้าจำไม่ผิด พวกเราไม่ได้พบกันมากว่าสามสี่ปี!”
“ใต้เท้าเถาเชิญนั่ง! วันนี้ข้าเป็นเจ้ามือ ใต้เท้าเถาโปรดให้เกียรติ!”
นายท่านใหญ่ตระกูลเถาพินิจสภาพแวดล้อมเล็กน้อย “เป็นเจ้ามือที่นี่?”
เขายิ้มอย่างรู้ทัน สายตาซับซ้อนยิ่งนัก แต่ไม่เห็นว่ามีความแค้นมากมายเท่าใด
เซียวอี้ยิ้ม “อาหารของโรงเตี๊ยมไม่เลว แต่แน่นอนว่าไม่อาจเทียบกับพ่อครัวของตระกูลเถาได้ ความหรูหรายิ่งเทียบไม่ติด ใต้เท้าเถาอย่าได้รังเกียจสถานที่ วันนี้ถูไถไปก่อน ท่านให้คนสะกดรอยตามข้า ย่อมไม่ได้เพื่ออาหารมื้อนี้”
พูดจบ เขาก็ยกมือทำท่าเชิญ
นายท่านใหญ่ตระกูลเถานั่งลงตรงข้ามเซียวอี้
ทั้งสองนั่งเผชิญหน้ากัน ทำให้เห็นอีกฝ่ายได้อย่างชัดเจน
เซียวอี้รินสุรา พลันดื่มก่อน “ท่านวางใจ ไม่มียาพิษ! ข้าไม่จำเป็นต้องฆ่านายท่านรองตระกูลเถาแล้วยังมาฆ่าท่านอีก! ฮ่องเต้องค์ก่อนสวรรคตแล้ว ข้าไม่มีความแค้นกับตระกูลเถา”
นายท่านใหญ่ตระกูลเถาหัวเราะเย้ยหยัน “แต่เจ้าติดหนี้ชีวิตตระกูลเถา!”
เซียวอี้ส่ายหน้าระรัว “ท่านผิดแล้ว! คนที่ติดหนี้ตระกูลเถาคือฮ่องเต้องค์ก่อนและพระพันปีเถา! ข้าไม่ได้ติดค้างตระกูลเถา”
“เจ้าไม่ได้ฆ่าน้องสองของข้า?”
“กรรมเกิดจากเหตุ มีเหตุจึงมีผลตามมา ใต้เท้าเถาอย่าได้ก่อกวนข้าตามแบบเถาฮองเฮา ท่านไม่ได้มีตำแหน่งสูง แต่ยังมุ่งเน้นในการปลุกฝังบุตรหลาน ไม่ใช่เพราะมองทุกอย่างได้ทะลุปรุโปร่งหรือ ข้าคิดว่าท่านคงจะมีสติมากกว่าเถาฮองเฮาเล็กน้อย!”
“เรื่องเกี่ยวกับชีวิตของพี่น้อง มีกี่คนจะใจเย็นได้!”
เซียวอี้เลิกคิ้ว “หากใต้เท้าเถามาหาข้าเพื่อถกเถียงเรื่องการตายของนายท่านรองตระกูลเถา ข้าขอตัว! เวลาของข้ามีข้า ไม่คิดว่าสิ้นเปลืองกับเรื่องในอดีต”
นายท่านใหญ่ตระกูลเถาเผยสีหน้าอับอาย เขาหายใจเข้าลึกๆ เพื่อข่มอารมณ์ที่กำลังคุกรุ่น
เขาครุ่นคิดพลันพูด “ข้าได้ยินข่าวลือหนึ่งมา การตายของเถาชีไม่ใช่อุบัติเหตุ แต่เป็นฝีมือคน คิดไปคิดมา ข้าต้องการพิสูจน์เรื่องนี้ มีเพียงมาหาเจ้า! เจ้ามักรู้ข่าวว่องไว เจ้าบอกข้า เถาชีของข้าถูกคนฆ่าตายใช่หรือไม่ คนที่ฆ่านางคือองค์หญิงเฉิงหยางใช่หรือไม่”
เซียวอี้ขมวดคิ้ว “ผู้ใดบอกท่านว่าคนที่ทำให้เถาชีตายคือองค์หญิงเฉิงหยาง การตายของบุตรสาวท่านไม่มีความเกี่ยวข้องกับองค์หญิงเฉิงหยางแม้แต่น้อย”
“หากพูดเช่นนี้ เถาชีของข้าถูกคนฆ่าตายจริงๆ ไม่ใช่ตายเพราะโรค เจ้าบอกข้า ผู้ใดฆ่าเถาชีของข้า ไม่ใช่องค์หญิงเฉิงหยางจะเป็นผู้ใด เถาชีของข้าตายไป จ้งซูอวิ้นก็อภิเษกกับฝ่าบาท กลายเป็นฮองเฮา ตำแหน่งนั้น ตำแหน่งฮองเฮาเดิมทีเป็นของเถาชี”
นายท่านใหญ่ตระกูลเถายิ่งพูดยิ่งเดือดดาล สีหน้ายิ่งน่ากลัว!
เซียวอี้เลิกคิ้ว “ท่านคิดไม่ถึงว่าผู้ใดทำร้ายบุตรสาวของท่านจริงหรือ ท่านลองทบทวนเรื่องในตอนนั้น เถาชีตายไปหนึ่งปีได้แล้วหรือไม่ ตอนนั้นฝ่าบาทเพิ่งทรงอภิเษกกับจ้งซูอวิ้น จ้งซูอวิ้นถูกแต่งตั้งเป็นฮองเฮาก็ถือว่าเวลาเหมาะเจาะ”
นายท่านใหญ่ตระกูลเถาผงะไป “ไม่ใช่องค์หญิงเฉิงหยางจริงหรือ”
เซียวอี้พยักหน้า “ข้าบอกแล้ว การตายของบุตรสาวท่านไม่มีความเกี่ยวข้องกับองค์หญิงเฉิงหยางแม้แต่น้อย ผู้ใดเป็นคนชี้ทางให้ท่านผิด คุณค่าแก่การวิเคราะห์”
“เจ้าบอกข้า ผู้ใดทำร้ายเถาชีของข้า”
เซียวอี้ยิ้มอย่างมีนัย “ใต้เท้าเถาเดาไม่ออกจริงหรือ หากข้าจำไม่ผิด ตอนที่เถาชีตาย ตระกูลเถากำลังอยู่ในช่วงสั่นคลอน วี่แววการตกต่ำไม่อาจต้านทานได้ ข้าลองถามดู ผู้ใดจะเต็มใจแต่งงานกับตระกูลที่ถูกลิขิตให้ตกต่ำ หลังจากแต่งงานยังต้องถูกทำให้เดือดร้อน!”
“ไม่! เป็นไปไม่ได้!”
นายท่านใหญ่ตระกูลเถาส่ายหน้าระรัว
เซียวอี้ยิ้ม “ข้าพูดเพียงเท่านี้ ใต้เท้าเถาลองไตร่ตรองดูเถิด นอกจากนี้ข้าก็ไม่จำเป็นต้องกุเรื่องโกหก ข้าบอกตั้งแต่แรกแล้ว คนที่ติดหนี้ตระกูลเถาคือฮ่องเต้องค์ก่อนและเถาฮองเฮา ข้าไม่ได้ติดหนี้ตระกูลเถา! ขอตัว!”
“ช้าก่อน! เจ้ามีหลักฐานใดบอกว่านางเป็นคนลงมือ”
เซียวอี้ยิ้ม “ข้าไม่มีหลักฐาน! เรื่องนี้ข้าก็ไม่อาจให้หลักฐานท่านได้ แต่หากท่านมีความสามารถจับเหมยเส้าเจี้ยนมาเค้นถาม ท่านย่อมจะได้คำตอบที่ท่านต้องการ”
“นาง เหตุใดนางจึงใจเหี้ยมเพียงนี้ หากนางไม่เต็มใจ ถอนหมั้นย่อมได้”
“ย่อมทำเพื่ออนาคตของบุตรชาย ถึงแม้เถาชีจะดี แต่การแต่งลูกสะใภ้ที่จะกลายเป็นตัวถ่วงด้วยความไม่เต็มใจ สู้แต่งงานกับบุตรสาวตระกูลอื่นเสียดีกว่า! เห็นได้ชัดว่าถอนหมั้นเป็นแผนการสุดท้าย อย่างไรก็ตาม นางไม่อยากสูญเสียตระกูลเถาไป หากคนตายไป ย่อมจัดการปัญหาทุกอย่างได้ ย่อมถอนหมั้นอย่างสมเหตุสมผล”
“เพียงเพราะสาเหตุนี้”
“เหตุผลนี้ยังไม่พออีกหรือ”
เซียวอี้ยิ้มเสียดสี “นางปิดบังท่านก็ถือว่าเห็นแก่พี่น้อง ข้าแนะนำท่านให้ทำเป็นไม่รู้เรื่องนี้ ใช้ชีวิตเช่นนี้ต่อไปเสียดีกว่า หากแตกคอกัน ไม่มีประโยชน์ต่อท่านแม้แต่น้อย”
นายท่านใหญ่ตระกูลเถาอ้าปากค้าง คำพูดมากมายอัดอั้นอยู่ภายใน พูดไม่ออกแม้แต่คำเดียว
เซียวอี้พูดอีก “เห็นแก่ที่ข้าฆ่านายท่านรองตระกูลเถา ข้าแถมอีกเรื่องให้ท่าน เรื่องนี้ ฝ่าบาททรงรู้ดี”
“เจ้าพูดว่าอย่างไรนะ”
“ข้าบอกว่าฝ่าบาททรงรู้เรื่องนี้แต่แรกว่าเถาชีตายอย่างไร ตายเพราะเหตุใด ท่านคิดว่าเหตุใดตอนนั้นเขาจึงถ่วงเวลากว่าหนึ่งปีจึงยอมอภิเษก ท่านคิดว่าเขามีความรักอันลึกซึ้ง แต่ความจริงแล้วเขาแค่รู้สึกผิด!”
นายท่านใหญ่ตระกูลเถาสะเทือนใจกับเรื่องที่รู้เป็นอย่างยิ่ง!