บทที่ 115 ซิ่วไจ๋ยี่เสนอเงินห้าล้าน
ซิ่วไจ๋ยี่ได้มองไปยังเจียงฮ่าวด้วยท่าทีแปลกๆ
เธอนั้นเริ่มใช้ความคิดของเธออย่างหนัก
ในที่สุด เธอก็ได้พูดออกมา
“คุณเจียง คุณสนใจที่กลายเป็นพ่อครัวมืออาชีพรีเปล่า”
พ่อครัวมืออาชีพเหรอ
ไม่ใช่ว่าเขานั้นไม่เคยคิดเรื่องนี้มาก่อน แต่ในตอนนี้เขานั้นมีระบบแล้ว แล้วทําไมเขา ต้องจมจ่อกับการเป็นพ่อครัวกันล่ะ
เขาไม่ต้องการที่จะทําอาหารไปทั้งชีวิตอย่างแน่นอน
ด้วยระบบ ชีวิตของเขาไม่ควรจะจมจ่อมอยู่แค่นี้
เจียงฮ่าวพูดออกมาโดยไม่ได้หันหน้าไปคุย
“ไม่”
เมื่อได้ยินดังนั้น ดูเหมือนซิ่วไจยี่เองก็ยังคงมีสายตาที่ไม่หมดหวัง เธอได้พูดออกมาด้วยรอยยิ้มในขณะจ้องมองไปยังเจียงฮ่าวในทันที
“ห้าล้านต่อปี”
เจียงฮ่าวเองก็รู้สึกประหลาดใจจนต้องหันไปมองไปยังสาวงามที่ในตอนนี้กําลังใช้พลังเงินยั่วยวนเขาปราดหนึ่ง
ห้าล้านต่อปีเหรอ มันคือฝันที่เขานั้นไม่กล้าจะฝันถึง
แต่เขาในตอนนี้เพียงแค่หยิบหินออกมาไม่กี่ก้อนก็ได้เงินมาเกินล้านแล้ว
นับประสาอะไรกับเงินห้าล้านรายปีแบบนี้กัน
แต่ที่เขาประหลาดใจนั้นเป็นการประหลาดใจในตัวซิ่วไจยี่ที่กล้าเสนอเงินเดือนให้ใครบางคนด้วยเงินรายปีห้าล้านมากกว่า
อย่างที่เขาคิดจริงๆ เธอนั้นสมควรแล้วที่เป็นนายใหญ่แห่งภัตตาคารสวรรค์ชั้นฟ้า
อย่างไรก็ตาม ซิ่วไจ๋ยี่นั้นเมื่อเห็นว่าเจียงฮาวหันมามองปราดนึ่งก็คิดว่าเงินเดือนที่เธอเสนอมา นั้นทําให้เจียงฮ่าวสนใจได้ เธอยิ้มออกมาอย่างยั่วยวน นี่ยิ่งทําให้ใบหน้าของเธอนั้นดูสวยงามมากขึ้นไปอีก
“ถ้าคุณเจียงคิดว่านี่น้อยไปล่ะก็ พวกเราพอจะคุยกันได้อยู่นะ”
เธอไม่เชื่อว่าเธอนั้นจะไม่สามารถดึงตัวเจียงฮ่าวให้มาอยู่กับเธอได้
เจียงฮ่าวไม่ได้พูดอะไรออกมาหลังจากได้ยินเลยสักคํา เขามองไปยังอาหารที่อยู่บนโต๊ะที่อยู่ข้างๆ
บนอาหารจานนี้ เขาได้เห็นตัวอักษรลอยขึ้นมา มันเป็นตัวอักษรที่เจียงฮ่าวเท่านั้นที่เห็นได้
จิตวิญญาณ+2
เมื่อเห็นสิ่งนี้ เจียงฮ่าวได้หันไปหน้าไปหาซิ่วไจยีที่กําลังจ้องมองเขา
“มากกว่าห้าล้านน่ะเหรอ”
ความจริงเงินห้าล้านนี้สามารถที่จะดึงดูดคนมากมายเอาไว้
แต่ซิ่วไจ๋ยี่ทั้งๆที่ยังไม่รู้จักเจียงฮ่าวดีเลยด้วยซ้ํา แต่กลับต้องการที่จะจ้างเขาเป็นพ่อครัวด้วยเงินห้าล้าน
น่าตลกจริงๆ
ตัวเจียงฮ่าวที่มีทักษะของเทพเจ้าโรงครัวที่ทําอาหารธรรมดาออกไปได้อยากจะหาคนได้ทัดเทียม
เพียงแค่ห้าล้านแล้วหวังว่าจะให้เขาทําอาหารที่เสริมทักษะได้ไปปีหนึ่งเนี่ยนะ
“…ถ้าเธอได้กินอาหารจานนี้น่าจะพอเปลี่ยนใจได้ล่ะมั้ง”
เจียงฮ่าวได้มองไปยังซิ่วไจยีและคิดขึ้นมาในใจ
ยิ่งไปกว่านั้นคือด้วยการที่เขานั้นมีระบบอยู่ การไปเป็นพ่อครัวนั้นจะทําให้ระบบไร้ค่าไปอย่างสิ้นเชิง
ซิ่วไจ๋ยี่ในตอนนี้เริ่มทําหน้าแปลกๆ เพราะท่าทางของเจียงฮ่าวนั้นต่างไปจากที่เธอคิดมากนัก
แต่เพื่ออาหารที่มีกลิ่นหอมเย้ายวนนี้ เธอจึงไม่คิดจะยอมแพ้แต่อย่างใด
“ถ้างั้นคุณเจียงต้องการเท่าไหร่ถึงจะยอมเป็นพ่อครัวให้ล่ะ”
เจียงฮ่าวไม่ได้พูดอะไรออกมา เขาส่ายหน้าพร้อมกับหันไปเขย่าหม้อด้วยมือของเขา
“ผมก็ดีใจนะที่ผมนั้นไปเข้าตาคุณได้”
“อย่างไรก็ตาม การทําอาการนี้เป็นเพียงแค่ความสนุกเล็กๆน้อยๆของผมเท่านั้น ผมไม่ ได้สนใจที่จะทําอาหารไปตลอดชีวิตแบบนั้น”
ซิ่วไจ๋ยี่เองถึงกลับพูดไม่ออกในทันทีหลังจากที่ได้ยินคําพูดของเจียงฮ่าว
สําหรับเขาแล้ว การทําอาหารได้ดีเลิสนี้ไม่ต่างไปจากงานอดิเรก
เธอเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะพูดอะไรออกมา ความจริงแล้วเจียงฮ่าวนั้นยังหนุ่มแน่น และเขาเองก็ยังทําอะไรได้มากกว่านี้จริงๆ
ซิ่วไจ๋ยี่ในตอนนี้รู้สึกผิดหวังไปเล็กน้อย
“ขอโทษค่ะคุณเจียง”
ซิ่วไจ๋ยี่เองเมื่อกล่าวขอโทษเสร็จก็ได้เดินออกไปอย่างผิดหวัง
เจียงฮ่าวไม่ได้พูดอะไรออกมาอีก
เพียงชั่วพริบตา เจียงฮ่าวก็ได้จัดเตรียมอาหารเอาไว้เต็มโต๊ะ ระหว่างนี้เอง พ่อของเขาและ ไจ๋หยวนก็ได้กลับมาแล้ว
หลังจากอาหารถูกนําออกไปเสริฟ ทุกคนต่างก็กินกัน
พ่อและแม่ของเจียงฮ่าวนั้นได้มองอาหารบนโต๊ะด้วยความรู้สึกภูมิใจราวกับพวกเขา นั้นเป็นคนทําอาหารเหล่านี้ขึ้นมาเอง
เจียงไซหยวนเองก็ได้มองไปยังเจียงฮาวด้วยความตกตะลึง หลังจากนั้นก็ตามมาด้วยความรู้สึกสับสนอย่างหนัก และพิศวงไปในตัวพี่ชายของเธอคนนี้
เช่นเดียวกับเซียฉินและซินเอ๋อที่ได้กินอาหารตรงหน้า ถึงแม้ทั้งสองจะเคยจะกินมาแล้วก็ตาม แต่ก็ยังอดที่จะรู้สึกมหัศจรรย์พันลึกกับอาหารที่แสนอร่อยตรงหน้าไม่ได้