คุณหนูใหญ่ผู้นี้ไม่ต้องการก้าวหน้า – ตอนที่ 578 เสนาบดีลิ่น ข้าออกโรง ต้องสำเร็จแน่นอน

คุณหนูใหญ่ผู้นี้ไม่ต้องการก้าวหน้า

ตอนที่ 578 เสนาบดีลิ่น ข้าออกโรง ต้องสำเร็จแน่นอน

ปีนี้ฮ่องเต้มีพระชนมายุครบห้าสิบปีพอดี เป็นการฉลองเจิ่งโซ่ว[1]ด้วย อย่าว่าแต่จวนอันเฉิงโหวเลย เหล่าขุนนางผู้มีอำนาจทั่วทั้งต้าเฟิง ไม่มีผู้ใดไม่รีบออกไปเสาะแสวงหาของขวัญล้ำค่าหายากเตรียมเอาไว้ เพื่อให้ได้รับความโปรดปรานจากฝ่าบาท

จวนอันเฉิงโหวเองก็เช่นกัน เริ่มตามหาสมบัติล้ำค่าหายากตั้งแต่ปีที่แล้วแล้ว ในที่สุดก็ใช้อำนาจในมือเอาไข่มุกมังกรวารีหนึ่งเม็ดนี้มาอยู่ในมือได้

เอ่ยตามตรง ไข่มุกมังกรวารีนี้มีขนาดเท่ากำปั้นเด็ก เปล่งประกายแวววาว นอกจากเป็นเครื่องประดับชั้นหนึ่งเอาไว้เชยชม อันเฉิงโหวเองก็ไม่รู้ว่ามันมีประโยชน์อย่างไร

แต่ไม่ว่ามันจะมีประโยชน์อะไร เพียงเพราะมันถูกเอามาจากมังกรวารีอายุห้าร้อยปี ก็มีค่ามากพอแล้ว อีกทั้งมันยังเป็นไข่มุกที่ก่อตัวมาจากมังกรวารี มอบมุกมังกรวารีถวายให้โอรสมังกร[2] ย่อมเป็นคำอวยพรให้มีพระชนมายุอันยืนยาวและมีโชคลาภที่ดี สมบูรณ์แบบนักแล้ว

อันเฉิงโหวคิดว่าเมื่อถวายของขวัญชิ้นนี้ไป จะต้องนำความดีความชอบมากมายมาให้ตระกูลอย่างแน่นอน เหมาะสมยิ่งแล้ว

ดังนั้น เขาจึงเก็บเรื่องที่ได้ไข่มุกมังกรวารีไว้เป็นความลับที่สุด ยังใช้ปะการังสีแดงครึ่งคนเป็นของขวัญเพื่อบังหน้า เพื่อเป็นที่น่าตื่นตาตื่นใจในวันพระราชสมภพ

แต่ความลับที่เขาปกปิด กลับไม่อาจปิดบังตงหยางโหวแห่งทะเลตงไห่ได้ อีกฝ่ายต้องการไข่มุกมังกรวารีนี้ กระทั่งเสนอราคาสูงถึงหนึ่งแสนตำลึง เพียงแต่ตนคิดว่าของมีค่าหายากมีค่าให้เก็บไว้เพื่อราคาที่สูงกว่า ต่อให้อีกฝ่ายส่งที่ปรึกษาอะไรมาเจรจาอย่างต่อเนื่องก็ตาม เขาก็ไม่ยอม เพราะเขาคิดมากกว่านั้น หากตงหยางโหวยืนอยู่ฝั่งตระกูลเหมิง อนาคตองค์ชายน้อยก็จะมีแต้มต่อมาก

น่าเสียดายตงหยางโหวก็ไม่โง่ ก็ได้ เขาก็เพียงหยั่งเชิง คนเขาไม่ยินยอม เช่นนั้นก็ไม่มีอะไรต้องคุย

อันเฉิงโหวไม่คิดว่าเสนาบดีลิ่นเองก็ได้ข่าว ยังมาบอกให้เขาตัดใจทิ้งมันตามตรงเช่นนี้

ปล่อยไปคงไม่อาจปล่อยได้ นี่เกี่ยวข้องกับคุณความชอบของตระกูลของตนเลยด้วยซ้ำ

แต่ก็ไม่อาจหยุดความสงสัยของอันเฉิงโหวได้ว่าเสนาบดีลิ่นจะเอาไข่มุกมังกรวารีนี้ไปทำไม เอาไปเป็นของขวัญเช่นกันหรือ

“เสนาบดีลิ่นข่าวว่องไวกว้างขวาง ตัวโหวข้าไม่ถามว่าท่านได้ข่าวไข่มุกมังกรวารีมาจากที่ใด ข้าเพียงอยากถาม ท่านเสนาบดีต้องการไข่มุกมังกรวารีนี้ไปเพื่อการใด”

เสนาบดีลิ่นยิ้มบางเอ่ยตอบ “ปรุงยา”

ฉินหลิวซีรู้ศาสตร์ทั้งห้าของเสวียนเหมิน วิชาการแพทย์ยิ่งเชี่ยวชาญ นำมาปรุงยาเป็นเรื่องปกติกระมัง ไม่ผิด นำมาปรุงยา ไม่ได้เอาไปทำของลึกลับเหลวไหล

อันเฉิงโหวชะงัก “ปรุงยาหรือ”

เสนาบดีลิ่นพยักหย้า หยิบกล่องยาวออกมา เอ่ย “นี่มีโสมพันปีอยู่หนึ่งต้น ยินดีแลกกับท่านโหว”

อันเฉิงโหวหัวเราะขึ้นมา “โสมพันปีไม่ได้ได้มาง่ายๆ แต่ใช่ว่าจะไม่ได้มา ไข่มุกมังกรวารีนี้กลับหายากเป็นที่สุด อย่างน้อยก็ยังไม่เคยได้ยินว่าในทะเลลึกมีการกลายร่างเป็นมังกร ท่านเสนาบดีดูถูกไข่มุกนี้แล้วหรือไม่”

“มิกล้า อย่างไรก็เป็นวัตถุดิบปรุงยา แน่นอนว่าล้ำค่า มิเช่นนั้นคงไม่แบกหน้ามาขอให้ท่านโหวสละมัน” เสนาบดีลิ่นยังคงสุภาพอ่อนโยน ไม่มีท่าทีถูกคำถากถางของเขากระทบ

อันเฉิงโหวคิดในใจว่าเจ้าเองก็รู้ว่าเจ้าหน้าด้านนี่ ยังกล้าเอ่ยปากอีก

“ของขวัญวันพระราชสมภพชิ้นนี้ข้าทุ่มเทแรงทุ่มเทของไปไม่น้อยกว่าจะได้มา อยากให้ฝ่าบาทได้พึงพอใจ ท่านเสนาบดีมาขัดข้า ข้าก็ไม่รู้จะทูลต่อฝ่าบาทเช่นไรแล้ว”

เสนาบดีลิ่นเก็บโสมพันปีขึ้นมา หยิบกล่องใหม่ออกมา เอ่ย “ท่านโหวยังจำรัชศกเซิ่งเหอปีที่สี่สิบสองได้หรือไม่ เรื่องอดีตองค์รัชทายาทจยารับคำสั่งจากอดีตฮ่องเต้เดินทางไปเจียงหนานเพื่อตรวจสอบเงินบรรเทาภัยพิบัติที่หายไป”

อันเฉิงโหวชะงัก ในใจมีลางสังหรณ์ไม่ดีเกิดขึ้น ลางสังหรณ์ทำให้เขาไม่อยากฟังต่อไป

ว่ากันว่าไม่มีธุระไม่มาสามอุโบสถ[3] เสนาบดีลิ่นมาเพื่อไข่มุกมังกรวารี แต่ว่าตนปฏิเสธไปแล้ว เขาไม่โมโห ทว่าเอ่ยถึงองค์รัชทายาทจยา

องค์รัชทายาทจยาเลยนะ คนผู้นั้นเดิมทีคือคนที่จะได้ขึ้นครองบัลลังก์ ทว่าเพราะเข้าไปเกี่ยวข้องกับการทำยาเซิ่ง[4]วังหลัง จึงถูกขังเอาไว้ยังสำนักกิจการราชวงศ์[5] ต่อมาเพราะก่อกบฏบีบบังคับให้ฮ่องเต้สละบัลลังก์ต้องโทษประหาร กลายเป็นบุคคลที่ไม่ควรเอ่ยถึง

เสนาบดีลิ่นกลับเอ่ยขึ้นมา หากเป็นเรื่องดีสิถึงจะแปลก

รัชศกเซิ่งเหอ ปีที่สี่สิบสอง ก็เป็นช่วงก่อนที่รัชทายาทจยาจะเข้าร่วมการทำยาเซิ่งงั้นหรือ

“ตอนที่องค์รัชทายาทจยาเดินทางไปเจียงหนาน เสนาบดีอย่างข้าตอนนั้นเป็นเจ้าเมืองเมืองอันพอดี ปีนั้นเป็นปีที่เกิดฝนตกกะทันหันและน้ำท่วมอยู่บ่อยครั้ง องค์รัชทายาทจยาตกลงไปน้ำ จากนั้นถูกชาวบ้านผู้หนึ่งช่วยเอาไว้”

อันเฉิงโหวตั้งใจรินน้ำชาของตน ไม่ต้องเอ่ย ก็คงเป็นสามเรื่องเดิมๆ นั่นอย่างแน่นอน

“ชาวบ้านผู้นั้นแซ่มู่ มีบุตรสาวใบ้อยู่ผู้หนึ่งทว่าเกิดมาเป็นหญิงงามโดดเด่น สวยเป็นที่สุด รัชทายาทจยาเสียดายอย่างยิ่ง เมื่อร่วมหลับนอนแล้วก็ถูกผู้ใต้บัญชาตามหาจนเจอและพาตัวกลับไป”

ดูเป็นเรื่องเดิมๆ จริงๆ ด้วย

เดี๋ยวก่อน เรื่องเดิมๆ ก็ยังต้องมีเรื่องตามมาอีกน่ะสิ

เป็นเช่นนั้น เสนาบดีลิ่นเอ่ยต่อ “เพียงหญิงใบ้ ต่อให้งดงามเพียงใดก็ไม่คู่ควรให้องค์รัชทายาทเก็บมาใส่ใจ ยิ่งไปกว่านั้นเป็นเพียงลูกสาวชาวนา ไม่นานก็ถูกรัชทายาทลืมแล้ว”

อันเฉิงโหวทนไม่ไหวแล้ว เอ่ย “ท่านเสนาบดี ที่นี่ก็ไม่มีใครอื่น ท่านเอ่ยออกมาตรงๆ เถิด เรื่องราวราวกับหนังสือนิทาน คงไม่เหมาะสมให้เราอายุปูนนี้มาฟังจนดึกจนดื่นใช่หรือไม่”

เสนาบดีลิ่นหัวเราะขึ้นมา “หญิงใบ้ให้กำเนิดบุตรสาวหนึ่งคน งดงามราวกับเทพเซียน อ่อนโยนราวกับดอกถูซือได้ยินว่ามีปานดอกเหมยแดงอยู่ที่เอว เมื่อมีความสุขกับใคร ปานเหมยแดงนั่นยิ่งบานสะพรั่งดุจดอกไม้ งดงามเป็นที่สุด”

เพล้ง

อันเฉิงโหวชนถ้วยชาพลิกคว่ำ สีหน้าซีดขาว

หลายปีก่อน มีคนมอบม้าผอมให้เขาหนึ่งตัว เป็นหญิงสาวที่เพิ่งเติบโต อ่อนโยนเป็นอย่างมาก ที่สำคัญก็คือยามนางเคลื่อนไหว บริเวณเอวก็จะปรากฏดอกเหมยแดงหนึ่งดอก เขาชอบมาก จึงตามหาครอบครัวชาวนาธรรมดาครอบครัวหนึ่ง ตั้งชื่อนางว่ามู่ซี รับนางเข้ามาเป็นอนุภรรยา

อนุมู่อ่อนหวานงดงาม ทว่าไม่เรื่องมาก หลายปีมานี้ถูกเขารักและเอ็นดูมาโดยตลอด ยังให้กำเนิดบุตรชายหนึ่งคน ปีนี้อายุสิบขวบ บุตรชายไม่เหมือนตนเอง เหมือนกับมู่ซีมาก แต่ก็เหมือน…

อันเฉิงโหวตัวแข็งทื่อ หันไปมองเสนาบดีลิ่นทันใด

เสนาบดีลิ่นหลุบตาลง เสียงของเขาดังทะลุเข้าไปในแก้วหูอันเฉิงโหวราวกับกระชากวิญญาณ เอ่ย “รัชทายาทจยาจากไปแล้วหลายปีเพียงนั้น ฝ่าบาทเองก็ครองบัลลังก์มาเกือบสามสิบปี ทว่ายังมีผู้ใต้บัญชาที่ซื่อสัตย์ซึ่งเชื่อว่ารัชทายาทจยาไม่ได้รับความเป็นธรรม เป็นฝ่าบาทที่จัดฉาก ตั้งใจตามหาผู้สืบทอดของรัชทายาทจยาเพื่อพลิกความถูกต้อง จริงสิ อันเฉิงโหวเองก็เคยเป็นองครักษ์ของฝ่าบาท คงจะเข้าใจยิ่งกว่าขุนนางอย่างข้ากระมัง”

อันเฉิงโหวสัมผัสถ้วยชาด้วยมืออันสั่นเทา สายตาราวกับเป็นพิษจ้องไปที่เขา

ฝ่าบาทมีสิ่งต้องห้ามเกี่ยวกับรัชทายาทจยา เขารู้กระทั่งว่าปีนั้นเพื่อจะสังหารรัชทายาทจยาจึงปล่อยข่าวลือด้านนอก เป็นการจงใจสังหารไม่ยอมปล่อยให้รอดไป

แต่ตอนนี้เสนาบดีลิ่นบอกกับเขาว่ายังมีคนที่เหลืออยู่ซุกซ่อนอยู่ใกล้ตัวเขา และยังให้กำเนิดบุตรชายหนึ่งคนด้วยอย่างนั้นหรือ

หากคนของรัชทายาทจยาที่เหลืออยู่มาตามหา เช่นนั้น…

ต่อให้เขาไม่มีใจกบฏยังต้องถูกฝ่าบาทลงโทษที่ซ่อนเชื้อสายของรัชทายาทจยาเอาไว้ในบ้าน จบสิ้นกันทั้งตระกูล

เหอะ เขามีน้องสาวเป็นกุ้ยเฟยที่เป็นที่โปรดปรานและยังให้กำเนิดบุตรชายเป็นที่พึ่งด้วยอย่างนั้นหรือ

ถุย วังหลังไม่ขาดหญิงงาม และไม่ขาดองค์ชาย องค์ชายน้อยยังเด็ก จะตายเมื่อใดก็ได้ ฝ่าบาทไหนเลยจะสนใจมากกว่าบัลลังก์ที่เขาเอาชนะมาได้อย่างไร

ดังนั้นเรื่องนี้หากเผยออกไป สิ่งที่รอเขาอยู่ ใช้ก้นคิดก็ยังรู้

อันเฉิงโหวสัมผัสลำคอเย็บวูบ หันไปมองเสนาบดีลิ่นที่ยิ้มเสแสร้ง กัดฟันจนเกิดเสียงกึกกัก

มิน่าเล่าผู้คนต่างบอกว่ายามเสนาบดีลิ่นลงมือ ไม่มีความมั่นใจไม่มีทางออกโรง เขากล้ามาถึงบ้าน ที่แท้ก็มีไพ่ตายโจมตีนี่เอง

[1] การฉลองเจิ่งโซ่ว เป็นการเฉลิมฉลองครบรอบทุกๆ 10 ปีหลังจากอายุ 40 ปี จะฉลองครบ 40 50 60 ไปเรื่อยๆ

[2]โอรสมังกร สมัยก่อนเชื่อว่าจักรพรรดิเป็นมังกรที่แท้จริงที่ลงมาจากสวรรค์ จึงเรียกว่าโอรสมังกร

[3] ไม่มีธุระไม่มาสามอุโบสถ เปรียบเปรยว่า ถ้าไม่มีธุระไม่มาหาถึงที่

[4] การทำยาเซิ่ง เป็นคาถาโบราณ เป็นการใช้คาถา คำสาปหรือคำอธิษฐานกดคน สิ่งของหรือสิ่งแปลกประหลาด

[5] สำนักกิจการราชวงศ์ ดูแลเรื่องสาแหรกตระกูลฮ่องเต้และเหล่าราชวงศ์ การเกิด การแต่งงาน การตาย การฝังศพ จดบันทึกเกี่ยวกับราชวงศ์ไว้ทั้งหมด

คุณหนูใหญ่ผู้นี้ไม่ต้องการก้าวหน้า

คุณหนูใหญ่ผู้นี้ไม่ต้องการก้าวหน้า

Status: Ongoing
คุณหนููใหญ่ผู้นี้ไม่ต้องการก้าวหน้านางคือปรมาจารย์ปู้ฉิว แพทย์ผู้ช่วยชีวิตคนและนักพรตผู้เก่งเกาจด้านการทำนายชะตา ไม่ว่าทางโลกหรือจิตวิญญาณนางรักษาได้ทั้งสิ้น!รายละเอียด นิยายโรแมนติก-แฟนตาซีของคุณหนูใหญ่ผู้เป็นเลิศด้านการแพทย์และการทำนายชะตาแต่แสนเกียจคร้านไม่อยากก้าวหน้าผู้หนึ่งฉินหลิวซี คุณหนูใหญ่แห่งตระกูลฉิน นางเติบโตที่ชนบท ได้รับการเลี้ยงดูจากเจ้าอารามของลัทธิเต๋าเพื่อปลูกฝังให้นางขึ้นเป็นเจ้าอารามต่อไปเบื้องหน้านางอาจเป็นเพียงคุณหนูที่ถูกผลักไสแต่เบื้องหลังนางคือปรมาจารย์ปู้ฉิวผู้ที่สามารถรักษาคนเป็นช่วยเหลือคนตายได้เพียงใช้ยันต์กระดาษและเข็มเงินปรมาจารย์จะรักษาโรคและช่วยชีวิตใครนั้นล้วนขึ้นอยู่กับอารมณ์ โชคชะตา และเวรกรรม หากอีกฝ่ายเป็นคนชั่วร้าย ต่อให้มอบทองสักหมื่นตำลึงนางก็ไม่เหลือบแลแม้เพียงนิดเมื่อโชคชะตาที่ตนเคยทำนายให้ตระกูลกลายเป็นจริง ท่านปู่ถูกปลดจากตำแหน่ง บ้านโดนยึดทรัพย์ผู้หญิงและเด็กในตระกูลต้องระเหเร่ร่อนมาอาศัยที่บ้านบรรพบุรุษแห่งนี้เมื่อมีปากที่ต้องกินข้าวเพิ่มขึ้น เงินออมเริ่มร่อยหรอ ตัวขี้เกียจเช่นนางก็จำต้องคลานลงจากเตียงเพื่อรับงานหาเงินมาเลี้ยงคนในครอบครัวเฮ้อ แม้ไม่หวังการก้าวหน้าใดๆ แต่สวรรค์กลับไม่ยอมให้ทำเช่นนั้นเพราะเมื่อความโด่งดังของนางไปเข้าหูของ ฉีเชียน จวิ้นอ๋องจากเมืองหลวงเข้าเขาก็ดั้นด้นเดินทางมาเชิญนางไปรักษาคน เอาเถอะ ช่วยเหลือคนนั้นย่อมเพิ่มบุญกุศลที่สำคัญคือเพิ่มเงินในกระเป๋า!“เอ๊ะ คุณชายฉีมีเรื่องให้ครุ่นคิดเมื่อคืนจึงนอนหลับไม่สบายหรือ”“ฝันร้ายตลอดทั้งคืนน่ะ”“ไม่เป็นไร คุณชายฉีแค่มีเรื่องให้คิดมากในยามกลางวัน ท่องคาถาชำระจิตสักสองรอบก็จะดีขึ้นเอง”“ข้าคิดว่า ถ้าท่านหมอฉินให้ยันต์คุ้มครองแก่ข้าสักสองชิ้นน่าจะได้ผลดีกว่า” ฉีเชียนเอ่ย“ยันต์คุ้มครองมีเงื่อนไข ผู้มีวาสนาจึงจะได้ไป…”ฉีเชียนยื่นตั๋วเงินจำนวนหนึ่งร้อยตำลึงไปให้อย่างรู้ความ“เดิมทีท่านกับข้าไม่มีวาสนาต่อกัน ทั้งหมดเป็นเพราะท่านทุ่มเงิน ผู้ใจบุญมีเมตตา เทียนจวินคุ้มครองให้พรนับไม่ถ้วน”“….”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท