คุณหนูใหญ่ผู้นี้ไม่ต้องการก้าวหน้า – ตอนที่ 588 พูดคุยเกี่ยวกับฮวงจุ้ยสกปรก

คุณหนูใหญ่ผู้นี้ไม่ต้องการก้าวหน้า

ตอนที่ 588 พูดคุยเกี่ยวกับฮวงจุ้ยสกปรก

เมื่อทุกคนเห็นศพสัตว์ตัวเล็กๆ ที่แม่นมใช้ผ้าเช็ดหน้ารองไว้อย่างชัดเจน ก็มีสีหน้าเปลี่ยนไปอย่างมาก เจียงเหวินเหยียนหันหน้าหนีแล้วอาเจียนออกมา

ฉินหลิวซีหยิบปิ่นเงินมาจากโต๊ะเครื่องแป้ง เขี่ยดูกระดูก จากนั้นก็ยัดปิ่นเงินกลับเข้าไปในมือของเฉียวจื่อหลิง เอ่ยว่า “มันคือกระดูกแมว เล็กขนาดนี้ คงจะตายหลังจากที่คลอดออกมาทันที”

เฉียวจื่อหลิง “…”

ทำไมต้องยัดปิ่นปักผมนี้ใส่มือเขา

เขามองดูศพ รู้สึกคลื่นไส้เล็กน้อย ท่าทางจะอาเจียนสองครั้ง โยนปิ่นเงินใส่มือแม่นม “มอบให้เจ้าก็แล้วกัน”

เจียงเหวินหลิวถามด้วยสีหน้ามืดครึ้ม “นี่คือสิ่งที่พบบนคานประตูหรือ”

แม่นมพยักหน้าด้วยสีหน้าซีด “บ่าวขึ้นไปดูด้วยตัวเอง มันห่อด้วยผ้าสีดำ ยัดไว้ที่มุมใต้ชายคาเจ้าค่ะ”

เจียงเหวินหลิวจ้องมองเฉียวจื่อหลิงอย่างอาฆาต สายตาเต็มไปด้วยคำถามและคาดโทษ

เฉียวจื่อหลิงถูกสายตานี้ทำให้ตกใจจนถอยหลังสองก้าว โบกมือพลางกล่าวว่า “ข้าไม่รู้เรื่องอะไรทั้งนั้น”

เขารู้สึกว่าถูกใส่ร้ายจริงๆ คนปกติทั่วไปที่ไหนจะสนใจว่ามีของสกปรกวางไว้อยู่บนที่สูงอย่างชายคาเรือน

ฉินหลิวซี ‘อืม ข้าไม่ใช่คนปกติ!’

หลังจากที่เจียงเหวินเหยียนอาเจียน สีหน้าก็ยิ่งซีดลงกว่าเดิม ใช้น้ำมันยาฤทธิ์เย็นทาบนร่างกาย สาวใช้พยุงเดินกลับมาอีกครั้ง มองฉินหลิวซีพลางถามว่า “ท่านเจ้าอาวาสน้อย เป็นสิ่งนี้ที่ทำให้ร่างกายของข้าไม่ปกติมาเป็นเวลานาน จนมีกระบอกยาเป็นสหายหรือ”

“จะเอ่ยเช่นนั้นก็ได้ ว่ากันว่าหนึ่งชีวิต สองโชคชะตา สามฮวงจุ้ย บางครั้งฮวงจุ้ยก็สามารถเปลี่ยนโชคลาภของคนได้ ฮวงจุ้ยที่ดีช่วยให้มีโชค ส่วนฮวงจุ้ยที่ไม่ดีย่อมทำให้โชคลาภตกต่ำ อย่างเช่นห้องนอนของท่าน ดูเหมือนจะตกแต่งอย่างธรรมดาทั่วไป แต่มันกำลังทำลายความสัมพันธ์ระหว่างสามีภรรยาของพวกท่านทั้งสอง” ฉินหลิวซีชี้ไปที่โต๊ะที่วางอ่างล้างหน้า เอ่ยว่า “ตรงนั้นยังวางกระจกบานเล็กไว้อีกด้วย ซึ่งหันหน้าไปทางเตียงนอน ตอนที่ท่านตื่นมากลางดึกแล้วจู่ๆ ก็เห็นเงาคนในกระจกก็จะตกใจจนนอนไม่หลับใช่หรือไม่”

เจียงเหวินเหยียนมองไปยังกระจกเล็กบานนั้น เป็นเช่นนั้นจริงๆ บางครั้งก็ถูกทำให้ตกใจจนตื่นตระหนกเป็นอย่างมาก แต่กลับไม่เคยคิดถึงเรื่องนี้เลย

“เมื่อสามีภรรยาไม่ลงรอยกัน ก็ย่อมทะเลาะกันเป็นส่วนมาก ต้องแยกทางกันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ รวมถึงความไม่สบายเนื้อไม่สบายตัวของท่าน บางเรื่องไม่อาจทำได้ดั่งใจ สามีกลับไม่เข้าใจ ยิ่งทำให้เกิดการทะเลาะ ก็ยิ่งทำให้ท่านเสียใจ และยิ่งทำให้ยากต่อการแก้ไขภาวะซึมเศร้า”

เจียงเหวินเหยียนมองไปยังเฉียวจื่อหลิง เฉียวจื่อหลิงรู้สึกผิดเล็กน้อย

“หลังจากเอ่ยถึงฮวงจุ้ยในห้องนี้แล้ว เรามาเอ่ยถึงศพแมวกันดีกว่า แมวกับเสือรูปร่างคล้ายกัน ทางด้านหลิ่งหนานมีน้ำแกงมังกรเสือหงส์เป็นน้ำแกงบำรุงในฤดูหนาว แต่ใช้มังกร เสือ หงส์มาทำน้ำแกงจริงๆ หรือ ย่อมไม่ใช่เช่นนั้น เพียงแค่ใช้งู แมว ไก่มาต้มกับสมุนไพรเป็นน้ำแกงบำรุง ดังนั้นการเปรียบแมวเป็นเสือ ก็สมเหตุสมผล และเสือก็เป็นราชาของสัตว์ มีนิสัยดุร้าย ศพลูกแมวนี้ถูกยัดไว้ใต้ชายคา เดิมทีก็เป็นมนต์ดำอย่างหนึ่ง ในทุกๆ วันท่านต้องเดินใต้ชายคานี้ ย่อมติดพลังความขุ่นเคืองและความดุร้ายของมัน ซึ่งจะทำให้อารมณ์ของท่านฉุนเฉียว โดยเฉพาะหลังตั้งครรภ์”

เมื่อทุกคนได้ยินเช่นนี้ก็มึนหัวเล็กน้อย มีรายละเอียดมากมายเพียงนี้เชียวหรือ

พวกเขามองดูกระดูกเล็กๆ นั่นอีกครั้ง ต่างพากันตัวสั่น

“แต่ว่าใต้ชายคานี้ก็ไม่ได้มีนางเดินผ่านแค่คนเดียว ข้าก็เดิน ซ้ำยังมีบรรดาบ่าวรับใช้เหล่านี้อีก เหตุใดจึงเป็นแค่นางคนเดียว” เฉียวจื่อหลิงยังคงไม่เข้าใจ หลายปีมานี้ ผู้ที่เข้าออกห้องก็ไม่ได้มีแค่เจียงเหวินเหยียน เหตุใดจึงมีผลกระทบต่อนางมากที่สุด

ฉินหลิวซีชี้ไปที่ห้องนอน “ก็ยังมีอิทธิพลของฮวงจุ้ยในห้องนอนด้วยไม่ใช่หรือ ทั้งสองเสริมซึ่งกันและกัน ดังนั้นนางจึงต้องแบกรับมากกว่าคนอื่นๆ แม้กระทั่งท่านก็ไม่เท่านาง เพราะท่านไม่ได้นอนที่นี่ทุกวันอย่างแน่นอน” นางยิ้มใบหน้านิ่งพลางมองเฉียวจื่อหลิง เอ่ยต่อว่า “สิ่งที่สำคัญที่สุดคือนางเป็นคนเดียวที่ตั้งครรภ์”

นางคว่ำกระจกบานเล็กลง จากนั้นจึงเอ่ย “สตรีมีครรภ์ต้องทนแบกรับมากกว่าที่พวกท่านคิด ร่างกายเปลี่ยนแปลงไป รูปร่างไม่สมส่วน กลัวจะสูญเสียความโปรดปรานของสามี กลัวว่าบุตรจะไม่แข็งแรง กระทั่งกลัวการคลอดบุตร แต่ละอย่าง บุรุษอย่างพวกท่านจะเข้าใจได้อย่างไร ยิ่งไม่ได้มีการรับรู้ความรู้สึกเช่นเดียวกัน เพราะคนที่รับผิดชอบตั้งครรภ์และคลอดบุตรไม่ใช่ท่าน”

เฉียวจื่อหลิงถูกกล่าวเหน็บแนมจนหน้าแดง

“นางล้มป่วยด้วยปัจจัยทั้งหมดนี้ และเกิดจากปัจจัยภายนอก จากนอกบ้านสู่ในบ้านเป็นวงจร สภาพแวดล้อมไม่เปลี่ยนแปลง ทำให้ส่งผลกระทบต่อนางโดยที่มองไม่เห็น โมโหง่าย ขี้อิจฉา ยากที่จะสงบสติอารมณ์ภายในใจ ร่างกายย่อมฟื้นตัวได้ยาก” ฉินหลิวซีทอดถอนใจ

เจียงเหวินเหยียนร้องไห้เบาๆ เจียงเหวินหลิวเดินไปอยู่ข้างนาง ตบไหล่นางเบาๆ สายตาเต็มไปด้วยความเจ็บปวด เหลือบมองเฉียวจื่อหลิงอย่างเย็นชาพลางกัดฟันเอ่ย “มีคนเจตนาไม่ดีตั้งแต่แรก จงใจทำร้ายพี่หญิงของข้า เรื่องสกปรกในเรือนเช่นนี้ ต้องเชิญให้ฮูหยินมาดูสักหน่อย สตรีตระกูลเจียงของข้าใช่ว่าใครก็รังแกได้ตามอำเภอใจ แม่นมจัง เจ้าไปเชิญเดี๋ยวนี้”

“เจ้าค่ะนายน้อย” แม่นมจังก็โกรธมากเช่นกัน พวกนางทั้งหมดได้รับการฝึกฝนให้ระมัดระวังเรื่องสกปรกในเรือน แต่คิดไม่ถึงว่าจะมีคนเล่นงานเรื่องฮวงจุ้ย พวกนางเองก็ไม่ได้เข้าใจเรื่องภายนอกเหล่านี้ ซ้ำยังมีศพแมวอีก ไม่รู้ว่าทำมากี่ปีแล้ว ร้ายมากจริงๆ

เจียงเหวินเหยียนกลับก้าวเข้าไปคว่ำอ่างปลาลงบนพื้น อ่างเครื่องเคลือบแตกกระจาย ปลาสองตัวดิ้นอยู่บนพื้น ทำเอาทุกคนต่างตกใจ

นางเดินข้ามปลาตัวนั้นไป ตะโกนเรียกแม่นมจังไว้ “อย่าพึ่งไป” นางมองไปยังฉินหลิวซี แล้วเอ่ยต่อว่า “ยังมีอะไรที่ผิดปกติอีก ขอให้เจ้าอาวาสน้อยช่วยค้นหาทีละอย่าง จากนั้นก็จับชีพจรเขียนใบสั่งยาให้ข้า”

“พี่หญิง?” เจียงเหวินหลิวขมวดคิ้ว หรือว่านางต้องการยุติเรื่องนี้

เจียงเหวินเหยียนเอ่ยอย่างเย็นชาว่า “ไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าร่างกายของข้า ของสกปรกเหล่านี้ได้ถูกเปิดเผยแล้วก็ไม่สามารถทำร้ายข้าได้อีก และคนที่ทำร้ายข้า ข้าจะหาตัวออกมาเอง แต่ตอนนี้สิ่งที่สำคัญที่สุดคือร่างกายของข้า ไม่อาจรอช้าได้”

นางแต่งเข้ามาในจวนติ้งกั๋วกงก็เป็นเวลาห้าปีแล้ว ตั้งครรภ์และมีบุตรมานานแค่ไหน นางก็ป่วยมานานแค่นั้น นางพบหมอหลวงมานับไม่ถ้วน แต่ไม่มีใครรักษานางได้จริงๆ โรคนี้กำเริบขึ้นอยู่เรื่อยๆ ไม่เคยหายขาด เพราะดื่มยามาหลายปีร่างกายจึงอ่อนแอ สีหน้าซีดขาว เรื่องนั้นยังไม่เท่าไหร่ สิ่งที่น่ารำคาญที่สุดก็คืออารมณ์ที่ไม่มั่นคง ทำให้แม่สามีและคนอื่นๆ ไม่กล้าให้นางเลี้ยงบุตรไว้ข้างกาย เพราะกลัวจะทำให้เด็กตกใจ

บุตรไม่ได้อยู่ข้างกาย สามีก็ปฏิบัติต่อนางไม่ดีเหมือนตอนแต่งงานใหม่ๆ ซึ่งทำให้นางหงุดหงิดและฉุนเฉียว การกระทำก็ยิ่งสูญเสียการควบคุมและขอบเขตมากขึ้นเรื่อยๆ เมื่อมีเรื่องที่ไม่เป็นดั่งใจเพียงนิดเดียวก็ต้องการจะอาละวาด นางคิดเสมอว่าเป็นเพราะอาการป่วยรุมเร้า หมอทุกคนก็คิดเช่นนั้น แต่ตอนนี้สถานการณ์กลับแตกต่างไปจากที่นางคิด

อาการป่วยของนางใช่ว่าจะรักษาไม่หาย แต่มีคนไม่อยากให้นางหายดี จงใจวางกับดักไว้ตั้งแต่ต้น วางยาพิษที่มองไม่เห็นที่ค่อยๆ ออกฤทธิ์แก่นาง ค่อยๆ ทำร้ายร่างกายและอารมณ์ของนาง และในที่สุดนางก็เปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง ไยจึงได้มีเจตนาชั่วร้ายเช่นนี้

แต่นางกลับไม่รู้อะไรเลย เข้าไปติดกับอย่างง่ายดาย

ดังนั้นนางต้องแน่ใจก่อนว่าร่างกายของนางไม่มีปัญหาอะไร แล้วจึงค่อยพูดถึงเรื่องอื่น

เจียงเหวินเหยียนคำนับฉินหลิวซีอย่างเคร่งขรึม “ท่านเจ้าอาวาสน้อย โปรดวินิจฉัยอาการป่วยและเขียนใบสั่งยาให้ข้าด้วยเถิด”

คุณหนูใหญ่ผู้นี้ไม่ต้องการก้าวหน้า

คุณหนูใหญ่ผู้นี้ไม่ต้องการก้าวหน้า

Status: Ongoing
คุณหนููใหญ่ผู้นี้ไม่ต้องการก้าวหน้านางคือปรมาจารย์ปู้ฉิว แพทย์ผู้ช่วยชีวิตคนและนักพรตผู้เก่งเกาจด้านการทำนายชะตา ไม่ว่าทางโลกหรือจิตวิญญาณนางรักษาได้ทั้งสิ้น!รายละเอียด นิยายโรแมนติก-แฟนตาซีของคุณหนูใหญ่ผู้เป็นเลิศด้านการแพทย์และการทำนายชะตาแต่แสนเกียจคร้านไม่อยากก้าวหน้าผู้หนึ่งฉินหลิวซี คุณหนูใหญ่แห่งตระกูลฉิน นางเติบโตที่ชนบท ได้รับการเลี้ยงดูจากเจ้าอารามของลัทธิเต๋าเพื่อปลูกฝังให้นางขึ้นเป็นเจ้าอารามต่อไปเบื้องหน้านางอาจเป็นเพียงคุณหนูที่ถูกผลักไสแต่เบื้องหลังนางคือปรมาจารย์ปู้ฉิวผู้ที่สามารถรักษาคนเป็นช่วยเหลือคนตายได้เพียงใช้ยันต์กระดาษและเข็มเงินปรมาจารย์จะรักษาโรคและช่วยชีวิตใครนั้นล้วนขึ้นอยู่กับอารมณ์ โชคชะตา และเวรกรรม หากอีกฝ่ายเป็นคนชั่วร้าย ต่อให้มอบทองสักหมื่นตำลึงนางก็ไม่เหลือบแลแม้เพียงนิดเมื่อโชคชะตาที่ตนเคยทำนายให้ตระกูลกลายเป็นจริง ท่านปู่ถูกปลดจากตำแหน่ง บ้านโดนยึดทรัพย์ผู้หญิงและเด็กในตระกูลต้องระเหเร่ร่อนมาอาศัยที่บ้านบรรพบุรุษแห่งนี้เมื่อมีปากที่ต้องกินข้าวเพิ่มขึ้น เงินออมเริ่มร่อยหรอ ตัวขี้เกียจเช่นนางก็จำต้องคลานลงจากเตียงเพื่อรับงานหาเงินมาเลี้ยงคนในครอบครัวเฮ้อ แม้ไม่หวังการก้าวหน้าใดๆ แต่สวรรค์กลับไม่ยอมให้ทำเช่นนั้นเพราะเมื่อความโด่งดังของนางไปเข้าหูของ ฉีเชียน จวิ้นอ๋องจากเมืองหลวงเข้าเขาก็ดั้นด้นเดินทางมาเชิญนางไปรักษาคน เอาเถอะ ช่วยเหลือคนนั้นย่อมเพิ่มบุญกุศลที่สำคัญคือเพิ่มเงินในกระเป๋า!“เอ๊ะ คุณชายฉีมีเรื่องให้ครุ่นคิดเมื่อคืนจึงนอนหลับไม่สบายหรือ”“ฝันร้ายตลอดทั้งคืนน่ะ”“ไม่เป็นไร คุณชายฉีแค่มีเรื่องให้คิดมากในยามกลางวัน ท่องคาถาชำระจิตสักสองรอบก็จะดีขึ้นเอง”“ข้าคิดว่า ถ้าท่านหมอฉินให้ยันต์คุ้มครองแก่ข้าสักสองชิ้นน่าจะได้ผลดีกว่า” ฉีเชียนเอ่ย“ยันต์คุ้มครองมีเงื่อนไข ผู้มีวาสนาจึงจะได้ไป…”ฉีเชียนยื่นตั๋วเงินจำนวนหนึ่งร้อยตำลึงไปให้อย่างรู้ความ“เดิมทีท่านกับข้าไม่มีวาสนาต่อกัน ทั้งหมดเป็นเพราะท่านทุ่มเงิน ผู้ใจบุญมีเมตตา เทียนจวินคุ้มครองให้พรนับไม่ถ้วน”“….”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท