ตอนที่ 518 ชาวเมืองอย่างพวกเธอเล่นใหญ่กันจริง ๆ
ตอนที่ 518 ชาวเมืองอย่างพวกเธอเล่นใหญ่กันจริง ๆ
เฉินเจียซิ่งมองหลินเซี่ยลงมือราวกับร่ายมนตร์ ทรงผมของเขาเปลี่ยนไปจนแทบจำไม่ได้ในไม่กี่วินาที ในที่สุดเขาก็กลับมาหล่อเหลาเหมือนเดิมทุกระเบียดนิ้ว จนลืมเรื่องทรงผมไม่เข้าท่าเมื่อก่อนหน้าไปทันที และขอบคุณเธออย่างจริงใจ “พี่สะใภ้ มันดีกว่าที่เคยทำมาก่อนเยอะเลย ขอบคุณนะ”
เฉินเจียซิ่งลุกขึ้นจัดระเบียบตัวเอง เมื่อหันกลับมาก็เห็นหยางหงเสียยืนรอระหว่างแต่งหน้าไปด้วย
“ว้าว หงเสีย วันนี้คุณสวยมากเลยนะ”
ดวงตาของเฉินเจียซิ่งเบิกกว้าง
เป็นครั้งแรกที่เขาได้เห็นหยางหงเสียสวยบาดตาขนาดนี้
รู้สึกเหมือนเปลี่ยนไปเป็นคนละคน
หลังจากสวมชุดแต่งงาน แต่งหน้า และมัดผม บุคลิกกับรูปลักษณ์ของหล่อนก็เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง
ก่อนหน้านั้นเขาคิดว่าหยางหงเสียเป็นคนเรียบ ๆ ไม่หวือหวา แต่ร่าเริงแจ่มใสเหมือนดวงอาทิตย์ดวงน้อย
เมื่อมองหล่อนตอนนี้ หัวใจเฉินเจียซิ่งก็เต้นระรัวว้าวุ่นราวกับว่าจำหล่อนไม่ได้
หลังจากแต่งหน้าแต่งตัวแล้ว ใบหน้าของหล่อนก็ดูมีมิติมากขึ้น แถมสัดส่วนยังดูเพรียวระหงมากขึ้นไม่แพ้ดาราเลย
หญิงสาวตรงหน้าเขางดงามมากจนจู่ ๆ เขาก็รู้สึกหัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะ
“มาเตรียมถ่ายรูปกันเถอะ เดี๋ยวผมจะคอยจัดตำแหน่งให้”
“อืม”
เฉินเจียซิ่งและหยางหงเสียเดินเข้ามายังด้านหน้าม่านฉากหลัง เมื่อจางซ่วนปรับมุมกล้องเสร็จแล้ว จึงเข้าไปช่วยจัดตำแหน่งและท่าทางให้พวกเขา
ทางหลินเซี่ยเปลี่ยนเสื้อผ้าอย่างรวดเร็ว
เฉินเจียเหอตามไปช่วยเธอ โดยเข้ามาช่วยจัดทรงกระโปรงให้เธอ
ช่วงเวลาที่หลินเซี่ยเปลี่ยนเสื้อผ้าและหันหลังกลับไปนั่นเอง…
ความประหลาดใจของเฉินเจียซิ่งเมื่อเห็นหยางหงเสียเมื่อครู่ ยังดูน้อยกว่าหนึ่งในหมื่นที่เฉินเจียเหอแสดงด้วยซ้ำ
เขายืนตัวตรงเหมือนทหารกล้า สวมเสื้อเชิ้ตสีขาว และกางเกงขายาวสีดำ มองเธอในชุดแต่งงานสีขาวนวลตรงหน้าค่อย ๆ หันกลับมา ทันใดนั้นดวงตาเขาก็เต็มไปด้วยความประหลาดใจ หลงใหล และรักใคร่อันลึกซึ้ง
หลินเซี่ยหมุนตัวไปมา พลางยิ้มจนตาหยี “เป็นไงบ้างคะ? ฉันตั้งใจเลือกชุดนี้เป็นพิเศษเลยนะคะ”
“สวยมาก” เฉินเจียเหอเดินเข้ามาใกล้ แล้วตอบกลับด้วยเสียงแหบห้าว
เขายืนตัวตรงอยู่หน้าเธอ มองเธอด้วยสายตาร้อนผ่าวราวลุกเป็นไฟ…
หลินเซี่ยพูดขึ้นด้วยความไม่สบายใจ “ขอโทษนะ ฉันยังไม่ได้แต่งหน้าเลย”
“อา” เขารู้ตัวว่าตัวเองกำลังปั่นป่วน จึงรีบตั้งสติ เมื่อเห็นเธอยกกระโปรงขึ้นแล้วเดินไปที่กระจกเขาก็เดินตามไป
หลินเซี่ยเริ่มลงมือแต่งหน้าทันที แต่เฉินเจียเหออยากจะบอกว่าเธอไม่จำเป็นต้องแต่งหน้าเลย เพราะเธอสวยจนเขาไม่อาจละสายตาได้อยู่แล้ว
หลินเซี่ยแค่แต่งหน้าเจ้าสาวในลุคเบา ๆ รวบผมเล็กน้อยตามความสวยงามของยุคนี้ที่ใคร ๆ มักทำกัน
ผมทั้งสองข้างม้วนมาปิดแก้มทั้งสองข้าง ตรงปลายดัดลอนเล็กน้อย และยังมีเวลสีขาวนวลสวมอยู่บนหัว
เธอโดดเด่นสมวัยอยู่แล้ว แถมใบหน้าก็ยังอ่อนเยาว์ ซึ่งการแต่งหน้ามากเกินไปจะทำให้เธอดูแก่กว่าวัยแทน
ขณะตรวจดูความพร้อมหลังแต่งหน้า เฉินเจียเหอก็ยืนพิงโต๊ะแต่งหน้าอยู่ พลางเฝ้ามองเธอจากด้านข้าง
เมื่อหลินเซี่ยเพิ่งแต่งหน้าเสร็จ หลินเยี่ยนก็เห็นใครบางคนอยู่หน้าประตู จึงรีบออกไปทักทายต้อนรับ
หลินเยี่ยนรู้สึกประหลาดใจมาก เมื่อเห็นพวกเขา “คุณอา หมอเย่ พี่ชาย ลมอะไรหอบมาถึงนี่กันล่ะคะเนี่ย?”
เซี่ยอวี่ถอดแว่นกันแดดออกแล้วเดินเข้าไปข้างในด้วยรอยยิ้ม “ฉันได้ข่าวมาว่าเซี่ยเซี่ยจะถ่ายรูปพรีเวดดิ้ง พอดีเราไม่มีอะไรทำ เลยจะเข้ามาดูสักหน่อย”
ส่วนหลินจินซานเองก็แอบขับรถของเซี่ยไห่มาในขณะที่เขาหลับอยู่ และพาเซี่ยอวี่กับเย่ไป๋ติดมาด้วย
ทันทีที่เดินผ่านประตูเข้ามา พวกเขาก็เห็นเฉินเจียเหอสวมชุดเจ้าบ่าวที่ดูเป็นทางการมาก
หลินเซี่ยก็แต่งตัวจัดเต็มไม่แพ้กัน โดยเธอกำลังจัดคิ้วให้เฉินเจียเหออยู่
คิ้วของเขาเป็นคิ้วทรงดาบทั่ว ๆ ไปที่ยังมีขนคิ้วส่วนเกินขึ้นประปราย ซึ่งเธอต้องการกันคิ้วของเขาให้ดูเฉียบคมขึ้น
“โอ้สวรรค์ แต่งออกมาแล้วสวยขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย?”
หลินจินซานอุทานเมื่อเห็นน้องสาวตัวเอง
ดวงตาของเซี่ยอวี่และเย่ไป๋ก็เต็มไปด้วยความประหลาดใจเหมือนกัน
“คุณอา วันนี้ว่างเลยมาที่นี่ได้เหรอคะ?”
“ก็มาดูพวกเธอถ่ายรูปกันนี่แหละ”
หลังจากเซี่ยอวี่พูดจบ หล่อนก็ได้ยินใครบางคนกำลังถ่ายรูปกันอยู่หลังม่าน จึงถามขึ้นว่า “มีลูกค้าเหรอ?”
“เป็นเฉินเจียซิ่งกับหวานใจของเขาน่ะค่ะ”
จากนั้นเซี่ยอวี่ก็เปิดม่านขึ้น เห็นเฉินเจียซิ่งและหยางหงเสียกำลังถ่ายรูปกันด้วยสีหน้ามีความสุข
ระหว่างที่เฉินเจียซิ่งและหยางหงเสียกำลังถ่ายรูป พวกเขาไม่ค่อยกังวลมากนัก และไม่แสดงท่าทางแข็งกระด้างเลย หนุ่สาวคู่นี้ให้ความร่วมมือได้ดีมาก
โดยเฉพาะหนุ่มสาวที่มีความรักแบบอิสระเหมือนคู่นี้ พวกเขาต่างไม่เขินอายที่จะต้องสัมผัสกันและกัน
หลังจากทั้งสองถ่ายรูปกันเสร็จแล้ว เฉินเจียซิ่งก็เห็นคนรู้จักจำนวนหนึ่งยืนรออยู่ข้างนอก เขาจึงทักทายอย่างกระตือรือร้น จากนั้นสายตาก็จับจ้องไปทางหลินเซี่ย
“โอ้ พี่สะใภ้ สวยกว่าหงเสียอีกนะเนี่ย”
หลังเขาชมเชยเสร็จ หยางหงเสียก็เดินตามออกมา เฉินเจียซิ่งจึงรีบแก้ตัวพูดว่า “หงเสีย อย่าโกรธเลยนะ ในใจผมคุณสวยที่สุดอยู่แล้ว”
หยางหงเสียตอบกลับว่า “ฉันไม่โกรธหรอก พี่สะใภ้สวยและมีเสน่ห์มากกว่าฉันจริง ๆ”
“พี่สะใภ้ ถึงคิวถ่ายรูปแล้ว เดี๋ยวทางนี้ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนนะ”
หลินเซี่ยเลือกม่านฉากด้วยตัวเอง หลินจินซานจึงไปช่วยจางซ่วนเปลี่ยนฉากด้วยกัน จากนั้นเฉินเจียเหอก็ช่วยหลินเซี่ยจับชายกระโปรงขณะเดินไปยังตำแหน่งเตรียมถ่ายรูป
ในฐานะช่างภาพมากประสบการณ์ จางซ่วนยังคงรู้สึกกดดันเมื่อต้องถ่ายภาพพรีเวดดิ้งให้กับเจ้านายของตัวเอง
โดยเฉพาะอย่างยิ่งรังสีของเฉินเจียเหอ พอเขามายืนอยู่ตรงหน้านั้นก็ให้ความรู้สึกกดดันมาก
ด้วยสีหน้าเคร่งขรึมแบบนั้น เมื่อถ่ายภาพออกมาก็จะแข็งทื่อเป็นไม้กระดานอย่างแน่นอน
ในฐานะช่างภาพ สิ่งที่น่าปวดหัวที่สุดคือลูกค้าที่แสดงออกไม่เก่ง
ถ่ายไปสิบครั้งก็จะเหมือนกันทั้งหมด
อย่างไรก็ตาม ในวินาทีถัดมาจางซ่วนก็ตระหนักว่าเขากังวลมากเกินไป
เขาเพิ่งปรับโฟกัสได้ไม่นาน เมื่อเงยหน้าขึ้น ก็เห็นว่าทั้งคู่โพสท่าเรียบร้อยแล้ว
ทั้งสองดูแตกต่างจากคู่รักทั่วไปโดยสิ้นเชิง
“ซานเหยี่ย มาถ่ายท่านี้ดูก่อนสิ คุณคิดกับท่าโพสของเรายังไงบ้าง?”
เมื่อพูดแบบนั้น ทั้งสองก็เริ่มแสดงท่าโพสต่อไปให้เห็น
หน้าผากของพวกเขาสัมผัสกัน ทั้งคู่หลับตาสนิท สร้างบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความรักและเสน่หา
เมื่อจับคู่กับฉากพื้นหลังสีฟ้าด้านหลังแล้วก็ยิ่งดูสวยงามสดใสมาก
จางซ่วนไม่ได้พูดอะไร แค่บรรจงกดชัตเตอร์ไป
จากนั้น หลินเซี่ยก็ดึงเฉินเจียเหอเข้าสู่ตำแหน่งอื่นเพื่อโพสท่า
พวกเขาต่างมองหน้ากันและกันพร้อมเผยรอยยิ้มสบาย ๆ หลินเซี่ยถือดอกไม้ปลอมไว้ในมือข้างหนึ่ง การเคลื่อนไหวดูผ่อนคลายและเป็นธรรมชาติ ส่วนเฉินเจียเหอล้วงมือข้างหนึ่งไว้ในกระเป๋า ทำสีหน้าน่ารักสบาย ๆ พลางมองหน้ากันอย่างพึงพอใจ แค่มองตากันก็เห็นสายตาเปี่ยมรักอันลึกซึ้งท่วมท้นของทั้งคู่
ทันทีที่จางซ่วนถ่ายกับฉากหลังนี้เสร็จ เจ้าบ่าวก็เริ่มจูบเบา ๆ บนแก้มเจ้าสาว และเจ้าสาวก็แสดงสีหน้าเขินอาย
จางซ่วน “…”
“ซานเหยี่ย กดชัตเตอร์เร็ว ๆ เราทุกคนพร้อมแล้ว”
จางซ่วนยกกล้องขึ้น กดถ่ายภาพอันสวยงามที่อยู่ตรงหน้าเขาเอาไว้
“ซานเหยี่ย ฉันไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนนะ อีกเดี๋ยวเราจะถ่ายทำฉากสุดท้ายกัน”
หลินเซี่ยรีบไปยังห้องแต่งตัว แล้วเปลี่ยนเป็นชุดในลุคที่ดูมีชีวิตชีวามากขึ้น
จากนั้นเฉินเจียเหอก็ถอดชุดสูทออก แล้วสวมเพียงเสื้อเชิ้ตกับเนกไทหูกระต่ายเท่านั้น
หลินเซี่ยขอให้หลินเยี่ยนเอาเก้าอี้มา เฉินเจียเหอนั่งอยู่บนเก้าอี้ ส่วนเธอยืนพิงเขาและบีบหูของเฉินเจียเหอ
ขณะพวกเขากำลังถ่ายรูป คนอื่น ๆ ก็ยกม่านขึ้น แล้วยืนดูพวกเขาด้วยสีหน้าประหลาดใจ
เมื่อเห็นการออกท่าโพสต่าง ๆ ของพวกเขา เฉินเจียซิ่งก็รู้สึกตกตะลึงมาก
“โอแม่เจ้า เทียบกับคนอื่นแล้ว เรานี่เป็นซอมบี้ไปเลย”
โชคดีที่เฉินเจียซิ่งรู้สึกว่าเขาทำตัวหล่อและเปิดเผยมาก เพราะเขากอดเอวของหยางหงเสียขณะถ่ายรูป
ในอีกภาพหนึ่ง หยางหงเสียก็เป็นฝ่ายกอดคอเขาบ้าง
ขณะนี้ สิ่งที่เขาอยากจะพูดก็คือพี่ชายคนโตของเขาเป็นคนที่น่าเบื่อมาก
อย่างไรก็ตาม ถึงพวกเขาทั้งสองจะแสดงท่าทางอันเรียบง่ายและแสดงออกอย่างเป็นธรรมชาติ แต่ต้องซ้อมที่บ้านล่วงหน้ามาไม่น้อย
หลินจินซาน ชายหนุ่มที่มีอายุถึงวัยอันสมควรที่จะแต่งงานและเพิ่งเริ่มตกหลุมรัก เมื่อเห็นฉากตรงหน้านี้ ก็รู้สึกตกตะลึงไม่น้อย “ชาวเมืองอย่างพวกเขาเล่นใหญ่กันจริง ๆ”
เขาเองก็อยากตกอยู่ในห้วงรักแบบนี้บ้าง
………………………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
นั่นต้องขึ้นอยู่กับว่าพี่เหอถ่ายรูปกับใครน่ะค่ะ พี่เหอก็มีมุมโรแมนติกอย่าบอกใครเหมือนกันน้า
ไหหม่า(海馬)