เข้าสู่โลกนิยายเพื่อไปเป็นแม่เลี้ยงจอมโหดของสามวายร้าย – บทที่ 524 ข้าเปิด ข้าปิด

เข้าสู่โลกนิยายเพื่อไปเป็นแม่เลี้ยงจอมโหดของสามวายร้าย

บทที่ 524 ข้าเปิด ข้าปิด

เด็กคนนั้นร้อนใจขึ้นมา หากพวกเขาหนีไป และเขาไม่สามารถพาคนกลับไปได้ นายท่านจะไม่ฆ่าเขาอย่างนั้นหรือ?

เขาดึงแขนของอาชิงเอาไว้ “นั่นเป็นเรือนของท่านเจ้าเมือง คนทั่วไปจะไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าไปด้านใน พวกเจ้าอย่าไปเลยมันอันตราย พวกเราไปเล่นซ่อนแอบที่เรือนของข้าไม่ดีกว่าหรือ?”

ทว่าอาอินกับอาชิงอยากไปที่เรือนของซือถูรุ่ยมากจริง ๆ

เพราะเล่นซ่อนแอบที่ใดก็เล่นได้ อีกทั้งที่เล่นของหมู่บ้านตระกูลเฉินยังมีมากกว่าที่นี่เสียอีก

แต่เด็กคนนั้นก็จับอาชิงเอาไว้ไม่ยอมปล่อย กังวลจนเหงื่อเย็นผุดขึ้นมาบนหน้าผาก ใบหน้าของเขาเวลานี้ไม่มีรอยยิ้มหลงเหลืออยู่อีกแล้ว

อาอินมองเขา พลางกลอกตาเล็กน้อย “เช่นนั้นก็ได้ พวกเราเล่นกันที่นี่เถอะ แต่เจ้าต้องปล่อยมือเขาก่อน”

“ที่นี่ก็ไม่ได้ พวกเจ้าต้องไปเล่นที่เรือนของข้า”

หากอาอินยังมองว่านี่ผิดปกติไม่ออกอีกละก็ ก็เสียแรงที่อยู่กับจี้จือฮวนและเผยยวนแล้ว

นางดึงมือเด็กคนนั้นออก “เช่นนั้นพวกเราก็ไม่อยากเล่นกับเจ้าแล้ว เจ้าอยากจะทำอะไรก็เรื่องของเจ้า”

นางดึงอาชิงเดินไปทางเรือนของซือถูรุ่ย

เด็กคนนั้นคิดไม่ถึงว่าอาอินจะมีแรงมากเพียงนี้ กระชากจนข้อมือของเขาเจ็บไปหมด แต่ก็ทำได้แค่กัดฟันแล้วเดินตามไป “ที่เรือนของข้ามีของอร่อยเยอะแยะเลย จริง ๆ นะ ไปด้วยกันเถอะ”

อาอินหันหน้าไปแล้วเอ่ยอย่างระอา “เจ้ามีกฎมากเกินไป พวกเราไม่อยากเล่นกับเจ้า เจ้าหลบไปจะดีกว่า อย่ามาขวางทางพวกเรา”

“พวกเจ้า…” เขาคิดจะโน้มน้าวต่อ แต่หลังจากเห็นคนที่ยืนอยู่ใต้ชายคา เขาก็ก้มศีรษะลงด้วยความหวาดกลัวทันที “นายท่าน”

เจ้าตัวเล็กทั้งสองคนมองตามเขาไป จึงได้เห็นว่าเป็นชายที่พวกเขาเคยพบที่ท่าเรือข้ามฟากวันนั้น อาอินยืนบังหน้าอาชิงเอาไว้ คิดไม่ถึงว่าชายผู้นั้นจะเลียริมฝีปากของตัวเองเหมือนวันนั้นอีกแล้ว

ชายผู้นั้นก้าวออกมาช้า ๆ คอเสื้อเปิดกว้าง ยังไม่ทันเดินมาใกล้ อาอินก็สังเกตเห็นว่าเด็กคนนั้นตัวสั่นเทาราวกับเห็นผีร้าย

หานฉียืนอยู่ไม่ไกล ทว่าราวกับคนไม่มีตัวตน

หากไม่สังเกตก็คงคิดว่าเด็กทั้งสองคนนี้ถูกหลอกออกมา

“เด็กรับใช้ตัวน้อยของจีฝูเย่ เฉลียวฉลาด น่ารักจริง ๆ มาให้อาดูหน้าหน่อยสิ” ชายผู้นั้นกวักมือเรียกพวกเขา

บนนิ้วมือทั้งห้าที่ยื่นออกมานั่น ทุกเล็บล้วนทาน้ำมันทาเล็บสีแดงสดเอาไว้

อาอินรู้สึกขนลุกขึ้นมา

“อามีลูกอมด้วยนะ มานี่เร็ว อาจะให้พวกเจ้าได้ลองชิม” ดวงตาหรี่ยาวของชายผู้นั้นโค้งเป็นเส้นยามพูดออกมา ริมฝีปากบางอ้าพะงาบ ๆ ก่อนจะล้วงมือเข้าไปในอกเสื้ออยู่พักหนึ่ง และหยิบเอาลูกอมออกมาสองเม็ด สายตาก็ยังพิจารณาพวกเขาไม่หยุด เห็นได้ชัดว่าพอใจเด็กวัยเท่านี้อย่างมาก

เด็กน้อยเช่นนี้ กินอร่อยที่สุดแล้ว

“นี่ลูกอมอะไรกัน ถึงกล้าเอามาหลอกคน” เมื่ออาชิงเห็นลูกอมก็วิจารณ์ออกมาทันที “ดูก็รู้ว่าไม่อร่อย”

“…” เส้นเลือดบนขมับของชายผู้นั้นถึงกับเต้นตุบ ๆ “หืม เจ้าพูดว่าอะไรนะ?”

“ข้าบอกว่าวิธีการของเจ้ามันเก่าเกินไปแล้ว โจรลักพาตัวข้างถนนยังรู้เลยว่าลูกอมนี้ไม่มีคนกิน เจ้าคิดจะหลอกเด็ก อย่างน้อยก็ควรเอาความจริงใจออกมาบ้าง!” อาชิงปรายตามองเขาตั้งแต่หัวจรดเท้าด้วยความรังเกียจ ก่อนจะกระซิบกระซาบกับอาอิน “พี่หญิง เขาใช่โจรลักพาตัวมืออาชีพหรือไม่ขอรับ เช่นนั้นพวกเราจะทำหน้าที่แทนสวรรค์ดีหรือไม่?”

อาอินไม่ชอบหน้าชายผู้นี้มาตั้งนานแล้ว ดวงตาของเขากวาดมองไปทั่วด้วยความเจ้าเล่ห์ แค่เห็นก็ทำให้คนรู้สึกขยะแขยงแล้ว

“เจ้าผีน้อย!” ชายผู้นั้นโยนลูกอมทิ้ง แล้วสาวเท้าเดินเข้าไปหาอาชิงทันที “สุราคำนับไม่ดื่ม ชอบดื่มสุราลงทัณฑ์ ตามข้าเข้าไปในเรือน และปรนนิบัติข้าเสียดี ๆ ไม่อย่างนั้นชีวิตน้อย ๆ ของพวกเจ้า คงต้องจบลงตรงนี้แล้ว!

อย่างไรเสียจีฝูเย่นั่น ก็ไม่มีทางมีปัญหากับข้าเพราะเด็กรับใช้ปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมแค่สองคนอยู่แล้ว!”

ชายผู้นั้นพูดไป ใบหน้าก็เผยรอยยิ้มชั่วร้ายออกมา “ไปเถอะ ข้าจะให้พวกเจ้าได้รู้ว่าอะไรคือสวรรค์แห่งความสุข”

เขาเพิ่งจะก้าวไปข้างหน้าได้หนึ่งก้าว พริบตาต่อมาก็ต้องเบิกตาโพลง และถอยไปทางด้านหลังทันที พร้อมกับมองอาชิงอย่างหวาดระแวง

เขาเห็นอาชิงล้วงงูหนังนิ่มสองตัวออกมาจากกระเป๋าใบเล็ก แต่เมื่อพบว่าเอาออกมาผิดก็ยัดกลับเข้าไปใหม่ จากนั้นจึงหยิบกล่องไม้ใบเล็กใบหนึ่งออกมา

ที่งานเลี้ยงเมื่อวานนี้ มีใครไม่เคยเห็นกล่องไม้นี่บ้าง!

นั่นเป็นของที่สามารถเอาชีวิตคนได้จริง ๆ

สิ่งนี้ทำให้ชายผู้นั้นหวาดกลัวเป็นอย่างมาก

เดิมทีอาชิงต้องการเอาไส้เดือนน้อยที่เพิ่งขุดออกมาทำให้เขาขยะแขยงเล่น แต่คิดไม่ถึงว่าแค่เขาเห็นกล่องใบเล็กนี่ก็กลัวเสียแล้ว

ดังนั้นอาชิงจึงกะพริบตาปริบ ๆ แล้วเปิดกล่องออกพร้อมทั้งหันไปทางชายผู้นั้น

เมื่อแสงสีแดงพุ่งออกมา ชายผู้นั้นก็ถอยออกไปอย่างต่อเนื่อง เขาหลับตาลงหมุนตัวและกระโดดหลบ!

ทว่าชายเสื้อยังคงถูกเผาจนเป็นรูหลายรู และยังมีประกายไฟกำลังลุกลามอีกด้วย

เขาตบชายเสื้อด้วยความตื่นตระหนกอยู่หลายครั้ง จึงดับเปลวไฟเหล่านั้นได้

เวลานี้อาชิงปิดกล่องลงแล้ว

ชายผู้นั้นจึงถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก กำลังจะยิ้มและพูดว่า เขาก็แค่ต้องการล้อเล่นเท่านั้น

แต่อาชิงกลับยกยิ้มขึ้นมา แล้วเปิดกล่องออกอย่างกะทันหันอีกครั้ง

ชายผู้นั้นยังไม่ทันได้หยุดหายใจ ก็ตกใจขึ้นมาทันที เขากลิ้งหลบไปทางด้านหลังสองตลบ ก่อนจะกระโดดขึ้นไปบนหลังคา จึงสามารถหลบแสงนั่นได้พ้น

อาชิงรู้สึกว่านี่สนุกกว่าเล่นซ่อนแอบมาก

อาชิง ข้าปิด!

คราวนี้ชายผู้นั้นไม่กล้าประมาท และไม่กล้าสู้แบบซึ่ง ๆ หน้าอีกแล้ว คิดแต่ว่า หนีไปก่อนแล้วค่อยว่ากัน

อาศัยตอนอาชิงปิดกล่องลง กำลังคิดจะหนี

อาชิง ข้าเปิด!

ชายผู้นั้นก็หยุดชะงักไปอีกครั้ง

ข้าปิด!

เอ๊ะ~ ข้าจะเปิดอีก!

ข้าปิดอีก!

บังเอิญมีคนกลุ่มหนึ่งเดินผ่านมา เมื่อเห็นชายผู้หนึ่งราวกับกำลังเต้นรำบวงสรวงเทพเจ้าอยู่บนชายคาตรงทางเดิน ก็พูดไม่ออกไปชั่วขณะหนึ่ง ก่อนจะด่าออกมา “กลางวันแสก ๆ เจ้าคิดจะทำให้ใครอ้วกแตกกัน บิดก้นส่ายไปส่ายมา เสียสายตาข้าหมดแล้ว”

ชายผู้นั้นเห็นว่าขืนเป็นเช่นนี้ต่อไปคงไม่ดีแน่ ไม่เพียงเขาจะถูกเจ้าเด็กนี่บีบอยู่ในกำมือเท่านั้น ยังจะถูกคนในยุทธภพหัวเราะเยาะเอาด้วย!

เขาคิดในใจ ไหน ๆ ก็ไหน ๆ แล้ว ทุ่มสุดตัวไปเลยดีกว่า หนีก่อนได้เปรียบ วันหน้าค่อยหาโอกาสจัดการเจ้าเด็กนี่ก็ยังไม่สาย!

เมื่อเห็นว่าชายผู้นั้นไม่สนใจและกำลังจะเหาะหนีไป อาชิงจึงหยิบอาวุธลับของนินจาที่อาจารย์เยว่พั่วหลัวนำกลับมาจากเกาะโจรสลัดออกมาหนึ่งกำมือจากกระเป๋าใบเล็กอีกใบ อาวุธแต่ละอันล้วนทาของดีเอาไว้ทั้งสิ้น

อาชิงยังไม่เคยฝึกเรื่องความแม่นยำ ดังนั้นจึงกระโดดขึ้นและซัดออกไปหนึ่งกำมือทันที พลางตะโกนเสียงดัง “เอาท่าไม้ตายของข้าไปกินซะ!

ดาวกระจายทั่วฟ้า!”

ทว่าอาวุธลับที่ซัดออกไปทั้งสิบชิ้นล้วนพลาดเป้า!

ชายผู้นั้นแอบดีใจ เจ้าเด็กบ้า อาศัยฝีมือเพียงเท่านี้คิดจะลอบทำร้ายข้าอย่างนั้นหรือ!?

ประสบการณ์ยังน้อยเกินไป!

เขาหันกลับไปทำหน้าเยาะเย้ยด้วยความสะใจ แต่ทันใดนั้นก็รู้สึกเจ็บก้นขึ้นมา!

“โอ๊ย!…” จู่ ๆ ชายผู้นั้นก็มีเลือดไหลออกมาไม่หยุด ก่อนจะหนีบก้นกระโดดข้ามกำแพงเข้าไปในเรือนของตัวเองด้วยความรีบร้อน “ไป ไปตามหมอมาให้ข้าที”

“นายท่าน ท่านเป็นอะไรไปขอรับ!”

ชายผู้นั้นเลือดอาบก้น เขาเดินไปพร้อมน้ำตาที่ไหลอาบหน้าเพราะความเจ็บปวด “ไปตามหมอมา! ยังจะถามอะไรอีกฮะ”

ด้านนอก อาอินเก็บกล่องใบเล็กเรียบร้อยแล้ว จากนั้นก็มองไปทางเรือนของซือถูรุ่ย ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใดในใจของนางกลับมีความรู้สึกที่รุนแรงอย่างมาก ร่ำร้องให้นางต้องเข้าไปสำรวจที่นั่นให้ได้

แต่เรือนของซือถูรุ่ยทั้งด้านในและด้านนอกมีคนมากมายเพียงนั้น ควรปลอมตัวเข้าไปเช่นไรดี?

ทางด้านนี้ก็มีเด็กหลายคนเปิดประตูเรือนออกมา และรีบร้อนไปตามหาหมอ อาอินเห็นดังนั้นดวงตาก็เป็นประกายขึ้นมา จากนั้นก็หันหน้าไปพูดว่า “หานฉี ไปลากคนผู้นั้นออกมา!”

เข้าสู่โลกนิยายเพื่อไปเป็นแม่เลี้ยงจอมโหดของสามวายร้าย

เข้าสู่โลกนิยายเพื่อไปเป็นแม่เลี้ยงจอมโหดของสามวายร้าย

Status: Ongoing
หน่วยสืบราชการลับ—จี้จือฮวนเกิดใหม่เป็นตัวประกอบในนิยายที่ได้แต่งกับเทพสงครามเป็นแม่เลี้ยงของ 3 วายร้ายแต่กลับต้องตายตั้งแต่ต้นเรื่อง ในเมื่อปฏิเสธชะตาไม่ได้ขอแค่ไม่ตายก็จะเล่นบทนี้ให้อลังการกว่าเดิม!จี้จือฮวน–หน่วยสืบสวนราชการลับระดับ S ในโลกล้ำยุค จู่ ๆ ก็ตื่นขึ้นมาพบว่าตัวเองกลายเป็นตัวประกอบหญิงในนิยายที่เคยอ่าน(แต่ไม่จบ) ซึ่งตายตั้งแต่ยังไม่พ้นสามบทแรก! เธอคนนี้แต่งงานกับเผยยวนได้รับสมญานาม ‘เทพสงครามแห่งความตาย’ และเป็นแม่เลี้ยงของเด็กแสบสามคนจี้จือฮวนปฏิเสธชะตากรรมนองเลือด ขอแค่มีชีวิตรอดปลอดภัย อยู่ต่อไปก็พอแต่เรื่องกลับไม่ง่ายขนาดนั้น เพราะตัวประกอบที่เธอกำลังเป็นอยู่ดันเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ลูกเลี้ยงทั้งสามกลายเป็นตัวมากเล่ห์ จอมมารร้าย ซึ่งจะนำพาพวกเขาไปสู่จุดจบอันเศร้าสลดเมื่อทั้งสามโตขึ้น…นั่นก็คือความตายอย่างน่าอนาถในเมื่อเลือกไม่ได้ ไหน ๆ ก็ไหน ๆ เธอจะเล่นบทนี้ให้อลังการกว่าเดิม!.โชคดีสวรรค์ยังมีตา เธอมีทักษะทุกอย่าง ทั้งงานฝีมือ ทักษะการเพาะปลูกและทำนาที่สามารถหาเงินเพื่อใช้เลี้ยงครอบครัวได้ ยิ่งกว่านั้น เธอมีของดีที่สุด คือมิติพิเศษที่ช่วยให่เธอหยิบยืมอะไรก็ได้จากโลกอนาคตติดตัวมาด้วย!.เอาล่ะ! ในฐานะอดีตสายลับระดับสุดยอด ใครหน้าไหนก็หยามกันไม่ได้! ต่อให้เป็นสวรรค์ก็เถอะ หากคิดจะฆ่าเธอทิ้ง เธอจะชิงสังหารสวรรค์ก่อน!..ต่อมาลูกชายคนโตที่ตั้งแต่เด็กสุดแสนจะเงียบขรึมกลับได้ขึ้นเป็นกษัตริย์! นักรบจอมพลังซึ่งเป็นลูกสาวคนที่สองก็กลายเป็นแม่ทัพหญิงคนแรกที่แข็งแกร่งที่สุดในปฐพี ผู้ที่ไม่เคยเกรงกลัวสิ่งใดในใต้หล้า แม้แต่ลูกชายคนเล็กก็กลายเป็นแพทย์หนุ่มผู้เชี่ยวชาญสารพัดพิษ ร่างกายของเขาทนทานต่อพิษทั้งปวงอย่างที่ไม่มีใครเทียบได้..จี้จือฮวนรู้สึกว่าตนเองไร้ประโยชน์ในฐานะสาวงามที่ถูกราชสำนักและประชาชนผลักไสอย่างไร้ความปรานี เธอจึงจำต้องทำให้ตัวเองเป็นสตรีที่น่าเกรงขาม เป็นที่หวาดกลัวต่อราชสำนักและประชาชนเมื่อทุกคนนึกถึง!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท