คุณหนูใหญ่ผู้นี้ไม่ต้องการก้าวหน้า – ตอนที่ 618 สาเหตุหลักคือฝันร้าย

คุณหนูใหญ่ผู้นี้ไม่ต้องการก้าวหน้า

ตอนที่ 618 สาเหตุหลักคือฝันร้าย

วิญญาณใกล้จะแตกสลายไปแล้ว เพียงแค่เนื้อหนังมีหรือจะให้ไม่ได้ ปลามังกรแดงโลหิตดีใจมากที่ฉินหลิวซีถามเกี่ยวกับเรื่องนี้ก่อน จึงตอบตกลงทันที

มันเหลือบมองขวดหยกที่บรรจุปลาน้อยอย่างทำใจไม่ได้ ก่อนจะตัดใจ และเมื่อนึกขึ้นมาได้ก็ถอนคำสาป จากนั้นจึงพยักหน้าโค้งคำนับฉินหลิวซี วิญญาณกลายเป็นเถ้าถ่านสลายไปท่ามกลางแสงแดดอย่างรวดเร็ว

เมื่อนายท่านใหญ่ซูกับฮูหยินใหญ่ซูเห็นดังนั้นก็ไม่สบายใจเล็กน้อย ในใจรู้สึกหนักอึ้ง

“ฮูหยินใหญ่ คุณหนูตื่นแล้วเจ้าค่ะ” มีสาวใช้รีบวิ่งมารายงาน

กลุ่มคนพากันไปที่เรือนของซูจื่อเหออีกครั้ง

ซูจื่อเหอตื่นแล้วจริงๆ คราวนี้นายท่านใหญ่ซูและคนอื่นๆ ที่เป็นบุรุษไม่ได้เข้าไป นายหญิงใหญ่ซูกับฉินหลิวซีเดินเข้าไป มองไปยังแผ่นหลังของนาง

“ไม่มีแล้ว ไม่มีแล้วจริงๆ ด้วย เหอเอ๋อร์ เจ้ารู้สึกอย่างไรบ้าง ยังคันอยู่หรือไม่”

ซูจื่อเหอขมวดคิ้วพลางส่ายหน้า “ไม่คันแล้ว แค่รู้สึกเจ็บมาก หลังของข้ารู้สึกปวดแสบปวดร้อนไปหมด” นางเอ่ยพลางมองไปยังฉินหลิวซีอย่างเขินอาย กล่าวว่า “ท่านแม่เหตุใดท่านจึงพาบุรุษที่เป็นคนนอกเข้ามาด้วย”

ฮูหยินใหญ่ซูชะงักไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็หัวเราะ กล่าวว่า “เจ้าเด็กโง่ นี่คือท่านเจ้าอาวาสน้อย เป็นคนที่องค์ชายสามเชิญมาตรวจอาการคันให้เจ้า เป็นนักพรตหญิง”

ซูจื่อเหอตกใจ

เป็นสตรีอย่างนั้นหรือ

“ท่านเจ้าอาวาสน้อย ท่านว่าตอนนี้บุตรของข้าเป็นอย่างไรบ้าง หลังของนาง…”

ฉินหลิวซีมองดู คำสาปหายไปแล้ว ปากปลามากมายเหล่านั้นก็ไม่มีแล้ว แต่เนื่องจากก่อนหน้านี้นางเกาหลังอย่างแรงเพราะอาการคัน จึงได้รับบาดเจ็บ ผิวหนังของเด็กสาวละเอียดบอบบาง ตอนนี้ผิวหนังถูกเกาจนเป็นแผล กลายเป็นรอยขีดข่วนขนาดใหญ่ หากไม่เจ็บจึงจะเป็นเรื่องแปลก

“ล้วนเป็นอาการบาดเจ็บภายนอก ใช้ขี้ผึ้งทาก็จะค่อยๆ ดีขึ้นเอง” ฉินหลิวซีก้าวไปข้างหน้า จับข้อมือนางขึ้นมา วางสองนิ้วลงไป เอ่ยว่า “ยังมีอาการปัจจัยภายนอกที่เกิดจากลม ดื่มยาสองครั้ง รับแสงแดดบ้าง”

“ขี้ผึ้งนี้สามารถรักษาหายได้หรือ จะทิ้งรอยแผลเป็นหรือไม่” ฮูหยินใหญ่ซูรู้สึกปวดใจเมื่อมองดูแผ่นหลังของนาง

“แค่ใช้ยาขี้ผึ้งลบรอยแผลเป็นบรรเทาอาการบวมที่คุณภาพดีสักหน่อย ข้าเชื่อว่าพวกท่านหามาได้ไม่ยาก เครื่องหอมบำรุงพรรณอวี้เสวี่ยจียิ่งช่วยให้หายเร็วขึ้น”

ตระกูลซูก็มีผู้ที่ได้เป็นพระสนม สามารถหายาดีๆ เช่นนี้ได้ง่ายกว่าผู้อื่น อีกทั้งยังมีองค์ชายสามด้วยไม่ใช่หรือ

“อวี้เสวี่ยจีนั้นหายากมาก” แน่นอนว่าฮูหยินใหญ่ซูรู้ว่าเครื่องหอมบำรุงพรรณอวี้เสวี่ยจีนั้นเป็นของดี แต่ยาอันล้ำค่าที่มีมูลค่าพันตำลึงทอง แม้แต่พระสนมฮุ่ยเฟยที่อยู่ในวังก็ยังไม่มี

“หากไม่มีก็เลือกยาดีที่รองลงมาหน่อย ร้านยาตำหนักอายุวัฒนะก็มียาขี้ผึ้งที่ลบรอยแผลเป็นได้ดีเช่นกัน”

ฮูหยินใหญ่ซูตอบรับ

ซูจื่อเหอถามขึ้นมาว่า “ท่านแม่ เมื่อครู่ท่านบอกว่าหลังของข้าไม่มีแล้ว อะไรหายไปหรือ”

ทันใดนั้นสีหน้าของฮูหยินซูก็เปลี่ยนไป มองไปยังฉินหลิวซี ไม่รู้ว่าควรบอกดีหรือไม่ เรื่องนี้น่าตกใจเกินไป นางเกรงว่าจะกลายเป็นปมในใจของบุตรสาว แม้แต่ตัวเองยังคิดว่าจะฝันร้ายตอนกลางคืนเป็นแน่

“บอกความจริงดีกว่าปิดบัง” ฉินหลิวซีเอ่ยว่า “แม่นางเองก็โตแล้ว จะให้นางรู้ก็ไม่เป็นไร นางก็ควรจะรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับความต้องการชั่วขณะของตัวเอง นี่เป็นสิ่งที่นางควรแบกรับ อีกอย่างนางก็ใกล้จะหมั้นหมายแล้ว การปิดบังทุกอย่างอาจไม่ใช่เรื่องดีสำหรับนาง”

ฮูหยินใหญ่ซูตกตะลึง กล่าวว่า “ท่านกล่าวถูกแล้ว” นางมองไปยังซูจื่อเหอพลางเอ่ย“แม่สิต้องถามเจ้า สระบัวนั้นอยู่ดีๆ มาตลอด เหตุใดจู่ๆ เจ้าจึงโวยวายจะถมสระเพื่อปลูกต้นโบตั๋น เกือบจะเกิดเรื่องใหญ่กับเจ้าแล้วรู้หรือไม่”

ซูจื่อเหอตะลึงเล็กน้อย สายตามีความมึนงง กล่าวว่า “ลูก ลูกก็ไม่รู้ ก่อนที่จะถมสระลูกฝันมาก่อน ในฝันมีคนให้ลูกถมสระ สระนั้นไม่เหมาะกับชื่อของข้า หากไม่ถมจะทำให้ข้ามีโชคร้ายใหญ่หลวง ตอนที่ข้ายืนอยู่ที่สระนั่น เสียงนั้นดังอยู่ข้างหูข้าตลอด ข้าก็เลย…ท่านแม่ เกิดเรื่องใหญ่อะไรขึ้นกับข้าหรือ”

ฮูหยินใหญ่ซูตกใจ มองไปยังฉินหลิวซี

ฉินหลิวซีหรี่ตาลง กล่าวว่า “เจ้าผ่อนคลายลง หลับตาแล้วนึกถึงความฝันนั้น ข้าขอดูหน่อย”

หลังจากที่นางเอ่ยจบก็สวดอวยพรเป็นทำนอง เสียงกระซิบเบาๆ ก้องอยู่ข้างหู ทำให้รู้สึกผ่อนคลายไปทั้งตัว

ซูจื่อเหอเชื่อฟังเป็นอย่างมาก หลับตาลง ฟังคำแสดงความยินดี สติเริ่มจมลง ค่อยๆ นึกถึงความฝันนั้น

ฉินหลิวซี ใช้มือข้างหนึ่งร่ายคาถา ร่องรอยแห่งความคิดเข้าสู่ทะเลแห่งความนึกคิดของนาง เข้าไปในความทรงจำนั้น

หมอกอันหนาทึบถูกนางผลักออกไป นางได้ยินเสียงนั้น จากนั้นก็เห็นเงาสีดำที่ไม่มีร่างกายแต่เต็มไปด้วยความชั่วร้าย เมื่อเห็นฉินหลิวซี หมอกดำนั่นก็สลายไป

ฉินหลิวซีลืมตาขึ้นมา มองฮูหยินใหญ่ซูพลางเอ่ย “เป็นฝันร้าย”

เมื่อเห็นว่าพวกนางสีหน้ามึนงง ฉินหลิวซีจึงอธิบายว่า “มันเป็นฝันร้าย ทั้งชั่วร้ายและมืดมน ชอบเล่นหยอกล้อกับคนในความฝันเป็นพิเศษ ทำให้จิตใจของคนสับสน กระทั่งหลอกให้คนทำชั่ว”

“ท่านหมายความว่าที่เหอเอ๋อร์เป็นเช่นนี้เพราะถูกฝันร้ายครอบงำหรือ” ฮูหยินใหญ่ซูอุทานด้วยความตกใจ “อยู่ดีๆ ไยจึงถูกฝันร้ายครอบงำเสียได้ เจ้าเด็กคนนี้มีนิสัยไร้เดียงสา จะไม่ทำเรื่องที่ไม่ดี”

ฉินหลิวซีเอ่ย “การที่ถูกฝันร้ายครอบงำใช่ว่าจะต้องมีจิตใจมืดมนเท่านั้น พวกมันยังชอบคนที่มีจิตวิญญาณบริสุทธิ์ หากสามารถหลอกล่อให้คนเช่นนี้ทำชั่วได้ พวกมันก็จะรู้สึกประสบความสำเร็จเป็นพิเศษ”

ประสบความสำเร็จในการทำให้ดวงวิญญาณอันบริสุทธิ์แปดเปื้อน เป็นเรื่องที่สิ่งชั่วร้ายชอบและรู้สึกว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก

นางหยุดไปครู่หนึ่ง แล้วกล่าวเสริมว่า “และอาจเป็นเพราะปัจจัยภายนอก”

ซูจื่อเหอเริ่มสับสนมากขึ้นเรื่อยๆ เอ่ย “ท่านแม่ พวกท่านกำลังคุยเรื่องอะไรกัน”

ฮูหยินใหญ่ซูอธิบายสาเหตุของอาการประหลาดที่นางได้รับอย่างละเอียด ฉินหลิวซีพูดถูกแล้ว บอกความจริงดีกว่าปิดบัง แม้ว่าบุตรสาวจะไม่รู้เรื่อง แต่นางกลับเป็นคนออกคำสั่ง จึงทำให้ปลามังกรแดงโลหิตที่มีการฝึกบำเพ็ญอันยิ่งใหญ่ต้องตาย นี่เป็นผลกรรมที่นางเกี่ยวข้องด้วย ไม่ควรที่จะไม่รู้อะไรเลย

ปลามังกรที่งดงามตัวนั้น ช่างน่าเสียดายจริงๆ

หลังจากที่ซูจื่อเหอได้ฟังดังนั้น ใบหน้าเล็กๆ ก็ค่อยๆ ซีดลง จนกระทั่งไร้สีสัน ขอบตาแดงก่ำในทันที น้ำตาไหลพราก ถามด้วยน้ำเสียงสั่นเครือว่า “ท่านแม่ ข้าฆ่าปลาตายไปหนึ่งตัวจริงๆ หรือ”

ฮูหยินใหญ่ซูพยักหน้า

ซูจื่อเหอเอามือปิดปาก นางไม่รู้ว่ามีปลาเช่นนี้อยู่ในสระ ทั้งยังเป็นภูตปลา?

ทั้งความรู้สึกอยากรู้ ทั้งรู้สึกผิด ซ้ำยังรู้สึกโทษตัวเองผสมปนเปกันไปหมด ทำเอานางสั่นไปทั้งตัว

เป็นไปได้อย่างไร

ฉินหลิวซีเดินกลับมาพร้อมกับถุงหอม “นี่เป็นของใคร”

“ของข้า” ซูจื่อเหอเอ่ยพลางสะอึกสะอื้นว่า “พี่หญิงรองเป็นคนทำให้ข้า บอกว่าเอาไว้ไล่แมลง”

ฮูหยินใหญ่ซูกลับหัวใจเต้นแรง ฉินหลิวซีไม่มีทางถามถึงถุงหอมโดยไร้สาเหตุ ในนี้มีอะไรที่ไม่เหมาะสมหรือ

“ท่านเจ้าอาวาสน้อย ในนั้นมีของไม่ดีอะไรหรือ”

ฉินหลิวซีวางผ้าเช็ดหน้าลงบนโต๊ะ เปิดถุงหอมออก เทเครื่องหอมข้างในลงบนผ้าเช็ดหน้า ใช้ปิ่นปักผมเขี่ยดู เขี่ยเครื่องหอมในนั้นออกมา กล่าวว่า “นี่คือดอกติงเซียง[1] ข้าเห็นว่ามีดอกกล้วยไม้ปลูกอยู่ในห้องของแม่นาง ล้วนมีกลิ่นแรง โดยเฉพาะเมื่ออุณหภูมิลดลงในตอนกลางคืน เมื่อสูดดมเป็นเวลานานจะทำให้รู้สึกหงุดหงิด กระสับกระส่าย ทำให้นอนไม่หลับ ไม่น่าแปลกใจเลยที่ฝันร้ายมีโอกาสเข้ามา แน่นอนว่าแม่นางในจวนของท่านล้วนเป็นคนดี บางทีอาจเป็นความผิดพลาด”

ซูจื่อเหอเบิกตาโต หมายความว่าพี่หญิงองจงใจทำร้ายนางหรือ

ใบหน้าของฮูหยินใหญ่ซูกลับเต็มไปด้วยความโกรธ

เป็นความผิดพลาดอะไรกัน เกรงว่าจะเป็นเพราะได้ยินว่าพระสนมฮุ่ยเฟยมีความต้องการที่จะให้บุตรสาวในจวนแต่งงานกับองค์ชายสามจึงได้มีความคิดที่ไม่ดีกระมัง!

[1] ดอกติงเซียง ดอกไลแลค

คุณหนูใหญ่ผู้นี้ไม่ต้องการก้าวหน้า

คุณหนูใหญ่ผู้นี้ไม่ต้องการก้าวหน้า

Status: Ongoing
คุณหนููใหญ่ผู้นี้ไม่ต้องการก้าวหน้านางคือปรมาจารย์ปู้ฉิว แพทย์ผู้ช่วยชีวิตคนและนักพรตผู้เก่งเกาจด้านการทำนายชะตา ไม่ว่าทางโลกหรือจิตวิญญาณนางรักษาได้ทั้งสิ้น!รายละเอียด นิยายโรแมนติก-แฟนตาซีของคุณหนูใหญ่ผู้เป็นเลิศด้านการแพทย์และการทำนายชะตาแต่แสนเกียจคร้านไม่อยากก้าวหน้าผู้หนึ่งฉินหลิวซี คุณหนูใหญ่แห่งตระกูลฉิน นางเติบโตที่ชนบท ได้รับการเลี้ยงดูจากเจ้าอารามของลัทธิเต๋าเพื่อปลูกฝังให้นางขึ้นเป็นเจ้าอารามต่อไปเบื้องหน้านางอาจเป็นเพียงคุณหนูที่ถูกผลักไสแต่เบื้องหลังนางคือปรมาจารย์ปู้ฉิวผู้ที่สามารถรักษาคนเป็นช่วยเหลือคนตายได้เพียงใช้ยันต์กระดาษและเข็มเงินปรมาจารย์จะรักษาโรคและช่วยชีวิตใครนั้นล้วนขึ้นอยู่กับอารมณ์ โชคชะตา และเวรกรรม หากอีกฝ่ายเป็นคนชั่วร้าย ต่อให้มอบทองสักหมื่นตำลึงนางก็ไม่เหลือบแลแม้เพียงนิดเมื่อโชคชะตาที่ตนเคยทำนายให้ตระกูลกลายเป็นจริง ท่านปู่ถูกปลดจากตำแหน่ง บ้านโดนยึดทรัพย์ผู้หญิงและเด็กในตระกูลต้องระเหเร่ร่อนมาอาศัยที่บ้านบรรพบุรุษแห่งนี้เมื่อมีปากที่ต้องกินข้าวเพิ่มขึ้น เงินออมเริ่มร่อยหรอ ตัวขี้เกียจเช่นนางก็จำต้องคลานลงจากเตียงเพื่อรับงานหาเงินมาเลี้ยงคนในครอบครัวเฮ้อ แม้ไม่หวังการก้าวหน้าใดๆ แต่สวรรค์กลับไม่ยอมให้ทำเช่นนั้นเพราะเมื่อความโด่งดังของนางไปเข้าหูของ ฉีเชียน จวิ้นอ๋องจากเมืองหลวงเข้าเขาก็ดั้นด้นเดินทางมาเชิญนางไปรักษาคน เอาเถอะ ช่วยเหลือคนนั้นย่อมเพิ่มบุญกุศลที่สำคัญคือเพิ่มเงินในกระเป๋า!“เอ๊ะ คุณชายฉีมีเรื่องให้ครุ่นคิดเมื่อคืนจึงนอนหลับไม่สบายหรือ”“ฝันร้ายตลอดทั้งคืนน่ะ”“ไม่เป็นไร คุณชายฉีแค่มีเรื่องให้คิดมากในยามกลางวัน ท่องคาถาชำระจิตสักสองรอบก็จะดีขึ้นเอง”“ข้าคิดว่า ถ้าท่านหมอฉินให้ยันต์คุ้มครองแก่ข้าสักสองชิ้นน่าจะได้ผลดีกว่า” ฉีเชียนเอ่ย“ยันต์คุ้มครองมีเงื่อนไข ผู้มีวาสนาจึงจะได้ไป…”ฉีเชียนยื่นตั๋วเงินจำนวนหนึ่งร้อยตำลึงไปให้อย่างรู้ความ“เดิมทีท่านกับข้าไม่มีวาสนาต่อกัน ทั้งหมดเป็นเพราะท่านทุ่มเงิน ผู้ใจบุญมีเมตตา เทียนจวินคุ้มครองให้พรนับไม่ถ้วน”“….”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท